olive 17/5/2562
หลายคนสงสัย ขึ้นเครื่องหมายคำถาม ทำไมเทศกาลหนังเมืองคานส์ อันโด่งดังของประเทศฝรั่งเศส ถึงจำเป็นต้องปูพรมแดงสุดกว้างขวาง รองรับทั้งนักแสดง ผู้กำกับภาพยนตร์ และคนมีชื่อเสียงอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับวงการภาพยนตร์เลย
ย้อนกลับไปในหลายทศวรรษที่ผ่านมา อุตสาหกรรมภาพยนตร์ ถูกหยิบยกให้มีความสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากทำเงินได้อย่างมหาศาล เมื่อเทียบกับอุตสาหกรรมอื่นๆ ที่จำเป็นต้องมีโรงงานขนาดใหญ่ มีแรงงานจำนวนมาก แต่ภาพยนตร์เมื่อผลิตไปแล้ว 1 ครั้ง สามารถขายลิขสิทธิ์ได้ทั่วโลก รวมถึงผลประโยชน์แฝงในด้านวัฒนธรรม ประเพณี และศิลปะท้องถิ่นต่างๆ ที่แทรกอยู่ในเนื้อเรื่อง
Paris Hilton กับช่างภาพงานคานส์ปี 2005
เทศกาลหนังเมืองคานส์ ถูกจัดขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อ ค.ศ. 1946 ถือเป็นเทศกาลภาพยนตร์ที่เก่าแก่ที่สุดในโลกเลยก็ว่าได้ ภายในงานไม่มีตั๋วจำหน่ายให้คนทั่วไปได้เข้าไปดู มีเพียงแค่แวดวงคนทำหนังเท่านั้น ที่สามารถเข้าไปดูได้ นอกจากนี้ยังมีการประกวดหนัง ซื้อขายหนัง ซื้อขายไอเดียเพื่อหาทุนไปทำหนัง และอื่นๆ อีกมากมายที่เกี่ยวข้องกัน
การจัดงานที่มีรายละเอียดเยอะขนาดนี้ จำเป็นต้องใช้ทั้งแรงกาย แรงใจ และทุนทรัพย์ สปอนเซอร์ต่างๆ ที่ให้การสนับสนุน ต่างก็ต้องการพื้นที่โปรโมทแบรนด์ตัวเอง เพราะภายในงานจะเต็มไปด้วยนักข่าวหลายพันคน ประชาชนที่มารอชมนักแสดง และข่าวอีกมากมายที่จะถูกนำไปเผยแพร่ทั่วโลก ทั้งหมดนี้มีมูลค่ามหาศาล
7 ปีที่แล้ว คนไทยตื่นเต้นมากๆ เมื่อได้เห็น ชมพู่ อารยา ปรากฎตัวอยู่บนพรมแดง ท่ามกลางเสียงชื่นชมทั้งหน้าผมและชุดที่สวมใส่มีคำถามสะท้อนกลับมาอย่างดังว่าเธอไปทำไม ไปในฐานะอะไร หนังก็ไม่ได้ไปฉายที่นั่น สุดท้ายเฉลยคือเธอไปในนามของแบรนด์เครื่องสำอาง ที่เป็นสปอนเซอร์ให้เทศกาลหนังในครั้งนั้น
การเดินพรมแดงให้ช่างภาพสาดแฟลชเข้ามา เพียงแค่ไม่กี่นาที สามารถสร้างเม็ดเงิน และภาพลักษณ์ ให้กับแบรนด์ได้อย่างล้นหลาม ทุกตารางนิ้วของชมพู่ อารยา สามารถพรีเซ้นต์แบรนด์เครื่องสำอาง แบรนด์เสื้อผ้า เครื่องประดับ ได้ดีมากๆ จากนักแสดงเอเชียที่ต่างชาติงงๆ มาวันนี้ แบรนด์ดังระดับโลกมากมาย ต่างรุมจีบให้เธอเลือกชุด เลือกเครื่องประดับ เพื่อนำไปเดินเฉิดฉายบนพรมแดง เพราะผลงานที่ผ่านมา ชมพู่ อารยา สอบผ่านฉลุยไร้ที่ติ
