สวัสดีค่าทุกคน สำหรับใครที่มองหาสถานที่ท่องเที่ยวในญี่ปุ่น หรือยังไม่มีแพลนในหัว เบื่อใจกลางเมือง เบื่อผู้คนพลุกพล่าน อยากลองเที่ยวแบกกระเป๋ากับกลุ่มเพื่อน วันนี้เราจะมารีวิวสถานที่ท่องเที่ยวญี่ปุ่นที่เราพึ่งไปมาค่ะ เกริ่นไว้ก่อนค่ะว่าเรามีเพื่อนร่วมทางเป็นนักศึกษากลุ่มเที่ยวแบ็กแพ็ค10คน ล้วนเที่ยวต่างประเทศครั้งแรก ไปงง ไปหลงในญี่ปุ่นถือเรื่องปกติเพราะสถานีรถไฟใหญ่กว่าไทยหลายเท่าเลย ใช้เวลาเที่ยวเดินทาง 8 วัน ที่พักอาจเป็นแบบนอนรวมในบางที่ ส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายแนะนำให้ซื้อตั๋ว JR PASS มีสำหรับท่องเที่ยว7 วัน ในราคาแล้วแต่โปรโมชั่นเราได้มาในราคา85xx รวม pocket wifi 2 เครื่อง 8 วัน ในการนั่งรถไฟที่ญี่ปุ่นราคานี้ถือว่าคุ้มมากๆ 
มาเริ่มเดินทางกันเล๊ยยย สิ่งที่ห้ามลืมเด็ดขาดในการเดินทางก็คือพาสปอร์ต วันที่เราออกเดินเวลาคือวันที่1-8 พ.ค 2562  ออกเดินทางเวลา 03.30 น. โดยใช้สายการบิน Hong Kong Airlines แล้วต่อเครื่องไปยังสนามบินนาริตะ
สำหรับสายการบิน Hong Kong Airlines เป็นสายการบินแบบ Full Services กำหนดให้สามารถโหลดกระเป๋าได้คนละไม่เกิน 20 กิโลกรัมผู้โดยสารสามารถเข้าไปทำการเช็คอินออนไลน์ล่วงหน้าได้ 48 ชั่วโมงก่อนการเดินทาง ได้ที่ www.hongkongairlines.com โดยปกติทางสายการบินจะระบุที่นั่งให้เราอัตโนมัติ แต่ถ้าเราไม่พอใจสามารถเปลี่ยนแปลงและเลือกที่นั่งใหม่ในขั้นตอนนี้ได้เลย จากนั้นสายการบินก็จะส่ง File เป็น PDF ให้เราปริ้น Boarding Pass ในกรณีไม่โหลดกระเป๋าสามารถนำไปยื่นเพื่อขึ้นเครื่องได้เลย หรือถ้าในกรณีที่มีการโหลดกระเป๋า เคาเตอร์เช็คอินของสายการบิน Hong Kong Airlines ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ทางพนักงานสายการบินจะทำการพริ้น Boarding Pass ให้ใหม่ มา 2 ใบ คือ ใบแรกคือไฟล์จาก สุวรรณภูมิ > ฮ่องกง และ อีกใบเป็นไฟล์ ฮ่องกง > นาริตะ

โดยกระเป๋าที่โหลดจะทำการ ส่งตรงไปรอรับกระเป๋ายังสนามบินนาริตะเลย ขั้นตอนนี้ก็ดี๊ดีผู้โดยสารอย่างเราจะได้ไม่ต้องเสียเวลาในการขนสัมภาระ ช่วงเวลาที่เราเดินทางจะเป็นช่วงฤดูใบไม้ผลิค่ะ แต่อย่าชะล่าใจว่ามาชมแต่ดอกไม้แล้วอากาศจะไม่หนาวนะคะ ตอนเช้ากับตอนเย็นอากาศค่อนข้างต่ำแนะนำให้พกเสื้อผ้าที่กันลมและโค๊ทกันหนาวด้วยค่ะ

