รีวิวครั้งแรก เดินทางวันที่ 8 - 15 Nov 2018
กว่าจะได้ทำรีวิว ช้าไปม่ะ 555

ทริปนี้เริ่มต้นด้วย ไต้หวันฟรีวีซ่า บวกกับเค้าว่าไต้หวันเป็นประเทศที่ผสมระหว่างจีนและญี่ปุ่น และที่สำคัญ ค่าเงินไม่ต่างจากบ้านเรา ข้อดีเยอะซะขนาดนี้มันก็ต้องจัดซะหน่อย  เราบินไปกับสายการบิน EVA airline โดยการจองตั๋วโปรผ่านงานท่องเที่ยว และเป็นครั้งแรกสำหรับการใช้บริการแบบ Full Service เราชอบเวลาบินของสายการบินนี้นะ เพราะบินตอนประมาณตี2 แล้วก็ไปถึงไทเปประมาณ 6โมง 50 เรียกว่าถึงไทเปก็พร้อมเที่ยวได้เลย 

Day 1
พอเครื่องลงที่สนามบิน Taiwan Taoyuan INTL Termail 2 เราก็ต้องไปทำเรื่องผ่าน ตม หลังจากนั้นก็ไปรับกระเป๋าและไปรับ Pocket Wifi โดยเราจองผ่าน App KLOOK จากนั้นก็เดินทางเข้าTaipei main station เพื่อไป check in ที่ Midtown Richardson Hotel(สถานี Ximend) โดยนั่ง Taoyuan Airport MRT ทีเป็น Express Train ให้สังเกตขบวนจะเป็นสีม่วง โดยรถจะมาจอดที่สถานี A1 Taipei Main Station ใช้เวลาประมาณ 35 นาที หลังจากนั้น ให้นั่ง MRT ต่อไปยังสถานี Ximend โดยเราสามารถเลือกได้ว่าจะนั่งสายสีฟ้า หรือ สายสีเขียว แต่เราเลือกนั่งสายสีเขียวเพราะอยู่ใกล้กับ Taoyuan Airport MRT มากกว่า พอมาถึงให้ออกทางออกที่5 แล้วเลี้ยวขวาแล้วเดินตรงไป ก็จะเจอโรงแรม Midtown Richardson ลืมบอกไปวันนี้เรานัดกับนายเก่าไปเที่ยวด้วย นายก็เลยเช่ารถพร้อมคนขับพาเที่ยว เที่ยวฟรี ประหยัดไปหนึ่งวัน มาไทเปวันแรกฟ้าฝนก็ไม่เป็นใจตกกระหน่ำมาก แต่เราก็ไม่ย่อท้อ ที่แรกที่เราไปคืออุทยานเย่หลิว ค่าเข้า 80 Twd อยากจะบอกว่าคนเยอะมากๆ แนะนำให้มาวันธรรมดาจะดีกว่า ไปต่อกันที่หมู่บ้านแมว  แมวเหมียวหายไปไหนไม่ออกมาโชว์ตัวเลย สงสัยฝนตกอากาศหนาว นอนหลบฝนดีกว่า
หลังจากนั้นก็กลับมาที่พัก เพื่อ check in นำกระเป๋าไปเก็บ และเตรียมพร้อมกับการออกไปหาอะไรกิน โดยเราเลือกไปกิน Din Tai Foung ที่สาขา Xinyi โดยนั่ง MRT ไปลงที่สถานี Zhongxiao Xinsheng เรารอคิวอยู่ประมาณครึ่งชั่วโมง แต่ขอบอกว่าคุ้มค่ากับการรอคอย แนะนำเลยเสี่ยวหลงเปาอร่อยมาก
 ปิดท้ายวันนี้ด้วยขนมหวานที่ร้าน Ruji café เป็นร้านน้ำแข็งไสแล้วให้เราเลือก topping ได้ 2 อย่าง พิกัดร้าน อยู่ด้านหลังSOGO Zhongxiaoคือโซโกตึกขาว เราว่าน้ำแข็งไสร้านเค้าอร่อยนะ แต่ว่ามีข้อจำกัดหน่อยตรงที่ว่า ทุกคนจะต้องสั่งเมนูคนละหนึ่งอย่าง ถ้าไม่สั่งขนมก็ต้องสั่งเครื่องดื่ม เช่น เราไปกัน 3 คน เราก็ต้องสั่งขนมมาคนละ1 เมนู เราว่าอันนี้แอบโหดไปนิดหนึ่ง
Day 2

