Huawei ถูกตัดการ Support จาก Google และ Android
20/5/2019
ถ้าใครได้ติดตามข่าวสารนานาชาติบ้าง ก็น่าจะได้เห็นข่าวใหญ่เรื่องสงครามเศรษฐกิจระหว่างสองมหาอำนาจ อย่างสหรัฐอเมริกา และ จีน.. ที่ต่างก็มีการสร้างกำแพงภาษี ตัดกำลังการค้าของกันและกันจนตอนนี้ตลาดของนักลงทุนก็ปั่นป่วนเละเทะไปหมด / ส่วนถ้าใครอยู่ในวงการไอทีหน่อยก็น่าจะได้ข่าวเกี่ยวกับเรื่องราวของแบรนด์ Huawei ในประเทศอเมริกาด้วยเช่นกัน ว่าหลังๆนี้มีความพยายามที่จะห้ามโปรดักส์จาก Huawei เข้าสู่ประเทศ ด้วยเหตุผลเรื่องความปลอดภัย (หรือจะเป็นเกมการเมืองก็แล้วแต่จะมอง)
ซึ่งแบรนด์ Huawei เองตอนนี้ก็ต้องยอมรับว่าเป็นดาวรุ่งพุ่งแรงในตลาด Smartphone ด้วยความที่มีทางเลือกให้หลากหลาย ตั้งแต่รุ่นราคาประหยัด ยันรุ่นไฮเอนด์ จนล่าสุดได้มีส่วนแบ่งการตลาดแซงแบรนด์ใหญ่จากประเทศอเมริกาไปแล้ว .. สิ่งนี้ก็น่าจะทำให้อเมริกาไม่พอใจอยู่พอสมควร เราจึงได้เห็นการตัดกำลังอยู่เรื่อยมา / และเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว ประธานาธิบดี Donald Trump ก็ได้มีการออก Blacklist Order ไม่ให้ Huawei มีการ Import อุปกรณ์อะไรจากอเมริกา ทั้ง Hardware และ Software ยกเว้นว่าได้รับอนุญาตจาก White House เท่านั้น
จนกระทั่งวันนี้ก็มีข่าวใหญ่มาอีกหนึ่งข่าว ว่าล่าสุด Google ได้มีการตัดความสัมพันธ์ทางธุรกิจกับ Huawei ไปเรียบร้อยแล้ว .. นั่นหมายความว่า Huawei เองจะไม่สามารถใช้ Google Service ทุกอย่างอีกต่อไป รวมไปถึง Play Store ด้วย !
ข่าวนี้แอดมินก็เจอมาจากเว็บไซต์ต่างประเทศ 9to5google.com ที่มีการอ้างอิง Reference มาจาก Reuters ว่าทางสำนักข่าวได้ข้อมูลที่น่าเชื่อถือมาเกี่ยวกับการยุติความสัมพันธ์ทางธุรกิจระหว่าง Google และ Huawei โดย Huawei เองจะไม่สามารถได้รับ Hardware และ Software จากทางฝั่งอเมริกา ที่ไม่ใช่ Open Source ไปใช้ประโยชน์ได้อีกต่อไป
รายละเอียดเพิ่มเติมตอนนี้ก็กำลังถูกเจรจากันภายในบริษัท Google อยู่ .. แต่อย่างน้อยที่เราทราบตอนนี้ก็คือ Huawei นั้นจะถูกจำกัดให้ใช้งาน Android บนพื้นฐาน Android Open Source Project (AOSP) เท่านั้น อะไรที่ไม่ใช้ Open Source และต้องมีการซัพพอร์ตจาก Google จะใช้ไม่ได้ และอุปกรณ์ในอนาคตของ Huawei ก็จะไม่ได้รับการซัพพอร์ตในส่วนของ Play Store และแอพอื่นๆใน Service ของ Google เช่น Gmail หรือ Chrome เป็นต้น.. อัพเดทอย่าง Security Patch จาก Google ก็คงไม่ส่งมาด้วย
แต่สำหรับอุปกรณ์รุ่นปัจจุบันของ Huawei ก็น่าจะยังไม่ได้รับผลกระทบเร็วๆนี้ Play Store และ Application ของ Google จะยังสามารถใช้งานได้อยู่ แต่อย่างไรก็ตาม พวกรุ่นใหม่ๆที่ยังไม่ได้เปิดตัว และมีการจำหน่ายนอกประเทศจีนก็จะไม่มี Service ของ Google และ Play Store มาให้ .. ส่วนของอุปกรณ์ที่จำหน่ายอยู่ตอนนี้ ถึงแม้จะยังไม่ได้รับผลกระทบในทันที แต่ว่าในอนาคตนั้นน่าจะมีแน่ ไม่ว่าจะเป็นอัพเดทอย่างเช่น Android Q ที่ Huawei ได้รับปากผู้ใช้งานไว้ ก็อาจจะไม่สามารถใช้ Play Store ได้ และนี่ก็อาจจะลามไปถึง Wear OS ที่ Huawei อาจจะต้องเลื่อนการเปิดตัวออกไปอีก
