สวัสดีทุกคนนี่เป็นกระทู้เเรกของเราเอง
(ขอใช้แทนตัวเองว่าเรานะคะ) อยากจะบอกขั้นตอนตั้งแต่เริ่มหาที่เรียน
เตรียมเอกสารอะไรบ้าง และอยากเล่าประสบการณ์ตอนไปทำวีซ่าอเมริกาทั้ง2รอบในเดือนเดียวกันให้ฟัง
เพราะบางเหตุการณ์มันเกิดขึ้นกับเราแล้วไปหาข้อมูลในเน็ตไม่เจอ
และหวังว่าจะเป็นประโยชน์ให้กับคนอื่นๆนะคะ ถ้าผิดพลาดตรงไหนก็ขออภัยนะคะ
ขั้นตอนการหาที่เรียนและเตรียมเอกสารสำหรับสัมภาษณ์วีซ่าอเมริกา
1. อย่างเแรกเลยก็ต้องคิดก่อนว่าจะไปกี่เดือน เรียนรัฐไหน เมืองอะไร
2. จากนั้นก็หาสถาบันการเรียนในเมืองนั้น พร้อมทั้งอ่านเงื่อนไขการออกแบบฟอร์ม I-20 จากที่เรียน เพื่อเอาไปทำวีซ่าด้วย เช่น เราเองไปแค่ 2 เดือน หาที่เรียนยากหน่อย เพราะส่วนมากต้องเรียนอย่างน้อย 3 เดือนเขาถึงจะออกแบบฟอร์ม I-20 ให้ (เราเรียนที่ ELI ในซานฟรานซิสโก และหากต้องการที่พักเขาจัดหาให้เราได้ด้วย) ถ้าเลือกที่เรียนใกล้กับที่พักก็จะดีมากจะได้ไม่ต้องเสียเงินค่าเดินทาง
3. ระหว่างเลือกที่เรียน แนะนำให้เข้าไปกรอกข้อมูล DS-160ออนไลน์ที่เว็บ
https://ceac.state.gov/ceac/ ไว้ก่อนเลย เพราะมันเยอะมาก ถ้ากรอกไม่เสร็จสามารถเก็บเลข ID ไว้เพื่อล็อกอินเข้าไปกรอกอีกครั้งได้ ( วิธีกรอกเราทำตามกระทู้นี้
https://ppantip.com/topic/32189283 ดีมาก ละเอียดด้วย ต้องขอบคุณพี่คนนี้จริงๆ) และข้อเพิ่มเติมเนื่องจากเรากรอกปี2018 ในส่วนท้ายจะมีให้กรอกข้อมูลคนนอกครอบครัวเพิ่มเติม 2 คน เราใส่ข้อมูลอาจารย์ที มหาวิทยาลัยเราหน่ะ<<เนื่องจากเรายังเรียนอยู่เอกสารที่ต้องเตรียมคือ เอกสารการศึกษาเช่นใบรับรองการเป็นนศ ใบTranscript รูปถ่ายวีซ่าอเมริกา ใบstatementเงินเดือนพ่อหรือแม่หรือทั้งคู่ก็ได้ ใบstatementเงินในธนาคารของเราเอง/หากมี>> **ถ้ากรอกเสร็จแล้วปริ้นออกมาด้วยนะจ่ะ**
4. พอเลือกได้แล้วก็รีบติดต่อสถาบัน เขาจะขอข้อมูลส่วนตัว การศึกษา ข้อมูลทางการเงิน เพื่อออกแบบฟอร์ม I-20 เพราะกว่าเอกสารตัวจริงจะส่งมาก็ประมาณ 1 สัปดาห์ (ลืมบอกว่า แบบฟอร์ม I-20 ที่ใช้ยืนทำวีซ่าต้องเป็นตัวจริงที่เขาส่งข้ามประเทศมาให้) : เขาจะส่ง preview แบบฟอร์ม I-20 มาในเมลเพื่อให้เราตรวจสอบข้อมูล ก่อนที่จะส่งมาเป็นเอกสารจริงๆ