วันนี้นายเก่าเราจะกลับล่ะ ก็จะมีเวลาอยู่กะพวกเราได้แค่ก่อน 10 โมง ทีแรกก็คิดไม่ออกว่าจะไปไหนกันดี ก็เลยตัดสินใจว่ามาไทเปทั้งทีก็ต้องไปดูตึก ไทเป 101 และชมวิวเมืองไทเปกันซะหน่อย โดยตั้งใจว่าจะรีบมาแต่เช้าเพราะกลัวคนจะเยอะ โดยนั่ง MRT สายสีแดงมาลงที่สถานี Taipei 101 แล้วออก exit 1 ลิฟท์ขึ้นชมวิวความเร็วสูงมาก ขึ้นแป๊บเดียวก็ถึงล่ะชั้น89 เราสามารถเดินชมวิวไทเปได้ 360 องศา แต่เสียดายที่วันนี้มีฝนตกเลยทำให้มองไม่เห็นวิวของไทเป เห็นแต่กลุ่มหมอก แนะนำว่าใครที่อยากชมวิว ให้เลือกมาวันที่อากาศแจ่มใสแบบฟ้าเปิด จะได้คุ้มกับที่เสียค่าตั๋วขึ้นมาชมวิว

จากนั้นเราก็ไปเที่ยวหมู่บ้านประวัติศาสตร์ซื่อซื่อหนันซุน (Si Si Nan Cun) ก็ให้ออกที่exit 2 MRT Taipei 101 
และไปต่อกันที่อนุสรณ์สถานเจียงไคเชก มาไทเปห้ามพลาดสถานที่นี้นะจ้า เพราะถือเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของไต้หวันและสถานที่ท่องเที่ยวหลัก โดนที่แห่งนี้สร้างเพื่อการรำลึกให้กับประธานาธิบดีเจียง ไคเชก โดยนั่ง MRT สายสีแดงมาลงที่สถานี Chiang Kai-Sheck exit 5 สำหรับไฮไลท์สำคัญที่ห้ามพลาดคือการรอชม พิธีเปลี่ยนเวรทหาร ซึ่งจะมีทุกๆ ต้นชั่วโมง ตั้งแต่ เวลา 10:00 – 16:00 ของทุกวัน แนะนำว่าถ้าอยากถ่ายรุปพิธีเปลี่ยนเวรทหารแบบชัดๆ ให้รีบมารอก่อนถึงจริงเพราะคนจะเยอะมากๆ

และเติมพลังที่ร้าน Chun Shui Tang (ชุนชุ่ยถาง) ซึ่งอยู่ในอนุสรณ์สถานเจียงไคเชกเลย ร้านนี้เป็นร้านต้นกำเนิดชานมไข่มุก อร่อยสมกับเป็นอันดับหนึ่งชานมไข่มุกสำหรับไต้หวัน อาหารของที่ร้านก็อร่อยไม่แพ้กันนะ แต่เราจำชื่อเมนูไม่ได้
และไปไหว้พระขอพรด้านความรักกันตามประสาคนโสด ที่วัดหลงซาน (Longshan Temple)  โดยนั่ง MRT สายสีน้ำเงินมาลงที่สถานี Longshan Temple exit 1 แล้วเดินแล้วขวาไป เวลาเข้าวัดให้เข้าทางประตูขวา(ประตูมังกรน้ำตก) แล้ววนออกทางประตูซ้าย (ประตูเสือ) สำหรับวิธีการไหว้สามารถสอบถามเจ้าหน้าที่ในวัดได้เลยนะ

