ขอออกตัวก่อนเลยว่ากระทู้นี้เป็นกระทู้แรกที่อยากมาแชร์ประสบการณ์สอบ IELTS ครั้งแรกในชีวิต ในแบบฉบับเด็กที่ไม่เคยเรียนโรงเรียนนานาชาติเลย เราตั้งเป้าหมายให้ได้เกิน 4.5 เพื่อแค่เอาไปกดโควต้า Work and Holiday ออสเตรเลีย ซึ่งตอนผลออกมา ปรากฏว่า ได้ 6.0 จ้า
OVERALL BAND : 6.0
LISTENING : 6.5
READING : 7.0
WRITING : 5.0
SPEAKING : 6.0
คือเกินความคาดหวังไปมาก เราเลยอยากมาแชร์ประสบการณ์สอบครั้งแรก เพื่อให้เป็นประโยชน์สำหรับคนที่เตรียมตัวไปสอบค่ะ
เราสอบเมื่อวันที่ 6 เมษายน 2562 กับ British council อันนี้คือในมุมของการสอบ IELTS แบบ General นะคะ ถ้าเป็น Academic เราอาจต้อง เตรียมตัวไปมากกว่านี้ เราใช้เวลาอ่านทั้งหมดประมาณหนึ่งเดือน พอสมัคร จ่ายเงินปุ๊ป ก็เริ่มวางแผนอ่านหนังสือปั๊ป เงื่อนไขของเราคือ เราทำงานประจำ ตั้งแต่แปดโมงเช้าถึงห้าโมงครึ่ง หยุดเสาร์ อาทิตย์ จากการสอบ มี 4 ทักษะ Listening, Reading, Writing, Speaking เราแบ่งอ่านสัปดาห์ละทักษะ
เราใช้หนังสือ Cambridge ที่เป็นข้อสอบล้วนๆ ในการเตรียมตัวสอบนะคะ หน้าตาหนังสือประมาณนี้ ถ้าใครทุนหนาหน่อยก็ซื้อมาทำ แต่เราโหลดมาทำค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://www.ieltsscore.com/download-cambridge-ielts-practice-test-series-1-13/
เราอ่าน Cambridge 11 12 13 สามเล่มโดยประมาณ แต่ก็ไม่ได้ทำข้อสอบของทุกเล่มหรอก เยอะเกินไป สุ่มๆเอาเหมือนเสี่ยงเซียมซี หยิบได้ชุดไหนก็ทำชุดนั้น เท่าที่อ่านมา เราว่าความยากใกล้เคียงกับข้อสอบจริง เผลอๆในหนังสือแอบยากกว่า
เราวางแผนอ่านหนังสือตามนี้ อันที่จริงบาง week เราอ่านทุกวัน บางweek เราก็ปาร์ตี้กับเพื่อนทุกวันเช่นเดียวกัน
Week 1 Listening
Week 2 Reading
Week 3 Writing
Week 4 Speaking
เริ่มจาก Listening ก่อน เพราะเรามีลงสอบ Mock test กับทาง British Council ไว้ ค่าสอบฟรี แต่ต้องมัดจำเงินหนึ่งร้อยบาทเพื่อจองที่นั่งสอบ เป็นการจำลองการสอบ Listening คล้ายๆในสนามจริง ข้อสอบยากประมาณเดียวกัน แต่ที่ต่างคือ วันจริงทาง BC จะมีหูฟังให้คนละหนึ่งอัน แต่ Mock test นั้นฟังจากลำโพง บอกเลยว่ามีหลุดบ้าง แต่ก็อยู่ใน Rang 6.5/9.0 ซึ่งเท่ากับคะแนนที่สอบจริงเลย ฮ่าๆๆ ซึ่งช่วงแรก เราอ่านได้น้อยมาก ทำข้อสอบแบบไม่ได้จับเวลา แต่ครึ่งชุด ก็หลับแล้ว ฮ่าๆๆ แต่เวลานึกถึงค่าสอบทีไร ก็มีแรงฮึดอ่านหนังสือต่อ อีกตัวช่วยนึงของเรานอกจากฝึกทำข้อสอบคือ Application เราโหลด Podcast ของ British council มาฟัง เพื่อให้เราคุ้นเคยกับสำเนียงบริติชมากขึ้น และเผื่อเป็นไอเดียในการตอบคำถามในพาร์ท Speaking เช่นเดียวกัน
