[CR] (กระทู้ต่อ..ตอบจบ)อุทาหรณ์!! พิษสเตียรอยด์ จากหน้าเละเป็นผีรักษาหายได้อย่างไร?

 ผมขอย้ำอีกครั้งว่า ผมไม่ได้ว่าสเตียรอยด์ให้โทษอย่างเดียวหรือห้ามใช้ แต่ทั้งหมดมันเกิดจากความผิดพลาด และประมาทโดยตัวผมเอง
จากการทดลองรักษาด้วยตัวเองต่างๆนาๆ จึงไม่คำนึงถึงผลเสีย จนมาเกิดเป็นพิษต่อตัวเอง



ผมขอให้เรื่องราวทั้งหมดเป็นอุทาหรณ์เพื่อเตือนสติ สำหรับใครอีกหลายคนที่ยังไม่รู้จักสารสเตียรอยด์ (มีบางคนไม่รู้จักจริงๆ) หรือคนที่กำลังประสบปัญหาอยู่ตอนนี้ ผมไม่อยากให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นกับใครเลย เพราะมันทำให้เกือบเสียทุกอย่าง ทั้งเพื่อน เงิน และงาน ผมอาจจะยังโชคดีตรงที่ ผมไม่ต้องออกไปทำงานนอกบ้านเหมือนกับคนอื่น ถ้าเป็นคุณ_ที่มีงานประจำ คุณจะใช้ชีวิตอย่างไรครับ ทั้งการโดนมอง คำพูดคำถามต่างๆ  ที่มันกระทบกับจิตใจคุณ บทเรียนที่ยิ่งใหญ่นี้ผมจำไปจนตาย อย่าทดลองอะไรแบบผมนะครับ บางสิ่งที่ดีสำหรับคนหนึ่งอาจไม่ดีสำหรับอีกคนเสมอไป


----->>> สำหรับท่านใดยังไม่ได้อ่านกระทู้ที่แล้ว เข้าตามลิ้งค์นี้นะครับ 
[CR] อุทธาหรณ์!! หน้าเละเป็นผี พิษสเตียรอยด์ ทำเกือบตาย ทรมานอาการหนัก! ประสบการณ์หลังความตาย (ตอน1)
https://ppantip.com/topic/38870934


ความเดิมต่อในขณะอยู่ รพ.
ทุกคืนในขณะที่อยู่ รพ. ผมนอนไม่ค่อยหลับเลย ต้องเดินเข้าห้องน้ำเพื่อเช็ดน้ำเหลืองตลอด
ใช้น้ำเกลือที่ทางหมอจัดเตรียมให้ (Normal Saline) ชุบสำลีแล้วนำมาโปะไว้เพื่อลดน้ำเหลืองที่ไหลมา 
ผมรู้สึกผิดเหลือเกิน ผมไม่น่าประมาทในการใช้สเตียรอยด์เลย แต่ทุกครั้งที่ผมใช้เพราะมันจำเป็นจริงๆ เพราะไม่สามารถใช้อย่างอื่นคุมอาการได้แล้ว ทำให้การใช้ของผมเพิ่มปริมาณไปเรื่อยๆ เมื่อมันไม่ค่อยเห็นผล จึงเพิ่มโดสเข้าไปเอง (สเตียรอยด์ทาหน้าห้ามใช้เกิน 7 วัน)
ผมไม่สามารถนอนตะแคงได้ เพราะน้ำเหลืองและแผลที่หน้ามันจะติดหมอน
ซึ่งผมไม่ถนัดนอนหน้ามองเพดาน มันจะนอนไม่ค่อยหลับ เลยทำให้การพักผ่อนน้อย 

รูปใบหน้าตอนเข้าโรงพยาบาลวันแรก
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

ทรมานมากครับ เวลาตื่นตอนเช้าผมจะลืมตาไม่ได้ เพราะน้ำเหลืองจะมาเกาะแข็งที่ตา ต้องใช้น้ำเกลือบิดหมาดๆ โปะไว้ให้น้ำเหลืองนิ่มลง
ที่ใช้หน้ากากอุดจมูกไว้ เพราะมันเหม็นคาวน้ำเหลืองครับ ไม่สามารถคาดแมสได้เพราะจะลำบากตอนดึงออก เลยฉีกมาอุดจมูกไว้ครับ

