แชร์ประสบการณ์...แต่งงานแบบไม่มีสินสอด

การจะข้ามค่านิยมของสัมคมไทยมันไม่เคยง่ายจริงๆ
แพรเห็นหลายคนตั้งกระทู้เรื่องนี้บ่อย
บางคนแทบจะไม่ได้แต่งเพราะเรื่องสินสอดก็มี
แพรก็เป็นอีกคนที่เคยมีเรื่องค่าสินสอดและงานแต่งมาป่วนชีวิต
เลยอยากมาแชร์ประสบการณ์ให้คนที่อาจจะเจอแบบเดียวกัน

ปล. ทุกคนต่างมีความคิดเห็นมุมมองตามประสบการณ์ของตัวเองนะคะ
สิ่งที่แพรคิดและทำอาจจะไม่ได้ถูกต้องไปซะหมดนะคะ
เป็นเพียงแค่ประสบการณ์เท่าที่เราเจอมาเท่านั้นค่ะ

เรื่องของเรื่องคือ
แพรแต่งงานกับแฟนมาได้เกือบปีละค่ะ ใช่ค่ะแค่จดทะเบียนกัน ไม่จัดงาน
สำหรับการจดทะเบียนนั้น 
ในขณะที่บ้านเรามองว่าเป็นการแต่งที่เหมือนไม่แต่ง เพราะไม่มีงานมงคลสมรสให้ชาวบ้านรับรู้
ส่วนที่สิงคโปร์ (ค่ะ แฟนเป็นคนสิงคโปร์) การจดทะเบียนนั้นสำคัญกว่างานมลคลสมรส (ตามที่แฟนบอก และตามที่เห็นนะคะ)
เพราะเค้าถือเป็นการทำตามกฎหมายและให้เกียรติฝ่ายหญิงค่ะ

คือสำหรับเราทั้งสองคนเรามีความคิดเห็นที่ตรงกันว่า
การจัดงานแต่งมันเป็นเรื่องสิ้นเปลือง มันเหนื่อย
เราไม่ชอบพิธีรีตอง แพรอ่ะอยากใส่ชุดสวยๆนะ อยากมากกกก
แต่พอนึกถึงตอนที่ต้องตื่นแต่เช้าตรู่มาแต่งหน้า นั่งๆยืนๆในพิธีนานๆ
หาของชำร่วย เดินรับแขก เห็นทุกคนต้องมาทำนู่นนี่นั่นให้เรา
มันไม่ใช่ความสุขของเราในการแต่งงานเลย
เราอยากแค่จดทะเบียนกันจบ ไม่ต้องมีอะไรให้มากมาย

แต่ความเป็นจริงแน่นอนมันไม่ใช่
เราเป็นลูกผู้หญิงที่มีพ่อมีแม่ ที่การแต่งงานของลูกคือการเป็นหน้าเป็นตาของเค้า
อยากเห็นลูกสาวตัวเองได้ใส่ชุดเจ้าสาวสวยๆในพิธีมงคลสมรสเหมือนคนอื่นๆ ซักครั้งนึงในชีวิต
ซึ่งแน่นอนว่า เค้าก็อยากให้เราทั้งสองจัดงานแต่งให้ถูกต้องตามประเพณีของไทย
แต่แพรเคยบอกเค้าตั้งแต่ก่อนคบกับแฟนด้วยซ้ำว่า
ถ้าแพรมีแฟนแพรไม่อยากจัดงานแต่ง เห็นงานพี่สาวแล้วเราเหนื่อยแทน
เราไม่อยากไปอยู่ในจุดๆนั้นที่ ตีหนึ่งต้องตื่นขึ้นมาแต่งหน้า
เจ็ดโมงเช้าเข้าพิธี ยิ้มให้ทุกคนทั้งๆที่เราเพลียและเหนื่อย มันไม่ใช่ทางของเราจริงๆ