5. ระหว่างรอ I-20 ตัวจริง เราก็นำเลข SEVIS ID ที่อยู่บน preview I-20 ไปเสียเงิน $200 ในเว็บ
https://www.fmjfee.com/i901fee/index.html#
*จ่ายออนไลน์ (เก็บใบ SEVIS payment confirmation ไว้ เพราะต้องใช้ยื่นตอนสัมภาษณ์วีซ่า)
6. เข้าไปกรอกข้อมูลเพื่อทำการนัดวันสัมภาษณ์ที่สถานทูต (ต้องสร้างโพร์ไฟล์ก่อนนะ) ที่เว็บ
http://www.ustraveldocs.com/th_th/index.html?firstTime=No และต้องจ่ายค่าธรรมเนียมวีซ่า ประมาณ 5,440 บาท ก่อนถึงจะนัดวันได้ จะจ่ายเงินออนไลน์หรือที่ธนาคารกรุงศรีก็ได้ สำหรับใครที่จะจ่ายที่ธนาคาร ในเว็บจะมีใบสำหรับเสียเงินที่ธนาคารกรุงศรีและใบคำแนะนำในการโอนเงินให้เราปริ้นออกมาเอง เพื่อนำไปจ่ายที่ธนาคาร (เก็บใบเสร็จและใบแนะนำการโอนใว้ด้วย) เลขที่ใบเสร็จสำหรับทำการนัดสัมภาษณ์วีซ่า จะใช้ได้เมื่อจ่ายเงินผ่านไปแล้ว 1 วัน
7. หลังจากจ่ายค่าธรรมเนียมผ่านไป 1 วันแล้วก็นำเลขที่ใบเสร็จ ไปกรอก เพื่อทำการนัดวันสัมภาษณ์วีซ่าได้เลย ***>>ในส่วนนี้ เราแนะนำให้เช็ควันรับ I-20 ตัวจริงก่อน แล้วทำการนัดวันสัมภาษณ์<< (ปริ้นใบนัดด้วยนะจ๊ะ ไม่งั้นไม่ได้เข้ากงศุลนะจ๊ะ)
เอกสารที่ต้องเตรียมพอถึงวันสัมภาษณ์จริง (แนะนำให้ใส่ชุดนศไป)
1. DS-160 (ที่กรอกเสร็จแล้วนะ)
2. I-20 ตัวจริง
3. SEVIS payment confirmation
4. ใบเสร็จเสียเงินค่าธรรมเนียมวีซ่าจากธนาคารกรุงศรี
5. ใบนัดสัมภาษณ์วีซ่า
6. Passport (ถ้ามีเล่มเก่าให้เอาไปด้วย!)
7. ใบรับรองการเป็นนศ และ ใบTrascript
8. Statementเงินเดือนพ่อหรือแม่หรือทั้งคู่
9. รูปถ่ายวีซ่า 1 ใบ
ตอนเข้ากงศุล
ไปถึงก่อนสัก 1 ชั่วโมง (แต่ถึงจะมาเช้าก็ยังไม่ได้ทำอยู่ดี เพราะยังไงเขาก็เรียกสัมภาษณ์ตามเวลานัด แต่เข้าไปรอข้างในก่อนได้) นำโทรศัพท์เข้าได้แค่ 1 เครื่องเท่านั้น ไม่อนุญาติให้นำกระเป๋าเป้เข้า เอาเข้าได้แต่แบบกระเป๋าถือ (ถ้ามาจากต่างจังหวัดแล้วมีกระเป๋าเป้ แนะนำให้ไปฝากที่ร้านค้าก่อน)
