10 นัดแรกของเมืองทอง
เปิดหัวซีซั่น2019 ด้วยฟอร์มที่แย่ สถิติ 10 นัด ชนะ2 เสมอ 1 แพ้ 7 ยิงได้เพียง 9 ประตูจาก10นัด เสียถึง 19 ประตู
ในวันที่ฟอร์มการเล่นดูไม่ค่อยเข้าตาแฟนบอล สิ่งที่อาจจะดูขาดหายไปอย่างเห็นได้ชัดของเมืองทอง คือตำแหน่งกองกลางรุก ที่เคยขับเคลื่อนเกมส์
ลองย้อนกลับดูกองกลางเมืองทอง (เท่าที่จะจำได้)
2009 พิชิตพงษ์ เฉยฉิว,มุสซ่า ซิลล่า,ดักโน เซียก้า
3 ผู้เล่นที่คอยขับเคลื่อนแดนกลาง มุสซ่า ซิลล่า ในหน้าที่กลางตัวรับคอยตัดเกมส์, ดักโน เซียก้า ผู้เล่นแดนกลางที่สามารถเล่นได้ทั้งรับและรุก, พิชิตพงษ์ เฉยฉิว ในหน้าที่เคยคุมจังหวะเกมส์
2010 ดัสกร ทองเหลา,พิชิตพงษ์ เฉยฉิว,ดักโน่ เซียก้า, นฤพล อารมณ์สวะ,ณรงค์ชัย วชิรบาล
ในสมัยนั้นคู่หูแดนกลางต้องยกให้ พี่โก้ ดัสกร กับ พี่แป๊ะ พิชิตพงษ์ เป็นกองกลางที่ดีที่สุดของฟุตบอลไทยลีก ณ เวลานั้น โดยมีพิชิตพงษ์ เฉยฉิวคอยคุมจังหวะเกม และ ดัสร ทองเหลา คอยจ่ายบอลสร้างจังให้ดียิ่งขึ้น
ดักโน่ เซียก้า กับตำแหน่งใหม่ กองกลางตัวรับถือว่าทำหน้าที่ได้ยอดเยี่ยม และยังมี นฤพล อารมณ์สวะ,ณรงค์ชัย วชิรบาล คอยสอดแทรกในแดนกลาง
2012 มาริโอ ยูรอฟสกี
ผู้เล่นต่างชาติสุดเกรียนคนนี้สร้างความฮือฮาให้กับไทยลีกเป็นอย่างมาก ในปี 2012 มาริโอ สร้างสรรค์เกมส์แดนกลางให้กับเมืองทองได้สวยหรู ด้วยการแอซซิส 13 ลูก แถมยังยิงถึง 12ประตู ในปีนั้นพาเมืองทองคว้ำแชมป์ไร้พ่าย และกำเนิดคู่หู่ เอ็มแอนด์เอ็ม
2016 ชนาธิป สรงกระสินธ์,สารัช อยู่เย็น, ธนบูรณ์ เกษารัตน์
สายเลือดใหม่ในแดนกลาง ชนาธิป สรงกระสินธ์ กองกลางตัวเล็กที่คล่องแคล่ว ว่องไว จ่ายบอลได้ยอดเยี่ยม, สารัช อยู่เย็น กับบทบาทกองกลางตัวเชื่อมเกมส์,ธนบูรณ์ เกษารัตน์ กองกลางตัวรับที่คอยปัดกวาด ทำลายเกมรุกของคู่ต่อสู้
มองไปแล้วยุคนี้มีสไตร์กองกลางคล้ายๆกับปี 2010 เลยทีเดียว
และในปี 2019 เมืองทองเหลือผู้เล่นกองกลางที่ใช้ได้จริง มีเพียงแค่ สารัช อยู่เย็น, ลีโฮ , ชาริล ชัปปุย, 3 ผู้เล่นในแดนกลางที่มีสไตร์การเล่นที่ออกไปทางเกมส์รับมากกว่าอาจจะส่งผลเสียถึงเกมส์รุกของเมืองทองในปัจจุบัน
ด้วยระบบการเล่น 3-4-3 ของ ยุน จอง ฮวาน สิ่งที่หน้าห่วงคือคนที่คอยจะเชื่อมเกมจากการไปหน้า ในยามที่กองหน้าทั้ง3คนไม่ได้บอล กลางกองจะเป็นคนขับเคลื่อนให้ สิ่งที่หายไปจากเมืองทองที่เห็นได้ชัดเลยก็คือ "กองกลางตัวรุก" ที่จะคอยเข้ามาสร้างสรรค์เกมส์ให้มีมิติมากกว่าเดิม
ทั้งหมดนี้เป็นความเห็นส่วนตัวล้วนๆๆ
