เกริ่นนำ
ผมเป็นคนที่ติดการใช้ Tablet ขนาด 8 นิ้ว พอสมควรครับ ด้วยความที่เดินทางบ่อย และ ชอบท่องเว็บ จะให้นั่งส่องในมือถือ ด้วยสายตาที่เปลี่ยนไปตามอายุ ก็เริ่มจะมีปัญหา เลยมาลงตัวกับ Tablet size นี้ เพราะไม่หนัก พกพาสะดวก ถือติดตัวไปได้ทุกที่ครับ

Tablet เครื่องแรกของผม จะเป็น Sony Z3 Tablet Compact .. เครื่องที่ไม่มีอะไรเลย ไม่มีลูกเล่นอย่าง SS Tab S2 เค้า แต่ผมชอบนะ มันทน มันใช้งานง่าย ฟังค์ชั่นน้อยแต่ใช้งานได้ดีทุกฟังค์ชั่นเลย จนเวลาร่วม 4 ปี เริ่มแก่ ก็เลยจำต้องปล่อยมันไป

Tablet เครื่องที่สองของผม ด้วยความที่ไม่มีทางเลือก อยากลองจอใหญ่ๆ เลยคว้า Samsung Tab S4 ซึ่งมีแต่ไซส์จอใหญ่มา แน่นอนครับ มันดีมาก เร็ว แรง ลื่น ลูกเล่นเยอะแยะมากมาย (แต่หลายอย่าง ที่ควรมี กลับไม่มี ก็แปลกดี) จอสวย คุณภาพเสียงดี แต่ขายทิ้งภายใน 1 เดือน เพราะขนาดที่ทำให้พกพาไม่สะดวกเลย แม้แต่จะถือมือเดียว ก็ยังไม่ค่อยจะรอดเลย

Tablet เครื่องที่สามของผม ตอนนั้น Huawei Mediapad M5 เปิดตัวมาพอดี ก็สอยเลย เอาจอ 8.4 นิ้วนี่แหละ โดยรวม เมนู ฟังค์ชั่นต่างๆทำได้ดีกว่า Tab S4 นะ ใช้งานง่ายกว่า  แต่จอไม่สวยเท่า เสียงจากลำโพงเครื่องดังกว่า แต่คุณภาพเสียงสู้ไม่ได้ ใช้มา 10 เดือน

และพอ Ipad mini 5 เปิดตัว ความอยากก็เข้าครอบงำอีกครั้ง ทั้งที่ โดยปกติ ใช้ Iphone มา 2 รอบละ แล้วก็ขายมันทิ้งก่อนมันจะสิ้นอายุทุกที (ปกติ จะใช้มือถือ จนมันพัง หรือ แบตเสื่อม ซึ่งก็ไม่ต่ำกว่า 3 ปี ถึงจะขายออก) เพราะมันไม่ค่อยตอบโจทย์ มาคราวนี้เลยขอลองอีกสักรอบละกัน ซึ่งเดี๋ยวคงจะเทียบกับ Huawei M5 นะครับ

ราคา
ผมซื้อ รุ่น Wifi + Cellular ขนาด 64 GB จาก AIS Shop แบบติดโปร 599 บาท (ปกติ ใช้โปรราวๆนี้อยู่แล้ว) ในราคา 16,000 บาท จ่ายล่วงหน้าอีก 1,605 บาท รวม 17,605 บาท ครับ

เลือก 64GB เพราะมันถูกกว่าตั้ง 5 พัน แล้วก็ดูจากเครื่องเก่า ความจุ mem เครื่อง + mem นอก ก็ 64GB ซึ่งยังเหลือเนื้อที่อีกเยอะครับ ปกติ ผมไว้ใส่เพลงเป็นหลักแหละ

เคส UAG
เหตุมันเกิดตรงนี้แหละ .. ออกจาก AIS Shop มา อ้าวร้าน istudio 7 อยู่ตรงนี้เอง แวะไปส่องเคสดีกว่า ดันมีของพอดี ในราคา 1,890 บาท ส่วนกระจกกันรอย เค้าขาย 990 บาท เลยซื้อแค่เคส UAG แหละ กระจก เดี๋ยวติด Focus ข้างนอกก็พอ ไม่ต่างกันหรอก (sony เครื่องเก่า ติดกระจก อันละร้อยจาก ebay ตั้งแต่ซื้อเครื่อง ยันขายทิ้ง ก็ไม่เห็นเป็นไรหนิ)