หลายปีที่ผ่านมา เราได้เห็นคนไทยอีกหลายคนมีโอกาสบินลัดฟ้า ไปร่วมเดินพรมแดงเทศกาลหนังเมืองคานส์ ในฐานะเซเลบริตี้จากแบรนด์ดังที่เป็นสปอนเซอร์ ไม่ว่าจะเป็น ปู ไปรยา , ออกแบบ ชุติมณฑน์ , ซูซี่ หทัยเทพ, เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ , วุ้นเส้น วิริฒิภา , โยเกิร์ต รวีวรรณ และล่าสุดปี 2019 ศรีริต้า เจนเซ่น นอกจากนี้ยังมีบิวตี้บล็อกเกอร์ และ influencer อีกมากมายจากไทย ที่ได้ร่วมชมภาพยนตร์ในงานนี้
แต่อย่างที่เอ่ยถึงในตอนแรก พรมแดงเมืองคานส์ เป็นพรมแดงปราบเซียน ไม่ใช่ทุกคนที่ได้ไปเดิน จะสามารถเรียกความสนใจจากช่างภาพที่อยู่ในงานได้ ดราม่ามีมาทุกปี รับมือกันไหวแค่ไหน ถามใจคนไปเดินดูสิ
ยกตัวอย่างข่าวดาราเกรด C จากจีน ถูกช่างภาพโห่ไล่ให้รีบเดินออกไปจากพรมแดงได้แล้ว แต่เธอไม่สนใจ ยังคงโพสท่าต่อไปเรื่อยๆ จนเจ้าหน้าที่ของงานต้องเดินเข้ามาพูดคุยกับเธอ หรือแม้แต่คราวปี 2018 เจนี่ วุ้นเส้น ถูกกระแสออนไลน์พูดถึงอย่างหนัก เกิดการเปรียบเทียบกับชมพู่ จนเกิดแฮชแท็ก #ยืนงงในดงคานส์ #เกิดที่ไทยไปตายที่คานส์
ทีมงานคอยถือป้ายกระดาษที่เขียนชื่อ ศรีริต้า เจนเซ่น เป็นภาษาอังกฤษ
เดินคิวหลัง เบลล่า ฮาดิด
ศรีริต้า เจนเซ่น
เจ้าหญิงแห่งทุ่งลาเวนเดอร์ก็ต้องเจอกับบททดสอบที่ไม่ธรรมดา เพราะนี่คือครั้งแรกของเธอบนพรมแดงคานส์ ไม่มีใครรู้จักเธอ ทีมงานต้องคอยเดินถือป้ายกระดาษ เพื่อบอกช่างภาพว่าเธอชื่ออะไร วันที่สองก็ดันมาเจอโจทย์ยาก เพราะต้องเดินตามหลัง เบลล่า ฮาดิด นางแบบชื่อดังระดับโลก ลุ้นหนักมากว่าช่างภาพจะหันกล้องมาที่เธอมากน้อยแค่ไหน
ลุคแรกบนพรมแดงคานส์ ปี 2013
ไม่เว้นแม้แต่ชมพู่ อารยา ที่หลายคนชื่นชมว่าสวย แพง ยืนหนึ่งหาคนเทียบไม่ได้ แต่ก็เริ่มมีคนออกมาบ่นแล้วว่าน่าเบื่อ ต่อให้แต่งจัดเต็มแค่ไหนก็ไม่เหนือความคาดหมายแล้ว อยากได้คนใหม่ๆ ไปเดินบ้าง ….. แล้วคุณล่ะ มีความคิดเห็นกับเรื่องนี้ยังไงบ้าง?
