"อยู่นนท์ไปเที่ยวที่ไหนดี?
ไป "เกาะเกร็ด" สิ
เพราะเกาะเกร็ด เป็นทีเด็ดเมืองนนท์"
ก่อนหน้าที่จะย้ายมาอยู่ที่นนท์ ก็คิดมาตลอดว่าอยากมาเที่ยว"เกาะเกร็ด" อยู่ตั้งชลบุรีก็ยังอยากมาหาได้ แต่หลังจากย้ายมาอยู่เมืองนนท์แล้ว ทั้งๆ ที่อยู่แค่ปลายจมูก ก็ยังไม่มีโอกาสจะได้ไปซักกะที
จนวันนี้แหละ ฤกษ์งามยามดีที่จะต้องล่าฝัน 555 ควบมอเตอร์ไซด์ออกจากหอตอน 9 โมงกว่าๆ ไปแบบงงๆ เพราะไม่มีแพลนไว้ก่อนหน้านี้ แต่ก็อย่างว่าแหละ ปกติก็เป็นแบบนี้ตล้อดดด
ถึงแม้ว่าหอจะใกล้จากเกาะเกร็ดไม่ถึง 5 กิโลเมตร แต่กว่าจะขี่รถไปถึงก็ใช้เวลาไปพอสมควร เพราะรถติดมาก อาจเพราะวันนี้เป็นวันอาทิตย์ด้วย เราขี่รถมุ่งหน้าไปที่ "วัดสนามเหนือ" สถานที่จอดรถสำหรับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางไปเกาะเกร็ด หากเป็นรถมอเตอร์ไซด์ก็ไม่ต้องเสียค่าที่จอดรถ แต่ถ้าเป็นรถยนต์ก็ต้องจ่ายค่าจอดรถด้วย (ไม่รู้เท่าไหร่) หาที่จอดรถได้แล้วก็หาทางไป "ท่าเรือเกาะเกร็ด" เพื่อข้ามฟากกัน
เเล้ว One day trip ณ เกาะเกร็ด ทีเด็ดเมืองนนท์ ก็เริ่มต้นขึ้น
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ที่เกาะเกร็ดจะมีจักรยานให้เช่าแบบเหมาตลอดทั้งวันในราคา 50 บาทต่อคัน แต่เพราะวันนี้อยากเดินสำรวจพื้นที่ก่อน เลยเดินยาวไปๆ
ทางเดินภายในวัดสนามเหนือที่จะพาไปยัง "ท่าเรือไปเกาะเกร็ด"
ระหว่างทางก่อนไปถึงท่าเรือก็จะมีร้านค้าขายหมวกสาน และพัด ราคานี้ถือว่าถูกมาก แถมมีแบบให้เลือกเยอะด้วย หากใครที่ไปช่วงเช้าแล้วไม่มีหมวกกับพัด แนะนำให้ซื้อติดตัวไปด้วยนะ โดยเฉพาะพัดจะเป็นอุปกรณ์ที่เลอค่ามากในขณะที่คุณกำลังเดินเที่ยวอยู่บนเกาะเกร็ด
ใส่ขนาดนี้ ไม่ต้องกลัวร้อน แต่ต้องกลัวคนเดินข้างๆ มองหน้าเอาได้นะ 5555
บนเรือที่ใช้ในการโดยสารข้ามฟาก เป็นแบบนี้ทุกลำ คือจะมีเก้าอี้พลาสติกมาวางเรียงไว้ให้นั่ง จะบอกว่าตอนขึ้นเรือจากฝั่งวัดสนามเหนือนั้นยังไม่ต้องจ่ายค่าเรือ ต้องไปจ่ายที่ท่าเกาะเกร็ด
มาถึงท่าเกาะเกร็ดแล้ว ค่าเรือ 2 บาท/คน/เที่ยว ถูกไปอีก แต่นอกจากที่เราจะมาเที่ยวแบบเดินชมรอบเกาะเองแล้วนั้น ที่นี่ยังมีบริการเรือนำเที่ยวที่จะพานักท่องเที่ยวไปทัวร์รอบเกาะ โดยจะจอด ณ ท่าเรือต่างๆ รอบเกาะ เพื่อชมสถานที่สำคัญๆ
ค่าบริการ
- ผู้ใหญ่ คนละ 70 บาท
- เด็ก คนละ 40 บาท
ราคานี้สำหรับวันหยุดเสาร์ อาทิตย์ และวันนักขัตฤกษ์นะ
วันธรรมดาจำไม่ได้จ้า
เมื่อเดินออกมาจากท่าเรือ สิ่งแรกที่จะเจอคือ "ร้านป้าอู๊ด" ที่ขายผัก สมุนไพรทอด ไม่ว่าจะเป็น กล้วยไม้ ดอกแค อัญชัน ดอกขจร ผักหวาน เห็ด ฯลฯ และยังมีทอดมันหน่อกะลาที่เป็นของขึ้นชื่อของเกาะเกล็ด
