Vivo ได้ทำการเปิดตัว Vivo Y17 เป็นที่เรียบร้อยในประเทศไทย และมีจุดเด่นหลากหลายอย่างที่ทำออกมาตอบโจทย์คนใช้งานทั่วไป ที่ตั้งโจทย์ว่าอยากได้ มือถือจอใหญ่ แบตอึด กล้องมุมกว้าง ได้แบบลงตัวมากๆ ทาง Vivo นั้นเหมือนรับฟังและเข้าใจจึงได้ทำตัวนี้ออกมาด้วยการที่จัดเต็มสเปคในส่วนที่หลายๆคนให้ความสนใจและยังไม่ทิ้งการออกแบบที่ค่อนข้างลงตัวครับ ทาง Y17 นั้นยังคงทำราคามาได้ดีในงบ 7 พันบาทมีทอนอีกด้วยแม้จะมีการอัพเกรดอะไรหลายๆอย่างเข้ามาเด่นๆเลยคือเรื่องแบตที่มากถึง 5,000 mAh ถือว่าอลังการมากๆ แต่ในส่วนอื่นๆนั้นจะเป็นยังไงมาดูกันได้เลยสำหรับรีวิว Vivo Y17 ครับ
Vivo Y17 นั้นเปิดตัวมาด้วยจุดเด่นที่น่าสนใจมากๆเลยในเรื่องของแบตที่มาให้มากถึง 5,000 mAh และยังมีระบบ 18W Dual Engine Fast Charging ทำให้ชาร์จได้ไว และหน้าจอแบบรอยบาก 6.35นิ้ว HD+ แบบ Halo FullView Display ตัวเครื่อง Mirror Finish รวมถึงติดตั้งกล้องถ่ายภาพหลังแบบ 3 ตัว AI Triple Camera ผสานกล้องหน้า AI ความละเอียด 20 ล้านพิกเซล ถือว่าจัดเต็มในหลายๆอย่าง ทั้งกล้อง มุมกว้าง 120องศา แบตเยอะ ชาร์จไว หน้าจอใหญ่ครับ และทางด้าน CPU มาพร้อมกับ MediaTek Helio P35 RAM 4GB ROM 64GB Android 9.0 Pie ครอบทับด้วย Funtouch OS 9 ด้วยนั้นเอง
Vivo Y17 เปิดราคาที่ 6,999 บาท กับตัวเลือกทั้งหมด 2 สี ได้แก่ Mineral Blue และ Mystic Purple
UNBOX
ตัวกล่องนั้นยังคงเป็นการออกแบบที่คุ้นเคยแบบเดียวกับรุ่นก่อนหน้ามีรูปชัดเจนพร้อมบอกความจุอะไรให้เรียบร้อย แต่ตัวเครื่องบนกล่องจะไม่ได้บอกถึงสีของเครื่องนะครับ เพราะของแอดมินได้สีม่วงดำมา Mystic Purple ส่วนอุปกรณ์ในกล่องนั้นมีมาให้ทั้ง เคสแถม TPU นิ่ม ฟิล์มกันรอยติดมาให้บนหน้าจอ คู่มือ ที่จิ้มซิม และ ที่ชาร์จ รวมถึง สายชาร์จที่รองรับ ชาร์จไว 18W ครับผม ส่วนของหูฟังนั้นไม่มีมาให้นะครับในรุ่นนี้
ตัวเคสแถมนั้นมีมาให้เป็นแบบ TPU ใสนิ่มครับด้านหลังเป็นจุดๆที่จะป้องกันสูญญากาศ ตัววัสดุแข็งแรงหนาดีครับไม่กัดเครื่อง ส่วนการปกป้องหน้าจอนั้นทำได้ดีเพราะตัวเคสนั้นหุ้มขึ้นมารองรับถึงด้านหน้า และ มุมเครื่องก็สามารถปกป้องหน้าจอได้ดี และรองรับความหนาของฟิล์มกระจกได้พอดีครับ ส่วนข้างหลังนั้นตรงกล้องจะไม่ได้นูนปกป้องเลนส์กล้องเท่าไรอันนี้ต้องระวัง และ ในขอบล่างนั้นจะมีที่ปิดจุก Micro-USB มาให้ด้วยครับ