>>พอเข้าไปแล้วให้นั่งรอ แล้วที่counterจะเรียกตามเวลานัด (กรณีนัดที่กทมนะ ที่เชียงใหม่เราไม่รู้เป็นยังไง) <<
**อย่าลืมจดเลขติดตามพัสดุนะคะ
คนที่counterจะแปะมาให้กับpassport เพื่อใช้ติดตามของ**
**สัมภาษณ์มี 3 ตอน**
ตอนที่ 1 เป็นคนไทยสัมภาษณ์ เช่น เคยวีซ่าอเมริกามาก่อนไหม จะไปทำอะไร นานแค่ไหน
ตอนที่ 2 เป็นฝรั่ง(แต่ก็ไม่ได้ถามอะไร แค่ยื่นDS-160ให้ดู)
ตอนที่ 3 ตอนนี้แหละที่โคตรลุ้นว่าจะผ่านหรือไม่ผ่าน เป็นฝรั่งสัมภาษณ์ สัมภาษณ์โหดอยู่นะ เตรียมข้อมูลไปดีๆ เขาถามอะไรแล้วมีเอกสารก็ยื่นให้ดูเลย
คำถามหลักๆก็คือ ทำไปอะไร(เราไปเรียน) เรียนที่ไหน ทำไมต้องไปเรียนที่อเมริกา ตอนนี้ทำอะไรอยู่ มีญาติ พี่น้อง คนรู้จักที่อเมริกาไหม แล้วจะไปพักที่ไหนใครเป็นคนออกเงินให้
*บางกระทู้ไม่ให้บอกว่ามีญาติอยู่ที่นั้นแม้ว่าจะมีก็เถอะ แต่สำหรับเรา เราตอบว่ามี เพราะในDS-160 เรากรอกว่ามี*
สรุป
"ไม่ผ่านจ้า" หน้าง่อยเดินออกมาแบบงงๆ ถามว่าทำไม ไม่ผ่านก็บอกแค่ว่า
คุณ คุณสมบัติไม่ตามข้อกำหนดไว้!!!!!
แต่ความพยายามไม่ได้ละ เลิกแค่นั้นไง คือจะไปอะ
มั่นใจว่าตัวเองไม่ได้ทำไรผิด คงแค่วันนี้ดวงไม่ดี
แชร์ประสบการณ์ตอนไปสัมภาษณ์2รอบ
ไปสัมภาษณ์รอบแรกเราไม่ได้ใส่ชุดนศ
ส่วนข้อมูลตอนกรอกDS-160เราเลือกเชียงใหม่ แต่นัดสัมภาษณ์ที่กทม กรณีของเราคือมันกระทันหัน
เราต้องรีบไปสัมภาษณ์ให้เร็วที่สุดก่อนถึงสิ้นเดือนตุลาคม
แล้วกงศุลที่เชียงใหม่ว่างแค่ช่วงสิ้นเดือน เราก็เลยเลือกที่สัมภาษณ์เป็นกรุงเทพ
เพราะว่างตั้งแต่ต้นเดือนเลย ฉะนั้นใบนัดเราจะไม่ตรงกับใบDS-160 ทำให้พอสัมภาษณ์ตอนที่
1 เสร็จ ยังไม่ได้ไปต่อตอนที่2นะคะ (เราต้องไปนั่งรอก่อน
เพื่อรอดึงข้อมูลจากเชียงใหม่ นั่งนานเลยจ่ะ) หลังจากนั้นเขาจะเรียกชื่อใหม่
แล้วเข้าไปสัมภาษณ์ปกติตอนที่1,2 ผ่านไป พอถึงตอนที่ 3 ก็ถามปกติแต่เราไม่ได้ยื่นเอกสารอะไรให้เลยเว้ย
อุตส่าเตรียมมา
ผลคือ "ไม่ผ่าน" เราหัวร้อนมาก รีบเดินออกมาไม่ทันได้ถามว่า
ทำไมถึงไม่ผ่าน หัวร้อน! ระหว่างทางที่ไปหมอชิต
เจอพี่ๆกลุ่มนึง
เขามาทักว่า "ใช่น้องที่ไปสัมภาษณ์วีซ่าไหม ผลเป็นไงบ้าง?"