ผ่านไปสองสามวัน ยังไม่ได้รับเสตียรอยด์ครับ เพราะหมอกำลังดูอาการอยู่ 
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

สังเกตุว่าที่หน้าจะเป็นรอยแตกแยก จนเลือดไหลซิบๆ นั่นคือผลของพิษสเตียรอยด์ครับ มันทำลายชั้นผิวให้บางลง 
เกราะคุ้มกันเชื้อโรคก็หายไป ทำให้หน้าเกิดอาการแพ้ หรือสามารถติดเชื้อได้ง่ายมากขึ้น 

ทำไมจมูกไม่เป็นแผล?
บริเวณไหนที่ผมใช้สเตียรอยด์ ตรงนั้นจะเป็นครับ ยิ่งใช้ตรงไหนมาก มันก็จะชัดเจนดังในรูป ส่วนจมูกผมไม่ได้ทาครับ  รอบดวงตาผมก็ทา เพราะช่วงที่น้ำเหลืองไหลก่อนเข้าโรงบาล ผมเอามือมาโดนแถวเปลือกตามันคันอ่ะครับ เลยทำให้มันลามมาที่รอบดวงตา

ผมได้หาข้อมูลในเนตดู อยากรู้มีคนเป็นเหมือนผมไหม ผมเสริชกูเกิ้ลคำว่า “Steroids Withdrawal” คือการถอนยาสเตียรอยด์นั่นเอง
จึงรู้ว่ามีคนกลุ่มนึงซึ่งมีอาการเดียวกับผมเลย สภาพใบหน้าแทบไม่ต่างกันเลยครับ
การรักษาของพวกเธอก็ไม่ต่ำกว่า 1 ปี บางคนยาวนานเท่ากับผมเลย
ส่ิงเดียวที่จะทำให้รอดจากวิกฤตนี้คือ กำลังใจจากคนรอบข้างและความอดทนอย่างสูงของตัวเราเองครับ

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

จะสังเกตได้ว่าอาการแทบไม่ต่างกันเลย ผิวจะไหม้เหมือนน้ำร้อนลวก มีรอยแยก มีน้ำเหลือง
เด็กถ้าได้รับยาสเตียรอยด์มากเกินไปก็อันตรายมากๆครับ เพราะเวลาเด็กเกิดผื่นคัน ผู้ปกครองก็พาไปหาหมอ หมอก็จ่ายยาเป็นตลับเขียนไว้ว่าแก้ผื่น ซึ่งผู้ปกครองบางท่านก็ไม่อาจรู้ได้ว่ามันคือสเตียรอยด์และไม่รู้โทษของมัน เมื่อเห็นว่าอาการลูกดีขึ้นก็ทาเยอะ ทาตลอดจนไปสะสมในร่างกายจนเกิดเอฟเฟคออกมา สเตียรอยด์ทาตัวไม่ค่อยจะเกิดผลรุนแรงมากเท่าเอามาใช้ที่หน้า และยิ่งทาบริเวณแผล สเตียรอยด์จะสามารถถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายมากยิ่งขึ้น และกว่าที่ร่างกายจะขับสเตียรอยด์ออกหมดใช้เวลานานมากๆครับ
ยิ่งคนหน้าเละๆแบบผม ยากที่จะถอนสเตียรอยด์ออกได้ง่ายๆ เพราะหลายปัจจัย
• เหงื่ออกไม่ได้
• ออกกำลังกายไม่ได้
• อยู่ที่ร้อนไม่ได้

ที่จริงมีเยอะกว่านี้นะครับ แต่เคสคนไทยผมไม่ค่อยเห็นครับ จะมีรุนแรงที่สุดน่าจะคือผมมั้ง โชคร้ายสุดแล้ว 
หมอที่วินิจฉัยส่วนมากจะไม่บอกว่ามันคืออาการแพ้สเตียรอยด์ หรือผิวติดสเตียรอยด์ครับ
ผมไม่รู้ว่าหมอในไทยไม่เคยพบเคสแบบนี้ หรือว่าต้องการไม่ให้คนไข้กลัวโทษของสเตียรอยด์และไม่กล้าใช้