DESIGN
การออกแบบตัวเครื่องต้องบอกว่าทำออกมาได้ค่อนข้างสวยในการเล่นกับแสงสีของฝาหลังและด้านหน้าใช้หน้าจอแบบเต็มตาแบบติ่งเป็นหยดน้ำที่เรียกว่า Halo FullView Display ส่วนความหนาหนักนั้นก็ต้องบอกว่ามากกว่ามือถือทั่วไปเล็กน้อยเพราะการยัดแบตใส่มาทั้งหมด 5,000 mAh นั้นเองครับ ตัวกล้องอะไรไว้มุมซ้ายบนเช่นเดิมมาพร้อมกับฝาหลังแบบไล่เฉดสีสวยงามจากม่วงมาเป็นสีเข้ม และมีการสะท้อนแสงเล่นกับแสงสีด้วยเล็กน้อยครับ
หน้าจอมาพร้อมกับหน้าจอ ขนาด 6.35 นิ้ว หน้าจอแบบ Halo FullView Display ความละเอียด HD+ อัตราส่วน 19:3:9 พร้อมการออกแบบติ่งหน้าจอแบบหยดน้ำ ขอด้านบนและข้างๆบางเท่ากันก็ดูเต็มตาได้เหมือนกับรุ่นอื่นๆ
หน้าจอส่วนบนนั้นจะเป็นที่อยู่ของ ลำโพงที่ฝังตรงขอบหน้าจอพอดี และเซนเซอร์ กล้องหน้าต่างๆนั้นแทรกไปตรงบริเวณติ่งหน้าจอทั้งหมดครับ
ขอบด้านล่าง นั้นมีความหนาพอสมควรเป็นเรื่องปกติของมือถือในเรทราคานี้ หรือ เรทแพงกว่านี้ก็ยังไม่เจอรุ่นไหนทำขอบบางๆเท่ากันหมดได้เลยนะในฝั่ง Android ส่วนปุ่มควบคุมนำทางนั้นอยู่บนหน้าจอทั้งหมดสามารถใช้เต็มจอได้
ตัวเครื่องด้านขวานั้นจะเห็นว่าเป็นการไล่โทนสีแบบชัดเจนเหมือนกับด้านหลัง และ ปุ่ม Power เปิดปิด รวมถึง เพิ่มลดเสียงก็อยู่ฝั่งเดียวกันทั้งหมด และเป็นวัสดุพลาสติกสีดำนะครับ
ขอบเครื่องด้านบนนั้นเรียบๆไม่มีอะไรเลยครับ เป็นสีดำล้วน และไม่มีรูไมค์อะไรทั้งนั้นในส่วนนี้
เมื่อมาดูขอบด้านล่างจริงๆจะเห็นเลยว่าโทนสีคนละแบบกับขอบบนและเป็นสีม่วงตามฝาหลังของเครื่องที่เป็นการไล่สี รูชาร์จแบบ Micro-Usb และ รูหูฟัง รูไมค์ รวมถึง รูลำโพงหลัก อยู่ข้างล่างทั้งหมดครับ
ถาดซิมนั้นอยู่ในด้านขอบซ้ายของตัวเครื่องรองรับแบบ Triple Slot และ ใช้ซิมแบบ Nano 2 ช่อง และ Micro-SD 1 ช่องเหมือนกับรุ่นอื่นๆครับ
กล้องหลัง 3 ตัวพร้อมระบบ AI เป็นกล้องจับระยะ Dept Camera ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล, กล้องมุมกว้าง ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล (F/2.2) 120 องศา และ กล้องหลักความละเอียด 13 ล้านพิกเซล (F/2.2)