จัดไปหนึ่งชุด สามารถผสมกันได้ในราคา 50 บาทต่อชุด แต่ถ้าเดินเข้าไปอีก ก็จะเจอร้านขายแบบนี้อยู่เป็นระยะๆ และราคาก็ถูกกว่านี้ด้วย พลาดละ 555 กินไม่หมดด้วยแหละ กินได้แค่ครึ่งถ้วยก็เอียนน้ำมันแล้ว
เดินเข้ามาไม่นานก็จะผ่านวัดปรมัยยิกาวาส หรือวัดปากอ่าว ไปยัง "เจดีย์เอียง" ซิกเนเจอร์อีกอย่างหนึ่งของเกาะเกร็ด ซึ่งเป็นเจดีย์เก่าทรงมอญที่สร้างโดยชาวมอญมีอายุราว 300 ปี แต่เพราะถูกน้ำเซาะตลิ่งพังจึงทำให้ตัวเจดีย์ทรุดตัวลงมาอย่างที่เห็น
เดินย้อนกลับมาทางวัดปรมัยยิกาวาส ก็จะเจอเส้นทางเดินสำหรับทัวร์รอบเกาะ โดยสถานที่ต่อมาก็คือจุดเรียนรู้เครื่องปั้นดินเผา
ข้างในไม่ได้มีอะไร เป็นลานใต้ถุนบ้านที่วางเครื่องปั้นดินเผาแบบต่างๆ ไว้ให้นักท่องเที่ยวได้ชมกัน และไม่มีคนคอยให้ข้อมูลด้วย
ร้านขายเครื่องประดับหินแท้ที่เจอระหว่างทาง เห็นว่าสวยดี เส้นละ 35 บาทเอง
เดินเข้ามาเรื่อยๆ ก็จะเจอกับวัดที่สอง ก็คือวัดไผ่ล้อม ตามประวัติบอกว่าเป็นวัดโบราณที่สร้างมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา อาจจะเป็นวัดเก่าแก่ที่สุดวัดหนึ่งบนเกาะเกร็ด ถูกทิ้งร้างไปช่วงหนึ่งตอนที่พม่าเข้ามายึดเมืองนนทบุรี และได้ถูกปฏิสังขรณ์โดยชาวมอญหลังจากนั้น รูปทรงและโบราณสถานสำคัญจึงเป็นรูปแบบของมอญเป็นส่วนใหญ่
แวะมาให้อาหารปลา ปลาตัวใหญ่มากกก ยังคิดว่ามันจะทับกันตายหรือเปล่าตอนที่ต้องโผล่หัวมากินอาหาร
แวะร้านต้นไม้ร้านนี้เพราะเห็นว่าขายไม้มงคล อยากซื้อไปไว้ที่ห้อง ชื่อร้าน "บ้านหอมไม้สวย" ทีเด็ดร้านนี้คือพ่อค้าเคลมว่าถ้าซื้อไปแล้ว ต้นไม้ตาย ให้เอาป้ายขาวๆ ที่ปักอยู่ในกระถางมาหาพ่อค้า แล้วเค้าจะเปลี่ยนต้นไม้ให้ใหม่ฟรีๆ ตลอดชีพจ้า เพราะเค้าอยากสนับสนุนให้คนปลูกต้นไม้ ของชอบหล่าวของฟรีแบบนี้
เดินเที่ยวมาจนเกือบเที่ยง แล้วก็มาเจอกับศูนย์ส่งเสริมอาชีพนวดแผนไทยตำบลเกาะเกร็ดเข้า เห็นราคาแล้วรีบโดดเข้าไปข้างในเลย นวดตัวชั่วโมงละ 160 บาท ถูกมาก ที่นี่ก็มีนวดเท้า นวดคอ บ่า ไหล่ ด้วยนะ ราคายิ้มๆ
ออกจากศูนย์ ฯ ก็เดินลัดเลาะมาตามทาง เจอนักท่องเที่ยวขี่จักรยานกันเป็นระยะๆ มาเป็นครอบครัวบ้าง กลุ่มเพื่อนบ้าง
ยิ่งเดินลึกเข้าไป เราก็จะเจอแต่บ้านคนแบบนี้ไปตลอดทาง สลับกับร้านค้าของคนในหมู่บ้าน ลองถามป้าเจ้าถิ่นว่าถนนเส้นนี้จะไปที่ไหน เค้าบอกว่าเดินไปเรื่อยๆ ก็จะเป็นบ้านคน สวนของชาวบ้าน แล้วก็มีร้านอาหารประปราย (ต้องดูในรีวิวในเน็ตเอาเองว่าร้านไหนอยู่ละแวกไหน) และถนนก็จะวนไปสุดที่ท่าเรือที่เราเข้ามาตอนแรก ระยะทางหลายกิโลอยู่ ป้าเค้าบอกแบบนี้ ไม่บอกเป็นตัวเลขด้วย 5555 เราก็แบบไม่กล้าเสี่ยง ถ้าไม่รู้จะต้องเดินอีกกี่กิโล ตัดสินใจหันหลังกลับเลยจ้า
