การเดินทางของเราได้เริ่มต้นอีกครั้งเพื่อไปยังเกาะที่ทุกคนอาจจะไม่เคยได้ยินและตั้งอยู่ในประเทศที่ทุกคนคิดว่าเหมือนจะไม่มีอะไร
แต่สำหรับนักเดินทางแบบ Backpacker ที่ชื่นชอบในกิจกรรมที่แสนจะท้าทาย และรักธรรมชาติอย่างพวกเรามันมีค่ามากเหลือเกิน
และมีความสุขมากเกินคำบรรยาย ผู้คนประเทศฟิลิปปินส์เต็มไปด้วยรอยยิ้ม มีความจริงใจ จิตใจดี และมีธรรมชาติที่งดงาม
“เกาะซีบู” (CEBU) หรือที่หลายคนเรียกอีกชื่อว่า “เซบู” เป็นหนึ่งในจำนวนเกาะทั้งหมดจาก 3,641 เกาะของประเทศฟิลิปปินส์
เกาะซีบู (CEBU) เป็นหนึ่งในจังหวัดที่มีการพัฒนาดีที่สุดของประเทศและเป็นเมืองหลักที่เป็นศูนย์กลางด้านการพาณิชยกรรม ด้านการค้า
ด้านการศึกษา และด้านอุตสาหกรรมของเกาะวิซายัส อีกทั้งยังโดดเด่นด้านการขนส่งทางทะเล ด้านการผลิตเฟอร์นิเจอร์ และด้านการท่องเที่ยว
บนเกาะซีบูมีจำนวนประชากรราว 3.85 ล้านคน โดยส่วนใหญ่จะพูดภาษาท้องถิ่น
(ภาษา Cebuano) และสามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้อย่างดี
ในอดีตเมืองแห่งนี้เคยถูกปกครองโดยสเปนจึงหลงเหลือศิลปะสถาปัตยกรรมให้เห็นอยู่อาทิ บ้านเรือนที่มีสีสันสดใส ยานพาหนะที่ตกแต่งประดับประดา
ให้มีลวดลายและสีสันฉูดฉาดที่เป็นเอกลักษณ์ของเมืองนี้ เมืองซีบูเคยเป็นเมืองท่าที่สำคัญจึงทำให้มีวัฒนธรรมต่างถิ่นผสมผสานหลงเหลืออยู่
จะบรรยายไปก็กลัวจะน่าเบื่อ งั้นก็เริ่มเดินทางไปกับพวกเราได้เลย 555...
แผนที่แนะนำสถานที่บนเกาะนี้
การเดินทางไปซีบู ต้องเลือกช่วงเวลาให้เหมาะสม เนื่องจากเมืองนี้เป็นเกาะ สภาพอากาศจะแปรปรวน สามารถเดินทางได้ตั้งแต่เดือน ธันวาคม – พฤษภาคมของทุกปี แถมสายการบินก็มีให้เลือกมากมายขึ้นอยู่กับราคาและความสะดวกสบายของนักเดินทางและมีหนึ่งสายการบินที่เดินทางจากเมืองไทยไปถึงซีบูแบบไม่ต้องต่อเครื่องนั้นคือ สายการบิน Philippine Airlines แต่ราคาค่อนข้างจะสูง (ว่างๆ สามารถตรวจเช็คโปรโมชั่นทางเว็บไซต์สายการบินได้เลยจ้า)
https://www.philippineairlines.com/en รวมทั้งยังมีสายการบินที่ราคาไม่แรง แต่ต้องต่อเครื่องที่เมืองมะนิลา ก่อนที่จะบินถึง
เมืองซีบูมีสายการบิน Air Asia และสายการบิน Cebu pacific นั้นเอง
ตารางกิจกรรม (1 - 5 May 2019)
DAYS 1
6.30 - ถึงสนามบิน MACTAN CEBU
8.30 - นั่งรถจากสนามบินไปยังเมือง OSLOB
12.00 - ถึงเมือง OSLOB เข้าที่พัก
17.30 - เดินชมโบราณสถาน Church of the Immaculate Conception
19.00 - เข้าที่พัก