ฝาหลัง นั้นเป็นการไล่เฉดสีสวยงาม ม่วงไปสีดำครับ และยังสามารถเล่นแสงสะท้อนกับแสงได้บางมุมก็สวยงามเหมือนกัน โลโก้นั้นอยู่ด้านล่างสุด ส่วนตำแหน่งสแกนนิ้วอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมและใช้งานได้ง่าย เป็นรูปทรงสี่เหลี่ยมครับ ฝาหลังเป็นแบบเรียบๆไม่มีมุมโค้งแต่อย่างใด เป็นพลาสติกเงาแต่เล่น Mirror Finish สวยงามครับ
SPEC
- หน้าจอ LCD ขนาด 6.35 นิ้ว ความละเอียด HD+ (720 x 1544)
- CPU MediaTek Helio P35
- GPU PowerVR GE8320
- RAM 4GB
- STORAGE 128GB รองรับ MicroSD Card 256GB
- กล้องหลัง เลนส์หลัก 13MP (f/2.2) + เลนส์กว้าง 8MP (f/2.2) + เลนส์จับความลึก 2MP (f/2.4)
- กล้องหน้า 20MP (f/2.0)
- รูหูฟัง 3.5 มม.
- แบตเตอรี่ 5,000 mAh รองรับการชาร์จไว 18W
- Bluetooth 5.0 / Wifi 5Ghz/2.4Ghz
- ระบบ Android 9 ครอบด้วย Funtouch 9
- ขนาด / น้ำหนัก 159.4 x 76.8 x 8.9 มม. / 190.5 กรัม
PERFORMANCE
ทางด้านประสิทธิภาพกันหน่อยสำหรับ MTK P35 ทำคะแนนในส่วน Geekbench นั้นทำได้ 902/4395 ถือว่าอยู่ในระดับกลาง และ หน่วยความจำเป็น EMMC 5.1 อยู่นะอ่าน 295 นิดๆ ส่วน Antutu ทำคะแนนได้ 86409 ส่วน DRM L3 นะครับในรุ่นนี้ ไม่รองรับ การดูหนัง NETFLIX HD เป็นปกติ และก็มีเซนเซอร์มาให้ครบ รองรับ Wifi 5Ghz ปกติครับ
SOFTWARE UI
มาพร้อมกับ Android 9.0 ตัวล่าสุดที่ครอบทับด้วยหน้าตา Funtouch 9 ตัวล่าสุด หน้าตานั้นอาจจะไม่ค่อยได้แตกต่างกว่าเดิมเท่าไรแต่ความลื่นไหล ความนิ่งนั้นดีขึ้นกว่ารุ่นเดิมแบบรู้สึกได้ครับ หน้าจอล็อคก็สามารถสแกนนิ้วไปตำแหน่งที่มันขึ้นมาให้ได้เลย และรวมถึงสแกนหน้ากล้องก็จะโผล่ออกมาครับ ส่วนหน้าตาการใช้งานอื่นๆก็คล้ายเดิม แจ้งเตือนเด้งดี มีตัวเลขให้ครับ และไม่มี Appdrawer ส่วนหน้าตานั้นดูเรียบง่ายขึ้นกว่ารุ่นเดิมครับดูทันสมัยขึ้น
และยังคงความเป็น Vivo ในด้านของการแจ้งเตือนและ Quick Setting นั้นแยกกัน เพราะเลื่อนจากด้านบนลงมาจะเป็น แจ้งเตือน แต่ถ้าปัดจากขอบล่างขึ้นไปจะเป็นตั้งค่า QuickSetting ส่วนการแยกแอพก็สามารถทำงานได้ปกติ