เรื่องนี้ก็ดูเหมือนจะเป็นเรื่องใหญ่มาก.. เพราะ Huawei ก็เป็น Smartphone ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Android เป็นหลัก.. และในเมื่อ Google ไม่อนุญาตให้ใช้ Service และตัดการซัพพอร์ต ก็เหมือนเป็นการตัดขา ไม่ให้ไปต่อ / งานนี้ยังไงผู้ใช้ Huawei ที่รักในระบบปฏิบัติการ Android ก็ต้องมีสั่นคลอนไปตามๆกัน
ส่วน Huawei ก็เหมือนจะมีแผนการรองรับตรงนี้อยู่แล้ว จากที่เราได้ยินข่าวมาว่า Huawei นั้นกำลังพัฒนาระบบปฏิบัติการของตัวเองมาแทน Android .. ถึงแม้ว่ามันจะเป็นผลเสียกับผู้บริโภค เพราะว่า Ecosystem ของ Android นั้นกว้างขวาง มี application ให้ใช้งานหลากหลาย ถ้า Huawei เปลี่ยนไปใช้ระบบของตัวเอง ก็อาจจะเสียฐานลูกค้าไปมากพอสมควร เหมือนที่ Samsung พยายามทำก่อนหน้านี้ กับ TIZEN แล้วดูเหมือนจะไปไม่รอดในกลุ่ม Smartphone .. งานนี้ท่าทางฝันร้ายของ Huawei จะเป็นจริงแล้วหล่ะ แต่จะแก้เกมยังไงนั้นก็ต้องรอดูกันต่อไป
https://www.overclockzone.com/Huaweiหมดสิทธิ์ใช้Androidอเมริกาสะกัดดาวรุ่งพุ่งแรงตลาด
เมื่อช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา เราได้เห็นข่าวเรื่องสหรัฐออกประกาศฉุกเฉินที่ออกมาห้ามบริษัทต่างๆในประเทศใช้อุปกรณ์สื่อสารโทรคมนาคมจากบริษัทต่างชาติ ซึ่งหลายฝ่ายก็รู้ว่าเป็นการทำเพื่อยกระดับสงครามการค้ากับจีนและหัวเว่ย แต่ยังไม่มีการสรุปผลที่แน่ชัดออกมาว่ามีอะไรที่จะได้รับผลกระทบบ้าง จนวันนี้ต้องพากันตื่นตระหนกเมื่อทางสำนักข่าวต่างประเทศได้ให้ข้อมูลว่าหัวเว่ยอาจจะไม่ได้ใช้งาน Android อีกต่อไป ไม่ว่าจะเป็นการอัพเดทแพทช์ความปลอดภัยต่างๆ รวมถึง Mate 30 Pro ก็อาจจะชวดได้ใช้ Google Services ทั้งหมดอีกด้วย
ENTITY LIST บัญชีดำ ตัดการทำธุรกิจกับอเมริกา
หลังจากที่มีการประกาศฉุกเฉินออกมาเมื่อวันพุธที่ผ่านมา กระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐก็ได้มีการเพิ่มชื่อ Huawei และบริษัทลูกอีกกว่า 68 แห่ง เข้าไปอยู่ใน Entity List หรือบัญชีดำการซื้อขาย ซึ่งบัญชีรายชื่อนี้ครั้งหนึ่ง ZTE ก็เคยโดนมาก่อนจากการที่ลักลอบขายสินค้าให้ประเทศที่อเมริกาคว่ำบาตรอยู่อย่างอิหร่านและเกาหลีเหนือ โดยใครก็ตามที่ถูกขึ้นชื่อเอาไว้จะไม่สามารถซื้อชิ้นส่วนหรือสินค้าต่างๆจากบริษัทในอเมริกาได้ ซึ่งนั่นรวมไปถึงชิปเซตจาก Qualcomm หรือบริการต่างๆบน Android จาก Google ซึ่งภายหลังทาง ZTE ได้มีการเสียค่าปรับและตกลงกับทางการได้เรียบร้อยจึงถูกถอดออกจากรายชื่อนี้ แต่มารอบนี้ Huawei คงจะไม่สามารถจบกับสหรัฐได้ง่ายๆ ส่วน Google ที่แม้ว่าจะอยากจะทำธุรกิจกับ Huawei แค่ไหน แต่ก็ต้องยอมทางการสหรัฐอยู่ดี
โดยหลังจากที่ Huawei ถูกเพิ่มรายชื่อเข้า Entity List นี้แล้ว ทาง Huawei Thailand ก็ได้ออกแถลงการณ์มาทันที
หัวเว่ยไม่เห็นด้วยกับการตัดสินใจของสำนักงานด้านอุตสาหกรรมและความปลอดภัย (BIS) กระทรวงพาณิชย์ สหรัฐอเมริกา