ซื้อเคสเรียบร้อย เดินมาร้านตู้แถวนั้น ให้เค้าติดฟิล์มกระจกกันรอย 450 บาท ซึ่งจะบอกว่า ถ้าใครไม่รีบ สั่ง shopee / lazada ยี่ห้อเดียวกัน แบบเดียวกัน ขายอยู่ 250 บาทเองครับ ถ้าหน้าจอเป็นแบบแบนราบ ไม่ใช่กระจกโค้งพิสดาร 2D / 3D อะไรนั่น ติดไม่ยากเลยครับ (Huawei M5 ติดยากมาก ติดแล้วเสียไปหลายอัน สุดท้ายก็ต้องให้เค้าติด แถมติดได้ไม่เต็มจออีก)

ติดฟิล์มเสร็จ ก็ยื่นเคสให้ร้านบอกใส่ให้ด้วย ..
ร้านร้องซะตกใจ บอกว่า UAG ใส่กับฟิล์มไม่ได้เลย จะกระจก หรือ ฟิล์ม มันดันหมด .. ว่าแล้วก็ใส่ให้ดูว่า มันดันจริง !!!

ซวยละ ทำไงดี ค่ำแล้ว พรุ่งนี้ต้องส่ง M5 ให้เจ้าของใหม่แล้ว จะไม่ใส่เคส ก็ไม่กล้า เดี๋ยวแผลมา ถ้าสั่ง online ก็อีก 2 วันกว่าจะได้ 

เอาวะ ซื้อใหม่ก็ได้ ก็เลือกมาได้อันนึง 550 บาท ใส่ได้ ไม่ดันกระจก จบไป

แต่มันไม่จบ .... 

ขับรถกลับบ้าน ก็นั่งคิด จะทำไงดีหว่า ตั้ง 1,890 บาท ขายทิ้ง ไปหลอกชาวบ้านเหรอ ? หรือบอกตรงๆ แต่ขายพันเดียว จะมีคนซื้อเราไหมนะ ? แล้วก็ search ใน pantip ก็มีคนบ่นเรื่องดันฟิล์มเหมือนกัน

พอถึงบ้าน เอาวะ ลองสักตั้ง เต็มที่ก็ปาดเคสหลบละกัน ดีกว่า โยนเงินเกือบ 2 พันทิ้ง อีกอย่าง ใน istudio 7 เค้าก็ขายฟิล์ม ไม่เห็นบอกนี่หว่า ว่าใส่กับ UAG ไม่ได้ ???

ซึ่งเอาเข้าจริง มันก็ใส่ได้นี่หว่า ขอบเคสที่จะดัน ก็ง้างมันขึ้น แล้วให้มันทับบนฟิล์ม ก็จบ

ใส่มาคืนนึงละ ไม่เห็นฟิล์มมันจะดันตรงไหนนี่หว่า ... รู้สึกเขางอกขึ้นมาทันทีเลย

เอาเป็นว่า สำหรับ Ipad รุ่นนี้นะ ใส่ UAG กับ ฟิล์มได้ เผื่อใครจะโดนหลอกแบบผมนะครับ

ในด้านตัวเคส

1. วัสดุดี จับแล้วดูมีราคา ไม่ลื่นมือ (เคสแถมของ Huawei M5 ลื่นมาก เวลาเจอเหงื่อ ซึ่งทำให้มันลงไปวัดพื้นมาแล้ว 2 รอบ)

2. เคสคลุมขอบเครื่องทั้งหมด จะวางเครื่องท่าไหนก็ไม่ต้องห่วงมัน (เคสแถมของ Huawei M5 ปิดขอบบนล่างฝั่งขวา แต่ฝั่งซ้ายไม่ปิด ผลคือ ฝั่งซ้ายรอบเพียบ .. แค่จับวางตั้ง ในช่องใส่ของคอนโซลกลางของรถ มันก็ได้แผลละ ใช่ไหม ?)