สำหรับคืนนี้เราจะเปลี่ยนที่นอนมานอนกันที่ Good 9 Stay Inn ซึ่งก็เดินทางไม่ยากจากที่เดิมคือถ้าเริ่มต้นจาก MRT Ximen ให้ออกที่ exit 6 แล้วเดินข้ามแยกมาฝั่งที่เป็น Watsons แล้วเดินตรงไปตรงซอยข้างๆ Watsons พอเจอซอยแรกให้เลี้ยวเข้าไป สังเกตว่าปากทางเข้าจะมีร้านชานมไข่มุกอยู่ แต่เราจำชื่อร้านไม่ได้ าเราลองสั่งเป็นเมนูนมไข่มุกกิน คืออร่อยอ่ะ หลังจากนั้นก็เดินเข้าไปก็จะเจอ Hotel puri และ ถัดมาก็จะเป็นตึกแถวที่เป็นที่ตั้ง Good 9 Stay Inn ทางด้านขวามือ โดยเราต้องขึ้นลิฟท์ไปชั้น 5 นะ หลังจาก check in เรียบร้อยแล้ว  หลังจากนั้นเราก็กลับมาเดินเล่นกันที่ย่านซีเหมิน ตั้งใจว่าจะไปกินชาบูหมาล่าร้านดัง ปรากฏว่าคนแน่น รอคิวอีก 3 ชั่วโมง ไม่ไหวๆ ตอนนี้ร่างกายต้องการอาหารมากกกกก เราก็เลยไปกินชาบู ที่ร้าน Hakkai Shabu Buffet แทน 
Day3

วันนี้เราจะไปเดิน trial ที่อุทยานแห่งชาติหยางหมินซาน ซึ่งอยู่ในเมืองไทเปเนี่ยล่ะ โดยนั่ง MRTสายสีน้ำเงินไปลงที่ สถานี Taipei Main Station exit 1 แล้วให้เดินไปตรงป้ายรถเมล์ แล้วดูช่องที่มี bus no. 260 แล้วยืนรอที่ช่องนั้น สักพักรถก็มาแล้ว ป้ายรถเมล์ที่ไทเปดีนะ มีเวลาบอกตลอดว่าเมื่อไรรถจะมาถึง แล้วก็นั่งไปลงที่สุดสายได้เลย หรืออาจจะนั่ง MRT สายสีแดง มาลงที่สถานี Jiantan exit 3 แล้วก็รอ bus no. 260 ได้เหมือนกัน พอรถมาถึงป้ายสุดท้าย ก็ให้นั่งมินิบัสของอุทยาน bus no. 108 ไปเที่ยวตามจุดต่างๆ ของอุทยาน โดยราคาเที่ยวล่ะ 15 nt แต่ถ้าเหมาเที่ยวรวม ก็ 60 nt โชคร้ายของเราวันนี้คือ ฝนตกหนักมาก แต่เราไม่ย้อท้อจ้า ใส่เสื้อกันฝนกับกางร่มเที่ยวจ้า โดยคุณป้าเจ้าหน้าที่อุทยาน แนะนำให้เราเดินเทรลรอบๆอุทยานด้านล่าง ไม่แนะนำให้นั่งรถเที่ยวไปตามจุดต่างๆ  แปลกใจมากเลยที่คนไต้หวันที่ชอบเดินป่าหรือเดินเทรล กับเป็นคนสูงอายุ ซึ่งส่วนใหญ่จะมากันเป็นกลุ่มๆ

หลังจากชมธรรมชาติกันเรียบร้อย เราก็นั่งรถบัสของอุทยานมาลงที่เดิมและนั่ง bus no. 108 กลับมาลงที่ Taipei main station พอกลับเข้ามาในเมืองฟ้าเปิดซะงั้น เราเลยตัดสินใจไปชมวิวตึกไทเปโดยการปีนเขาที่เขาช้าง หรือ เขาเซียงชาน (Xianshan Mountain) เพราะกลัวว่าถ้าไปวันอื่น ฝนจะตกอีก โดยนั่ง MRT สายสีแดง มาลงที่สถานี Xianshan eixt 2 แล้วเราก็เดินไปตามป้ายได้เลย


หลังจากนั้นเราก็กลับมาที่พัก Good 9 Stay Inn เพื่อเอากระเป๋าเดินทางใบใหญ่ไปฝากที่พักอีกที่นึงคือที่ Mr.Lobster’s เพราะวันรุ่งขึ้นเราเตรียมตัวจะไปเที่ยวกันต่อที่อาลีซานและไม่อยากแบกสัมภาระไปเยอะ ที่ Mr.Lobster’s เค้าให้ลูกค้าฝากกระเป๋าได้ฟรี โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายเพิ่มแม้จะยังไม่ถึงวัน check in และก็ไปเดินเล่นหาของกินกันที่ Ximend Shopping

บะหมี่อาจง
เห็นคนต่อคิวเยอะ ลองซะหน่อย อร่อยดีทั้งไก่ทอดและปลาหมึกทอด
น้ำมะระ ไม่ขมมาก 
ปิดท้ายด้วยโมจิย่าง
ไว้มาต่อนะ อย่าเพิ่งหายกันไป