DAYS 2
5.30 - ออกไปดู WHALE SHARK
9.00 - นั่งรถจาก OSLOB ไปยังเมือง MOALBOAL
12.00 - ถึงเมือง MOALBOAL เข้าที่พัก
13.00 - กิจกรรม ISLAND HOPING (SADEN RUN, TURTLE WATCHING)
19.00 - เข้าที่พัก
DAYS 3
7.00 - กิจกรรม CANYONEEING/KAWASAN FALLS
14.30 - นั่งรถจาก MOALBOAL ไปยังเมือง CEBU CITY
17.30 - ถึงเมือง CEBU CITY
20.00 - เข้าที่พัก
DAYS 4
9.00 - กิจกรรม CITY HOPING (เมืองเก่า/ป้อมปราการ/โบสถ์)
15.00 - ออกจากที่พักเดินทางไปยังสนามบิน MACAN CEBU
21.35 - ออกเดินทางจากเมือง CEBU ไป Bangkok
DAYS 5
00.30 - เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ
เวลา : เร็วกว่าประเทศไทย 1 ชั่วโมง (สว่างเร็ว และ มืดเร็ว)
สกุลเงิน : ฟิลิปปินส์เปโซ
ไฟฟ้า : 220v 60hz (ปลั๊กบ้านเราใช้ได้สบาย)
วันแรก (1 May 2019) Bangkok – Cebu - Oslob
ออกเดินทางจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ด้วยสายการบิน Philippine airlines เที่ยวบินที่ PR 739 Bangkok – Cebu เวลา 01.30 น. (ตามเวลาประเทศไทย) ซึ่งเคาเตอร์เช็คอินของสายการบินนี้จะอยู่ที่ประตูทางเข้าที่ 9 เค้าเตอร์ S17 – S20 เริ่มเช็คอินได้ตั้งแต่เวลา 22.30 น. เป็นต้นไป
(เค้าเตอร์เช็คอินของPhilippine Airlines)
หลังจากได้ Boarding Pass เรียบร้อยแล้ว เข้าไปนั่งรอขึ้นเครื่องที่ Gate C1 บนเครื่องบินเมื่อนั่งที่แล้วสิ่งแรกที่ต้องทำ คือ รีบขอผ้าห่ม เพราะของจะหมด ฮ่าๆ (การเดินทางใช้เวลาประมาน 3 ชั่วโมงครึ่ง – 4 ชั่วโมง) บนเครื่องบินมีบริการอาหาร + เครื่องดื่มบริการแบบเต็มรูปแบบ แถมยังมี WIFI
(ต้องโหลด Application MyPAL) ซึ่งสามารถเช็คเส้นทางการบิน หรือ ดูหนังได้อย่างสบายบนมือถือของเรา หลังจากนั้นสักพัก...พนักงานจะแจกใบกรอกคนเข้าเมือง และใบที่สามารถไปแลก TRAVEL SIM (Free)
(ใบตรวจคนเข้าเมือง)
หลับหนึ่งตื่นก็เดินทางมาถึงท่าอากาศยาน Mactan Cebu เวลา 06.30 น. ตามเวลาของประเทศฟิลิปปินส์ (เวลาเร็วกว่าบ้านเรา 1 ชั่วโมง) หลังจากออกจากเครื่องก็เดินทางไปยังด่านต.ม. เจ้าหน้าที่ที่นี่ใจดีจะถามแค่ว่ามาทำอะไร มาอยู่กี่วัน พักที่ไหน พอผ่านด่านก็ลงมาชั้นที่ 1 เพื่อรอรับกระเป๋า
จากนั้นเดินตรงออกจากสนามบินแล้วเดินไปซ้ายมือเพื่อทำการหาซื้อซิมโทรศัทพ์ (Sim Card) เราเลือกใช้บริการของค่าย Globe ซึ่งราคาแพ็คเก็จมีให้เลือกเยอะ เอาตามสะดวกเลย..... เราเลือก 20GB 7Days ราคา 500PHP