3. ด้านในฝาปิด เป็นกำมะหยี่เนื้อดี และ สีดำ ตรงนี้ชอบมาก เพราะมันจะเลอะยากครับ (Huawei สีเทา แล้วงานผม อยู่กับรถ อยู่กับน้ำมัน ก็มาสิ เพียบเลย)


4. ฝาปิดเป็นแบบ sleep / wake up สะดวกดี มีแม่เหล็กล็อคฝา แน่นหนาดี

5. น้ำหนักมากกว่าปกติหน่อย ตัวเคสใหญ่นิด แต่ก็ไม่รู้สึกว่าเกะกะนะ จับถือ ถนัดดีครับ
................
เปรียบเทียบกับ Huawei M5

1. หน้าจอ ...
-- ความสวย .. ผมให้ M5 จอสวยกว่านิด สีสดกว่า แต่ทั้งหมดนี้ จอ 4K ของ Tab S4 ก็กินขาดนะครับ
-- M5 / Tab S4 .. ปรับความสว่างอัตโนมัติได้ แต่ Ipad ทำไม่ได้

2. ปุ่ม Home ...
-- M5 ทำได้ดีมาก สแกนนิ้วได้ไว เป็นแบบแตะก็ scan เลย ไม่ต้องกด (เพราะกดไม่ได้) ความแม่นยำระดับ 95% แทบไม่เคยพลาด ยกเว้น มือเปียกน้ำ
-- M5 ใช้ปุ่ม Home ในการเรียกดู App เบื้องหลัง และ เป็นปุ่ม Back ด้วยการลากนิ้วไปขวา หรือ ซ้าย ก็สะดวกดี แต่ยังแอบชอบ 3 ปุ่ม แบบโบราณของ Sony Z3 มากกว่า พลาดน้อยกว่า
-- Ipad ปุ่ม Home ยังอารมณ์ เหมือนตอนใช้ Iphone SE ต้องกดลงไป ความเร็วในการสแกนช้ากว่าสักเสี้ยววิ 

3. คุณภาพเสียง ...
-- ลำโพงตัวเครื่อง .. M5 ดังกว่ามากมาย ดังหูแทบแตก คุณภาพเสียง สำหรับผม ก็งั้นๆ สไตล์ Harman มั้ง (ปกติ ผมเล่นเครื่องเสียงบ้าน และ รถ ไม่เคยชอบสไตล์เสียงแบรนด์นี้อยู่ละ) ฝั่ง Ipad เสียงเบากว่า แต่ก็ถือว่า ดังมาก เพียงพอ เหลือเฟือต่อการใช้งาน คุณภาพเสียง ผมให้ดีกว่านะ นุ่มนวล มีความเป็นดนตรีกว่า แต่ทั้งหมด ทั้งมวล นี้ Tab S4 ฟาดเรียบครับ เสียงลำโพงเค้าดีมากๆ

-- ต่อหูฟัง .. M5 ไม่มีช่องเสียบหูฟัง แต่แถมตัวแปลงมาให้ ใช้เสียบหูฟัง Klipsch S4i อันเดียวกัน อันนี้ M5 ทำได้ดีมาก คุณภาพเสียงดีมาก ดีกว่า Tab S4 และ Ipad ชัดเจนครับ แต่ Ipad ไม่เลวร้ายนะ อยู่ในระดับดีแหละ ถ้าไม่เคยลอง M5 มาก่อน Ipad ก็เยี่ยมแหละ

4. แบตเตอรี่
-- Ipad สมคำร่ำลือครับ เมื่อคืนนั่งเล่น นั่งเซ็ทอัพเครื่องหลายชั่วโมงมาก แต่แบตลดลงน้อยมากครับ เทียบกับ M5 แต่ M5 ก็อึดมาก ถ้าเทียบกับ sony Z3 นะ

-- เรื่องชาร์จ M5 ให้ Quick Charge มา หายห่วงครับ ชาร์จกลับได้เร็วมาก / ส่วน Ipad เป็นแบบธรรมดา ซึ่งไม่ได้สนใจเท่าไหร่ เพราะปกติ เสียบก่อนนอน ตื่นเช้ามาก็เต็มแหละ