ในการใช้รถไฟที่ญี่ปุ่นค่อนข้างซับซ้อนค่ะเพราะมีหลากหลายสถานีมาก มีเว็บไซต์สำหรับใช้ในการเดินทางรถไฟมาแนะนำค่า http://www.hyperdia.com/en/ มีให้เลือกทั้งภาษาอังกฤษและภาษาญี่ปุ่น ช่วยให้สะดวกรวดเร็วในการค้นหาข้อมูลที่ถูกต้อง 

เพียงระบุสถานีต้นทางและปลายทางที่ต้องการไป วันที่พร้อมกับเวลาที่เริ่มต้นเดินทาง ระบบก็จะทำการค้นหาวิธีการที่ไปถึงเป้าหมาย

ถึงสนามบินฮ่องกงเวลา 08.05 น. แล้วต่อเครื่องไปยังถึงสนามบินนาริตะเวลา 14.55 น.จากนั้นนั่งรถไฟไปยังสถานี Tokyo ใช้เวลา 1 ชม และต่อรถไฟไปยังสถานี Tazawako

วันแรกอาจจะใช้เวลาในการเดินทางยาวนานเล็กน้อย ที่พักของเราคือReal Japan Local Stay near lake เดินทางถึงสถานี JR tazawako เวลา4ทุ่มเป็นเวลาที่ค่อนข้างดึกแต่เจ้าของบ้านน่ารักมาก นำรถมารอรับที่สถานีถึง3คัน ใครที่จะเข้าพักที่นี่แนะนำให้ซื้อขนมติดกระเป๋าไว้ด้วยค่ะ เพราะซุปเปอร์มาร์เก็ตค่อนข้างไกล ที่นอนจะรวมค่ะ ห้องละ6 คน 

คืนแรกเจ้าของบ้านได้มีการแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวให้เราด้วยค่ะเนื่องจากบางสถานที่ดอกไม้อาจจะไม่บาน หรือระยะทางอาจไกล คืนแรกพักผ่อนเก็บแรงไว้เที่ยวพรุ่งนี้กันค่า

****รีวิววันที่2****
ต่อกับการท่องเที่ยววันที่2 เนื่องจากที่พักเป็นแบบฟาร์มสเตย์ ในตอนเช้าจึงมึกิจกรรมให้ทำร่วมกับเจ้าของบ้านก่อนออกไปท่องเที่ยวด้านนอก การทานอาหารเช้าของที่นี่จะเป็นแบบเซ็ตปลาย่าง มีซุปหอยอาซาริ ข้าว และเครื่องเคียงค่ะทานอาหารเช้าเสร็จเราก็ได้มีการไปทำกิจกรรมกับทางที่พัก ซึ่งกิจกรรมจะขึ้นอยู่กับฤดูกาล บริเวณรอบจะมีการทำการเกษตร ซึ่งกิจกรรมที่เราได้ทำร่วมกับเจ้าของบ้านคือช่วยกันปลูกเมล็ดพันธ์ุผัก เช่น ข้าวโพด ถั่วแระ กระเจี๊ยบ เป็นต้น
ร  จากนั้นเราก็ได้มีการไปเที่ยวชม ดอกซากุระบริเวณรอบทะเลสาบทาซาวาโกะซึ่งไม่ไกลมากจากที่พักสามารถเดินไปได้ เป็นบริเวณที่มีดอกซากุระบาน นักท่องเที่ยวบางตาค่ะ ส่วนสภาพอากาศลมค่อนข้างแรง อากาศเย็น มีฝนโปรย พกร่มไปกันด้วยนะคะ 