การตัดสินใจนี้ไม่เป็นผลดีต่อฝ่ายใดทั้งสิ้น และยังจะสร้างความเสียหายร้ายแรงต่อบริษัทอเมริกาซึ่งหัวเว่ยทำธุรกิจด้วย รวมถึงตำแหน่งงานอีกหลายหมื่นตำแหน่ง ทั้งยังขัดขวางความร่วมมือที่ดำเนินอยู่และความไว้วางใจซึ่งกันและกันในระบบซัพพลายทั่วโลกอีกด้วย
ทั้งนี้ หัวเว่ยจะหามาตรการเยียวยาโดยทันที รวมถึงทางออกในเรื่องนี้ โดยเราจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อลดผลกระทบจากเหตุการณ์นี้
ผลกระทบต่อ HUAWEI และผู้ใช้มีอะไรบ้าง
Huawei จะสูญเสียการเข้าถึงการอัพเดทต่างๆของ Android OS ทันทีและสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ที่จะวางจำหน่ายในอนาคตไม่สามารถเข้าถึงแอปพลิเคชั่นและบริการจาก Google ได้ รวมถึง Google Play Store และ Gmail อีกด้วย – Reuters
หลังจากมีประกาศนี้ออกมา Google เองก็มีการประชุมกันภายใน ส่วน Huawei เองก็กำลังศึกษาถึงผลกระทบที่ตามมาแบบละเอียดซึ่งปัจจุบันทั้งคู่ยังไม่มีแถลงการณ์ออกมาอย่างเป็นทางการ แต่สำนักข่าวต่างประเทศชื่อดังอย่าง Reuters ได้รายงานถึงผลกระทบที่แหล่งข่าวได้ให้เอาไว้ ดังนี้
Huawei จะยังสามารถเข้าถึง Android OS ได้ผ่าน Open Source License
Google จะหยุดการซัพพอร์ตและความร่วมมือต่างๆที่เกี่ยวกับ Android และ Google Services ทั้งหมดทันที
อธิบายเพิ่มเติมสำหรับคนที่อาจจะไม่เข้าใจ แต่เริ่มเดิมทีจนถึงปัจจุบัน Google ได้สร้างระบบปฎิบัติการ Android ขึ้นมาเป็นแบบเปิด (Open Source) ที่ใครๆก็สามารถดึงเอาซอร์สโค้ด (Source Code) หรือชุดโปรแกรมที่ถูกสร้างและคิดค้นมานี้ไปใช้งานปรับแต่งกันได้เองแบบไม่มีค่าใช้จ่าย เปรียบเทียบให้เห็นภาพก็เหมือน Google คิดค้นเครื่องจักรขึ้นมาแล้วเปิดพิมพ์เขียวบอกรายละเอียดทั้งหมดให้ ว่ามันทำงานยังไง ใช้ชิ้นส่วนอะไรในการผลิตบ้าง ใครอยากจะทำตามหรือดัดแปลงก็คัดลอกเอาพิมพ์เขียวนี้ไปใช้ได้เลย พอ Android ออกเวอร์ชั่นใหม่ทีนึง Google ก็จะมาอัพเดทตัวพิมพ์เขียวนี้ให้เรื่อยๆด้วย
อย่างไรก็ดีตัวซอร์สโค้ดหรือพิมพ์เขียวที่ว่านี้ จะไม่ได้รวมถึงแอปและบริการต่างๆของ Google ที่เป็นหัวใจหลักอีกส่วนของ Android ทุกวันนี้ไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็น Play Store แหล่งโหลดแอปทั้งหมดที่เราใช้ๆกัน, Google Account ที่เอาไว้ซิงก์ข้อมูลต่างๆ, หรือบริการชื่อดังจาก Google ไม่ว่าจะเป็น Google Maps, Gmail, YouTube, Google Drive, Google Photos, Google Docs และอื่นๆอีกมากมาย นอกจากนี้ก็จะมีแพทช์อัพเดทความปลอดภัยที่ Google จัดทำเพื่อให้แต่ละแบรนด์สามารถส่งอัพเดทเพิ่มความปลอดภัยให้ผู้ใช้ในแต่ละเดือนอีกด้วย
ซึ่งทั้งหมดที่ว่ามาในย่อหน้านี้ Huawei จะถูกระงับทันทีไปหลังประกาศฉุกเฉิน
สินค้าที่วางจำหน่ายไปแล้วไม่ว่าจะเป็น Huawei P30 Series หรือ Mate 20 Series รวมถึงลูกค้าปัจจุบัน จะยังใช้งานบริการ Google ทั้งหมดได้ตามปกติ ไม่มีปัญหาอะไร แต่จะไม่ได้รับอัพเดทความปลอดภัยจาก Google อีกต่อไป