5. App ต่างๆ
-- Line .. ยุ่งยาก ในการลงทะเบียนมาก login แล้ว บอกให้ยืนยันในมือถือ อ้าว Ipad ไม่ใช่มือถือเหรอ ? ให้กรอกเลขในมือถือ ต้องวุ่นวาย หามือถืออีกเครื่องมา login line ตลกดี ตรงนี้ฝั่ง Android ไม่เป็น

หน้าจอ Line จะเหมือนใช้ใน PC ก็ดูโอเคกว่า Android แฮะ

-- ท่อง Web .. ตอนใช้ sony ผมใช้ Chrome นะ จำได้ว่า ไม่ต้องมานั่งกด desktop version เลย แต่พอมา Tab S4 / M5 ต้องมานั่งกดตลอด แต่ข้อดีของ Chrome บน Android คือ ตัวหนังสือ มันใหญ่ เต็มตา ไม่ต้องเลื่อนไป เลื่อนมา

พอมาเป็น IOS ลองลง Chrome ไม่ไหวแฮะ ตัวมันเล็ก ถ้าขยายให้ตาดูได้ ก็ต้องคอยเลื่อนหน้าไปมา แล้วก็ยังต้องกดขอ desktop version เหมือนเดิม ลอง safari เหมือนตัวจะใหญ่ขึ้นอีกนิด แต่ยังต้องขยาย ข้อดีคือ ไม่ต้องกด desktop version

-- Facebook .. มันไม่เต็มจอแฮะ แอบรำคาญเล็กๆ

-- อื่นๆ ... บาง app อย่าง smart link ของ Garmin ที่ไว้ส่ง location จาก google map ไปที่ GPS Garmin ใน android ใช้ได้ พอมา ios หาสถานที่ได้ กดแชร์ location แต่ไม่มี app นี้ขึ้นมาให้เลือก

-- App ธนาคารทั้งหลาย SCB / KTC / Krungsri ไม่มีปัญหาครับ (อันนี้ถ้า Tab S4 มันสแกนใบหน้า หลาย App ไม่รองรับ เวลาเข้า ก็นั่งจิ้มรหัสไป เพราะพวกนี้ รองรับแต่สแกนนิ้ว ยกเว้น KTC เมื่อคืน เห็นรองรับสแกนใบหน้าละ .. แต่ สแกนใบหน้า Tab S4 ต้องบอกว่า ห่วยมาก สแกนผ่านยากมาก)

-- Bluetooth .. ปัญหาเดิมๆตั้งแต่ใน Iphone SE ยังตามมาหลอน คือ connect ยาก หาไม่ค่อยเจอ ในขณะที่ Huawei M5 นี่ อะไรก็ได้ ส่งให้มัน มันเจอหมด

-- ความทนทาน .. Ipad Air ที่บ้าน ซื้อไล่ๆกับ sony Z3 Tablet ป่านนี้ Ipad Air มันยังปกติ แบตไม่เสื่อม ไม่รวน ไม่งอแง แต่ Z3 ก่อนจะขาย ผมซ่อมใหญ่ไปละ ทั้งปุ่มกด ทั้งแบต หมดไปหลายพันเลย ดังนั้น เลยคาดหวังว่า Mini เครื่องนี้ มันคงไปได้ต่ำๆ 5 ปีนะครับ

-- เพิ่งรู้ว่า Ipad มันสั่นไม่ได้ ก็หาไปสิ เปิดสั่น ตรงไหนฟะ .. อันนี้ขอติ ละกัน เพราะบางที เข้าประชุม หรือ อยู่ที่ทำงาน จำเป็นต้องปิดเสียง และ เปิดสั่น จะได้รู้ว่า มีไลน์เข้าไหม แต่พอไม่สั่น ก็ไม่รู้เลย ยิ่งไลน์สมัยนี้ไม่ pop up ที่หน้าจอเวลาล็อคด้วยครับ

คร่าวๆ ก็ประมาณนี้ครับ ไว้เป็นข้อมูล เผื่อใครจะข้ามฝั่งมาลอง ios นะครับ