ในด้านของคีย์บอร์ดตัวนี้หน้าตาเรียบง่ายใช้ Gboard แล้วนะ ส่วน RAM 4GB ใช้งานไปครึ่งๆ เหลือประมาณ 2.19 GB ครับ และในเรื่องความจุ 64 GB เหลือให้ใช้ประมาณ 50GB ถ้าไม่ลงแอพอื่นๆนะ ก็ถือว่าปกติครับสำหรับในด้านของความจำ และ RAM ที่จะใช้งานประมาณนี้
JOVI ตัวช่วย อัจฉริยะที่สามารถตั้งค่าต่างๆได้ทั้งในการถ่ายภาพ รูปภาพต่างๆ หรือปรับตั้งค่าตามสถานที่ ส่วนตัว Game Cube ก็มีมาให้หน้าตาปรับเปลี่ยนใหม่เหมือนกับ iQOO เลยแหละ และ ตัวปุ่มนำทางก็สามารถใช้งานได้ปรับตำแหน่งปุ่มได้ ซ่อนปุ่มรวมถึงใช้งานแบบเต็มหน้าจอก็สามารถใช้งานได้
Gesture ต่างๆนั้นก็สามารถใช้ได้เช่นการเคาะหน้าจอ ยกให้ติด หรือ เคาะ2ครั้งเพื่อปิดหน้าจอครับ และ การใช้งานอื่นๆทั้งการวาดตัวอักษร ต่างๆขณะที่หน้าจอกับก็สามารถสั่งงานเข้าแอพได้ครับ และ การรับสายต่างๆก็มีมาให้ครบ การโคลนแอปหรือใช้งานหน้าต่าง 2 หน้าต่างก็รองรับปกติครับสำหรับทาง Vivo
THEME
การปรับเปลี่ยนธีมก็มีมาให้ครับ สามารถเปลี่ยนได้เยอะแยะเลยแต่หลักๆนั้นจะเป็นการเปลี่ยนหน้าตาของไอคอน และ พื้นหลัง หน้าจอล็อคซะส่วนใหญ่และแอปของทาง Vivo บางแอปที่หน้าตาจะเปลี่ยนตามครับ และก็สามารถเปลี่ยนฟอนต์อะไรได้ เปลี่ยนได้อาจจะไม่ได้เยอะแยะอะไรมาก แต่ก็ปรับแต่งได้นิดหน่อยสำหรับใครที่เบื่อๆหน้าตาเดิมๆครับ
SCREEN
หน้าจอในรุ่นนี้เป็นหน้าจอแบบ IPS LCD ขนาดกว้าง 6.35 นิ้ว หน้าจอแบบ Halo FullView Display ความละเอียด HD+ อัตราส่วน 19:3:9 ให้สีสันสวยงามเลยนะแม้จะเป็นความละเอียด HD+ แต่เอาจริงๆถ้าใครใช้เรือธงมาก่อนพวก 2K แล้วมาใช้จอพวกนี้จะค่อนข้างรู้สึกถึงความแตกต่างครับ แต่ก็ตามเรทราคาของมันอันนี้ไม่แปลก ระบบปรับแสงหน้าจออัตโนมัติก็ทำงานได้ดีและสว่างสู้แสงได้ระดับนึงแต่ไม่ได้ดีมากนักเจอแสงกลางแจ้งมองยากพอสมควรครับ แต่ที่ชอบคือสีสันของหน้าจอเวลาใช้งานปกติ นั้นทำสีออกมาได้ค่อนข้างดีและก็รองรับมุมมองเอียงๆได้ดีไม่เพี้ยนไม่ดรอปครับ ส่วนติ่งหน้าจอนั้นจะไม่สามารถปิดติ่งได้นะครับ อาจจะมีบดบังเล็กน้อยในบางแอพครับแต่สามารถปรับได้ว่าแอพไหนจะให้ไม่กินไปบริเวณนั้น ส่วนการสัมผัสกลางๆไม่ได้ลื่นติดนิ้วมากแต่ดีกว่าหลายๆตัว
[SR] รีวิว VIVO Y17 กล้อง AI 3 ตัว มุมกว้าง จอใหญ่ แบต 5,000 mAh พร้อมชาร์จไว !