ข้อสอบจริง (คร่าวๆจากที่เราสอบมา)
1.เติม One word/number ฟังออกแล้ว ต้องสะกดให้ถูด รวมถึงการฟังให้ออกด้วยว่าเติม S,ES รึเปล่า ถ้าสะกดผิดแม้แต่ตัวเดียวคือศูนย์คะแนน
2. Direction โจทย์ให้แผนที่มา แล้วให้เราระบุตำแหน่งของห้องต่างๆหรือสถานที่ต่างๆ
ข้อแนะนำ :
1.อ่านโจทย์ล่วงหน้าและพยายามเดาว่าคำในช่องว่างจะเป็นอะไร เช่น คำนามหรือตัวเลข
2.ถ้าฟังไม่ทัน ให้เดาคำตอบไปเลย และโฟกัสข้อต่อไป อย่ามัวไปพะวงข้อที่ทำไม่ได้ เพราะเทปจะเล่นเพียงครั้งเดียว
Reading Part รูปแบบข้อสอบประมาณว่า
1. ให้จับคู่ Passage กับประโยคสั้นๆ ที่เนื้อหา match กัน
2. มี Passageมาให้หนึ่งหน้า และเอาคำ 1 หรือ 2 คำไปเติม (อย่าคิดเอง ให้หาคำใน passage ที่สอดคลิ้งกับประโยคนั้นไปเติม)
3. อ่าน Passage ที่ยาวประมาณ สาม สี่หน้า แล้วไปตอบคำถาม และเลือกว่าประโยคที่ให้มา True/False/Not given
Writing เราว่าเป็นพาร์ทที่ยากที่สุด ต้องวางแผนการเขียนดีๆ มีสองข้อ ข้อแรก เขียนจดหมาย 150 คำ ส่วนข้อที่สองเป็นเนื้อหาแนวๆสังคม เขียน 250 คำ
ข้อสอบจริงที่เราเจอคือ
1. Write the letter to co-worker present the idea about company party
• Present what to improve from last year
• What is the main idea for party
• Place to meet and talk about it
2. คุณคิดว่านักท่องเที่ยวมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมหรือไม่ อย่างไร แนวทางแก้ไขอย่างไร
ขอบอกว่า ทำไม่ทัน เป็นเพราะไม่ค่อยได้ฝึกฝนพาร์ทนี้มากนัก และเขียนตัวพิมพ์ใหญ่ ทำให้กรรมการอ่านง่าย แต่เป็นสิ่งที่เราไม่ถนัดเลยเขียนช้า และเขียนผิด ดังนั้นถ้าสอบอีกรอบหน้า เราต้องแบ่งเวลาให้ดี ที่เค้าแนะนำกันมาคือ Task 1 ใช้เวลาคิดวางแผนและเขียน ประมาณ 20 นาที และ Task 2 ใช้เวลาคิดและเขียนรวมกัน 40 นาที วิธีที่เราเขียนคือ จะแบ่งเป็น Introduction , Body 1, Body 2…and Conclusion วิธีการเรียง essay แบบนี้ จะทำให้คนตรวจข้อสอบเห็นว่าเราคิดอย่างเป็นระบบ เป็นขั้นเป็นตอน และมีการวางแผน ในส่วน Writing นี่แหละ เป็นส่วนที่เราจะโชว์ของ ความรู้ทั้งหมดที่เรามี ทั้งศัพท์และแกรมม่าร์ ใส่มันไปให้หมด
Speaking แบ่งเป็น 3 พาร์ท
1. General question เป็นคำถามทั่วไป ที่เราเจอคือ