เมืองทอง ยูไนเต็ด กับ ตำแหน่งกองกลางที่ดูแล้วจะขาดหายไป
เปิดหัวซีซั่น2019 ด้วยฟอร์มที่แย่ สถิติ 10 นัด ชนะ2 เสมอ 1 แพ้ 7 ยิงได้เพียง 9 ประตูจาก10นัด เสียถึง 19 ประตู
ในวันที่ฟอร์มการเล่นดูไม่ค่อยเข้าตาแฟนบอล สิ่งที่อาจจะดูขาดหายไปอย่างเห็นได้ชัดของเมืองทอง คือตำแหน่งกองกลางรุก ที่เคยขับเคลื่อนเกมส์
ลองย้อนกลับดูกองกลางเมืองทอง (เท่าที่จะจำได้)
2009 พิชิตพงษ์ เฉยฉิว,มุสซ่า ซิลล่า,ดักโน เซียก้า
3 ผู้เล่นที่คอยขับเคลื่อนแดนกลาง มุสซ่า ซิลล่า ในหน้าที่กลางตัวรับคอยตัดเกมส์, ดักโน เซียก้า ผู้เล่นแดนกลางที่สามารถเล่นได้ทั้งรับและรุก, พิชิตพงษ์ เฉยฉิว ในหน้าที่เคยคุมจังหวะเกมส์
2010 ดัสกร ทองเหลา,พิชิตพงษ์ เฉยฉิว,ดักโน่ เซียก้า, นฤพล อารมณ์สวะ,ณรงค์ชัย วชิรบาล
ในสมัยนั้นคู่หูแดนกลางต้องยกให้ พี่โก้ ดัสกร กับ พี่แป๊ะ พิชิตพงษ์ เป็นกองกลางที่ดีที่สุดของฟุตบอลไทยลีก ณ เวลานั้น โดยมีพิชิตพงษ์ เฉยฉิวคอยคุมจังหวะเกม และ ดัสร ทองเหลา คอยจ่ายบอลสร้างจังให้ดียิ่งขึ้น
ดักโน่ เซียก้า กับตำแหน่งใหม่ กองกลางตัวรับถือว่าทำหน้าที่ได้ยอดเยี่ยม และยังมี นฤพล อารมณ์สวะ,ณรงค์ชัย วชิรบาล คอยสอดแทรกในแดนกลาง
2012 มาริโอ ยูรอฟสกี
ผู้เล่นต่างชาติสุดเกรียนคนนี้สร้างความฮือฮาให้กับไทยลีกเป็นอย่างมาก ในปี 2012 มาริโอ สร้างสรรค์เกมส์แดนกลางให้กับเมืองทองได้สวยหรู ด้วยการแอซซิส 13 ลูก แถมยังยิงถึง 12ประตู ในปีนั้นพาเมืองทองคว้ำแชมป์ไร้พ่าย และกำเนิดคู่หู่ เอ็มแอนด์เอ็ม
2016 ชนาธิป สรงกระสินธ์,สารัช อยู่เย็น, ธนบูรณ์ เกษารัตน์
สายเลือดใหม่ในแดนกลาง ชนาธิป สรงกระสินธ์ กองกลางตัวเล็กที่คล่องแคล่ว ว่องไว จ่ายบอลได้ยอดเยี่ยม, สารัช อยู่เย็น กับบทบาทกองกลางตัวเชื่อมเกมส์,ธนบูรณ์ เกษารัตน์ กองกลางตัวรับที่คอยปัดกวาด ทำลายเกมรุกของคู่ต่อสู้
มองไปแล้วยุคนี้มีสไตร์กองกลางคล้ายๆกับปี 2010 เลยทีเดียว
และในปี 2019 เมืองทองเหลือผู้เล่นกองกลางที่ใช้ได้จริง มีเพียงแค่ สารัช อยู่เย็น, ลีโฮ , ชาริล ชัปปุย, 3 ผู้เล่นในแดนกลางที่มีสไตร์การเล่นที่ออกไปทางเกมส์รับมากกว่าอาจจะส่งผลเสียถึงเกมส์รุกของเมืองทองในปัจจุบัน
ด้วยระบบการเล่น 3-4-3 ของ ยุน จอง ฮวาน สิ่งที่หน้าห่วงคือคนที่คอยจะเชื่อมเกมจากการไปหน้า ในยามที่กองหน้าทั้ง3คนไม่ได้บอล กลางกองจะเป็นคนขับเคลื่อนให้ สิ่งที่หายไปจากเมืองทองที่เห็นได้ชัดเลยก็คือ "กองกลางตัวรุก" ที่จะคอยเข้ามาสร้างสรรค์เกมส์ให้มีมิติมากกว่าเดิม
ทั้งหมดนี้เป็นความเห็นส่วนตัวล้วนๆๆ