อ่อ_อีกเรื่องครับ ผมขอบอกเกี่ยวกับ ครีมหรือมาร์กที่บอกว่าสามารถดูดสารพิษ สารสเตียรอยด์ออกจากใบหน้าได้ ช่วยให้หน้าหาย มันไม่เป็นความจริง เพราะไม่มีครีมใดสามารถดูดสเตียรอยด์ผ่านผิวหน้าขึ้นมาได้ เพราะมันอยู่ในกระแสเลือดครับ สเตียรอยด์มันไปมันก็ไปกดการทำงานของต่อมหมวกไต ที่ผลิตฮอร์โมนธรรมชาติของร่างกาย จนทำให้ต่อมหมวกไตเหมือนพิการไม่สารถผลิตฮอร์โมนเองได้ ฉะนั้นผมไม่อยากให้คนที่ประสบปัญหาผิวหน้าติดสเตียรอยด์หลงเชื่อคำโฆษณาเกินจริงแบบนี้ วิธีเดียวที่จะทำให้หายคือการเยียวยาครับ ให้ร่างกายปรับสภาพมันฟื้นตัวเอง ต้องใช้เวลาอย่างมาก คิดดูผมใช้ 3 อาทิตย์ แต่ใช้เวลาเกือบ 3 ปีกว่าร่างกายจะสู่ภาวะสมดุล 

ขออีกเรื่องครับ ไข่ขาวพอกหน้าดูดสารสเตียรอยด์ อย่าทำเด็ดขาดนะครับ หากผิวหน้าอ่อนแอ
อาจจะเกิดการติดเชื้อเพิ่มขึ้น และที่แน่ๆ ไข่ขาวมันไปมันจะไปดูดความชื้นหรือน้ำในผิวเราครับ
ทำให้ผิวเกิดสูญเสียน้ำ แล้วจะแห้ง ปัญหาผิวจะตามมาอีกเยอะครับ ผมทดลองมาหมดแล้วครับ

หลังจากผมรับสเตียรอยด์หนึ่งสัปดาห์
เหมือนผิวเริ่มแบ่งตัวลอกออก ดันพวกอาการแพ้ให้แห้งและหลุดไป ช่วงนี้ก็จะคันมากๆครับ ก่อนที่มันจะหลุด ผมก็ชอบแกะมัน
ผมรำคาญที่สุดคือตรงเปลือกตามันหนามากครับ ทำให้ลืมตาได้ไม่เต็มที่
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

กลางเดือนธันวาคม ..2560


หลังมาพักรักษาตัวที่บ้านซึ่งผมอยู่คอนโดนะครับ ผมมาสภาพนี้ครับ คนในคอนโดก็มองเหมือนมีคำถาม 
ผมเก็บตัวอยู่แต่ในห้องครับ ไม่ออกไปไหนเลย  ต้องเปิดแอร์เปิดพัดลมเพื่อให้ผิวมันเย็น ไม่ให้มีเหงื่อไหลออกมาครับ 
จนอาการเริ่มดีขึ้นเพราะสเตียรอยด์กดอาการต่างๆไว้อยู่



สะเก็ดผิวหนังเริ่มผลัดออก หล่นเต็มบ้านครับ ที่นอนนี่เต็มเลยครับ มดก็จะมากันเยอะมาก มากินเศษหนัง น่าอร่อยครับ

ช่วงนี้หน้าเริ่มบวมขึ้น แต่ตัวไม่อ้วนนะครับ มันคือผมข้างเคียงจากการทานสเตียรอยด์ (Predisone)
หรือเรียกว่า Moon face ครับ (หน้ากลมเหมือนพระจันทร์นั่นเอง)



ผมเริ่มถอนสเตียรอยแบบทาน (Predisone เม็ดเล็กๆ สีขาว) 
วิธีการถอนยา
จากเช้า 2 เม็ด เย็น 2 เม็ด > เหลือ เช้า 1 เม็ด เย็น 2 เม็ด > แล้วค่อยๆลดเป็น เย็น 2 เม็ด > ตามลำดับ
ใช้เวลาอีกประมาณ 2 อาทิตย์ครับ ถึงหยุดทานและทา