อากาศเย็นๆเดินทั้งวันก็เหงื่อไม่ออก เดินย้อนกลับมาตามถนนก็มีต้นสนเรียงรายกันมากมาย ทางด้านซ้ายมือของเราเป็นทะเลสาบทาซาวะโกะ เป็นทะเลสาบน้ำจืดรูปวงกลมที่มีความลึก 432.4 เมตร และพื้นที่ทั้งหมดถูกจดทะเบียนให้อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติทาซาวะโกะ ดาอิกิเกอิริ ที่นี่เป็นทะเลสาบที่ลึกที่สุดในญี่ปุ่น ดังนั้นจึงไม่แข็งตัวในช่วงหน้าหนาว ผิวหน้าของทะเลสาบจะส่องสว่างเป็นสีสรรต่าง ๆ ขึ้นอยู่กับสภาวะ ช่วงของสีตั้งแต่สีเขียวหยกไปจนถึงสีครามเข้ม
หลังจากที่เที่ยวจากทะเลสาบและถ่ายรูปกับดอกซากุระหนำใจแล้ว ฝั่งตรงข้ามของทะเลสาบมีช็อปเล็กๆขายของที่ระลึก อาหาร และถ้าซื้อของภายในช็อปสามารถเข้าไปดูน้องหมาชิบะฟรี ซึ่งน้องหมาที่นี่น่ารักมากๆ
 หลังจากเลือกซื้อของฝากเสร็จก็เดินทางกลับมายังที่พักวิวบรรยากาศดีมากๆ อากาศเย็นสบาย รถไม่เยอะ ไม่ไกลจากที่พักมากสามารถเดินเท้ามาได้ค่ะ
กลับมาที่เพื่อรับประทานอาหารกลางวัน ซึ่งเมนูสุดอร่อยก็คืออุด้ง ข้าวปั้นไข่ปลา เทมปุระผัก บอกเลยว่าอร่อยแบบต้นตำรับญี่ปุ่นมากๆ


หลังจากนั้นทานอาหารเสร็จคุณลุงคุณป้าเจ้าของบ้านน่ารักมากให้ของที่ระลึกแก่เราเป็นหัวไชเท้าอบแห้ง และยังใจดีขับรถไปส่งยังสถานีเพื่อเดินทางไปยังฟุกุชิมะ เริ่มเดินทางจากสถานี TAZAWAKO ไปยังสถานี FUKUSHIMA ใช้เวลาประมาณ2 ชม 
หลายคนอาจรู้จักฟูกุชิมะจากเหตุแผ่นดินไหวและคลื่นสึนามิวันคม พ.ศ. 2554 ซึ่งมีศูนย์กลางอยู่ในจังหวัดมิยางิทางตอนเหนือ จังหวัดฟูกูชิมะได้รับความเสียหายใหญ่หลวงและได้รับความสนใจเป็นพิเศษจากผลของการประกาศ "ภาวะฉุกเฉินพลังงานนิวเคลียร์" และการอพยพผู้อยู่อาศัยหลายพันคนซึ่งอาศัยอยู่ใกล้กับโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกูชิมะแห่งที่หนึ่งบางส่วนของโรงไฟฟ้าเกิดระเบิดขึ้นเมื่อเวลา 8.30 น. เมื่อวันที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2554 และประชาชนอีก 45,000 คนได้รับผลกระทบจากคำสั่งอพยพโรงไฟฟ้าดังกล่าวดำเนินการโดยบริษัทผลิตไฟฟ้าโตเกียวตั้งอยู่ในเมืองโอกูมะ เขตฟูตาบะนั่นเอง พอถึงสถานี Fukushima รอบๆมีห้างและร้านอาหารที่ให้เราเลือกซื้อกันค่ะ ได้มีการแวะซื้อเบ็นโตะกล่องในห้าง ซึ่งที่ญี่ปุ่นจะลดราคา20% 30% เวลาประมาณ1ทุ่ม ราคาถูกมากค่ะเริ่มต้นที่120 เยน
นอกจากข้าวหน้าหมูไก่ปลากุ้งเทมปุระแล้ว ยังมีข้าวหน้าปลาดิบซาซิมิอีกด้วยค่ะ
จากสถานีเดินทางไปยังโรงแรมระยะทางประมาณ 850 เมตร ทางออกฝั่ง East เดินเมื่อยนิดหน่อยค่ะอาจเพราะด้วยต้องลากกระเป๋ากับไม่คุ้นเส้นทาง ภายในโรงแรมสะอาดมากค่ะมีน้ำร้อน ชา กาแฟ รองรับด้านล่าง มีไมโครเวฟให้อุ่นอาหาร และเจ้าหน้าที่ยังอนุญาตให้อุ่นและทานอาหารให้ห้องอาหารอีกด้วย ถึงห้องก็หลับสบายเลยค่าเพราะเตียงนุ่มมากๆ