สินค้าที่กำลังวางจำหน่ายในอนาคต เช่น Huawei Mate 30 Series อาจไม่มี Google Services ทั้งหมด
โดย Huawei เตรียมจะเปิดตัวสมาร์ทโฟนอีกรุ่นคือ Honor 20 ในวันอังคารที่จะถึงนี้ที่ลอนดอน ซึ่งคงต้องรอติดตามกันว่าจะถูกระงับเลยหรือจะยังสามารถใช้งานได้ตามปกติ
ไม่ใช่แค่ GOOGLE แต่คาดว่า MICROSOFT ก็โดนด้วย
Huawei ไม่ได้มีผลิตภัณฑ์สำหรับผู้บริโภคเพียงแค่สมาร์ทโฟนเท่านั้น แต่ที่เริ่มได้รับความนิยมขึ้นมาไม่แพ้กันก็คือ Matebook นั่นเอง ซึ่งระบบปฎิบัติการที่ใช้อยู่ก็ Windows จาก Microsoft ที่เป็นบริษัทของอเมริกาเช่นกัน ถ้าหากว่า Google – Android ยังโดน ทาง Microsoft – Windows ก็น่าจะปลิวไปตามๆกัน น่าเป็นห่วงว่าถ้า Windows ใน MateBook ไม่สามารถอัพเดทได้นั้น ก็อาจจะหมายถึงว่าหากมีช่องโหว่ความปลอดภัยที่ร้ายแรงออกมา ผู้ใช้งานก็จะมีความเสี่ยงทันทีเลย แต่ความน่าห่วงนี้ก็จะดูไม่มีผลทันที หากการแบนนี้รวมไปถึง Huawei ไม่สามารถสั่งซื้อชิปเซตของ
Intel มาใช้ประกอบ MateBook ได้อีกอย่างด้วย!?!!
OPPO, VIVO, XIAOMI และบริษัทจีนอื่นๆ ยังไม่มีข้อมูล แต่คาดว่าน่าจะรอด
เมื่อเห็นว่า Huawei – Honor ซึ่งเป็นบริษัทจีนโดนแบนจากอเมริกาแบบนี้แล้ว สมาร์ทโฟนรายอื่นๆ จากแดนมังกรจะโดนหางเลขไปด้วยหรือไม่นั้น ตรงนี้ตามความเข้าใจของผู้เขียนเองคือน่าจะไม่มีปัญหา เพราะที่โดนหนักๆจะมีเพียงแค่บริษัทที่ถูกบรรจุเข้าไปใน Entity List เท่านั้น และตามข่าวคือจะมีเพียงหัวเว่ยและบริษัทในเครือเท่านั้น ยังไม่มีรายงานว่าสมาร์ทโฟนแบรนด์จีนเจ้าอื่นถูกบรรจุเข้าไปด้วยหรือไม่ ซึ่งทางเราจะติดต่อขอคำชี้แจงจากแบรนด์ต่างๆให้ได้ทราบกันต่อไป
HUAWEI เคยบอกว่าเตรียมรับมือเอาไว้แล้ว แต่จบสงครามการค้าได้คือดีที่สุด
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีการพูดถึงการแบนหัวเว่ยหรือจีนจากสหรัฐ โดยมีการสอบถามถึงความพร้อมกันเอาไว้ตั้งแต่เมื่อต้นปี 2018 ซึ่ง ณ ตอนนั้นทาง Richard Yu ได้เปิดเผยว่ามีการพัฒนาระบบปฎิบัตการกันภายในอยู่ โดยจะเป็น OS ที่สามารถใช้งานได้ทั้งมือถือ แท็บเลต และโน๊ตบุ๊คได้เลย แต่ปัจจุบันก็ยังไม่เคยมีใครเห็นหน้าคร่าตาของ OS นี้ และเชื่อว่าน่าจะยังไม่มีนักพัฒนาเจ้าไหนทำแอปให้แต่อย่างใด ซึ่งการสร้างระบบปฎิบัติการขึ้นมาใหม่ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ระบบนิเวศน์ (Ecosystem) เป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลาและทรัพยากรที่สูงมาก แถมมีมาตรการแบบนี้ออกมาอีกการจะได้เห็นบริการจาก Google Facebook Instagram ไปลงใน OS นี้ก็แทบจะเป็นไปไม่ได้อีก ดังนั้นต่อให้เตรียมรับมือไว้แค่ไหน แต่
การสูญเสียทั้ง Android และ Windows ไปก็ยังถือว่าอ่วมอยู่ดี
https://droidsans.com/google-suspends-huawei-after-blacklist/
thaimobilecenter.com/content/google-suspended-business-with-huawei-restricts-android.asp
อ่วมอรทัย!!! USA โหด!!! Huawei ถูกตัดการ Support จาก Google และ Android!!!