เราก็ตอบไป "ไม่ผ่านอะพี่"
พี่เขาตอบมาทันทีว่า "พี่ไปกัน 6 คนก็ไม่ผ่านทั้ง6คนเลยเหมือนกัน"
แล้วก็เม้ากันว่าใช่เจ้คนนั้นไหมที่มาสัม ฮร่าๆ
และก็คิดว่าจะไม่มาทำอีกหล่ะ เพราะจากที่เคยหาในเน็ต เขาบอกว่าให้เว้นระยะห่างสักเดือน หรือปี หากมาทำต่อเนื่องเลยผลก็จะออกมาเหมือนเดิม แต่ก็ต้องลองเสี่ยงดู บวกกับพ่อกับแม่ก็เกลี่ยกล่อมให้มาทำอีกรอบด้วย
หลังผ่านไป 1 สัปดาห์ก็ไปสัมภาษณ์อีกรอบ
ไปสัมภาษณ์รอบที่สอง
เราต้องกรอกDS-160ใหม่, จ่ายค่าธรรมเนียมวีซ่าใหม่
แต่ยังใช้ I-20และSEVIS อันเดิมจ้า
คราวนี้แต่งชุดนศไป
แต่ข้อมูลเราเป็นเหมือนเดิมอีกแล้ว คือไม่ได้ตั้งใจให้ข้อมูลตอนกรอกDS-160เป็นเชียงใหม่
แต่นัดสัมภาษณ์ที่กทม เพราะรอบสองเราคิดว่าจะทำที่เชียงใหม่แน่นอนหล่ะ
แต่ก็ไม่มีวันว่างอีกเหมือนเคยก็เลยต้องนัดสัมภาษณ์ที่กทมมันเป็นลูปเดิมเลยคือ
นั่งรอดึงข้อมูลจากเชียงใหม่ ผ่านตอนที่1,2 ไป แต่รอบนี้ สัมภาษณ์ตอนที่ 3 ฝรั่งที่ถามไม่ใช่คนเดิมนะจ่ะ
และครั้งนี้เขาถามอะไรมา เรายื่นเอกสารให้ทุกครั้ง ยื่นให้จนหมดตัว
จนเขาบอกไม่ดูแล้ว ผลสุดท้ายเขาเอาสมุดพาสปอร์ตไป คือ "ผ่านจ้า" ได้มา5ปี อิ้อิ้ (3วัน รอรับได้เลย)
แล้วจะมารีวิวที่เรียนELI ให้ฟังนาจา
หวังว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่ยังไม่เคยทำนำคะ
แนะนำขั้นตอนการไปเรียนภาษาที่อเมริกา และเล่าการทำวีซ่าสองรอบในเดือนเดียวกัน
(ขอใช้แทนตัวเองว่าเรานะคะ) อยากจะบอกขั้นตอนตั้งแต่เริ่มหาที่เรียน
เตรียมเอกสารอะไรบ้าง และอยากเล่าประสบการณ์ตอนไปทำวีซ่าอเมริกาทั้ง2รอบในเดือนเดียวกันให้ฟัง
เพราะบางเหตุการณ์มันเกิดขึ้นกับเราแล้วไปหาข้อมูลในเน็ตไม่เจอ
และหวังว่าจะเป็นประโยชน์ให้กับคนอื่นๆนะคะ ถ้าผิดพลาดตรงไหนก็ขออภัยนะคะ
ขั้นตอนการหาที่เรียนและเตรียมเอกสารสำหรับสัมภาษณ์วีซ่าอเมริกา
1. อย่างเแรกเลยก็ต้องคิดก่อนว่าจะไปกี่เดือน เรียนรัฐไหน เมืองอะไร
2. จากนั้นก็หาสถาบันการเรียนในเมืองนั้น พร้อมทั้งอ่านเงื่อนไขการออกแบบฟอร์ม I-20 จากที่เรียน เพื่อเอาไปทำวีซ่าด้วย เช่น เราเองไปแค่ 2 เดือน หาที่เรียนยากหน่อย เพราะส่วนมากต้องเรียนอย่างน้อย 3 เดือนเขาถึงจะออกแบบฟอร์ม I-20 ให้ (เราเรียนที่ ELI ในซานฟรานซิสโก และหากต้องการที่พักเขาจัดหาให้เราได้ด้วย) ถ้าเลือกที่เรียนใกล้กับที่พักก็จะดีมากจะได้ไม่ต้องเสียเงินค่าเดินทาง