ตอนนี้ไม่ได้ใช้อะไรทาหน้าเลยครับ มันจะแห้งๆคันใต้ผิว ผมส่องกระจก แล้วลองบีบดู มีหนองออกมา
เห็นว่ามีหนองผมก็ไล่บีบทั้งแก้มเลยครับ ทำให้หน้าผมกลับมาแดง แล้วน้ำเหลืองก็ไหลออกมา



อีกวันน้ำเหลืองออกมาเยอะเลยครับ 



เอาน้ำเกลือชุบสำลีแปะไว้ดูดน้ำเหลืองก็เอาไม่อยู่ครับ มันแห้งแค่แปบเดียว มันก็ไหลมาอีก ผมต้องหาผ้าก็อชแบบยืด เอามารัดตรงคาง ไม่ให้น้ำเหลืองไหลมาที่คอ เมื่องั้นจะลุกลามแพ้ไปที่คออีกครับ เพราะตอนที่เข้า รพ. น้ำเหลืองไหลมาโดนตรงไหน ตรงนั้นจะเป็นผื่นคัน ส่วนมากจะที่คอครับ เพิ่งจะรู้ว่าเป็นที่คอทรมานกว่าที่หน้ามากครับ  หนวดเคราผมก็เยอะมันก็ทิ่มๆ  ที่รอบตานี่ก็ทรมานสุดๆเหมือนกันครับ ช่วงนี้จะโดนน้ำเปล่าไม่ได้นะครับ เพราะแสบมากๆ ต้องใช้น้ำเกลือ (Normal Saline) ล้างหน้า



วันนี้เป็นวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2560 เค้าฉลองปีใหม่กัน ผมอยู่คนเดียวก็ออกมาชมพลุตอนเที่ยงคืน ตรงระเบียง
ในใจก็ภาวนาขอให้เจอหนทางรักษาได้สักที ขอให้ผมหาย มูเตลูสักนิด กรรมดีที่เคยทำมาขอให้ช่วยผมด้วย ผ่านปีใหม่ไปแบบเศร้าๆ 

ต้นปี .. 2561

รักษาโดยแพทย์แผนปัจจุบัน สถาบันโรคผิวหนัง
หลังปีใหม่ผมวางแผนจะเข้า กรุงเทพฯ เพื่อไปรักษาที่สถาบันโรคผิวหนัง ผมได้บอกความกังวลกับหมออีกว่า ผมไม่อยากใช้สเตียรอยด์ มีการรักษาด้วยยาอย่างอื่นไหม ซึ่งหมอก็ให้คำตอบว่า ต้องใช้สเตียรอยด์  ผมคิดในใจมารักษาแบบวังวนอีกแล้ว ถึงมันจะเป็นวิธีของหมอก็เถอะ ยังไงก็ไม่หายแน่เลย ถ้ายังไม่หยุดสเตียรอยด์สักที ผมรู้สึกต่อต้านกับสเตียรอยด์มากๆ ไม่อยากรับมันเข้าร่างกายอีก 



แต่ผมก็ได้ยามาเยอะเลยครับงวดนั้น ทั้ง 0.02% Triamcinolone (ไตรแอมซิโนโลน) สเตียรอยด์ความแรงปานกลางแต่ % ต่ำ เอามาทาหน้า หมอบอกสามารถทารอบดวงตาได้บางๆ และเจลล้างหน้า แชมพูล้างตัวค่า PH กลางๆ แล้วน้ำเกลือ การใช้สเตียรอยด์ครั้งนี้มันค้านกับความคิดผมมาก ลังเลจะทาดีหรือไม่ แต่ผมก็อดไม่ได้ครับ ผมเจ็บตามากๆ ต้องกลับไปใช้อีกแล้ว! เพียงวันเดียวจากการใช้ หน้าก็ดีขึ้น

จะเห็นได้ว่าผิวแห้งขึ้นอย่างชัดเจน 



พิษสเตียรอยด์ (Steroids Withdrawal) เล่าประสบการณ์โดย : ลุงหนวดซิกเนเจอร์

ข้อความเต็มครับ เดี๋ยวมาต่อให้นะครับ โค้งสุดท้ายละครับ
ชื่อสินค้า:   สเตียรอยด์
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่