Huawei ถูกตัดการ Support จาก Google และ Android
20/5/2019
ถ้าใครได้ติดตามข่าวสารนานาชาติบ้าง ก็น่าจะได้เห็นข่าวใหญ่เรื่องสงครามเศรษฐกิจระหว่างสองมหาอำนาจ อย่างสหรัฐอเมริกา และ จีน.. ที่ต่างก็มีการสร้างกำแพงภาษี ตัดกำลังการค้าของกันและกันจนตอนนี้ตลาดของนักลงทุนก็ปั่นป่วนเละเทะไปหมด / ส่วนถ้าใครอยู่ในวงการไอทีหน่อยก็น่าจะได้ข่าวเกี่ยวกับเรื่องราวของแบรนด์ Huawei ในประเทศอเมริกาด้วยเช่นกัน ว่าหลังๆนี้มีความพยายามที่จะห้ามโปรดักส์จาก Huawei เข้าสู่ประเทศ ด้วยเหตุผลเรื่องความปลอดภัย (หรือจะเป็นเกมการเมืองก็แล้วแต่จะมอง)
ซึ่งแบรนด์ Huawei เองตอนนี้ก็ต้องยอมรับว่าเป็นดาวรุ่งพุ่งแรงในตลาด Smartphone ด้วยความที่มีทางเลือกให้หลากหลาย ตั้งแต่รุ่นราคาประหยัด ยันรุ่นไฮเอนด์ จนล่าสุดได้มีส่วนแบ่งการตลาดแซงแบรนด์ใหญ่จากประเทศอเมริกาไปแล้ว .. สิ่งนี้ก็น่าจะทำให้อเมริกาไม่พอใจอยู่พอสมควร เราจึงได้เห็นการตัดกำลังอยู่เรื่อยมา / และเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว ประธานาธิบดี Donald Trump ก็ได้มีการออก Blacklist Order ไม่ให้ Huawei มีการ Import อุปกรณ์อะไรจากอเมริกา ทั้ง Hardware และ Software ยกเว้นว่าได้รับอนุญาตจาก White House เท่านั้น
จนกระทั่งวันนี้ก็มีข่าวใหญ่มาอีกหนึ่งข่าว ว่าล่าสุด Google ได้มีการตัดความสัมพันธ์ทางธุรกิจกับ Huawei ไปเรียบร้อยแล้ว .. นั่นหมายความว่า Huawei เองจะไม่สามารถใช้ Google Service ทุกอย่างอีกต่อไป รวมไปถึง Play Store ด้วย !
ข่าวนี้แอดมินก็เจอมาจากเว็บไซต์ต่างประเทศ 9to5google.com ที่มีการอ้างอิง Reference มาจาก Reuters ว่าทางสำนักข่าวได้ข้อมูลที่น่าเชื่อถือมาเกี่ยวกับการยุติความสัมพันธ์ทางธุรกิจระหว่าง Google และ Huawei โดย Huawei เองจะไม่สามารถได้รับ Hardware และ Software จากทางฝั่งอเมริกา ที่ไม่ใช่ Open Source ไปใช้ประโยชน์ได้อีกต่อไป
รายละเอียดเพิ่มเติมตอนนี้ก็กำลังถูกเจรจากันภายในบริษัท Google อยู่ .. แต่อย่างน้อยที่เราทราบตอนนี้ก็คือ Huawei นั้นจะถูกจำกัดให้ใช้งาน Android บนพื้นฐาน Android Open Source Project (AOSP) เท่านั้น อะไรที่ไม่ใช้ Open Source และต้องมีการซัพพอร์ตจาก Google จะใช้ไม่ได้ และอุปกรณ์ในอนาคตของ Huawei ก็จะไม่ได้รับการซัพพอร์ตในส่วนของ Play Store และแอพอื่นๆใน Service ของ Google เช่น Gmail หรือ Chrome เป็นต้น.. อัพเดทอย่าง Security Patch จาก Google ก็คงไม่ส่งมาด้วย
แต่สำหรับอุปกรณ์รุ่นปัจจุบันของ Huawei ก็น่าจะยังไม่ได้รับผลกระทบเร็วๆนี้ Play Store และ Application ของ Google จะยังสามารถใช้งานได้อยู่ แต่อย่างไรก็ตาม พวกรุ่นใหม่ๆที่ยังไม่ได้เปิดตัว และมีการจำหน่ายนอกประเทศจีนก็จะไม่มี Service ของ Google และ Play Store มาให้ .. ส่วนของอุปกรณ์ที่จำหน่ายอยู่ตอนนี้ ถึงแม้จะยังไม่ได้รับผลกระทบในทันที แต่ว่าในอนาคตนั้นน่าจะมีแน่ ไม่ว่าจะเป็นอัพเดทอย่างเช่น Android Q ที่ Huawei ได้รับปากผู้ใช้งานไว้ ก็อาจจะไม่สามารถใช้ Play Store ได้ และนี่ก็อาจจะลามไปถึง Wear OS ที่ Huawei อาจจะต้องเลื่อนการเปิดตัวออกไปอีก