เรียบเรียงโดย : Women MThai Team
พรมแดงปราบเซียน บทพิสูจน์ความเป็นซุปตาร์ ไม่ใช่ใครก็ไปเดินได้
หลายคนสงสัย ขึ้นเครื่องหมายคำถาม ทำไมเทศกาลหนังเมืองคานส์ อันโด่งดังของประเทศฝรั่งเศส ถึงจำเป็นต้องปูพรมแดงสุดกว้างขวาง รองรับทั้งนักแสดง ผู้กำกับภาพยนตร์ และคนมีชื่อเสียงอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับวงการภาพยนตร์เลย
ย้อนกลับไปในหลายทศวรรษที่ผ่านมา อุตสาหกรรมภาพยนตร์ ถูกหยิบยกให้มีความสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากทำเงินได้อย่างมหาศาล เมื่อเทียบกับอุตสาหกรรมอื่นๆ ที่จำเป็นต้องมีโรงงานขนาดใหญ่ มีแรงงานจำนวนมาก แต่ภาพยนตร์เมื่อผลิตไปแล้ว 1 ครั้ง สามารถขายลิขสิทธิ์ได้ทั่วโลก รวมถึงผลประโยชน์แฝงในด้านวัฒนธรรม ประเพณี และศิลปะท้องถิ่นต่างๆ ที่แทรกอยู่ในเนื้อเรื่อง
Paris Hilton กับช่างภาพงานคานส์ปี 2005
เทศกาลหนังเมืองคานส์ ถูกจัดขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อ ค.ศ. 1946 ถือเป็นเทศกาลภาพยนตร์ที่เก่าแก่ที่สุดในโลกเลยก็ว่าได้ ภายในงานไม่มีตั๋วจำหน่ายให้คนทั่วไปได้เข้าไปดู มีเพียงแค่แวดวงคนทำหนังเท่านั้น ที่สามารถเข้าไปดูได้ นอกจากนี้ยังมีการประกวดหนัง ซื้อขายหนัง ซื้อขายไอเดียเพื่อหาทุนไปทำหนัง และอื่นๆ อีกมากมายที่เกี่ยวข้องกัน
การจัดงานที่มีรายละเอียดเยอะขนาดนี้ จำเป็นต้องใช้ทั้งแรงกาย แรงใจ และทุนทรัพย์ สปอนเซอร์ต่างๆ ที่ให้การสนับสนุน ต่างก็ต้องการพื้นที่โปรโมทแบรนด์ตัวเอง เพราะภายในงานจะเต็มไปด้วยนักข่าวหลายพันคน ประชาชนที่มารอชมนักแสดง และข่าวอีกมากมายที่จะถูกนำไปเผยแพร่ทั่วโลก ทั้งหมดนี้มีมูลค่ามหาศาล
7 ปีที่แล้ว คนไทยตื่นเต้นมากๆ เมื่อได้เห็น ชมพู่ อารยา ปรากฎตัวอยู่บนพรมแดง ท่ามกลางเสียงชื่นชมทั้งหน้าผมและชุดที่สวมใส่มีคำถามสะท้อนกลับมาอย่างดังว่าเธอไปทำไม ไปในฐานะอะไร หนังก็ไม่ได้ไปฉายที่นั่น สุดท้ายเฉลยคือเธอไปในนามของแบรนด์เครื่องสำอาง ที่เป็นสปอนเซอร์ให้เทศกาลหนังในครั้งนั้น