3. ระหว่างเลือกที่เรียน แนะนำให้เข้าไปกรอกข้อมูล DS-160ออนไลน์ที่เว็บ https://ceac.state.gov/ceac/ ไว้ก่อนเลย เพราะมันเยอะมาก ถ้ากรอกไม่เสร็จสามารถเก็บเลข ID ไว้เพื่อล็อกอินเข้าไปกรอกอีกครั้งได้ ( วิธีกรอกเราทำตามกระทู้นี้ https://ppantip.com/topic/32189283 ดีมาก ละเอียดด้วย ต้องขอบคุณพี่คนนี้จริงๆ) และข้อเพิ่มเติมเนื่องจากเรากรอกปี2018 ในส่วนท้ายจะมีให้กรอกข้อมูลคนนอกครอบครัวเพิ่มเติม 2 คน เราใส่ข้อมูลอาจารย์ที มหาวิทยาลัยเราหน่ะ<<เนื่องจากเรายังเรียนอยู่เอกสารที่ต้องเตรียมคือ เอกสารการศึกษาเช่นใบรับรองการเป็นนศ ใบTranscript รูปถ่ายวีซ่าอเมริกา ใบstatementเงินเดือนพ่อหรือแม่หรือทั้งคู่ก็ได้ ใบstatementเงินในธนาคารของเราเอง/หากมี>> **ถ้ากรอกเสร็จแล้วปริ้นออกมาด้วยนะจ่ะ**
4. พอเลือกได้แล้วก็รีบติดต่อสถาบัน เขาจะขอข้อมูลส่วนตัว การศึกษา ข้อมูลทางการเงิน เพื่อออกแบบฟอร์ม I-20 เพราะกว่าเอกสารตัวจริงจะส่งมาก็ประมาณ 1 สัปดาห์ (ลืมบอกว่า แบบฟอร์ม I-20 ที่ใช้ยืนทำวีซ่าต้องเป็นตัวจริงที่เขาส่งข้ามประเทศมาให้) : เขาจะส่ง preview แบบฟอร์ม I-20 มาในเมลเพื่อให้เราตรวจสอบข้อมูล ก่อนที่จะส่งมาเป็นเอกสารจริงๆ
5. ระหว่างรอ I-20 ตัวจริง เราก็นำเลข SEVIS ID ที่อยู่บน preview I-20 ไปเสียเงิน $200 ในเว็บ https://www.fmjfee.com/i901fee/index.html#
*จ่ายออนไลน์ (เก็บใบ SEVIS payment confirmation ไว้ เพราะต้องใช้ยื่นตอนสัมภาษณ์วีซ่า)
6. เข้าไปกรอกข้อมูลเพื่อทำการนัดวันสัมภาษณ์ที่สถานทูต (ต้องสร้างโพร์ไฟล์ก่อนนะ) ที่เว็บ http://www.ustraveldocs.com/th_th/index.html?firstTime=No และต้องจ่ายค่าธรรมเนียมวีซ่า ประมาณ 5,440 บาท ก่อนถึงจะนัดวันได้ จะจ่ายเงินออนไลน์หรือที่ธนาคารกรุงศรีก็ได้ สำหรับใครที่จะจ่ายที่ธนาคาร ในเว็บจะมีใบสำหรับเสียเงินที่ธนาคารกรุงศรีและใบคำแนะนำในการโอนเงินให้เราปริ้นออกมาเอง เพื่อนำไปจ่ายที่ธนาคาร (เก็บใบเสร็จและใบแนะนำการโอนใว้ด้วย) เลขที่ใบเสร็จสำหรับทำการนัดสัมภาษณ์วีซ่า จะใช้ได้เมื่อจ่ายเงินผ่านไปแล้ว 1 วัน
7. หลังจากจ่ายค่าธรรมเนียมผ่านไป 1 วันแล้วก็นำเลขที่ใบเสร็จ ไปกรอก เพื่อทำการนัดวันสัมภาษณ์วีซ่าได้เลย ***>>ในส่วนนี้ เราแนะนำให้เช็ควันรับ I-20 ตัวจริงก่อน แล้วทำการนัดวันสัมภาษณ์<< (ปริ้นใบนัดด้วยนะจ๊ะ ไม่งั้นไม่ได้เข้ากงศุลนะจ๊ะ)
เอกสารที่ต้องเตรียมพอถึงวันสัมภาษณ์จริง (แนะนำให้ใส่ชุดนศไป)
