การเปรียบเริ่มจาก แฟนที่ผมคบอยู่ถามว่า ทำไมถืงเลิกกับแฟนเก่า ผมก็ตอบไปว่า เราเลิกกันเพราะเรื่องเงิน คบกันมาสองปี แฟนเก่าผมเอาเรื่องเงิน และ สิ่งของมาต่อรองในการคบกัน แฟนเก่าผมให้ผมชื้อทองให้ หนื่งบาท ถ้าไม่ชื้อ เขาจะเลิกกับผม ในตอนนั้นผมพอมีเงินเก็บ ผมเลยตัดสินใจ ชื้อให้ แต่ผมก็เลิกกับแฟนเก่า แล้วเดินออกมา ผมอยากให้รู้ว่า ราคาของการคบกัน ไม่ได้มีค่า แค่ทอง หนื่งบาท ผมก็เลิกไป และไม่ติดต่อไม่เกี่ยวข้อง ต่างคนต่างเดิน ไม่เจอกันอีก

ผมมีรายได้ประมาน 40000 บาทต่อเดือน แต่ว่า ค่าที่อยู่ ไม่นับค่ากิน ประมาน 15000 แล้วก็หาที่ถูกกว่านี้ไม่ได้แล้ว เพราะผมอยู่ต่างประเทศ ผมให้เงินแฟนผมใช้เดือนละ 16000 หักค่าโอนออกไปอีก ผมเหลือเงินใช้ต่อเดือน ไม่ถืง 7000 ในที่ ที่ค่าครองชีพสุงมาก พอนืกภาพออกนะครับ

แฟนของผมที่คบอยู่ อยากให้ผมซื้อทองให้บ้าง ผมก็พยายามบอกแฟนไปว่า ผมยังไม่มีเลย เพราะ ทุกเดือนทีให้ไปก็ไม่เหลือใช้แล้ว ผมอยากรู้ว่า ต้องทำยังไงถืงจะให้แฟนเข้าใจว่า ที่ผมไม่ซื้อให้ ไม่ใช่ผมไม่รัก หรือ เธอไม่สำคัญ แต่เพราะว่าเงินที่อยากจะเอาไปชื้อของ ได้เอาไปให้แฟนใช้หมดแล้ว

แฟนผมก็บอกว่า มันไม่เหมือนกัน ให้เงิน กับชื้อของให้มันไม่เหมือนกัน ผมก็เข้าใจนะว่า การที่เราให้ตลอด มันทำให้ดูเป็นเรื่องปกติ แต่การชื้อของให้เป็นครั้งคราว มันก็รู้สืกพิเศษกว่า 

ถ้าผมจะตัดเงิน 16000 ในแต่ละเดือนแล้วเอาเงินนั้นมาชื้อของให้มันก็ไม่ได้อีก เพราะแฟนจะรู้สืกว่าเธอไม่ได้เหมือนเดิม

ผมควรทำยังไงดี ผมไม่เอาคำตอบที่ว่าให้เลิกไปแล้วหา คนใหม่นะครับ เพราะผมก็รักคนนี้เธอมีด้านดีๆมากมาย แต่ผมก็เข้าใจ เธออาจไม่มั่นใจว่าเธอ ดีกว่า และ สำคัญกว่าแฟนเก่าผม

เข้ามาตอบให้ผมหน่อยนะครับ โดยเฉพาะคุณผู้หญิง ผมว่ามุมมองของผู้หญฺิงน่าจะตอบได้ดีกว่า ผมเข้าใจว่าเรื่องนี้มันไม่ได้อยู่ที่เหตุ แต่มันอยู่ที่ความรู้สืก มันก็เลยแก้ลำบาก แล้วผมก็พยายามอธิบายไปแล้ว แต่มันก็ไม่ได้ผล

ส่วนเรื่องการกระทำที่ และ ความใส่ใจกับแฟนคนปัจบัน ผมอยู่ต่างประเทศเวลาเร็วกว่าไทย 5 ชั่วโมง ผมก็ตื่นมากลางดืกมาคุยกับแฟนทุกวัน เพราะแฟนผมว่างก็ประมาน 1 ทุ่มเวลาไทย ก็ทำแบบนี้มาตลอด ผมไม่เที่ยว ไม่ดื่ม ไม่สูบบุหรี่ ไม่มีเรื่องผู้หญิงที่เข้ามา เรื่องเดียวที่เป็นปัญหา คือเรื่องแฟนเก่าที่เลิกกันไปเป็นปี แล้ว แต่แฟนคนปัจุบันก็เอามาพูดตลอด