*******^^รีวิววันที่3**********

ในตอนเช้าเวลาประมาณ 7.30 หลังจากทานอาหารเช้าที่โรงแรม ก็ได้มีการฝากกระเป๋าไว้ที่โรงแรมแล้วออกมาเที่ยวบริเวณด้านนอก เลือกปั่นจักรยานรอบๆดูบรรยากาศบ้านเมืองของญี่ปุ่น และศาลเจ้าซึ่งการเช่าจักรยานจะไม่เสียค่าใช้จ่าย แค่กรอกข้อมูล เลขพาสปอร์ต  เที่ยวชมปราสาท และบริเวณรอบๆเมือง การปั่นจักรยานที่ญี่ปุ่นจะไม่เป็นอันตรายค่ะเนื่องจากมีพื้นที่สำหรับปั่นจักรยานและคนญี่ปุ่นจะรักษากฏจราจร ขับรถไม่เร็วมาก
หลังจากนั้นก็กลับไปที่โรงแรมค่ะเพื่อไปเอากระเป๋าและเดินทางไปซื้อเบ็นโตะลดราคาไปทานบนรถไฟ ก่อนออกเดินทางยังมัตซึโมโตะค่ะ
จากสถานีไปยังโรงแรมไม่ไกลมากนัก ชื่อโรงแรมคือ Ace Inn Matsumoto ตั้งอยู่ห่างจากสถานีรถไฟ JR Matsumoto Train Station โดยใช้เวลาเดินเพียง 1 นาที ฝั่งตรงข้ามมีห้างสรรพสินค้าและที่จำหน่ายตั๋วรถบัส
พอเช็คอินเข้าพักที่โรงแรมก็นำกระเป๋าขึ้นไปเก็บบนห้องแล้วเดินทางไปยังปราสาทมัตสึโมโต้ ซึ่งห่างเพียง1 กม
ปราสาทมัตสึโมโต้อีกชื่อหนึ่งว่า ปราสาทอีกา เนื่องจากผนังปราสาทมีสีดำ และปีกด้านต่าง ๆ ของปราสาทแผ่กางออกเหมือนปีกนก ปัจจุบันปราสาทมัตสึโมโตะได้ขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติประจำชาติญี่ปุ่น มีงานเทศกาลมากมายจัดขึ้นที่ปราสาทมัตสึโมโต้ในช่วงหนึ่งปี เช่น งานเทศกาลโซบะและเบียร์สด รวมถึงการจัดคอนเสิร์ตที่จัดร่วมกับ เทศกาลเซอิจิ โอซาว่า. ช่วงเวลาที่เหมาะที่สุดในการเยี่ยมชมปราสาท เป็นช่วงต้นหรือกลางเดือนเมษายน เมื่อดอกของต้นซากุระกว่า300ต้นบานสะพรั่งพร้อมกัน บรรยากาศยามค่ำคืนยังมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเยี่ยมชมหนาตา สวยไม่แพ้ตอนกลางวันเลยค่ะ ระหว่างเดินทางกลับมีร้านค้าของชุมชนมาให้เลือกซื้อกันค่ะ 
*มีให้อ่านต่อนะคะ**