1. DS-160 (ที่กรอกเสร็จแล้วนะ)
2. I-20 ตัวจริง
3. SEVIS payment confirmation
4. ใบเสร็จเสียเงินค่าธรรมเนียมวีซ่าจากธนาคารกรุงศรี
5. ใบนัดสัมภาษณ์วีซ่า
6. Passport (ถ้ามีเล่มเก่าให้เอาไปด้วย!)
7. ใบรับรองการเป็นนศ และ ใบTrascript
8. Statementเงินเดือนพ่อหรือแม่หรือทั้งคู่
9. รูปถ่ายวีซ่า 1 ใบ
ตอนเข้ากงศุล
ไปถึงก่อนสัก 1 ชั่วโมง (แต่ถึงจะมาเช้าก็ยังไม่ได้ทำอยู่ดี เพราะยังไงเขาก็เรียกสัมภาษณ์ตามเวลานัด แต่เข้าไปรอข้างในก่อนได้) นำโทรศัพท์เข้าได้แค่ 1 เครื่องเท่านั้น ไม่อนุญาติให้นำกระเป๋าเป้เข้า เอาเข้าได้แต่แบบกระเป๋าถือ (ถ้ามาจากต่างจังหวัดแล้วมีกระเป๋าเป้ แนะนำให้ไปฝากที่ร้านค้าก่อน)
>>พอเข้าไปแล้วให้นั่งรอ แล้วที่counterจะเรียกตามเวลานัด (กรณีนัดที่กทมนะ ที่เชียงใหม่เราไม่รู้เป็นยังไง) <<
**อย่าลืมจดเลขติดตามพัสดุนะคะ
คนที่counterจะแปะมาให้กับpassport เพื่อใช้ติดตามของ**
**สัมภาษณ์มี 3 ตอน**
ตอนที่ 1 เป็นคนไทยสัมภาษณ์ เช่น เคยวีซ่าอเมริกามาก่อนไหม จะไปทำอะไร นานแค่ไหน
ตอนที่ 2 เป็นฝรั่ง(แต่ก็ไม่ได้ถามอะไร แค่ยื่นDS-160ให้ดู)
ตอนที่ 3 ตอนนี้แหละที่โคตรลุ้นว่าจะผ่านหรือไม่ผ่าน เป็นฝรั่งสัมภาษณ์ สัมภาษณ์โหดอยู่นะ เตรียมข้อมูลไปดีๆ เขาถามอะไรแล้วมีเอกสารก็ยื่นให้ดูเลย
คำถามหลักๆก็คือ ทำไปอะไร(เราไปเรียน) เรียนที่ไหน ทำไมต้องไปเรียนที่อเมริกา ตอนนี้ทำอะไรอยู่ มีญาติ พี่น้อง คนรู้จักที่อเมริกาไหม แล้วจะไปพักที่ไหนใครเป็นคนออกเงินให้
*บางกระทู้ไม่ให้บอกว่ามีญาติอยู่ที่นั้นแม้ว่าจะมีก็เถอะ แต่สำหรับเรา เราตอบว่ามี เพราะในDS-160 เรากรอกว่ามี*
สรุป
"ไม่ผ่านจ้า" หน้าง่อยเดินออกมาแบบงงๆ ถามว่าทำไม ไม่ผ่านก็บอกแค่ว่า
คุณ คุณสมบัติไม่ตามข้อกำหนดไว้!!!!!