เรื่องนี้ก็ดูเหมือนจะเป็นเรื่องใหญ่มาก.. เพราะ Huawei ก็เป็น Smartphone ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Android เป็นหลัก.. และในเมื่อ Google ไม่อนุญาตให้ใช้ Service และตัดการซัพพอร์ต ก็เหมือนเป็นการตัดขา ไม่ให้ไปต่อ / งานนี้ยังไงผู้ใช้ Huawei ที่รักในระบบปฏิบัติการ Android ก็ต้องมีสั่นคลอนไปตามๆกัน
ส่วน Huawei ก็เหมือนจะมีแผนการรองรับตรงนี้อยู่แล้ว จากที่เราได้ยินข่าวมาว่า Huawei นั้นกำลังพัฒนาระบบปฏิบัติการของตัวเองมาแทน Android .. ถึงแม้ว่ามันจะเป็นผลเสียกับผู้บริโภค เพราะว่า Ecosystem ของ Android นั้นกว้างขวาง มี application ให้ใช้งานหลากหลาย ถ้า Huawei เปลี่ยนไปใช้ระบบของตัวเอง ก็อาจจะเสียฐานลูกค้าไปมากพอสมควร เหมือนที่ Samsung พยายามทำก่อนหน้านี้ กับ TIZEN แล้วดูเหมือนจะไปไม่รอดในกลุ่ม Smartphone .. งานนี้ท่าทางฝันร้ายของ Huawei จะเป็นจริงแล้วหล่ะ แต่จะแก้เกมยังไงนั้นก็ต้องรอดูกันต่อไป
https://www.overclockzone.com/Huaweiหมดสิทธิ์ใช้Androidอเมริกาสะกัดดาวรุ่งพุ่งแรงตลาด
เมื่อช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา เราได้เห็นข่าวเรื่องสหรัฐออกประกาศฉุกเฉินที่ออกมาห้ามบริษัทต่างๆในประเทศใช้อุปกรณ์สื่อสารโทรคมนาคมจากบริษัทต่างชาติ ซึ่งหลายฝ่ายก็รู้ว่าเป็นการทำเพื่อยกระดับสงครามการค้ากับจีนและหัวเว่ย แต่ยังไม่มีการสรุปผลที่แน่ชัดออกมาว่ามีอะไรที่จะได้รับผลกระทบบ้าง จนวันนี้ต้องพากันตื่นตระหนกเมื่อทางสำนักข่าวต่างประเทศได้ให้ข้อมูลว่าหัวเว่ยอาจจะไม่ได้ใช้งาน Android อีกต่อไป ไม่ว่าจะเป็นการอัพเดทแพทช์ความปลอดภัยต่างๆ รวมถึง Mate 30 Pro ก็อาจจะชวดได้ใช้ Google Services ทั้งหมดอีกด้วย
ENTITY LIST บัญชีดำ ตัดการทำธุรกิจกับอเมริกา
หลังจากที่มีการประกาศฉุกเฉินออกมาเมื่อวันพุธที่ผ่านมา กระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐก็ได้มีการเพิ่มชื่อ Huawei และบริษัทลูกอีกกว่า 68 แห่ง เข้าไปอยู่ใน Entity List หรือบัญชีดำการซื้อขาย ซึ่งบัญชีรายชื่อนี้ครั้งหนึ่ง ZTE ก็เคยโดนมาก่อนจากการที่ลักลอบขายสินค้าให้ประเทศที่อเมริกาคว่ำบาตรอยู่อย่างอิหร่านและเกาหลีเหนือ โดยใครก็ตามที่ถูกขึ้นชื่อเอาไว้จะไม่สามารถซื้อชิ้นส่วนหรือสินค้าต่างๆจากบริษัทในอเมริกาได้ ซึ่งนั่นรวมไปถึงชิปเซตจาก Qualcomm หรือบริการต่างๆบน Android จาก Google ซึ่งภายหลังทาง ZTE ได้มีการเสียค่าปรับและตกลงกับทางการได้เรียบร้อยจึงถูกถอดออกจากรายชื่อนี้ แต่มารอบนี้ Huawei คงจะไม่สามารถจบกับสหรัฐได้ง่ายๆ ส่วน Google ที่แม้ว่าจะอยากจะทำธุรกิจกับ Huawei แค่ไหน แต่ก็ต้องยอมทางการสหรัฐอยู่ดี
โดยหลังจากที่ Huawei ถูกเพิ่มรายชื่อเข้า Entity List นี้แล้ว ทาง Huawei Thailand ก็ได้ออกแถลงการณ์มาทันที