หมายเหตุ : สนามบินแห่งนี้จะมี 2 อาคาร คือ อาคาร 1 เป็นอาคารภายในประเทศ และ อาคาร 2 เป็นอาคารระหว่างประเทศ (อาคารที่เรามาลง คือ อาคาร 2 ผู้โดยสารระหว่างประเทศ เป็นอาคารใหม่เหมือนเพิ่งเปิดให้บริการไม่นานมานี้)
(อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ)
(จุดจำหน่าย Sim card)
ซื้อซิมการ์ดเสร็จเรียบร้อย จุดหมายในการเดินทางวันแรกของเราจะมุ่งหน้าสู่เมือง Oslob โดยการเดินทางมีให้เลือกอยู่ 2 แบบ คือ 1. นั่ง Taxi
จากสนาบินไปยัง South Bus Terminal แล้วต่อรถ Bus ไปยังเมือง Oslob จะใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 – 6 ชั่วโมง ข้อดีราคาค่อนข้างประหยัดมาก
ข้อเสียคือเวลานานในการต่อรถ 2. เหมารถจากสนามบินไปยังเมือง Oslob โดยตรง ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงโดยประมาณ ข้อดีสะดวก รวดเร็ว ข้อเสียคือราคาค่อนข้างแพง สำหรับเรานั้นเลือกใช้บริการแบบที่ 2 คือ เหมารถ Taxi จากสนามบินไปยังเมือง Oslob ราคาจะอยู่ที่ประมาณ (ต่อรองแบบสุดๆ) 3,000PHP ไม่เกินนี้ โดยใช้บริการ Taxi สีขาวแบบมิตเตอร์
Taxi สนามบินมีให้เลือกใช้บริการอยู่ 2 แบบ มีแบบ คันสีขาว คือ แบบกดมิตเตอร์ ราคาจะเริ่มตั้งแต่ 40PHP และ คันสีเหลือง ราคาจะเป็นแบบเหมามีราคาแพง ถ้าออกจากสนามบินมาจะมีป้ายบอกตามเสาอย่างชัดเจน
(ทางเดินไปขึ้น Taxi)
นั่งรถมุ่งลงใต้ของเกาะ ได้มองสองข้างทางของเมืองนี้ ซึ่งถนนมีแค่เพียง 2 เลนเท่านั้น รถก็เยอะ แถมแยกไฟแดงก็ถี่ ติดเหมือนบ้านเราเบาๆ 555 ทางที่วิ่งรถจะวิ่งเรียบริมทะเลไปเรื่อยๆ ทำให้ได้สัมผัสธรรมชาติที่งดงาม บ้านเมืองความเป็นอยู่ยังดูเหมือนประเทศไทยเมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว เป็นเมืองที่กำลังจะพัฒนาให้เป็นเมืองเศรษฐกิจในอนาคต...ใช้เวลาไม่นาน (ประมาณ 3 ชั่วโมงครึ่งได้) เราก็เดินทางมาถึงเมือง Oslob
Oslob (อ่านว่า ออส-รอบ) เป็นเมืองที่อยู่ทางตอนใต้ของเกาะซีบู ในเมือง oslob มี Church อาคารสถานที่อันเกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์ที่ได้รับ
การอนุรักษ์ไว้อย่างดีที่สุด และไฮไลท์ที่สำคัญของเมืองนี้ คือ การได้พบกับเจ้าฉลามวาฬอย่างใกล้ชิด คืนแรกเราจองจองที่พักไว้ที่
Down South 118 Beach Resort 1 คืน
https://www.facebook.com/downsouth118beachresort/ ในราคา 2,850PHP/คืน ห้องพักดี บรรยากาศสุดยอด การบริการของพนักงานดีมากๆ ให้คำแนะนำหลายๆอย่างเป็นอย่างดี เหมาะแก่การไปพักผ่อนเป็นอย่างมากที่สุด อาหารอร่อย ถ้าใครที่เดินทางไปแนะนำโรงแรมนี้