แต่ความพยายามไม่ได้ละ เลิกแค่นั้นไง คือจะไปอะ
มั่นใจว่าตัวเองไม่ได้ทำไรผิด คงแค่วันนี้ดวงไม่ดี
แชร์ประสบการณ์ตอนไปสัมภาษณ์2รอบ
ไปสัมภาษณ์รอบแรกเราไม่ได้ใส่ชุดนศ
ส่วนข้อมูลตอนกรอกDS-160เราเลือกเชียงใหม่ แต่นัดสัมภาษณ์ที่กทม กรณีของเราคือมันกระทันหัน
เราต้องรีบไปสัมภาษณ์ให้เร็วที่สุดก่อนถึงสิ้นเดือนตุลาคม
แล้วกงศุลที่เชียงใหม่ว่างแค่ช่วงสิ้นเดือน เราก็เลยเลือกที่สัมภาษณ์เป็นกรุงเทพ
เพราะว่างตั้งแต่ต้นเดือนเลย ฉะนั้นใบนัดเราจะไม่ตรงกับใบDS-160 ทำให้พอสัมภาษณ์ตอนที่
1 เสร็จ ยังไม่ได้ไปต่อตอนที่2นะคะ (เราต้องไปนั่งรอก่อน
เพื่อรอดึงข้อมูลจากเชียงใหม่ นั่งนานเลยจ่ะ) หลังจากนั้นเขาจะเรียกชื่อใหม่
แล้วเข้าไปสัมภาษณ์ปกติตอนที่1,2 ผ่านไป พอถึงตอนที่ 3 ก็ถามปกติแต่เราไม่ได้ยื่นเอกสารอะไรให้เลยเว้ย
อุตส่าเตรียมมา
ผลคือ "ไม่ผ่าน" เราหัวร้อนมาก รีบเดินออกมาไม่ทันได้ถามว่า
ทำไมถึงไม่ผ่าน หัวร้อน! ระหว่างทางที่ไปหมอชิต
เจอพี่ๆกลุ่มนึง
เขามาทักว่า "ใช่น้องที่ไปสัมภาษณ์วีซ่าไหม ผลเป็นไงบ้าง?"
เราก็ตอบไป "ไม่ผ่านอะพี่"
พี่เขาตอบมาทันทีว่า "พี่ไปกัน 6 คนก็ไม่ผ่านทั้ง6คนเลยเหมือนกัน"
แล้วก็เม้ากันว่าใช่เจ้คนนั้นไหมที่มาสัม ฮร่าๆ
และก็คิดว่าจะไม่มาทำอีกหล่ะ เพราะจากที่เคยหาในเน็ต เขาบอกว่าให้เว้นระยะห่างสักเดือน หรือปี หากมาทำต่อเนื่องเลยผลก็จะออกมาเหมือนเดิม แต่ก็ต้องลองเสี่ยงดู บวกกับพ่อกับแม่ก็เกลี่ยกล่อมให้มาทำอีกรอบด้วย
หลังผ่านไป 1 สัปดาห์ก็ไปสัมภาษณ์อีกรอบ
ไปสัมภาษณ์รอบที่สอง
เราต้องกรอกDS-160ใหม่, จ่ายค่าธรรมเนียมวีซ่าใหม่
แต่ยังใช้ I-20และSEVIS อันเดิมจ้า
คราวนี้แต่งชุดนศไป
แต่ข้อมูลเราเป็นเหมือนเดิมอีกแล้ว คือไม่ได้ตั้งใจให้ข้อมูลตอนกรอกDS-160เป็นเชียงใหม่
แต่นัดสัมภาษณ์ที่กทม เพราะรอบสองเราคิดว่าจะทำที่เชียงใหม่แน่นอนหล่ะ
แต่ก็ไม่มีวันว่างอีกเหมือนเคยก็เลยต้องนัดสัมภาษณ์ที่กทมมันเป็นลูปเดิมเลยคือ
นั่งรอดึงข้อมูลจากเชียงใหม่ ผ่านตอนที่1,2 ไป แต่รอบนี้ สัมภาษณ์ตอนที่ 3 ฝรั่งที่ถามไม่ใช่คนเดิมนะจ่ะ
และครั้งนี้เขาถามอะไรมา เรายื่นเอกสารให้ทุกครั้ง ยื่นให้จนหมดตัว
จนเขาบอกไม่ดูแล้ว ผลสุดท้ายเขาเอาสมุดพาสปอร์ตไป คือ "ผ่านจ้า" ได้มา5ปี อิ้อิ้ (3วัน รอรับได้เลย)
แล้วจะมารีวิวที่เรียนELI ให้ฟังนาจา
หวังว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่ยังไม่เคยทำนำคะ