Vivo ได้ทำการเปิดตัว Vivo Y17 เป็นที่เรียบร้อยในประเทศไทย และมีจุดเด่นหลากหลายอย่างที่ทำออกมาตอบโจทย์คนใช้งานทั่วไป ที่ตั้งโจทย์ว่าอยากได้ มือถือจอใหญ่ แบตอึด กล้องมุมกว้าง ได้แบบลงตัวมากๆ ทาง Vivo นั้นเหมือนรับฟังและเข้าใจจึงได้ทำตัวนี้ออกมาด้วยการที่จัดเต็มสเปคในส่วนที่หลายๆคนให้ความสนใจและยังไม่ทิ้งการออกแบบที่ค่อนข้างลงตัวครับ ทาง Y17 นั้นยังคงทำราคามาได้ดีในงบ 7 พันบาทมีทอนอีกด้วยแม้จะมีการอัพเกรดอะไรหลายๆอย่างเข้ามาเด่นๆเลยคือเรื่องแบตที่มากถึง 5,000 mAh ถือว่าอลังการมากๆ แต่ในส่วนอื่นๆนั้นจะเป็นยังไงมาดูกันได้เลยสำหรับรีวิว Vivo Y17 ครับ
Vivo Y17 นั้นเปิดตัวมาด้วยจุดเด่นที่น่าสนใจมากๆเลยในเรื่องของแบตที่มาให้มากถึง 5,000 mAh และยังมีระบบ 18W Dual Engine Fast Charging ทำให้ชาร์จได้ไว และหน้าจอแบบรอยบาก 6.35นิ้ว HD+ แบบ Halo FullView Display ตัวเครื่อง Mirror Finish รวมถึงติดตั้งกล้องถ่ายภาพหลังแบบ 3 ตัว AI Triple Camera ผสานกล้องหน้า AI ความละเอียด 20 ล้านพิกเซล ถือว่าจัดเต็มในหลายๆอย่าง ทั้งกล้อง มุมกว้าง 120องศา แบตเยอะ ชาร์จไว หน้าจอใหญ่ครับ และทางด้าน CPU มาพร้อมกับ MediaTek Helio P35 RAM 4GB ROM 64GB Android 9.0 Pie ครอบทับด้วย Funtouch OS 9 ด้วยนั้นเอง
Vivo Y17 เปิดราคาที่ 6,999 บาท กับตัวเลือกทั้งหมด 2 สี ได้แก่ Mineral Blue และ Mystic Purple
UNBOX
ตัวกล่องนั้นยังคงเป็นการออกแบบที่คุ้นเคยแบบเดียวกับรุ่นก่อนหน้ามีรูปชัดเจนพร้อมบอกความจุอะไรให้เรียบร้อย แต่ตัวเครื่องบนกล่องจะไม่ได้บอกถึงสีของเครื่องนะครับ เพราะของแอดมินได้สีม่วงดำมา Mystic Purple ส่วนอุปกรณ์ในกล่องนั้นมีมาให้ทั้ง เคสแถม TPU นิ่ม ฟิล์มกันรอยติดมาให้บนหน้าจอ คู่มือ ที่จิ้มซิม และ ที่ชาร์จ รวมถึง สายชาร์จที่รองรับ ชาร์จไว 18W ครับผม ส่วนของหูฟังนั้นไม่มีมาให้นะครับในรุ่นนี้
ตัวเคสแถมนั้นมีมาให้เป็นแบบ TPU ใสนิ่มครับด้านหลังเป็นจุดๆที่จะป้องกันสูญญากาศ ตัววัสดุแข็งแรงหนาดีครับไม่กัดเครื่อง ส่วนการปกป้องหน้าจอนั้นทำได้ดีเพราะตัวเคสนั้นหุ้มขึ้นมารองรับถึงด้านหน้า และ มุมเครื่องก็สามารถปกป้องหน้าจอได้ดี และรองรับความหนาของฟิล์มกระจกได้พอดีครับ ส่วนข้างหลังนั้นตรงกล้องจะไม่ได้นูนปกป้องเลนส์กล้องเท่าไรอันนี้ต้องระวัง และ ในขอบล่างนั้นจะมีที่ปิดจุก Micro-USB มาให้ด้วยครับ