ข้อเสียคือในห้องสัญญาณไวไฟไม่แรงเท่าที่ควร น้ำไหลน้อย
(ทางเข้าที่พักเรา)
(ด้านหน้าติดทะเล)
(บรรยากาศภายใน)
(สะพานทอดยาวลงทะเล)
แพลนว่าจะไปเที่ยวในเมืองช่วงบ่าย แต่พอถามกับพนักงานโรงแรม เค้าแนะนำว่า ถ้าจะเดินทางไปเที่ยว Tumalog Fall ช่วงนี้น้ำน้อยไปแล้วไม่คุ้ม อีกที่ที่เราจะไป คือ Sumilon Island พนักงานก็ไม่แนะนำให้ไปในช่วงบ่ายเพราะถ้าไปช่วงบ่ายน้ำทะเลจะขึ้น และทะเลก็ไม่แหวกแล้วเดินทางไปก็ไม่คุ้มอีกเหมือนกัน... ดังนั้นกิจกรรมภาคบ่ายเราเลยขอพักผ่อนที่โรงแรม ถ่ายรูปเก็บภาพบรรยากาศโรงแรมดีกว่า ฮ่าๆ **ถ้าใครจะไปSumilon Island แนะนำให้ซื้อ 1 Days Trip ** ประมาณ 17.30 น. เราสอบถามพนักงานโรงแรมว่าจะเดินทางไป 7-11 อย่างไร พนักงานจึงเดินออกไปยังริมถนน
พร้อมกับโบกรถ 3 ล้อให้เรา ค่ารถประมาณ 10PHP/คน ใช้เวลาประมาณ 10 นาที ก็มาถึงใจกลางเมืองของที่นี่ เราเดินเที่ยวไปยังริมทะเลได้พบกับ Our Lady of the Immaculate Conception Church พิพิธภัณฑ์และซากโบราณสถาน Oslob (Cuartel) ซึ่งโบสถ์แห่งนี้แทนที่โบสถ์ Daanlungsod ที่ถูกทำลายและกลายเป็นเขตปกครองตนเองในปี 2390 หลังจากนั้นก็โดนไฟไหม้และทำลายคริสตจักรในปี 1955 และ 2008 และถูกสร้างใหม่อีกครั้งในปี 2010 โดยตั้งอยู่ริมทะเล และที่สำคัญซากโบราณสถานที่เห็นอยู่นั้นก่อสร้างด้วยปะการังจากท้องทะเลอย่างสวยงาม ซึ่งบริเวณโดยรอบเป็นสวนสาธารณะริมทะเลมีเพื่อไว้สำหรับพักผ่อนของผู้คนในเมืองนี้อีกด้วย
(อาคารของโบสถ์โบราณ)
ยังมีอีกมากมาย...เดี๋ยวมาชมกันต่อ ^^
[CR] [Review] CEBU "ราชินีแห่งแดนใต้" ไม่ลองไม่รู้ ควรคู่ต้องไป! @Philippines 2019 #พรี้แหน๋แถไปเที่ยว
แต่สำหรับนักเดินทางแบบ Backpacker ที่ชื่นชอบในกิจกรรมที่แสนจะท้าทาย และรักธรรมชาติอย่างพวกเรามันมีค่ามากเหลือเกิน
และมีความสุขมากเกินคำบรรยาย ผู้คนประเทศฟิลิปปินส์เต็มไปด้วยรอยยิ้ม มีความจริงใจ จิตใจดี และมีธรรมชาติที่งดงาม
“เกาะซีบู” (CEBU) หรือที่หลายคนเรียกอีกชื่อว่า “เซบู” เป็นหนึ่งในจำนวนเกาะทั้งหมดจาก 3,641 เกาะของประเทศฟิลิปปินส์
เกาะซีบู (CEBU) เป็นหนึ่งในจังหวัดที่มีการพัฒนาดีที่สุดของประเทศและเป็นเมืองหลักที่เป็นศูนย์กลางด้านการพาณิชยกรรม ด้านการค้า
ด้านการศึกษา และด้านอุตสาหกรรมของเกาะวิซายัส อีกทั้งยังโดดเด่นด้านการขนส่งทางทะเล ด้านการผลิตเฟอร์นิเจอร์ และด้านการท่องเที่ยว