หัวเว่ยไม่เห็นด้วยกับการตัดสินใจของสำนักงานด้านอุตสาหกรรมและความปลอดภัย (BIS) กระทรวงพาณิชย์ สหรัฐอเมริกา
การตัดสินใจนี้ไม่เป็นผลดีต่อฝ่ายใดทั้งสิ้น และยังจะสร้างความเสียหายร้ายแรงต่อบริษัทอเมริกาซึ่งหัวเว่ยทำธุรกิจด้วย รวมถึงตำแหน่งงานอีกหลายหมื่นตำแหน่ง ทั้งยังขัดขวางความร่วมมือที่ดำเนินอยู่และความไว้วางใจซึ่งกันและกันในระบบซัพพลายทั่วโลกอีกด้วย
ทั้งนี้ หัวเว่ยจะหามาตรการเยียวยาโดยทันที รวมถึงทางออกในเรื่องนี้ โดยเราจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อลดผลกระทบจากเหตุการณ์นี้
ผลกระทบต่อ HUAWEI และผู้ใช้มีอะไรบ้าง
Huawei จะสูญเสียการเข้าถึงการอัพเดทต่างๆของ Android OS ทันทีและสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ที่จะวางจำหน่ายในอนาคตไม่สามารถเข้าถึงแอปพลิเคชั่นและบริการจาก Google ได้ รวมถึง Google Play Store และ Gmail อีกด้วย – Reuters
หลังจากมีประกาศนี้ออกมา Google เองก็มีการประชุมกันภายใน ส่วน Huawei เองก็กำลังศึกษาถึงผลกระทบที่ตามมาแบบละเอียดซึ่งปัจจุบันทั้งคู่ยังไม่มีแถลงการณ์ออกมาอย่างเป็นทางการ แต่สำนักข่าวต่างประเทศชื่อดังอย่าง Reuters ได้รายงานถึงผลกระทบที่แหล่งข่าวได้ให้เอาไว้ ดังนี้
Huawei จะยังสามารถเข้าถึง Android OS ได้ผ่าน Open Source License
Google จะหยุดการซัพพอร์ตและความร่วมมือต่างๆที่เกี่ยวกับ Android และ Google Services ทั้งหมดทันที
อธิบายเพิ่มเติมสำหรับคนที่อาจจะไม่เข้าใจ แต่เริ่มเดิมทีจนถึงปัจจุบัน Google ได้สร้างระบบปฎิบัติการ Android ขึ้นมาเป็นแบบเปิด (Open Source) ที่ใครๆก็สามารถดึงเอาซอร์สโค้ด (Source Code) หรือชุดโปรแกรมที่ถูกสร้างและคิดค้นมานี้ไปใช้งานปรับแต่งกันได้เองแบบไม่มีค่าใช้จ่าย เปรียบเทียบให้เห็นภาพก็เหมือน Google คิดค้นเครื่องจักรขึ้นมาแล้วเปิดพิมพ์เขียวบอกรายละเอียดทั้งหมดให้ ว่ามันทำงานยังไง ใช้ชิ้นส่วนอะไรในการผลิตบ้าง ใครอยากจะทำตามหรือดัดแปลงก็คัดลอกเอาพิมพ์เขียวนี้ไปใช้ได้เลย พอ Android ออกเวอร์ชั่นใหม่ทีนึง Google ก็จะมาอัพเดทตัวพิมพ์เขียวนี้ให้เรื่อยๆด้วย
อย่างไรก็ดีตัวซอร์สโค้ดหรือพิมพ์เขียวที่ว่านี้ จะไม่ได้รวมถึงแอปและบริการต่างๆของ Google ที่เป็นหัวใจหลักอีกส่วนของ Android ทุกวันนี้ไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็น Play Store แหล่งโหลดแอปทั้งหมดที่เราใช้ๆกัน, Google Account ที่เอาไว้ซิงก์ข้อมูลต่างๆ, หรือบริการชื่อดังจาก Google ไม่ว่าจะเป็น Google Maps, Gmail, YouTube, Google Drive, Google Photos, Google Docs และอื่นๆอีกมากมาย นอกจากนี้ก็จะมีแพทช์อัพเดทความปลอดภัยที่ Google จัดทำเพื่อให้แต่ละแบรนด์สามารถส่งอัพเดทเพิ่มความปลอดภัยให้ผู้ใช้ในแต่ละเดือนอีกด้วย
ซึ่งทั้งหมดที่ว่ามาในย่อหน้านี้ Huawei จะถูกระงับทันทีไปหลังประกาศฉุกเฉิน
สินค้าที่วางจำหน่ายไปแล้วไม่ว่าจะเป็น Huawei P30 Series หรือ Mate 20 Series รวมถึงลูกค้าปัจจุบัน จะยังใช้งานบริการ Google ทั้งหมดได้ตามปกติ ไม่มีปัญหาอะไร แต่จะไม่ได้รับอัพเดทความปลอดภัยจาก Google อีกต่อไป
