"Stop dreaming about your bucket list and start living it." /Annette White
ทริปนี้เกิดขึ้นจากกลุ่มที่เราไปเที่ยวเลบานอนกันปีก่อนคุยกันว่าอยากไปไหนด้วยกันอีก ทุกคนมีความสนใจด้านประวัติศาสตร์เลยมาตกลงกันที่อิรัก มันคงจะดีที่เดียวที่ได้ไปเยือนดินแดนแห่งอารยธรรมเมโสโปเตเมีย แน่นอนว่าอิรักไม่สามารถไปเที่ยวเองได้ เรากับเพื่อนๆช่วยกันหาทัวร์ซึ่งราคาน่าตกใจทั้งนั้น จนมาเจอทัวร์นึงที่ถนัดทำทัวร์ศาสนาตกลงรับทำทัวร์ท่องเที่ยวปกติให้เราแบบราคาไม่แรงมากนัก
วีซ่าอิรัก
คนไทยต้องทำวีซ่าอิรักที่สถานทูตอิรักที่มาเลเซีย โดยต้องมีคนบินไปทำคนนึง ไม่สามารถส่งเอกสารไปทาง FedEx ได้ สถานทูตตอบอีเมล์ทุกคำถามที่เราถามไปค่อนข้างเร็ว โดยบริษัททัวร์ที่อิรักต้องไปดำเนินเรื่องให้ที่อิรักก่อน ทัวร์บอกว่าอาจจะใช้เวลาถึงหนึ่งเดือน ของกลุ่มเราใช้เวลาประมาณห้าวัน หลังจากเรื่องอนุมัติแล้วกระทรวงที่นู่นต้องส่งเรื่องให้ที่สถานทูตที่มาเลทางอีเมล์ ทางเราเองก็ต้องส่งเอกสารที่ได้มาให้สถานทูตดูควบคู่กันว่าเรื่องตรงกัน แล้วสถานทูตจะบอกว่าให้ไปขอวีซ่าได้
เอกสารที่ต้องใช้
๑) พาสปอร์ตเล่มจริงและสำเนาสี
๒) รูปถ่ายสามใบ ๓ซม*๓ซม
๓) แบบฟอร์มที่พิมพ์ข้อมูลใส่แล้ว
๔) จดหมายอนุมัติจากทางอิรัก
๕) ค่าวีซ่า $๕๐
สถานทูตบอกว่าใช้เวลาหนึ่งวันถึงหนึ่งอาทิตย์แล้วแต่ว่าวุ่นแค่ไหน ซึ่งก็ทำให้เราตัดสินใจยากว่าจะซื้อตั๋วเครื่องบินไปกัวลายังไงดี เราตัดสินใจไปนอนคืนเดียวแล้วค่อยขอร้องสถานทูตเอา เราไปถึงสถานทูตก่อนเที่ยงนิดหน่อย เจ้าหน้าที่รับเอกสารไปแล้วบอกว่าวันรุ่งขึ้นเช้ามารับนะโดยที่เราไม่ต้องขอก็โชคดีไป วีซ่าออกมาเป็นแผ่นกระดาษสองแผ่น ไม่ใช่สติกเกอร์ติดในเล่มเราก็แอบเสียดายเหมือนกัน มีวีซ่าอีกแบบนึงที่เป็นสติกเกอร์ติดในเล่มจะไปรับที่สนามบินอิรักได้เลยแต่ทัวร์เราทำไม่เป็น
วีซ่าเคอร์ดิสถาน
ขอเกริ่นนิดนึงว่าเคอร์ดิสถานต้องการที่จะแยกตัวออกมาเป็นประเทศเอง เคยมีโหวตขอแยกตัวและคะแนนโหวตชนะแต่ตัวอิรักไม่ให้แยกเพราะเคอร์ดิสถานมีทรัพยากรธรรมชาติเยอะรวมไปถึงน้ามัน หลังจากมีการโหวตอิรักก็สั่งปิดสนามบินฝั่งเคอร์ดิสถานทันที ตอนหลังยอมให้เปิด
