เกือบไปแล้ว😱ชะตาเกือบขาด....

วัน Memorial Day ของอเมริกา ซึ่งเป็นวันจันทร์สุดท้ายของเดือนพฤษภาคมกำลังจะมาถึง ความทรงจำในวันหยุดนี้ในปีนึงในอดีต ไม่ใกล้ไม่ไกลจากปีนี้ ที่จะไม่มีวันลืม ถือว่าเป็นบทเรียนครั้งสำคัญว่านับแต่นั้นเป็นต้นมา เราจะไม่มีวันถอดสร้อยพระออกจากคอเด็ดขาด

ในวัน Memorial Day ของปีนั้น เรากับสามีก็ไปเที่ยวทะเลเหมือนคนอื่นๆ ที่สวนริมทะเลในรูปนั้น, Matheson Hammock Park, เป็นอีกที่ที่คนนิยมไปเล่นน้ำ มีหาดทรายที่สร้างปิดล้อมเป็นแอ่งเล็กๆแบบในรูป คิดว่าคงกันปลาฉลามหรือจระเข้น้ำเค็ม ตอนนั้นห้าโมงเย็นเศษๆแล้ว ที่นี่ช่วงใกล้ฤดูร้อน พระอาทิตย์จะตกตอนเกือบสองทุ่ม ยังมีคนเล่นน้ำอยู่บ้างประปราย ปกติเราว่ายน้ำแข็ง ไปทะเล/น้ำตกมาก็หลายครั้ง แต่ก็ไม่เคยถอดพระออกสักครั้งตามที่พ่อของเรากำชับ แต่วันนั้นมันมีความรู้สึกว่าควรถอดสร้อยพระออกเก็บใส่กระเป๋าไว้ดีกว่า เพราะถ้าหลุดแล้วจมหายไปก็จะเอาคืนมาไม่ได้ เลยถอดพระเก็บใส่กระเป๋าไว้ในรถ

ขณะที่ว่ายน้ำเล่นอย่างสนุกสนาน สักพัก อยู่ๆก็เหมือนมีแรงอะไรไม่รู้กดหน้าอกแล้วดึงขาให้เราจมลงพร้อมกัน ไม่ใช่สัตว์แน่ๆ เพราะไม่เจ็บไม่รู้สึกว่าถูกกัด/ สัมผัส/จับ แต่รู้สึกถึงแรงกดที่หนักมาก กดหน้าอกกับดึงขาพร้อมๆกันไปในทางลงตั้งฉากกับผิวน้ำ เรารู้ตัวตลอดเวลา พยายามออกแรงต้านแรงนั้นและตั้งท่าเพื่อว่ายกลับเข้าฝั่ง พอเวลาที่ตั้งตัวขนานผืนน้ำและเตะเท้าออกว่ายได้ แรงนั้นก็ดึงข้อเท้าลงและกดหน้าอกพร้อมกัน เป็นแบบนี้สักพัก เรายังมีสติรู้ตัวทุกจังหวะ แต่สุดท้ายก็หมดแรง ในจังหวะสุดท้ายที่ปากยังโผล่พ้นน้ำและคิดว่าไม่ไหวแล้ว เลยตะโกนร้องสุดเสียง "ช่วยด้วย" ก่อนจะจมลง ขณะที่จมก็ยังพยายามต้านกับแรงกระทำจากใต้น้ำ พอหมดแรงแล้ว นึกในใจถึงสร้อยพระที่ถอดเก็บไว้ในกระเป๋า จู่ๆ มีคนจับข้อมือขวาแล้วลากเราขึ้น จนหน้าโผล่พ้นน้ำได้ก็เห็นว่านั่นสามีเราเอง แรงดึงแรงกดนั้นก็หายไป เรามีแรงอีกครั้งและว่ายน้ำกลับฝั่งอย่างปลอดภัย

พอถึงฝั่ง เราทั้งงงและกลัวสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้น จะว่าตะคริวก็ไม่ใช่ มือเท้าก็ไม่ได้ชา เรี่ยวแรงก็ยังมีเหมือนเดิม รีบไปที่รถเปิดกระเป๋าเอาสร้อยพระกลับมาแขวนคอทันที ดูเวลามันก็หกโมงสิบนาทีแล้ว เลยเก็บของกลับบ้าน ระหว่างทางก็คิดไปเรื่อย อยู่ๆ ก็นึกถึงคำของพ่อที่ย้ำนักหนาว่าห้ามถอดพระออกจากคอ และเรื่องที่พ่อกับย่าชอบพูดประจำสมัยเรายังเด็ก ซึ่งลืมไปนานแล้ว ก็ผุดขึ้นมาในหัว "อย่าไปเล่นใกล้คลองโดยเฉพาะ เวลาตะวันใกล้จะตกดิน ผีพรายมันจ้องจะเอาคนไปเป็นบริวาร" นึกต่อไปว่าที่นี่อเมริกา มันมีด้วยเหรอ หรือว่าเคยมีคนจมน้ำตายที่นี่?? เราเลยไปค้นหาข่าวย้อนหลัง แล้วก็เจอจริงๆ สามเดือนก่อนหน้ามีผู้หญิงคนนึงจมน้ำตายที่นี่ แบบนี้เรียกว่าตายโหงใช่มั้ย?

รู้สึกโชคดีที่วันนั้นยังมีโอกาสได้กลับขึ้นฝั่งมาอีก ไม่ได้กลายเป็นบริวารหรือตัวตายตัวแทนใคร ตั้งแต่วันนั้นมาเราไม่เคยถอดพระออกจากคออีก และไม่เคยไปเล่นน้ำหลังห้าโมงเย็นอีกเลย
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่