DESIGN
การออกแบบตัวเครื่องต้องบอกว่าทำออกมาได้ค่อนข้างสวยในการเล่นกับแสงสีของฝาหลังและด้านหน้าใช้หน้าจอแบบเต็มตาแบบติ่งเป็นหยดน้ำที่เรียกว่า Halo FullView Display ส่วนความหนาหนักนั้นก็ต้องบอกว่ามากกว่ามือถือทั่วไปเล็กน้อยเพราะการยัดแบตใส่มาทั้งหมด 5,000 mAh นั้นเองครับ ตัวกล้องอะไรไว้มุมซ้ายบนเช่นเดิมมาพร้อมกับฝาหลังแบบไล่เฉดสีสวยงามจากม่วงมาเป็นสีเข้ม และมีการสะท้อนแสงเล่นกับแสงสีด้วยเล็กน้อยครับ
หน้าจอมาพร้อมกับหน้าจอ ขนาด 6.35 นิ้ว หน้าจอแบบ Halo FullView Display ความละเอียด HD+ อัตราส่วน 19:3:9 พร้อมการออกแบบติ่งหน้าจอแบบหยดน้ำ ขอด้านบนและข้างๆบางเท่ากันก็ดูเต็มตาได้เหมือนกับรุ่นอื่นๆ
หน้าจอส่วนบนนั้นจะเป็นที่อยู่ของ ลำโพงที่ฝังตรงขอบหน้าจอพอดี และเซนเซอร์ กล้องหน้าต่างๆนั้นแทรกไปตรงบริเวณติ่งหน้าจอทั้งหมดครับ
ขอบด้านล่าง นั้นมีความหนาพอสมควรเป็นเรื่องปกติของมือถือในเรทราคานี้ หรือ เรทแพงกว่านี้ก็ยังไม่เจอรุ่นไหนทำขอบบางๆเท่ากันหมดได้เลยนะในฝั่ง Android ส่วนปุ่มควบคุมนำทางนั้นอยู่บนหน้าจอทั้งหมดสามารถใช้เต็มจอได้
ตัวเครื่องด้านขวานั้นจะเห็นว่าเป็นการไล่โทนสีแบบชัดเจนเหมือนกับด้านหลัง และ ปุ่ม Power เปิดปิด รวมถึง เพิ่มลดเสียงก็อยู่ฝั่งเดียวกันทั้งหมด และเป็นวัสดุพลาสติกสีดำนะครับ
ขอบเครื่องด้านบนนั้นเรียบๆไม่มีอะไรเลยครับ เป็นสีดำล้วน และไม่มีรูไมค์อะไรทั้งนั้นในส่วนนี้
เมื่อมาดูขอบด้านล่างจริงๆจะเห็นเลยว่าโทนสีคนละแบบกับขอบบนและเป็นสีม่วงตามฝาหลังของเครื่องที่เป็นการไล่สี รูชาร์จแบบ Micro-Usb และ รูหูฟัง รูไมค์ รวมถึง รูลำโพงหลัก อยู่ข้างล่างทั้งหมดครับ
ถาดซิมนั้นอยู่ในด้านขอบซ้ายของตัวเครื่องรองรับแบบ Triple Slot และ ใช้ซิมแบบ Nano 2 ช่อง และ Micro-SD 1 ช่องเหมือนกับรุ่นอื่นๆครับ
กล้องหลัง 3 ตัวพร้อมระบบ AI เป็นกล้องจับระยะ Dept Camera ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล, กล้องมุมกว้าง ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล (F/2.2) 120 องศา และ กล้องหลักความละเอียด 13 ล้านพิกเซล (F/2.2)