ออกแรงเดินมาตั้งแต่ตอนเช้า แวะเติมพลังด้วยก่วยเตี๋ยวเรือ อาหารขึ้นชื่ออีกอย่างของที่นี่ ไม่ว่าจะเดินไปร้านไหน สิ่งที่เจอเหมือนกันนอกจากหน้าตาก๋วยเตี๋ยวเรือแล้วนั้น คุณก็จะได้นั่งกินก่วยเตี๋ยวเรือริมแม่น้ำเจ้าพระยาแบบนี้เกือบทุกร้าน
ขอปิดท้ายด้วยรูปมินิบราวนี่ละกัน เอาจริงๆ ที่เกาะเกร็ดมีขนมขายเยอะมาก ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นขนมไทย (แล้วถ่ายบราวนี่มาทำไม 555) แต่ที่ดูเหมือนจะทำให้ขนมที่นี่ต่างออกไปคือ แต่ละร้านจะมีซิกเนเจอร์ของตัวเอง เช่น การทำขนมแบบมินิ แบบแปลกๆ หายากๆ ที่หาไม่ได้ตามตลาดทั่วไป หรือการตกแต่งร้านเพื่อเรียกลูกค้า พูดได้เต็มปากเลยว่าถ้ามาที่เกาะเกร็ดต้องเตรียมเงินมาซื้อขนมและของกินให้เยอะๆ เเล้วคุณจะพบความอิ่มเอมเปรมใจจากการกินที่แท้จริง
จบแล้วจ้า
หากใครมีโอกาสได้ไปเมืองนนท์ อย่าลืมแวะไปเที่ยวเกาะเกร็ดกันนะคะ แนะนำว่าให้ไปวันเสาร์ อาทิตย์ เพราะร้านค้าจะครึกครื้นกว่าวันธรรมดา ถึงแม้ว่าจะมนักท่องเที่ยวเยอะกว่าก็ตาม คิดซะว่าจะได้ไม่เงียบไม่เหงา
One Day Trip เที่ยวเกาะเกร็ด ทีเด็ดเมืองนนท์
ไป "เกาะเกร็ด" สิ
เพราะเกาะเกร็ด เป็นทีเด็ดเมืองนนท์"
ก่อนหน้าที่จะย้ายมาอยู่ที่นนท์ ก็คิดมาตลอดว่าอยากมาเที่ยว"เกาะเกร็ด" อยู่ตั้งชลบุรีก็ยังอยากมาหาได้ แต่หลังจากย้ายมาอยู่เมืองนนท์แล้ว ทั้งๆ ที่อยู่แค่ปลายจมูก ก็ยังไม่มีโอกาสจะได้ไปซักกะที
จนวันนี้แหละ ฤกษ์งามยามดีที่จะต้องล่าฝัน 555 ควบมอเตอร์ไซด์ออกจากหอตอน 9 โมงกว่าๆ ไปแบบงงๆ เพราะไม่มีแพลนไว้ก่อนหน้านี้ แต่ก็อย่างว่าแหละ ปกติก็เป็นแบบนี้ตล้อดดด
ถึงแม้ว่าหอจะใกล้จากเกาะเกร็ดไม่ถึง 5 กิโลเมตร แต่กว่าจะขี่รถไปถึงก็ใช้เวลาไปพอสมควร เพราะรถติดมาก อาจเพราะวันนี้เป็นวันอาทิตย์ด้วย เราขี่รถมุ่งหน้าไปที่ "วัดสนามเหนือ" สถานที่จอดรถสำหรับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางไปเกาะเกร็ด หากเป็นรถมอเตอร์ไซด์ก็ไม่ต้องเสียค่าที่จอดรถ แต่ถ้าเป็นรถยนต์ก็ต้องจ่ายค่าจอดรถด้วย (ไม่รู้เท่าไหร่) หาที่จอดรถได้แล้วก็หาทางไป "ท่าเรือเกาะเกร็ด" เพื่อข้ามฟากกัน
เเล้ว One day trip ณ เกาะเกร็ด ทีเด็ดเมืองนนท์ ก็เริ่มต้นขึ้น
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้