สินค้าที่กำลังวางจำหน่ายในอนาคต เช่น Huawei Mate 30 Series อาจไม่มี Google Services ทั้งหมด
โดย Huawei เตรียมจะเปิดตัวสมาร์ทโฟนอีกรุ่นคือ Honor 20 ในวันอังคารที่จะถึงนี้ที่ลอนดอน ซึ่งคงต้องรอติดตามกันว่าจะถูกระงับเลยหรือจะยังสามารถใช้งานได้ตามปกติ
ไม่ใช่แค่ GOOGLE แต่คาดว่า MICROSOFT ก็โดนด้วย
Huawei ไม่ได้มีผลิตภัณฑ์สำหรับผู้บริโภคเพียงแค่สมาร์ทโฟนเท่านั้น แต่ที่เริ่มได้รับความนิยมขึ้นมาไม่แพ้กันก็คือ Matebook นั่นเอง ซึ่งระบบปฎิบัติการที่ใช้อยู่ก็ Windows จาก Microsoft ที่เป็นบริษัทของอเมริกาเช่นกัน ถ้าหากว่า Google – Android ยังโดน ทาง Microsoft – Windows ก็น่าจะปลิวไปตามๆกัน น่าเป็นห่วงว่าถ้า Windows ใน MateBook ไม่สามารถอัพเดทได้นั้น ก็อาจจะหมายถึงว่าหากมีช่องโหว่ความปลอดภัยที่ร้ายแรงออกมา ผู้ใช้งานก็จะมีความเสี่ยงทันทีเลย แต่ความน่าห่วงนี้ก็จะดูไม่มีผลทันที หากการแบนนี้รวมไปถึง Huawei ไม่สามารถสั่งซื้อชิปเซตของ Intel มาใช้ประกอบ MateBook ได้อีกอย่างด้วย!?!!
OPPO, VIVO, XIAOMI และบริษัทจีนอื่นๆ ยังไม่มีข้อมูล แต่คาดว่าน่าจะรอด
เมื่อเห็นว่า Huawei – Honor ซึ่งเป็นบริษัทจีนโดนแบนจากอเมริกาแบบนี้แล้ว สมาร์ทโฟนรายอื่นๆ จากแดนมังกรจะโดนหางเลขไปด้วยหรือไม่นั้น ตรงนี้ตามความเข้าใจของผู้เขียนเองคือน่าจะไม่มีปัญหา เพราะที่โดนหนักๆจะมีเพียงแค่บริษัทที่ถูกบรรจุเข้าไปใน Entity List เท่านั้น และตามข่าวคือจะมีเพียงหัวเว่ยและบริษัทในเครือเท่านั้น ยังไม่มีรายงานว่าสมาร์ทโฟนแบรนด์จีนเจ้าอื่นถูกบรรจุเข้าไปด้วยหรือไม่ ซึ่งทางเราจะติดต่อขอคำชี้แจงจากแบรนด์ต่างๆให้ได้ทราบกันต่อไป
HUAWEI เคยบอกว่าเตรียมรับมือเอาไว้แล้ว แต่จบสงครามการค้าได้คือดีที่สุด
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีการพูดถึงการแบนหัวเว่ยหรือจีนจากสหรัฐ โดยมีการสอบถามถึงความพร้อมกันเอาไว้ตั้งแต่เมื่อต้นปี 2018 ซึ่ง ณ ตอนนั้นทาง Richard Yu ได้เปิดเผยว่ามีการพัฒนาระบบปฎิบัตการกันภายในอยู่ โดยจะเป็น OS ที่สามารถใช้งานได้ทั้งมือถือ แท็บเลต และโน๊ตบุ๊คได้เลย แต่ปัจจุบันก็ยังไม่เคยมีใครเห็นหน้าคร่าตาของ OS นี้ และเชื่อว่าน่าจะยังไม่มีนักพัฒนาเจ้าไหนทำแอปให้แต่อย่างใด ซึ่งการสร้างระบบปฎิบัติการขึ้นมาใหม่ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ระบบนิเวศน์ (Ecosystem) เป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลาและทรัพยากรที่สูงมาก แถมมีมาตรการแบบนี้ออกมาอีกการจะได้เห็นบริการจาก Google Facebook Instagram ไปลงใน OS นี้ก็แทบจะเป็นไปไม่ได้อีก ดังนั้นต่อให้เตรียมรับมือไว้แค่ไหน แต่การสูญเสียทั้ง Android และ Windows ไปก็ยังถือว่าอ่วมอยู่ดี
https://droidsans.com/google-suspends-huawei-after-blacklist/
thaimobilecenter.com/content/google-suspended-business-with-huawei-restricts-android.asp