[CR] รีวิว ‘อุบลราชธานี’ 2 วัน 1 คืน [ออนซอนม่วนบักคัก ตกหลุมฮักเมืองอุบลฯ]

เคยไปเที่ยว อุบลฯ หรือยัง? ประโยคคำถามสั้นๆ ของเพื่อนสาว พูดเสร็จมือก็กดจองตั๋วกันอย่างรวดเร็ว เรื่องเที่ยวนี่ก็จะไวมาก
และแล้วก็ถึงเวลาเก็บกระเป๋าไปเที่ยว ‘จังหวัดอุบลราชธานี’ ไปลุยกันได้เลยค่ะ ตื่นเต้นๆ เพี้ยนเย้
วันที่ 1_ 15-มี.ค.- 2562 [นั่งรถไฟไปหนำเน่ ม่วนซื่นเด๊เลาะรอบเมือง]

เราเดินทางด้วยรถไฟไทยขบวนใหม่ ‘สายอีสานวัตนา’ ขึ้นที่ ‘สถานีชุมทางบางซื่อ’
เลือกเป็นเตียงนอนชั้นล่างราคา 979 บาท ออกเวลา 20.49 น. รถไฟออกตรงเวลามาก เลิศ! เพี้ยนออกทริป

รถไฟภายในดูใหม่ทันสมัยสะอาดสะอ้านมาก และเสียงท้องก็ร่ำร้องให้พามาหาอะไรทานกันที่ตู้เสบียง สวรรค์แท้ๆที่นี่มีอาหาร เครื่องดื่ม
พร้อมขนมหลากหลายเมนูวางจำหน่ายให้ได้เลือกทาน เราจัดข้าวกล่องหมูกระเทียม 60 บาท สบายใจสบายพุง อิ่มแล้วไม่งอแงเดินกลับไปนอนได้ค่ะ

รถไฟใช้เวลาเดินทางประมาณ 10 ชั่วโมงครึ่ง เราก็เดินทางมาถึงแล้ว แอ่นแอ้นนนน! 'จังหวัดอุบลราชธานี' 

ยามเช้าของที่นี่ดูช้าๆไม่วุ่นวาย เงียบสงบดีจังเลย ชอบๆ

ถึงปุ๊บก็เที่ยวต่อไม่รอแล้วนะคะ เราเลือกเช่ารถพร้อมคนขับมาที่แรกนี่เลย ‘สามพันโบก’ ตั้งอยู่กลางลำน้ำโขง ในอำเภอโพธิ์ไทร
ที่นี่เกิดจากแรงน้ำวนกัดเซาะแก่งหินจนกลายเป็นแอ่งมากกว่า 3,000 แอ่ง จากทางเข้าด้านหน้าสามารถเดินเข้าไปได้นะคะ
แต่พอเห็นเส้นทางและแสงแดดแล้วขอนั่งรถสองแถวดีกว่า ไป-กลับ 200 บาทต่อคัน
นั่งรอหานักท่องเที่ยวมาหารได้ เราได้สมาชิกมาเพิ่มอีก 4 คน พร้อมแล้วไปค่ะ 

ที่นี่เรายังสามารถให้น้องไกด์น่ารักยิ้มแย้มแจ่มใสพาเดินเที่ยวพร้อมแนะนำและอธิบายเรื่องราวต่างๆให้ฟังได้อีกด้วย
โดยให้ค่าทิปน้องนี่แล้วแต่เราเลยนะคะ

เข้ามาด้านในแต่ละจุดจะมีแก่งหินและแอ่งน้ำที่ถูกกัดเซาะดูรูปร่างสวยงามแปลกตามาก เพี้ยนลาเวนเดอร์

ชื่อแต่ละจุดนี่ก็ต้องยอมใจในการตั้งของเขาเลยค่ะ อย่างจุดไฮไลท์นี้มีชื่อว่า ‘มิกกี้เมาส์’ ได้อยู่ๆ 

ต่อมาเป็น ‘หินฮิปโป’ หัวเราะร่าเริงอยู่ริมแก่งหิน 

ส่วนจุดนี้ ‘หินหัวสุนัข’ พันธุ์อะไรคะเนี่ย 
‘หัวใจสองดวง’ ที่นี่ก็มีนะจ้ะ และยังมีอีกหลากหลายจุดชื่อเรียกแตกต่างกันไป เล่นเอาเราถ่ายรูปกันจนเพลินเลยทีเดียว
แต่ขอแนะนำให้มาในช่วงเช้าหรือไม่ก็เย็นเลยนะคะ ซึ่งในเวลาใกล้เที่ยงแบบนี้ หากถามว่าร้อนไหม ฉันตอบเลยว่าไหม้ เพี้ยนไฟลุก

