HOKKAIDO PREFECTURE , JAPAN
6-11/5/2019

สวัสดีครับผมกันอีกแล้วนะครับ หลังจากห่างหายไปไม่ถึง2เดือนเต็ม วันนี้จะมารีวิวเกี่ยวกับ Hokkaido trip นะครับ
ตอนแรกคิดว่าไม่น่าจะไม่มีเวลาได้ไป แต่คนมันอยากไปยังไงเวลาว่างมันก็ต้องมีอยู่แล้วเนอะ 55
ทำงานให้มีwork life balanceที่ดีหน่อยน่า : )

ก็เลยใช้ช่วงเวลาที่มีอันน้อยนิดประมาณ1สัปดาห์ ว่าจะตัดสินใจมาเที่ยวHokkaidoอีกรอบ ต้องบอกก่อนเลยว่าเคยมาแล้ว1รอบเมื่อประมาณ3ปีที่แล้วสมัยเป็นนักศึกษามาแลกเปลี่ยนที่ญี่ปุ่น แต่ว่าได้มาแวะเที่ยวที่Hokkaidoประมาณ2วัน รู้สึกว่ายังเที่ยวไม่คุ้มเท่าไหร่ รอบนี้ก้อเลยกลับมาซะ 6วัน5คืน เต็มๆไปเลย


Plan : 6-11/5/2019
โดยคร่าวๆดังนี้
6/5/2019 : Hakodate
7/5/2019 : back to Noboribetsu and Asahikawa
8/5/2019 : Asahikawa and Biei and back to Sapporo
9/5/2019 : Otaru
10/5/2019 : Sapporo
11/5/2019 : back to Thailand
พร้อมแล้วก็ตามกันมาเลยนะครับ : )

Flight TG670 BKK-CTS
          TG671 CTS-BKK
นานๆทีได้ใช้บริการการบินไทยนะครับ เพราะว่าแม่มาด้วย ขี้เกียจต่อเครื่องหลายรอบ เลยขอความสะดวกดีกว่า โดยที่ราคานั้นไม่ต้องพูดถึง 55 เพราะว่าไม่ได้จองช่วงที่มีโปรโมชั่นด้วย
Sim2fly by AIS เจ้าเดิมสำหรับอินเตอร์เน็ต
Pocket WiFi by Samurai WiFi เจ้าประจำที่ใช้บริการกันบ่อยๆ โดยรอบนี้มีโปรโมชั่น 150บาท/วัน

ส่วนรถไฟ ใช้Hokkaido rail pass 3day ซื้อผ่าน Wisma travel นะครับ ต้องบอกไว้ก่อนเลยว่าราคาของรถไฟ Hokkaido จะแพงกว่าทุกที่เลยนะครับ ต้องวางแผนเที่ยวกันดีๆนะครับ
ราคาpass แต่ละวัน ตามรูปเลยครับ

รอบนี้เราก็เช่ารถขับด้วยนะครับ ใช้รถวันที่มาเที่ยว Asahikawa กับBiei นะครับ เนื่องจากที่ที่จะไปเที่ยว การขนส่งมีรอบการเดินทางอย่างจำกัดหรือเรียกได้ว่าแทบไม่มีเลยด้วยซ้ำ เราเลือกรถผ่าน http://en.tabirai.net/car/ หรือTabirai ใช้ง่ายมากๆ เพียงแค่กรอกวันที่เราจะใช้รถ ชนิดของรถ เลือกรับที่สถานีใด เริ่มใช้รถและคืนรถตอนกี่โมง แต่ว่ามันจะมีให้เลือกอีกหลายๆagency นะ เราเลือก Nipon rent a car โดยค่าใช้จ่ายไม่รวมน้ำมัน 5130 yen ถ้ารวมน้ำมันก็อีกประมาณ 1300 yen เบ็ดเสร็จเงินไทย ประมาณเกือบๆ2000บาท

ตามมากันเลยครับ
วันแรกหลังจากลงเครื่องประมาณแปดโมงเศษๆเวลาญี่ปุ่น ก็นั่งSuper Hakuto ลงไปยังHakodate เลย เนื่องจากอย่างที่บอก เราซื้อpadd แค่3วัน ต้องใช้กับการเดินทางที่ไกลที่สุดและคุ้มที่สุดก่อนเสมอ 55 อย่าลืมมาออกเป็นตั๋วจริงที่JR ด้วยนะครับ เรามาเปลี่ยนที่ Shin Chitose terminalเลย
ต้องนั่งมาเปลี่ยนเป็น Super Hakutoที่Minami Chitose stationนะครับ
หน้าตาของJR pass
Hakodate รอบนี้ก็เป็นรอบที่สองแล้วนะครับที่ได้มา จะขอลงรูปทั้งที่มารอบที่แล้วกับรอบนี้นะครับจะได้ complete 55
วิวจากSuper Hakuto
คือมีทั้งวิวภูเขาและวิวทะเลเลย แค่นั่งรถไฟอย่างเดียวก็คุ้มแล้วอ่ะ
รอบนี้หลังจากเก็บกระเป๋าที่Smile hotel Hakodate ก็เดินทางไปยัง Goryokaku tower โดยนั่งรถบัสหน้า JR ขึ้นที่หลายเลข4 ราคา240yen

Goryokaku
เสียดายมาไม่ทัน Sakura พ้นfullbloomไปแล้ว กำลังร่วงหมดต้น แต่ว่าก็ยังเห็นคนมาhanamiกันเยอะอยู่
บรรยากาศดูครึ้มๆหน่อยวันนี้ พยากรณ์อากาศบอกว่าฝนจะตก TT
Goryokaku ก็คือป้อมปราการที่สร้างโดยตระกูลโตกูกาวะบาคุฟุ ตั้งแต่สมัยเอโดะ โดยสร้างเป็นป้อมปราการตอนนั้นเพราะว่าญี่ปุ่นต้องการเปิดประเทศ เลยต้องการสร้างป้อมป้องกันและที่ทำการของเมือง โดยสร้างเป็นรูปดาวอย่างที่เห็น ( ยังไม่เห็นล่ะเสะ) แล้วก็เป็นสิ่งที่เตือนความทรงจำแห่งการสิ้นสุดของระบบศักดินาด้วย เนื่องจากสมัยพวกนี้จะแบบปกครองแบบปิดประเทศ แล้วเขาก็มีสงครามกันคือตั้งต้นมาตั้งแต่ที่Kyoto แล้วก็มีกองทัพของโตกูกาวะบาคุฟุนั่งกองทัพเรือหนีมาที่Hakodateต่อ เกิดเป็นHakodate sense (สงครามHakodate) ก่อนที่จะเข้าสู่ยุคใหม่
เดินดูรอบๆอีกสักหน่อยก่อนขึ้นชมจากtower
ถึงแม้จะร่วงแล้วก็ยังสวยอยู่
ค่าขึ้น tower คนละ 900 yen ตามมาซื้อตั๋วได้เลย
วิวจากข้างบนจะเห็นGoryokaku เป็นรูปดาว เสียดายเรามาช้าเลยไม่ได้เห็นเป็นดาวสีชมพูเลย แต่ก็สวยอยู่เหมือนกัน
แบบจำลองปราสาทขนาดย่อ
มีประวัติการจำลองการสร้างGoryokaku ในอดีต
มุมต่างๆจากบนtower
แอบซูมซากุระจากด้านบน เสียดายร่วงหมดแว้ว TT
แวะกินไอศกรีมบนtowerหน่อย ร้านนี้ก็มีชื่อเหมือนกันนะ