• ให้แนะนำตัว // ทำงานหรือเรียนอยู่ // สิ่งที่ชอบในการทำงาน // สิ่งที่คิดว่าจะปรับปรุงเพื่อให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น
• ถามว่าชอบถ่ายรูปเป็นงานอดิเรกมั้ย // ใช้กล้องมือถือหรือกล้อง compact มากกว่า // ชอบถ่ายภาพอะไร // จะเรียนเพิ่มมั้ย
• ชอบมองท้องฟ้ารึเปล่า // ชอบกลางวันหรือกลางคืนมากกว่ากัน // สถานที่เราคิดว่าเหมาะกับการดูดาว
2. หลังจากพูดคุยละลายพฤติกรรมแล้ว คราวนี้ก็มาถึงของจริง คือ Examiner จะให้คำถามเรามา และให้เวลาคิดและจด วางแผน หนึ่งนาที หลังจากนั้น เราต้องพูด ตอบคำถาม ให้การสนับสนุน ประมาณนั้น สองนาที คำถามที่เราได้คือ What is a good news for you
• What is the news
• Source of the news
ตอนนั้นที่คิดได้คือ เป็นสถานการณ์ที่เรากำลังจะไปเที่ยว แล้วได้ข่าวแผนดินไหว แต่ข่าวดีคือวันที่เราเดินทาง ไม่มีเหตุแผ่นดินไหวแล้ว และสภาพอากาศก็ปลอดโปร่ง ไม่มีฝนตก ประมาณนี้ คือตอนนั้นคิดว่าพูดยังไงก็ได้ให้เกี่ยวกับเรื่องท่องเที่ยวกพอ รู้สึกว่าตัวเองโชคดีมากที่ได้คำถามไม่ยากมาก
3. ในส่วนที่สาม เป็นส่วนที่เรากลัวที่สุด แต่ก็โชคดีมากเช่นกันที่เป็นเรื่องที่ตัวเองเคยทำงานมานั่นคือ เกี่ยวกับข่าวสาร หนังสือพิมพ์ไรงี้ นางถามว่าปกติเราดูข่าวมั้ย // สำหรับคนไทยคิดว่าข่าวประเภทไหนที่คนไทยติดตามมากที่สุด // คนไทยดูข่าวต่างประเทศมาแค่ไหน // คิดว่าต่อไปแหละข่าวออนไลน์จะเข้ามาแทนที่หนังสือพิมพ์หรือไม่ คือเราพูดอธิบายจนทาง Examiner บอกให้หยุดพูดอ่ะ เพราะเราพูดเกินเวลา ฮ่าๆๆๆ
ข้อแนะนำ :
1.พูดให้มากที่สุดเท่าที่จะพูดได้ ถ้าเราพูดไม่ติดขัด ก็จะได้คะแนนประมาณหนึ่ง แต่ถ้าพูดไหนลื่นด้วย และแกรมม่าร์เป๊ะด้วยถือว่าเพอร์เฟค
2. อย่าให้มี Dead air เพราะทาง Examiner จะถามจี้เรามากขึ้น และเราจะลน
หวังว่าประสบการณ์สอบครั้งแรกของเราจะเป็นประโยชน์แก่เพื่อนๆหลายๆคนนะคะ วันสอบจริง ไม่ต้องตื่นเต้นค่ะควรเผื่อเวลาไปถึงสนามสอบสักชั่วโมงหรือมากกว่านั้น เพราะคนเยอะมาก และต้องต่อคิวถ่ายรูปลงในใบแสดงผลสอบด้วยค่ะ แล้วก็อย่าลืมเอาสำเนาบัตรประชาชนหรือพาสปอร์ตที่เราลงทะเบียนสอบไปพร้อมตัวจริงด้วยนะคะ พอเข้าห้องสอบแล้ว สูดหายใจลึกๆ และทำข้อสอบอย่างมีสติ โชคดีค่ะ
[CR] รีวิวสอบ IELTS ครั้งแรก Writing ไม่ทัน แต่ได้แบนด์ 6.0
LISTENING : 6.5
READING : 7.0
WRITING : 5.0
SPEAKING : 6.0