แต่โอเคถ้าพ่อกับแม่อยากให้จัด แพรและแฟนคุยกันว่าโอเค เราจะทำให้เค้าสบายใจ
แต่....แพรบอกพ่อกับแม่ว่า ขอเลื่อนไปก่อนได้มั้ย ตอนนี้มันยังไม่ได้จริงๆ
ค่าสินสอดอะไรก็ยังให้ได้ไม่เยอะขนาดนั้น
แฟนเราไม่พร้อมเรื่องเงิน เพราะตอนนั้นการเงินของนางยังไม่มั่นคง นางเพิ่งล้มจากการลงทุนมา
(ไอเราก็ทำตัวเป็นนางเอก อยากอยู่กับเค้าในวันที่เค้าทั้งเจ็บและจน)
ขอให้เราได้กลับมาตั้งตัวซักสองสามปี
เพราะเราไม่อยากไปยืมเงินใครมาจัดแต่งงานทั้งสิ้น
ต่อให้เป็นเงินจากพ่อแม่แฟน พี่ชายแฟน หรือญาติๆแฟน หรือเงินจากพ่อแม่เราเองก็ตาม
เราจะไม่รู้สึกภูมิใจกับเงินสินสอดตรงหน้า และงานแต่งเลย
เพราะแท้ที่จริงแล้วมันเป็นเงินที่ยืมคนอื่นมา มันไม่ใช่เงินจากน้ำพักน้ำแรงของเราเอง
เบื้องหลังเงินมันไม่สวยงาม จะให้ทำหน้ายิ้มว่า อุ๊ย นี่เงินสินสอดที่ชั้นจะได้นะ อย่างเงี้ยหรอ
ถ้าไม่จัดก็คือไม่จัด ถ้าจะจัดก็จัดให้มันดีๆไปเลย
เพราะแฟนแพรรู้ว่าพ่อกับแม่แพรก็มีความคาดหวังอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน

พอบอกไปแบบนั้น พ่อแม่แพรก็แอบเคืองมากกก จะเหลือหรอ
เข้าใจผิดกันไปต่างๆนาๆ เกือบทะเลาะกันเลย
แพรต้องอธิบายให้ฟังหลายรอบมากกกก
และพาแฟนขึ้นไปหาที่บ้านที่ต่างจังหวัดหลายรอบ เพื่อเพิ่มความเอ็นดู
พ่อกับแม่ถึงดูเบาๆลงหน่อย เข้าใจเรามากขึ้น(มั้งนะ 55555)
แล้วพอได้ย้ายมาอยู่ที่สิงคโปร์ตามแฟน เราคิดว่าเค้าก็น่าจะพอใจในระดับนึงแหละ
เพราะอย่างน้อยลูกก็ได้ย้ายไปอยู่ในที่ที่เค้า(และคนอื่นๆ)คิดว่าดี
พ่อแม่แพรก็รู้แหละว่าคงบังคับอะไรมากกว่านี้ไม่ได้
เลยปล่อยๆไป และรอเวลานั้นให้มันมาถึง

เราเคยคิดนะว่า ถ้าแต่งกับคนที่รวยกว่านี้คงจบปัญหาไปแล้ว
ชีวิตจะได้ราบเรียบ อยู่เป็นคุณนายชี้นิ้วสบายๆไปวันๆ ใช้ชีวิตให้คนอื่นอิจฉา
แพรเคยเจอนะ คนที่รวยมากๆ ชอบนิสัยแพร แต่ไม่ชอบการแต่งตัวแพร
เพราะแพรมีสิวเต็มหน้าบ่อยๆ ไม่ชอบแต่งหน้า (เพราะแต่งไม่ขึ้น)
ไม่ชอบแต่งตัว ถ้าแต่งก็นานๆแต่งที แล้วแต่งยังไงก็ดูไม่แพง
แล้วก็จะกลับมาที่เสื้อยืดโคล่งๆเหมือนเดิม
เรายังชอบกินมูมมาม ตดบ่อย เรอบ่อย
เราคิดว่าถ้าเค้าจะไม่ชอบเราเพราะเราไม่แต่งตัว
เอองั้นก็ไปแต่งงานกับเสื้อผ้าแบรนด์เนมละกันงั้นอ่ะ
ที่จริงเราก็ชอบเค้านะ ใช้คำว่าเคยดีกว่า (เดี๋ยวผัวหาว่านอกใจ 5555)
แต่เราจะชอบคนที่ชอบเราแค่เปลือกจริงๆหรอ
คือพอเจอคนนี้ที่เห็นทุกด้านของเรา
เห็นด้านที่สวยที่สุด ด้านที่ขี้เหร่ที่สุด
ด้านที่น่าเกลียดที่สุด ด้านที่ขี้วีนที่สุด
ด้านขี้น้อยใจที่สุด ด้านที่เหม็นที่สุด
แล้วยังบอกเราว่า ไม่เห็นเป็นไรเลยนี่ เค้าเองก็ไม่ได้เพอร์เฟคอะไรนักหนา
เรารู้สึกเลยว่าจะมีคนที่รับเราได้ขนาดนี้แบบนี้อีกมั้ยวะ
และหลังจากที่เราได้เห็นความเฮี่ยสุดๆของนาง
ทั้งที่นางเล่าให้ฟังเอง และแสดงออกมาเอง
เราก็ยังรับกันได้ ยอมปรับกันคนละครึ่งทาง
นั่นแหละ พอคิดได้แบบนั้นก็ตกลงปลงจิตกันจดทะเบียน แค่นั้นพอ