ฝาหลัง นั้นเป็นการไล่เฉดสีสวยงาม ม่วงไปสีดำครับ และยังสามารถเล่นแสงสะท้อนกับแสงได้บางมุมก็สวยงามเหมือนกัน โลโก้นั้นอยู่ด้านล่างสุด ส่วนตำแหน่งสแกนนิ้วอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมและใช้งานได้ง่าย เป็นรูปทรงสี่เหลี่ยมครับ ฝาหลังเป็นแบบเรียบๆไม่มีมุมโค้งแต่อย่างใด เป็นพลาสติกเงาแต่เล่น Mirror Finish สวยงามครับ
SPEC
- หน้าจอ LCD ขนาด 6.35 นิ้ว ความละเอียด HD+ (720 x 1544)
- CPU MediaTek Helio P35
- GPU PowerVR GE8320
- RAM 4GB
- STORAGE 128GB รองรับ MicroSD Card 256GB
- กล้องหลัง เลนส์หลัก 13MP (f/2.2) + เลนส์กว้าง 8MP (f/2.2) + เลนส์จับความลึก 2MP (f/2.4)
- กล้องหน้า 20MP (f/2.0)
- รูหูฟัง 3.5 มม.
- แบตเตอรี่ 5,000 mAh รองรับการชาร์จไว 18W
- Bluetooth 5.0 / Wifi 5Ghz/2.4Ghz
- ระบบ Android 9 ครอบด้วย Funtouch 9
- ขนาด / น้ำหนัก 159.4 x 76.8 x 8.9 มม. / 190.5 กรัม
PERFORMANCE
ทางด้านประสิทธิภาพกันหน่อยสำหรับ MTK P35 ทำคะแนนในส่วน Geekbench นั้นทำได้ 902/4395 ถือว่าอยู่ในระดับกลาง และ หน่วยความจำเป็น EMMC 5.1 อยู่นะอ่าน 295 นิดๆ ส่วน Antutu ทำคะแนนได้ 86409 ส่วน DRM L3 นะครับในรุ่นนี้ ไม่รองรับ การดูหนัง NETFLIX HD เป็นปกติ และก็มีเซนเซอร์มาให้ครบ รองรับ Wifi 5Ghz ปกติครับ
SOFTWARE UI
มาพร้อมกับ Android 9.0 ตัวล่าสุดที่ครอบทับด้วยหน้าตา Funtouch 9 ตัวล่าสุด หน้าตานั้นอาจจะไม่ค่อยได้แตกต่างกว่าเดิมเท่าไรแต่ความลื่นไหล ความนิ่งนั้นดีขึ้นกว่ารุ่นเดิมแบบรู้สึกได้ครับ หน้าจอล็อคก็สามารถสแกนนิ้วไปตำแหน่งที่มันขึ้นมาให้ได้เลย และรวมถึงสแกนหน้ากล้องก็จะโผล่ออกมาครับ ส่วนหน้าตาการใช้งานอื่นๆก็คล้ายเดิม แจ้งเตือนเด้งดี มีตัวเลขให้ครับ และไม่มี Appdrawer ส่วนหน้าตานั้นดูเรียบง่ายขึ้นกว่ารุ่นเดิมครับดูทันสมัยขึ้น
และยังคงความเป็น Vivo ในด้านของการแจ้งเตือนและ Quick Setting นั้นแยกกัน เพราะเลื่อนจากด้านบนลงมาจะเป็น แจ้งเตือน แต่ถ้าปัดจากขอบล่างขึ้นไปจะเป็นตั้งค่า QuickSetting ส่วนการแยกแอพก็สามารถทำงานได้ปกติ