การเดินพรมแดงให้ช่างภาพสาดแฟลชเข้ามา เพียงแค่ไม่กี่นาที สามารถสร้างเม็ดเงิน และภาพลักษณ์ ให้กับแบรนด์ได้อย่างล้นหลาม ทุกตารางนิ้วของชมพู่ อารยา สามารถพรีเซ้นต์แบรนด์เครื่องสำอาง แบรนด์เสื้อผ้า เครื่องประดับ ได้ดีมากๆ จากนักแสดงเอเชียที่ต่างชาติงงๆ มาวันนี้ แบรนด์ดังระดับโลกมากมาย ต่างรุมจีบให้เธอเลือกชุด เลือกเครื่องประดับ เพื่อนำไปเดินเฉิดฉายบนพรมแดง เพราะผลงานที่ผ่านมา ชมพู่ อารยา สอบผ่านฉลุยไร้ที่ติ
หลายปีที่ผ่านมา เราได้เห็นคนไทยอีกหลายคนมีโอกาสบินลัดฟ้า ไปร่วมเดินพรมแดงเทศกาลหนังเมืองคานส์ ในฐานะเซเลบริตี้จากแบรนด์ดังที่เป็นสปอนเซอร์ ไม่ว่าจะเป็น ปู ไปรยา , ออกแบบ ชุติมณฑน์ , ซูซี่ หทัยเทพ, เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ , วุ้นเส้น วิริฒิภา , โยเกิร์ต รวีวรรณ และล่าสุดปี 2019 ศรีริต้า เจนเซ่น นอกจากนี้ยังมีบิวตี้บล็อกเกอร์ และ influencer อีกมากมายจากไทย ที่ได้ร่วมชมภาพยนตร์ในงานนี้
แต่อย่างที่เอ่ยถึงในตอนแรก พรมแดงเมืองคานส์ เป็นพรมแดงปราบเซียน ไม่ใช่ทุกคนที่ได้ไปเดิน จะสามารถเรียกความสนใจจากช่างภาพที่อยู่ในงานได้ ดราม่ามีมาทุกปี รับมือกันไหวแค่ไหน ถามใจคนไปเดินดูสิ
ยกตัวอย่างข่าวดาราเกรด C จากจีน ถูกช่างภาพโห่ไล่ให้รีบเดินออกไปจากพรมแดงได้แล้ว แต่เธอไม่สนใจ ยังคงโพสท่าต่อไปเรื่อยๆ จนเจ้าหน้าที่ของงานต้องเดินเข้ามาพูดคุยกับเธอ หรือแม้แต่คราวปี 2018 เจนี่ วุ้นเส้น ถูกกระแสออนไลน์พูดถึงอย่างหนัก เกิดการเปรียบเทียบกับชมพู่ จนเกิดแฮชแท็ก #ยืนงงในดงคานส์ #เกิดที่ไทยไปตายที่คานส์
ศรีริต้า เจนเซ่น
เจ้าหญิงแห่งทุ่งลาเวนเดอร์ก็ต้องเจอกับบททดสอบที่ไม่ธรรมดา เพราะนี่คือครั้งแรกของเธอบนพรมแดงคานส์ ไม่มีใครรู้จักเธอ ทีมงานต้องคอยเดินถือป้ายกระดาษ เพื่อบอกช่างภาพว่าเธอชื่ออะไร วันที่สองก็ดันมาเจอโจทย์ยาก เพราะต้องเดินตามหลัง เบลล่า ฮาดิด นางแบบชื่อดังระดับโลก ลุ้นหนักมากว่าช่างภาพจะหันกล้องมาที่เธอมากน้อยแค่ไหน
ไม่เว้นแม้แต่ชมพู่ อารยา ที่หลายคนชื่นชมว่าสวย แพง ยืนหนึ่งหาคนเทียบไม่ได้ แต่ก็เริ่มมีคนออกมาบ่นแล้วว่าน่าเบื่อ ต่อให้แต่งจัดเต็มแค่ไหนก็ไม่เหนือความคาดหมายแล้ว อยากได้คนใหม่ๆ ไปเดินบ้าง ….. แล้วคุณล่ะ มีความคิดเห็นกับเรื่องนี้ยังไงบ้าง?
เรียบเรียงโดย : Women MThai Team