ส่วนเรื่องของสินสอดที่แพรมองคือ
ลูกผู้หญิงทุกคนมีค่า (ถ้าทำตัวดี)
ค่าของผู้หญิงในวันแต่งงานจะถูกวัดจากสินสอด
ค่าของผู้หญิงหลังแต่งงานจะถูกวัดจากการปฏิบัติตัวของสามีต่อภรรยา
ถ้าตอนแต่งงานได้สินสอดสิบยี่สิบล้าน
หลังแต่งงานสามีทำกับเราเยี่ยงทาส
เห็นเราเป็นแค่แม่บ้าน คนเลี้ยงลูก กับนางบำเรอบนเตียงนอน
ไม่เคยยกย่องเราในกลุ่มเพื่อนหรือวงสังคม
แถมยังเอาเราไปพูดดูถูกเสียๆหายๆให้คืนอื่นฟัง ทั้งต่อหน้าและลับหลัง
คิดว่าสินสอดในวันแต่งงานนั้นยังทำให้เรามีคุณค่าอยู่มั้ย

ลูกผู้ชายทุกคนมีค่า (ถ้าทำตัวดี)
พ่อแม่ฝ่ายชายก็เลี้ยงดูเค้ามาไม่น้อย
ตอนเป็นทารกก็ต้องใช้น้ำนมในการเลี้ยงดูเหมือนลูกสาว
ตอนโตก็ต้องส่งเสียเล่าเรียนให้สูงที่สุดเท่าที่จะทำได้
พอลูกชายมีแฟนก็ต้องสอนให้เค้าเป็นสุภาพบุรุษ
และควรจะเลี้ยงข้าวแฟนเป็นครั้งคราว
เพื่อแสดงน้ำใจในแบบที่ฝ่ายชายถูกคาดหวังว่าควรจะทำ
การมีลูกชายต้องใช้เงินเลี้ยงดูทั้งลูกชายเองและแฟนลูกเมื่อโตขึ้นไป

คือถ้าบอกว่าค่าสินสอดคือค่าน้ำนมและค่าเลี้ยงดูของฝ่ายหญิง
แพรกลับมองว่า (จะหาว่าโลกสวยหรือไม่ก็แล้วแต่) เลี้ยงลูกผู้ชายมาไม่ได้ใช้น้ำนมเลี้ยงหรอ
ไม่ต้องส่งเสียเลี้ยงดูเหมือนลูกผู้หญิงหรอ
แพรเลยรู้สึกว่ามันเป็นสิ่งที่มนุษย์คิดขึ้นมาเพื่อวัดค่าของผู้หญิงในวันแต่งงานมากกว่า
คือถ้าหลังจากแต่งงาน สามีทำตัวเงินตัวทองกับเรา
ความทรงจำดีๆในวันแต่งงานจะหายไปทันที
ถ้าเงินสินสอด และงานมงคลสมรส มันช่วยให้เรารักกันได้มากขนาดนั้นจริงๆ
การหย่าร้างคงจะไม่เกิดขึ้นให้เห็นทุกวันแน่นอน

เราคิดว่า การเลือกที่จะเลื่อนงานแต่งเป็นอะไรที่เราควรจะทำที่สุดแล้วแหละ
เพราะถึงแม้มันจะทำให้คนอื่นไม่พอใจ
แต่สุดท้ายแล้วมันจะไม่ไปเดือดร้อนเงินในกระเป๋าใคร
การเงินแฟนแพรและการเงินครอบครัวแฟนแพรจะไม่เดือดร้อน
การเงินครอบครัวแพรเองจะไม่เดือดร้อน
ทุกคนไม่ต้องไปเสียตังค์ตัดชุดนั่งเครื่องบินเพื่อมาร่วมงาน
ทุกคนไม่ต้องปิดร้านหรือลางานเพื่อมาร่วมงาน
ทุกคนยังใช้ชีวิตได้ตามปกติสุข

ทั้งหมดนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของแพรและแฟนแพรเอง
เป็นประสบการณ์ของแพรเอง ซึ่งบางคนอาจจะเจอดีร้ายต่างกันออกไปนะคะ
ทุกคนมีความคิดเห็นที่ต่างกันออกไปตามประสบการณ์ของตัวเอง
ส่วนใครที่กำลังเจอเรื่องสินสอดป่วนชีวิตรักอยู่ ก็อย่าต้องมาเลิกกันเพราะสินสอดเลยค่ะ
คิดว่าเรื่องของแพรน่าจะช่วยได้ไม่มากก็น้อยนะคะ (หรืออาจจะไม่ช่วยอะไรเลย 5555)
ถ้าผิดพลาดประการใดก็ต้องของโทษด้วยน้าาา
ขอบคุณค่า ยิ้ม
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่