1 นัดเยือนเรือ หลายคนบอกคือนัดตัดสินแชมป์ แต่จริงๆแล้วไม่ใช่
ถ้าก่อนไปเยือนมีแต้มนำมากกว่า 3 แต้ม ยังไงก็ยังได้เปรียบ เผื่อแต้มแพ้ไว้แล้ว
แต่ความเป็นจริงนำถึง 7 แต้ม แพ้ก็ยังนำอยู่ 4
2 นัดที่ 27 เยือนผี หงส์นำเรืออยู่ 3แต้ม(คิดที่เตะเท่ากัน)
เป็นช่วงปลายๆของโอเล่เอฟเฟคแล้ว ผีเริ่มแผ่วแล้ว ตัวเจ็บก็เยอะ พอแข่งก็เจ็บเพิ่มอีกตั้งแต่ครึ่งแรกเลย 3ตัว
แต่ครึ่งหลังคล๊อปเลือกที่จะเล่นเซฟ ไม่เปิดหน้าแลก พอใจกับผลเสมอ ทั้งที่สถานการณ์ได้เปรียบโขเลย
3 นัดที่ 29 เยือนเอฟ ก่อนเกมส์โดนเรือแซงไปแล้ว 2แต้มเพราะเรือเตะก่อน ต้องเก็บชัยเท่านั้นถึงจะกลับไปนำ 1 แต้ม
แต่คล๊อปก็ยังพอใจกับผลเสมอ
ช่วงท้ายเปลี่ยนมิลเนอร์แทนดุม
และที่พีคกว่าคือเปลี่ยนลัลลาน่าลงแทนมาเน่
เปลี่ยนเหมือนปิดเกมส์ ไม่เอา ไม่เสี่ยงแล้ว
พอใจกับการให้ซิตี้แซง และแซงยาวจนถึงวันสุดท้าย
ปีนี้ตามดูแทบทุกนัด บอกเลยซิตี้ไม่ดีกว่าจนหงส์สู้ไม่ได้
มีแต่ความกล้าและทัศนคติในการเล่นเพื่อแชมป์ล้วนๆที่ซิตี้เหนือกว่า
Timeline สำคัญที่ทำให้หงส์ไม่ถึงแชมป์(อีกแล้ว) ไม่ใช่ไม่ดีเท่า แต่ไม่กล้าเท่า
ถ้าก่อนไปเยือนมีแต้มนำมากกว่า 3 แต้ม ยังไงก็ยังได้เปรียบ เผื่อแต้มแพ้ไว้แล้ว
แต่ความเป็นจริงนำถึง 7 แต้ม แพ้ก็ยังนำอยู่ 4
2 นัดที่ 27 เยือนผี หงส์นำเรืออยู่ 3แต้ม(คิดที่เตะเท่ากัน)
เป็นช่วงปลายๆของโอเล่เอฟเฟคแล้ว ผีเริ่มแผ่วแล้ว ตัวเจ็บก็เยอะ พอแข่งก็เจ็บเพิ่มอีกตั้งแต่ครึ่งแรกเลย 3ตัว
แต่ครึ่งหลังคล๊อปเลือกที่จะเล่นเซฟ ไม่เปิดหน้าแลก พอใจกับผลเสมอ ทั้งที่สถานการณ์ได้เปรียบโขเลย
3 นัดที่ 29 เยือนเอฟ ก่อนเกมส์โดนเรือแซงไปแล้ว 2แต้มเพราะเรือเตะก่อน ต้องเก็บชัยเท่านั้นถึงจะกลับไปนำ 1 แต้ม
แต่คล๊อปก็ยังพอใจกับผลเสมอ
ช่วงท้ายเปลี่ยนมิลเนอร์แทนดุม
และที่พีคกว่าคือเปลี่ยนลัลลาน่าลงแทนมาเน่
เปลี่ยนเหมือนปิดเกมส์ ไม่เอา ไม่เสี่ยงแล้ว
พอใจกับการให้ซิตี้แซง และแซงยาวจนถึงวันสุดท้าย
ปีนี้ตามดูแทบทุกนัด บอกเลยซิตี้ไม่ดีกว่าจนหงส์สู้ไม่ได้
มีแต่ความกล้าและทัศนคติในการเล่นเพื่อแชมป์ล้วนๆที่ซิตี้เหนือกว่า