คือเกินความคาดหวังไปมาก เราเลยอยากมาแชร์ประสบการณ์สอบครั้งแรก เพื่อให้เป็นประโยชน์สำหรับคนที่เตรียมตัวไปสอบค่ะ
เราสอบเมื่อวันที่ 6 เมษายน 2562 กับ British council อันนี้คือในมุมของการสอบ IELTS แบบ General นะคะ ถ้าเป็น Academic เราอาจต้อง เตรียมตัวไปมากกว่านี้ เราใช้เวลาอ่านทั้งหมดประมาณหนึ่งเดือน พอสมัคร จ่ายเงินปุ๊ป ก็เริ่มวางแผนอ่านหนังสือปั๊ป เงื่อนไขของเราคือ เราทำงานประจำ ตั้งแต่แปดโมงเช้าถึงห้าโมงครึ่ง หยุดเสาร์ อาทิตย์ จากการสอบ มี 4 ทักษะ Listening, Reading, Writing, Speaking เราแบ่งอ่านสัปดาห์ละทักษะ
เราวางแผนอ่านหนังสือตามนี้ อันที่จริงบาง week เราอ่านทุกวัน บางweek เราก็ปาร์ตี้กับเพื่อนทุกวันเช่นเดียวกัน
Week 1 Listening
Week 2 Reading
Week 3 Writing
Week 4 Speaking
เริ่มจาก Listening ก่อน เพราะเรามีลงสอบ Mock test กับทาง British Council ไว้ ค่าสอบฟรี แต่ต้องมัดจำเงินหนึ่งร้อยบาทเพื่อจองที่นั่งสอบ เป็นการจำลองการสอบ Listening คล้ายๆในสนามจริง ข้อสอบยากประมาณเดียวกัน แต่ที่ต่างคือ วันจริงทาง BC จะมีหูฟังให้คนละหนึ่งอัน แต่ Mock test นั้นฟังจากลำโพง บอกเลยว่ามีหลุดบ้าง แต่ก็อยู่ใน Rang 6.5/9.0 ซึ่งเท่ากับคะแนนที่สอบจริงเลย ฮ่าๆๆ ซึ่งช่วงแรก เราอ่านได้น้อยมาก ทำข้อสอบแบบไม่ได้จับเวลา แต่ครึ่งชุด ก็หลับแล้ว ฮ่าๆๆ แต่เวลานึกถึงค่าสอบทีไร ก็มีแรงฮึดอ่านหนังสือต่อ อีกตัวช่วยนึงของเรานอกจากฝึกทำข้อสอบคือ Application เราโหลด Podcast ของ British council มาฟัง เพื่อให้เราคุ้นเคยกับสำเนียงบริติชมากขึ้น และเผื่อเป็นไอเดียในการตอบคำถามในพาร์ท Speaking เช่นเดียวกัน
1.เติม One word/number ฟังออกแล้ว ต้องสะกดให้ถูด รวมถึงการฟังให้ออกด้วยว่าเติม S,ES รึเปล่า ถ้าสะกดผิดแม้แต่ตัวเดียวคือศูนย์คะแนน
2. Direction โจทย์ให้แผนที่มา แล้วให้เราระบุตำแหน่งของห้องต่างๆหรือสถานที่ต่างๆ
ข้อแนะนำ :
1.อ่านโจทย์ล่วงหน้าและพยายามเดาว่าคำในช่องว่างจะเป็นอะไร เช่น คำนามหรือตัวเลข
2.ถ้าฟังไม่ทัน ให้เดาคำตอบไปเลย และโฟกัสข้อต่อไป อย่ามัวไปพะวงข้อที่ทำไม่ได้ เพราะเทปจะเล่นเพียงครั้งเดียว
Reading Part รูปแบบข้อสอบประมาณว่า
1. ให้จับคู่ Passage กับประโยคสั้นๆ ที่เนื้อหา match กัน
2. มี Passageมาให้หนึ่งหน้า และเอาคำ 1 หรือ 2 คำไปเติม (อย่าคิดเอง ให้หาคำใน passage ที่สอดคลิ้งกับประโยคนั้นไปเติม)
3. อ่าน Passage ที่ยาวประมาณ สาม สี่หน้า แล้วไปตอบคำถาม และเลือกว่าประโยคที่ให้มา True/False/Not given