บนเกาะซีบูมีจำนวนประชากรราว 3.85 ล้านคน โดยส่วนใหญ่จะพูดภาษาท้องถิ่น (ภาษา Cebuano) และสามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้อย่างดี
ในอดีตเมืองแห่งนี้เคยถูกปกครองโดยสเปนจึงหลงเหลือศิลปะสถาปัตยกรรมให้เห็นอยู่อาทิ บ้านเรือนที่มีสีสันสดใส ยานพาหนะที่ตกแต่งประดับประดา
ให้มีลวดลายและสีสันฉูดฉาดที่เป็นเอกลักษณ์ของเมืองนี้ เมืองซีบูเคยเป็นเมืองท่าที่สำคัญจึงทำให้มีวัฒนธรรมต่างถิ่นผสมผสานหลงเหลืออยู่
จะบรรยายไปก็กลัวจะน่าเบื่อ งั้นก็เริ่มเดินทางไปกับพวกเราได้เลย 555...
เมืองซีบูมีสายการบิน Air Asia และสายการบิน Cebu pacific นั้นเอง
ตารางกิจกรรม (1 - 5 May 2019)
DAYS 1
6.30 - ถึงสนามบิน MACTAN CEBU
8.30 - นั่งรถจากสนามบินไปยังเมือง OSLOB
12.00 - ถึงเมือง OSLOB เข้าที่พัก
17.30 - เดินชมโบราณสถาน Church of the Immaculate Conception
19.00 - เข้าที่พัก
DAYS 2
5.30 - ออกไปดู WHALE SHARK
9.00 - นั่งรถจาก OSLOB ไปยังเมือง MOALBOAL
12.00 - ถึงเมือง MOALBOAL เข้าที่พัก
13.00 - กิจกรรม ISLAND HOPING (SADEN RUN, TURTLE WATCHING)
19.00 - เข้าที่พัก
DAYS 3
7.00 - กิจกรรม CANYONEEING/KAWASAN FALLS
14.30 - นั่งรถจาก MOALBOAL ไปยังเมือง CEBU CITY
17.30 - ถึงเมือง CEBU CITY
20.00 - เข้าที่พัก
DAYS 4
9.00 - กิจกรรม CITY HOPING (เมืองเก่า/ป้อมปราการ/โบสถ์)
15.00 - ออกจากที่พักเดินทางไปยังสนามบิน MACAN CEBU
21.35 - ออกเดินทางจากเมือง CEBU ไป Bangkok
DAYS 5
00.30 - เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ
เวลา : เร็วกว่าประเทศไทย 1 ชั่วโมง (สว่างเร็ว และ มืดเร็ว)
สกุลเงิน : ฟิลิปปินส์เปโซ
ไฟฟ้า : 220v 60hz (ปลั๊กบ้านเราใช้ได้สบาย)
วันแรก (1 May 2019) Bangkok – Cebu - Oslob
ออกเดินทางจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ด้วยสายการบิน Philippine airlines เที่ยวบินที่ PR 739 Bangkok – Cebu เวลา 01.30 น. (ตามเวลาประเทศไทย) ซึ่งเคาเตอร์เช็คอินของสายการบินนี้จะอยู่ที่ประตูทางเข้าที่ 9 เค้าเตอร์ S17 – S20 เริ่มเช็คอินได้ตั้งแต่เวลา 22.30 น. เป็นต้นไป
(ต้องโหลด Application MyPAL) ซึ่งสามารถเช็คเส้นทางการบิน หรือ ดูหนังได้อย่างสบายบนมือถือของเรา หลังจากนั้นสักพัก...พนักงานจะแจกใบกรอกคนเข้าเมือง และใบที่สามารถไปแลก TRAVEL SIM (Free)
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น