โครงงานภาษาไทยชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย เรื่องสร้างสรรค์กาพย์ยานี คุณธรรมกัณฑ์มัทรี ในพระเวสสันดรชาดก

คณะผู้จัดทำโครงงานภาษาไทย ได้ศึกษาคุณธรรมในวรรณคดีเรื่องร่ายยาวมหาเวสสันดรกัณฑ์มัทรี ซึ่งเป็นวรรรคดีที่มีความสำคัญในการเรียนรู้ และยังเป็นวรรณคดีที่มีความเกี่ยวข้องกับพระพุทธศาสนาอีกทั้งกัณฑ์มัทรียังได้สอดแทรกคุณธรรมต่าง ๆ ที่ควรค่าแก่การศึกษาผู้จัดทำได้ศึกษาคุณธรรมที่ปรากฎในเรื่องและนำมาสรรค์สร้างเป็นคำประพันธ์ ประเภทกาพย์ยานี ๑๑ ดังนี้
                   ๑. การยอมรับต่อการสูญเสีย
                   ๒. ความรักของแม่นั้นยิ่งใหญ่
                   ๓. สามีภรรยาที่ดีควรร่วมทุกข์ร่วมสุข
                   ๔. การเป็นผู้ให้มากกว่าผู้รับ

การยอมรับต่อการสูญเสีย

๑. พระเวสสันดรราชฤๅษี อันจำจากพระบุรีมาอยู่ไพร

                    เอกองค์กษัตรา             ปกป้องฟ้าประชาชี
          นครเรืองฤทธี                        แผ่นดินมีเกษมชน
                    ทั่วราชอาณาจักร          ประชารักษ์มิขัดสน
          สุขทั่วทั้งมณฑล                      ประชาชนอยู่กินดี
                    ปราสาทราชฐาน          เรืองโอฬารผ่านแสงสี
          สุขเกษมเปรมปรีดี                   ทั่วธรณีมิมีจน
                    ทรงครองทศพิศ            ธรรมประชิดเหมือนหยาดฝน
          ตกทั่วทั้งมณฑล                      ประชาชนได้อยู่เย็น
                    เมื่อวันคืนผันผ่าน          ก็เปลี่ยนกาลจากเคยเห็น
          บัลลังก์เคยร่มเย็น                    ก็ทุกข์เข็ญเพราะภัยทาน
                    จำจรจากบุรี               มาคีรีกรรมฐาน
          มิเคยได้พบพาน                      ก็บันดาลบันดลมี
                    พาลูกพาเมียรัก            ไม่รู้จักไปทุกที่
          เดินตามพงสาลี                      จวบจนที่ตะวันรอน
                    มาถึงเขาวงกต             บำเพ็ญพรตอดิศร
          ตั้งใจไม่นิวรณ์                        สมาทานสำราญใจ

ความรักของแม่ยิ่งใหญ่

๑. ปางนั้นส่วนสมเด็จพระมัทรีศรีสุนทรเทพกัญญา จำเดิมแต่พระนางเธอลีลาล่วงลับพระอาวาส พระทัยนางให้หวั่นหวาดพะวงหลัง ตั้งแต่พระทัยเป็นทุกข์ถึงพระเจ้าลูกมิลืมเลย เดินพลางทางเสวยพระโศกพลาง พระนัยเนตรทั้งสองข้างไม่ขาดสายพระอัสสุชล

                   อันมนุษย์สุดใจ                        นามไท้ชาติสตรี
          เป็นทุกข์เพราะบุตรมี                          ต้องจรลีจากแรมรอน
                    ห่างบ้านสถานถิ่น                    ดั่งนกบินจากสิงขร
          เหมือนนกบินจากคอน                        ใจนิวรณ์อยู่ทุกครา
                    สตรีที่ว่าแม่                             มีศีลแท้เฝ้ารักษา
          เหมือนองค์พระพุทธา                        รักษาธรรมค้ำชูใจ

สามีภรรยาที่ดีควรร่วมทุกข์ร่วมสุข

๑. อนึ่งน้องเป็นเอกองค์อัครบริจาริกากรแห่ง พระเวสสันดรราชฤๅษี อันจาจากพระบุรีมาอยู่ไพร   น้องนี้ก็ ตั้งใจสุจริตติดตามมาด้วยกตเวที

คู่ครองรักยึดมั่น                       ร่วมสร้างฝันมีจุดหมาย
ปรองดองทั้งหญิงชาย             ซื่อ สัตย์ไว้รักนิรันดร์
หลงลมเล่ห์เหลี่ยมหา               ด้วยเจตนาจิตไหวหวั่น
ครองรักด้วยผูกพัน                   เพลาผันมิรู้วาย
สองรักก่อชีวิต                         ลองพินิจหาความหมาย
ถามตอบกลอุบาย                    ช่วยแก้ไขได้ทันการณ์
คู่กันต้องครองใจ                    นามนัยใคร่กล่าวขาน
เคียงคู่เหมือนวันวาน                 ดังคชสารคู่ไพรวัน
เคียงข้างยามทุกข์ยาก     บุปผาพรากจากไพรสัณฑ์
ให้ใจดูแลกัน                         มาลัยนั้นคู่ภมร

การเป็นผู้ให้มากกว่าผู้รับ

๑. ท้าวเธอจึ่งตรัสประภาษว่า ดูกรเจ้ามัทรี อันสองกุมารนี้พี่ให้เป็นทานแก่พราหมณ์แต่วันวานนี้แล้ว พระน้องแก้วเจ้าอย่าโศกศัลย์
จงตั้งจิตของเจ้านั้นให้โสมนัสศรัทธา
                    ศีลทานของมีคู่             ประดับอยู่ให้เป็นศรี
          ใดโลกล้วนยินดี                      ผู้ใดมีจักดีธรรม
                    ทำทานคือการให้          จงตั้งใจผลานำ
          พุทธองค์ทรงสอนย้ำ                 ให้กระทำนำความดี
                    เฉกเช่นองค์พระเวส        อยู่ในเขตวงกตศรี
          เพียรทานบารมี                      ตั้งแต่จากพรากนคร
                    มุ่งหวังแลตั้งใจ             จะทานไปไว้สั่งสอน
          สืบเรื่องราวเป็นตอน                 เมื่อคราย้อนกระทำบุญ
                    ให้ได้กว่ารับมา             องค์พุทธาคอยชี้หนุน
          จักเสริมไมตรีคุณ                     ประกอบบุญหนุนยินดี
                    ทุกคราที่ได้ให้              พาสุขใจสง่าศรี
          จงร่วมสร้างความดี                  เป็นบุญเพียงเสบียงธรรม
จัดทำโดย
1.นาย อรรถนนท์ วงศ์สุนา
2.นางสาว วสุมดี อ้วนล้ำ
3.นางสาว ศศิกานต์ คำสุดแสง
นักเรียนโรงเรียนพิบูลมังสาหาร องค์การบริหารส่วนจังหวัดอุบลราชธานี

 
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่