Writing เราว่าเป็นพาร์ทที่ยากที่สุด ต้องวางแผนการเขียนดีๆ มีสองข้อ ข้อแรก เขียนจดหมาย 150 คำ ส่วนข้อที่สองเป็นเนื้อหาแนวๆสังคม เขียน 250 คำ
ข้อสอบจริงที่เราเจอคือ
1. Write the letter to co-worker present the idea about company party
• Present what to improve from last year
• What is the main idea for party
• Place to meet and talk about it
2. คุณคิดว่านักท่องเที่ยวมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมหรือไม่ อย่างไร แนวทางแก้ไขอย่างไร
• ถามว่าชอบถ่ายรูปเป็นงานอดิเรกมั้ย // ใช้กล้องมือถือหรือกล้อง compact มากกว่า // ชอบถ่ายภาพอะไร // จะเรียนเพิ่มมั้ย
• ชอบมองท้องฟ้ารึเปล่า // ชอบกลางวันหรือกลางคืนมากกว่ากัน // สถานที่เราคิดว่าเหมาะกับการดูดาว
• Source of the news
ตอนนั้นที่คิดได้คือ เป็นสถานการณ์ที่เรากำลังจะไปเที่ยว แล้วได้ข่าวแผนดินไหว แต่ข่าวดีคือวันที่เราเดินทาง ไม่มีเหตุแผ่นดินไหวแล้ว และสภาพอากาศก็ปลอดโปร่ง ไม่มีฝนตก ประมาณนี้ คือตอนนั้นคิดว่าพูดยังไงก็ได้ให้เกี่ยวกับเรื่องท่องเที่ยวกพอ รู้สึกว่าตัวเองโชคดีมากที่ได้คำถามไม่ยากมาก
3. ในส่วนที่สาม เป็นส่วนที่เรากลัวที่สุด แต่ก็โชคดีมากเช่นกันที่เป็นเรื่องที่ตัวเองเคยทำงานมานั่นคือ เกี่ยวกับข่าวสาร หนังสือพิมพ์ไรงี้ นางถามว่าปกติเราดูข่าวมั้ย // สำหรับคนไทยคิดว่าข่าวประเภทไหนที่คนไทยติดตามมากที่สุด // คนไทยดูข่าวต่างประเทศมาแค่ไหน // คิดว่าต่อไปแหละข่าวออนไลน์จะเข้ามาแทนที่หนังสือพิมพ์หรือไม่ คือเราพูดอธิบายจนทาง Examiner บอกให้หยุดพูดอ่ะ เพราะเราพูดเกินเวลา ฮ่าๆๆๆ
ข้อแนะนำ :
1.พูดให้มากที่สุดเท่าที่จะพูดได้ ถ้าเราพูดไม่ติดขัด ก็จะได้คะแนนประมาณหนึ่ง แต่ถ้าพูดไหนลื่นด้วย และแกรมม่าร์เป๊ะด้วยถือว่าเพอร์เฟค
2. อย่าให้มี Dead air เพราะทาง Examiner จะถามจี้เรามากขึ้น และเราจะลน
หวังว่าประสบการณ์สอบครั้งแรกของเราจะเป็นประโยชน์แก่เพื่อนๆหลายๆคนนะคะ วันสอบจริง ไม่ต้องตื่นเต้นค่ะควรเผื่อเวลาไปถึงสนามสอบสักชั่วโมงหรือมากกว่านั้น เพราะคนเยอะมาก และต้องต่อคิวถ่ายรูปลงในใบแสดงผลสอบด้วยค่ะ แล้วก็อย่าลืมเอาสำเนาบัตรประชาชนหรือพาสปอร์ตที่เราลงทะเบียนสอบไปพร้อมตัวจริงด้วยนะคะ พอเข้าห้องสอบแล้ว สูดหายใจลึกๆ และทำข้อสอบอย่างมีสติ โชคดีค่ะ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้