ในด้านของคีย์บอร์ดตัวนี้หน้าตาเรียบง่ายใช้ Gboard แล้วนะ ส่วน RAM 4GB ใช้งานไปครึ่งๆ เหลือประมาณ 2.19 GB ครับ และในเรื่องความจุ 64 GB เหลือให้ใช้ประมาณ 50GB ถ้าไม่ลงแอพอื่นๆนะ ก็ถือว่าปกติครับสำหรับในด้านของความจำ และ RAM ที่จะใช้งานประมาณนี้
JOVI ตัวช่วย อัจฉริยะที่สามารถตั้งค่าต่างๆได้ทั้งในการถ่ายภาพ รูปภาพต่างๆ หรือปรับตั้งค่าตามสถานที่ ส่วนตัว Game Cube ก็มีมาให้หน้าตาปรับเปลี่ยนใหม่เหมือนกับ iQOO เลยแหละ และ ตัวปุ่มนำทางก็สามารถใช้งานได้ปรับตำแหน่งปุ่มได้ ซ่อนปุ่มรวมถึงใช้งานแบบเต็มหน้าจอก็สามารถใช้งานได้
Gesture ต่างๆนั้นก็สามารถใช้ได้เช่นการเคาะหน้าจอ ยกให้ติด หรือ เคาะ2ครั้งเพื่อปิดหน้าจอครับ และ การใช้งานอื่นๆทั้งการวาดตัวอักษร ต่างๆขณะที่หน้าจอกับก็สามารถสั่งงานเข้าแอพได้ครับ และ การรับสายต่างๆก็มีมาให้ครบ การโคลนแอปหรือใช้งานหน้าต่าง 2 หน้าต่างก็รองรับปกติครับสำหรับทาง Vivo
THEME
การปรับเปลี่ยนธีมก็มีมาให้ครับ สามารถเปลี่ยนได้เยอะแยะเลยแต่หลักๆนั้นจะเป็นการเปลี่ยนหน้าตาของไอคอน และ พื้นหลัง หน้าจอล็อคซะส่วนใหญ่และแอปของทาง Vivo บางแอปที่หน้าตาจะเปลี่ยนตามครับ และก็สามารถเปลี่ยนฟอนต์อะไรได้ เปลี่ยนได้อาจจะไม่ได้เยอะแยะอะไรมาก แต่ก็ปรับแต่งได้นิดหน่อยสำหรับใครที่เบื่อๆหน้าตาเดิมๆครับ
SCREEN
หน้าจอในรุ่นนี้เป็นหน้าจอแบบ IPS LCD ขนาดกว้าง 6.35 นิ้ว หน้าจอแบบ Halo FullView Display ความละเอียด HD+ อัตราส่วน 19:3:9 ให้สีสันสวยงามเลยนะแม้จะเป็นความละเอียด HD+ แต่เอาจริงๆถ้าใครใช้เรือธงมาก่อนพวก 2K แล้วมาใช้จอพวกนี้จะค่อนข้างรู้สึกถึงความแตกต่างครับ แต่ก็ตามเรทราคาของมันอันนี้ไม่แปลก ระบบปรับแสงหน้าจออัตโนมัติก็ทำงานได้ดีและสว่างสู้แสงได้ระดับนึงแต่ไม่ได้ดีมากนักเจอแสงกลางแจ้งมองยากพอสมควรครับ แต่ที่ชอบคือสีสันของหน้าจอเวลาใช้งานปกติ นั้นทำสีออกมาได้ค่อนข้างดีและก็รองรับมุมมองเอียงๆได้ดีไม่เพี้ยนไม่ดรอปครับ ส่วนติ่งหน้าจอนั้นจะไม่สามารถปิดติ่งได้นะครับ อาจจะมีบดบังเล็กน้อยในบางแอพครับแต่สามารถปรับได้ว่าแอพไหนจะให้ไม่กินไปบริเวณนั้น ส่วนการสัมผัสกลางๆไม่ได้ลื่นติดนิ้วมากแต่ดีกว่าหลายๆตัว
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้