การทำวีซ่าถือว่าง่าย ต้องติดต่อทนายที่นู่นให้ทำอีวีซ่าให้ ใช้เวลาสองสามวันทนายจะส่งไฟล์วีซ่ามาให้ ปริ้นออกมาเอาไปยื่นที่สนามบินได้เลย ราคาแล้วแต่ทางนู้นจะคิดซึ่งเราเจอตั้งแต่ $๗๐ ขึ้นไปจนถึง ๒๕๐ เรามาตกลงกับคนที่คิด ๑๒๐ เพราะดูน่าเชื่อถือที่สุด
เอกสารใช้แค่สแกนพาสปอร์ตและรูปถ่าย
การเดินทาง
Oman Air ไปกลับอิสตันบูล ๑๖,xxx บาท
AtlasGlobal Istanbul- Baghdad, Erbil- Istanbul ๑๑,xxx บาท
Iraqi Airways Baghdad- Erbil ที่ต้องไปซื้อที่ออฟฟิศของสายการบินที่มาเลเช่นกันเพราะพยายามซื้อในเน็ตบัตรเครดิตใช้ไม่ได้เลย ลองกันแทบทุกธนาคารแล้ว แต่ตอนเดินทางจริงไม่ได้บินตามนี้ทั้งหมดเดี๋ยวค่อยๆเล่าไป
การแต่งกาย
วันแรกเราก็ใส่ชุดคลุมมาครบเต็มที่แต่ไกด์บอกไม่จำเป็นคนที่นั่นเองก็แต่งตัวปกติ จะต้องคลุมก็เฉพาะตอนเข้ามัสยิด
เราขอแยกการเดินทางแต่ละวันเพราะคอมรวนๆอยู่จ้า ถ้าโพสต์ทีเดียวจะหายเอา
ใครมีคำถามอะไรหลังไมค์มาในเฟสได้นะคะ
http://www.facebook.com/thelittlevoice
[CR] Iraq, Through the Looking Glass
ทริปนี้เกิดขึ้นจากกลุ่มที่เราไปเที่ยวเลบานอนกันปีก่อนคุยกันว่าอยากไปไหนด้วยกันอีก ทุกคนมีความสนใจด้านประวัติศาสตร์เลยมาตกลงกันที่อิรัก มันคงจะดีที่เดียวที่ได้ไปเยือนดินแดนแห่งอารยธรรมเมโสโปเตเมีย แน่นอนว่าอิรักไม่สามารถไปเที่ยวเองได้ เรากับเพื่อนๆช่วยกันหาทัวร์ซึ่งราคาน่าตกใจทั้งนั้น จนมาเจอทัวร์นึงที่ถนัดทำทัวร์ศาสนาตกลงรับทำทัวร์ท่องเที่ยวปกติให้เราแบบราคาไม่แรงมากนัก
วีซ่าอิรัก
คนไทยต้องทำวีซ่าอิรักที่สถานทูตอิรักที่มาเลเซีย โดยต้องมีคนบินไปทำคนนึง ไม่สามารถส่งเอกสารไปทาง FedEx ได้ สถานทูตตอบอีเมล์ทุกคำถามที่เราถามไปค่อนข้างเร็ว โดยบริษัททัวร์ที่อิรักต้องไปดำเนินเรื่องให้ที่อิรักก่อน ทัวร์บอกว่าอาจจะใช้เวลาถึงหนึ่งเดือน ของกลุ่มเราใช้เวลาประมาณห้าวัน หลังจากเรื่องอนุมัติแล้วกระทรวงที่นู่นต้องส่งเรื่องให้ที่สถานทูตที่มาเลทางอีเมล์ ทางเราเองก็ต้องส่งเอกสารที่ได้มาให้สถานทูตดูควบคู่กันว่าเรื่องตรงกัน แล้วสถานทูตจะบอกว่าให้ไปขอวีซ่าได้
เอกสารที่ต้องใช้
