★ 9 ปีแห่ง Game of Thrones นิทานเรื่องนี้ สอนอะไรให้กับเราได้บ้างครับ

กระทู้คำถาม
จะว่าไปก็มหัศจรรย์ดีครับ เพระาผมเป็นคนที่ไม่เคยดูซีรีย์ฝรั่งยาวๆจบเลยแม้แต่เรื่องเดียว มีบางเรื่องดูแบบข้ามๆ ดูปีเดียวเลิกก็มี แต่สำหรับ Game of Thrones กลายเป็นเรื่องแรกที่ผมได้ดูครบทุกตอนตั้งแต่ S1- S8 เรียกได้ว่า ดูตั้งแต่หนุ่มยันแก่กันเลยทีเดียว เชื่อได้ว่า หลายคนได้ดู S1 ตอนมัธยมปลาย ตอนนี้คงเรียนจบทำงานกันแล้ว ได้ดูตอนเริ่มทำงานใหม่ๆ ตอนนี้อาจจะมีครอบครัว มีลูกๆมาดูกับท่านด้วย ก็เชื่อว่าเป็นความรู้สึกพิเศษๆดีนะครับ

ไม่รู้ว่าหนังสือจะจบแบบในซีรีย์หรือเปล่า แต่จากตอนจบก็เหมือนกับบอกและสอนอะไรเราได้หลายๆอย่าง

- การเผาบัลลังก์เหล็ก นั่นคือการสื่อว่า เลกาซี่ของ เอกอน ทาร์แกร์เรียน หรือ เอกอนผู้พิชิต ได้จบลงแล้วครับ ไม่ว่าในอดีตเค้าจะยิ่งใหญ่ขนาดไหน หรือ ทำอะไรไว้บ้าง แต่เมื่อมันสิ้นสุด ก็ต้องดับสูญไปตามกาลเวลา เหลือแต่คุณงามความดี หรือ เรื่องเล่าขานที่ทำไว้ตอนมีชีวิตนี่ล่ะ

- Bittersweet Ending ของสตาร์กซึ่งเสมือนเป็นตัวเอกของคนดูส่วนใหญ่ ทุกคนเหมือนไปตามทางของตนเอง แม้บางคนจะต้องทำอะไรเพราะหน้าที่ บางคนได้ทำในสิ่งที่อยากทำ แต่อย่างน้อย มันก็เป็นความหมาย หรือ คุณค่าของการมีชีวิตใช่หรือไม่ เพราะถ้าไม่มีชีวิต เราคงทำอะไรต่อไม่ได้ ดังนั้น ให้มีความหวังเสมอ แม้บางครั้งชีวิตมันอาจจะโหดร้าย หรือ ดูไม่สมหวัง หรือ ไม่ได้ในสิ่งที่ควรได้ก็ตามทีครับ

จริงๆเหมือนมีเรื่องจะพูดเยอะนะครับ ไม่รู้ว่า Spin-off จะเป็นอย่างไร มันอาจจะไม่ใช่แบบที่เราคุ้นเคยกันก็ได้ ต้องลองลุ้นดู

จะมี sequels ที่เราจะได้เห็น จอน ซานซ่า อาร์ย่า อีกหรือไม่? หรือ จะมี prequel ในยุคเอกอนผู้พิชิต หรือเปล่า รอติดตามกันต่อไป

แต่ก็คงต้องยอมรับว่า ซีรีย์เรื่องนี้ Game of Thrones มันได้จบลงแล้วจริงๆล่ะนะ...
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 17
"Incompetence should not rewarded with blind loyalty"  Varys

จำคำแปลไทยเป้ะๆไม่ได้ แต่น่าจะปรมาณว่า "ผู้นำที่ไร้ความสามารถ ไม่คู่ควรกับความภักดีอย่างงมงาย"

มีประโยคนึงจากการ์ตูนสามก๊กเรื่องหนึ่งกล่าวว่า

"คุณธรรมและความภักดี มันก็เป็นกลวิธีประเภทหนึ่ง ของผู้มีความรู้ สำหรับส่งคนโง่ไปตาย และเป็นกุศโลบายต่ำช้าของผู้เป็นนาย
ที่มีไว้เพื่อรักษาผลประโยชน์ส่วนตน"

เรื่องวุ่นวายทั้งหลายในเรื่องนี้  นอกจากจะเกิดจากความละโมบทะเยอทะยาน ปรารถนาในอำนาจของตัวละครหลักแล้ว
มันยังเกิดเพราะความภักดีอย่างหน้ามืดตามัวกับคนที่ไม่คู่ควร  

เรื่องในซีซํน 1 จะไม่เกิด ถ้าเน็ดไม่รู้สึกว่าความภักดีและมิตรภาพของเขากับโรเบิร์ต เป็นการบีบให้เขาลงไปรับใช้ในฐานะหัตถ์ของราชา
ซึ่งตัวเองก็ไม่ถนัด และไม่ประสาเรื่องการเมือง

เหล่าทหารในเมือง ไล่ฆ่าเด็กทารกที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่   เพราะคำสั่งโง่เง่าของราชาขี้เมา

องครักษ์วังหลวง สังหารตระกูลใหญ่ของทางเหนือ เป็นบ่อเกิดของการกบฎครั้งใหญ่ เพียงเพราะคำสั่งของราชาเด็กสติแตก

รวมถึงอีกหลายเหตุการณ์นองเลือดและต่ำช้าอื่นๆในเรื่อง  ซึ่งถึงแม้สาเหตุจะมาจากผู้นำทรราชย์
แต่มันไม่มีทางสำเร็จถ้าขาดผู้ภักดีที่งมงายไม่รู้สิ่งถูกผิด
ผู้ภักดีที่ทำเรื่องเลวร้ายทุกอย่าง เพียงเพราะเป็นคำสั่ง
ผู้ภักดีที่ยอมถวายชีวิตปกป้องคนจิตใจอำมหิตอย่างจอฟฟรีย์ เพียงเพราะเขาเป็นสายเลือดของราชา  

แดนี่เอง ลำพังตัวเธอจากเด็กสาวไร้เดียงสา  กลายมาเป็นคนบ้าอำนาจขนาดนี้ เพราะความรักอย่างงมงายของทีเรียนและจอน

แดนี่คือราชินีที่ชั่วร้ายใช่ไหม คำตอบคือใช่ เธอคือคนร้ายอย่างไม่ต้องสงสัย
แต่เธอคงมาไม่ได้ไกลขนาดนี้ ถ้าขาดการสนับสนุนจากจอนและทีเรียน
พวกเขาต่างรู้ ว่าแดนี่เป็นยังไง และกำลังจะกลายเป็นอะไร แต่ไม่คิดจะหยุด เพราะความรักและภักดีมันบังตา

บางครั้งการเอาความภักดีหรือคำสั่งมาอ้าง เมื่อเราต้องทำเรื่องแย่ๆ มันอาจดูสะดวก แต่มันคือการปลอบใจตัวเองเท่านั้น
คนเรามีสิทธิ์เลือกเสมอ และอย่ากลายเป็นกลไกของความขั่วร้ายเพียงเพราะเรารักหรือภักดีสิ่งใดสิ่งหนึ่ง
ความคิดเห็นที่ 9
GOT สอนให้รู้ว่า

นิทานจะสนุกได้ ขึ้นอยู่กับคนเล่านิทาน ^^
ความคิดเห็นที่ 1
"อย่าไว้ใจสตาร์ค"
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่