ตั้งแต่ผมเติบโตมาจนกระทั่งดูฟุตบอลเป็นก็เห็นใครๆ ก็พากันล้อลิเวอร์พูลวันเวลาล่วงเลยผ่านไปหลายปีก็ยังเห็นผู้คนพากันล้อลิเวอร์พูลอยู่  จนกระทั่งมีผู้นิยามการล้อทีมฟุตบอลนี้ว่า "การล้อลิเวอร์พูล คือ ความสุขของมวลมนุษยชาติ" หากวันใดไม่ได้ล้อจะขาดสีสันไร้ชีวิตชีวา  จนมาถึงวันหนึ่งเกิดการเปลี่ยนแปลงกับทีมลิเวอร์พูลโดยได้เปลี่ยนเจ้าของทีมใหม่และได้ผู้บริหารมืออาชีพด้านกีฬาเข้ามาบริหาร ชั่วเวลาไม่นานก็ทำให้ลิเวอร์พูลพลิกฟื้นฐานะทางการเงินที่เกือบจะล้มละลายสิ้นชื่อ "ทีมหงส์แดง" ที่เคยยิ่งใหญ่ในอดีตกลับมามีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง  ตลอด 3 ปีที่ผ่านมาผลงานในสนามก็ยอดเยี่ยมขึ้นทุกวันจนขยับใกล้แชมเปี้ยนเข้าไปทุกขณะ  ถ้าแนวโน้มยังเป็นแบบนี้ต่อไปเราคงไม่ได้เห็นการล้อลิเวอร์พูลบ่อยๆ ล้อทุกวี่ทุกวันเหมือนเมื่อก่อนอีกต่อไป

ส่วนทีมผีแดงคู่อริตลอดกาลเมื่อก่อนนั้นมีฐานะเป็นผู้นำของการล้อลิเวอร์พูลกลับผลงานสวนทางกัน  หากเป็นเมื่อก่อนเมื่อได้ยินชื่อ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คู่แข่งจะพาเกรงขามสะพรึงกลัวกันถ้วนหน้ากับทีมฉายา "ปีศาจแดง" ทีมนี้  แต่เมื่อหัวเรือใหญ่ผู้เกรียงไกรวางมือผลงานก็ตกลงไปแต่ก็ได้โค๊ชระดับปรมาจารย์มาเสกถ้วยแชมป์ประดับสโมสรให้แฟนๆ ได้ชื่นใจบ้างแต่ก็โดนล้อบ่อยๆ  แต่ตอนนี้ทีมผีแดงไม่มียอดโค๊ชนำทีมอีกต่อไปปัญหาภายในสโมสรก็เยอะแยะมากมายยากที่จะฝ่าฟันแม้ฐานะทางการเงินยังดีอยู่แต่ถ้าหากร้างลาแชมป์ไปนานๆ สักวันเงินที่มีก็จะร่อยหลอลงไปก็จะเป็นเป็นเหมือนลิเวอร์พูลในอดีต  ถึงวันนั้นจะมีวลีใหม่เกิดขึ้นว่า "การล้อแมนยูฯ คือ ความสุขของมวลมนุษยชาติ" เด็กผีทุกคนจะต้องเผชิญกับสิ่งนี้ต้องทนให้ได้เหมือนเด็กหงส์ได้ทนมาเป็นเวลาเกือบ 30 ปี

@เป็นกำลังใจให้เด็กผีทุกคนอย่าท้อ ต้องมีสักวันที่ผีแดงจะกลับมาทวงความยิ่งใหญ่ คนับ...