๑) พาสปอร์ตเล่มจริงและสำเนาสี
๒) รูปถ่ายสามใบ ๓ซม*๓ซม
๓) แบบฟอร์มที่พิมพ์ข้อมูลใส่แล้ว
๔) จดหมายอนุมัติจากทางอิรัก
๕) ค่าวีซ่า $๕๐
สถานทูตบอกว่าใช้เวลาหนึ่งวันถึงหนึ่งอาทิตย์แล้วแต่ว่าวุ่นแค่ไหน ซึ่งก็ทำให้เราตัดสินใจยากว่าจะซื้อตั๋วเครื่องบินไปกัวลายังไงดี เราตัดสินใจไปนอนคืนเดียวแล้วค่อยขอร้องสถานทูตเอา เราไปถึงสถานทูตก่อนเที่ยงนิดหน่อย เจ้าหน้าที่รับเอกสารไปแล้วบอกว่าวันรุ่งขึ้นเช้ามารับนะโดยที่เราไม่ต้องขอก็โชคดีไป วีซ่าออกมาเป็นแผ่นกระดาษสองแผ่น ไม่ใช่สติกเกอร์ติดในเล่มเราก็แอบเสียดายเหมือนกัน มีวีซ่าอีกแบบนึงที่เป็นสติกเกอร์ติดในเล่มจะไปรับที่สนามบินอิรักได้เลยแต่ทัวร์เราทำไม่เป็น
วีซ่าเคอร์ดิสถาน
ขอเกริ่นนิดนึงว่าเคอร์ดิสถานต้องการที่จะแยกตัวออกมาเป็นประเทศเอง เคยมีโหวตขอแยกตัวและคะแนนโหวตชนะแต่ตัวอิรักไม่ให้แยกเพราะเคอร์ดิสถานมีทรัพยากรธรรมชาติเยอะรวมไปถึงน้ามัน หลังจากมีการโหวตอิรักก็สั่งปิดสนามบินฝั่งเคอร์ดิสถานทันที ตอนหลังยอมให้เปิด
การทำวีซ่าถือว่าง่าย ต้องติดต่อทนายที่นู่นให้ทำอีวีซ่าให้ ใช้เวลาสองสามวันทนายจะส่งไฟล์วีซ่ามาให้ ปริ้นออกมาเอาไปยื่นที่สนามบินได้เลย ราคาแล้วแต่ทางนู้นจะคิดซึ่งเราเจอตั้งแต่ $๗๐ ขึ้นไปจนถึง ๒๕๐ เรามาตกลงกับคนที่คิด ๑๒๐ เพราะดูน่าเชื่อถือที่สุด
เอกสารใช้แค่สแกนพาสปอร์ตและรูปถ่าย
การเดินทาง
Oman Air ไปกลับอิสตันบูล ๑๖,xxx บาท
AtlasGlobal Istanbul- Baghdad, Erbil- Istanbul ๑๑,xxx บาท
Iraqi Airways Baghdad- Erbil ที่ต้องไปซื้อที่ออฟฟิศของสายการบินที่มาเลเช่นกันเพราะพยายามซื้อในเน็ตบัตรเครดิตใช้ไม่ได้เลย ลองกันแทบทุกธนาคารแล้ว แต่ตอนเดินทางจริงไม่ได้บินตามนี้ทั้งหมดเดี๋ยวค่อยๆเล่าไป
การแต่งกาย
วันแรกเราก็ใส่ชุดคลุมมาครบเต็มที่แต่ไกด์บอกไม่จำเป็นคนที่นั่นเองก็แต่งตัวปกติ จะต้องคลุมก็เฉพาะตอนเข้ามัสยิด
เราขอแยกการเดินทางแต่ละวันเพราะคอมรวนๆอยู่จ้า ถ้าโพสต์ทีเดียวจะหายเอา
ใครมีคำถามอะไรหลังไมค์มาในเฟสได้นะคะ http://www.facebook.com/thelittlevoice
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้