เวลาน้อยแอบเสียดายเบาๆ เราต้องไปต่อกันแล้ว ที่นี่ยังมีเรือสำหรับพานักท่องเที่ยวล่องไปเที่ยวยังจุดต่างๆ ที่อยู่ใกล้กับสามพันโบกได้อีก
โดยราคาเรือเช่าเหมาลำนั้นอยู่ที่ 1,000 บาท สามารถนั่งได้ประมาณ 10 คน

ที่ต่อมาคือ ‘อุทยานแห่งชาติผาแต้ม’ ตั้งอยู่ในอำเภอโขงเจียม เสียค่าเข้าอุทยานฯคนละ 40 บาท
อุทยานฯ แห่งนี้เขาบอกว่าหากมีโอกาสได้มาชมพระอาทิตย์ขึ้นที่นี่ในยามเช้า ยังถือว่าจะได้เห็นก่อนใครในประเทศไทยอีกด้วยนะคะ

เบื้องหน้าเราสามารถมองเห็นทิวทัศน์ของแม่น้ำโขงที่กั้นแบ่งเขตแดนระหว่างประเทศไทยและลาว

โดยมีภูเขาฝั่งประเทศลาว ที่วางเรียงรายสลับซับซ้อนมองดูสวยงาม ทอดยาวสุดสายตา ลมเย็นๆ วิวสวยๆ แดดร้อนๆ นัวๆกันไปค่ะ

และนอกจากที่นี่จะมีธรรมชาติที่สวยงามแล้ว ยังมีภาพเขียนสีก่อนประวัติศาสตร์ให้เราได้ชมกันอีกด้วย
ตอนแรกว่าจะเดินไปดู สายตามองเห็นระยะทางถึงภาพเขียน 3.4 กม. คิดแล้วไปกลับนี่ก็
เอิ่มมม.. ค่อยๆเดินออกมา ดูภาพจำลองด้านหน้าแก้เขิลไปก่อน เค้าหิวแล้ว เค้าขอโทษ เดี๋ยวคราวหน้าเค้ามาแก้ตัวใหม่นะๆ แหะๆ เพี้ยนเพลีย

มาจ้ะๆ ออกมาไม่ไกลเราจะพบกับ ‘เสาเฉลียง’ เป็นเสาหินธรรมชาติที่เกิดจากการกัดเซาะของน้ำและลมมานานนับล้านปี
มีลักษณะคล้ายดอกเห็ด สวยเด่นเป็นสง่าตั้งเรียงรายอยู่ งามมากค่ะ ปรบมือให้!

อันนี้รูปรถที่เราเช่านะคะของ ซีเอช.เอช.อุบลคาร์เรนท์ ราคาวันละ 800 บาท และเนื่องด้วยเรากับเพื่อนขับรถไม่เป็นกันทั้งคู่
ถ้าคุณเพิ่มเงินอีก 500 บาทในตอนนี้ ก็จะมีพี่คนขับอัธยาศัยดี มีรถขับ โทรศัพท์ถ่ายรูปได้
ขับรถพาเราเที่ยวพร้อมทั้งอธิบายสถานที่ต่างๆ ให้ฟังระหว่างเดินทางเพลินๆ อีกด้วย เลิศ!

ได้เวลาทานอาหารกลางวันกันแล้ว เย้ๆ เรามาที่ร้าน ‘แพอารยา’ 

เป็นร้านที่อยู่บนแพลอยริมตลิ่งของแม่น้ำโขง ทานอาหารไป ชมวิวแม่น้ำโขงและทิวเขาสวยๆไป ฟินอะไรเบอร์นี้
เราสั่งข้าวผัดกุ้ง 70 บาท พร้อมต้มยำปลาคัง 200 บาท ต้มยำนี่เนื้อปลาแน่นสดมาก ขอบอกเลยนะคะว่า เป็นตาแซ่บหลายเด้อ 

มาต่อกันที่ ‘วัดถ้ำคูหาสวรรค์’ ก่อสร้างโดย ‘หลวงปู่คำคนิง จุลมณี’ ซึ่งท่านใช้เป็นที่ปฏิบัติธรรมจำพรรษา ในปัจจุบันท่านได้มรณภาพแล้วนะคะ

เดินเข้ามาภายใน เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปปางมารวิชัย มากมายหลายองค์

ด้านในถ้ำยังเป็นที่ตั้งโลงแก้วที่บรรจุสรีระไม่เน่าเปื่อยของ ‘หลวงปู่คำคนิง จุลมณี’
เหล่าบรรดาลูกศิษย์ลูกหาของท่านได้บรรจุสรีระของท่านลงในโลงแก้วไว้เพื่อให้เหล่าผู้ที่เลื่อมใสได้เข้ามาบูชากัน

ที่วัดแห่งนี้เรายังสามารถชมทิวทัศน์แม่น้ำโขงและแม่น้ำสองสี ตลอดจนทิวทัศน์ของฝั่งประเทศตรงข้ามได้อีกด้วย 

ที่ต่อมา ‘วัดถ้ำเหวสินธุ์ชัย’ อยู่ในอำเภอโขงเจียม สร้างขึ้นโดย ‘หลวงปู่หล้า ปคุโณ’ ที่นี่ตั้งอยู่ในเขตของอุทยานแห่งชาติแก่งตะนะ
ในอดีตเป็นที่จำพรรษาของพระธุดงค์ต่างๆ ตั้งแต่ก่อนมีการจัดตั้งอุทยานฯ

ภายในวัดจะมีทางเดินไปยังถ้ำเล็ก ๆ หรือที่เรียกกันว่า ‘ถ้ำเหวสินธุ์ชัย’
ภายในประดิษฐานพระพุทธไสยาสน์ รูปหล่อพระฤๅษี พระแม่ธรณี และพระพุทธรูปอีกหลายองค์

ความสวยงามแปลกตาของที่นี่ทำให้เราเหมือนต้องมนต์สะกด จิตใจกลับรู้สึกสงบได้แบบไม่รู้ตัวเลย เพี้ยนรู้สึกเงียบ

ถ้ามาในช่วงฤดูฝน บริเวณของเพิงถ้ำ จะมีน้ำจากลำธารเล็กไหลผ่านลงมาเป็นน้ำตกดูสดชื่นร่มรื่นมาก
แต่มองไปตอนนี้น้ำยังไม่ตกนะคะ ดูความสวยงามของหินที่ทับสลับซับซ้อนกันไปก่อน แหะๆ เพี้ยนเพลีย

มาต่อค่ะ ‘วัดสิรินธรวรารามภูพร้าว’ หรือนิยมเรียกกันว่า ‘วัดเรืองแสง’ ตั้งอยู่ที่อำเภอสิรินธร ด้านในมีอุโบสถศิลปะล้านช้างที่งดงาม
ตัวอุโบสถมีต้นแบบมาจากวัดเชียงทอง ประเทศลาว ภายในเป็นที่ตั้งของพระประธาน แต่เดิมมีลักษณะคล้ายกับพระพุทธชินราช
ในจังหวัดพิษณุโลก แต่มีการนำเพียงส่วนรัศมีออกไป เพื่อให้แลดูกลมกลืนกันยิ่งขึ้น พร้อมกับมีต้นโพธิ์สีทองอร่ามเป็นฉากอยู่ด้านหลัง

และสิ่งมหัศจรรย์ที่ถือว่าเป็นไฮไลท์เลย คือ ศิลปะต้นกัลปพฤกษ์ที่อยู่ด้านหลังอุโบสถ สามารถเรืองแสงได้เมื่อท้องฟ้าเริ่มมืดลง
ซึ่งในช่วงกลางวันต้นกัลปพฤกษ์ต้นนี้จะดูดแสงแดดเอาไว้ เมื่อตกกลางคืนก็จะปรากฏเป็นต้นไม้เรืองแสงที่งดงาม เพี้ยนปูเสื่อรอ

ชื่อสินค้า:   สามพันโบก-อุทยานแห่งชาติผาแต้ม-วัดถ้ำคูหาสวรรค์-วัดถ้ำเหวสินธุ์ชัย-วัดเรืองแสง-ถนนคนเดินเทศบาลอุบลราชธานี-ทุ่งศรีเมือง-พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติอุบลราชธานี-สตรีทอาร์ท-วัดทุ่งศรีเมือง
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่