คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 1
หลุมสิวเป็นแผลเป็นชนิดนึง มันจะมีพังผืดที่เรียงตัวผิดปกติที่ชั้นหนังแท้ ไปดึงรั้งผิวหนังชั้นบน ไม่ให้เรียบตามปกติ
วิธีรักษาให้ได้ผล คือเราต้องไปทำลายพังผืดตรงนี้ก่อน
ซึ่งจะมีทั้ง
การทำ subcision เอาปลายเข็ม ไปสะกิดทำลายพังผืดนี้ กระตุ้นให้ผิวหนัง สร้างเนื้อเยื่อขึ้นมาซ่อมแซมใหม่
การใช้เลเซอร์ ตัดลอกชั้นผิวหนังที่มีปัญหาออกเป็นหย่อมๆ ให้ผิวหนังสร้างขึ้นมาใหม่ ซึ่งวิธีนี้เป็นการรักษาดั้งเดิมแต่ได้ผลค่อนข้างดี แต่เนื่องจากมีผลข้างเคียงค่อนข้างสูง และผลการรักษาไม่แน่นอน ต้องใช้ประสบการณ์สูง ในการตัดผิวหนัง อีกทั้งหลังการรักษา บริเวณที่รักษาจะเป็นแผลค่อนข้างลึก ประมาณแผลถลอกมีเลือดซึมๆ เวลาหกล้ม
ต้องการการดูแลแผลที่ดีมาก เพื่อไม่ให้แผลติดเชื้อ ปัจจุบัน ที่ไทยจึงไม่ค่อยนิยม แต่ที่เกาหลี หลายที่จะยังมีการรักษานี้อยู่ เพราะได้ผลดี ตามประสบการณ์ความชำนาญของหมอที่นั่น
ส่วนใหญ่จะทำในเคสที่แผลเป็นค่อนข้างลึก และกินบริเวณกว้าง มีข้อดีตรง ถ้าไม่มีผลข้างเคียง เจอหมอเก่งๆ ทำเพียง 1-2 ครั้ง หลุมสิวก็จะหายหมดแล้ว
การทำให้บริเวณ ที่เป็นแผลเป็น เกิดการบาดเจ็บ เป็นรูเล็กๆหลายๆจุด ทำลายพังผืดใต้แผลเป็น และกระตุ้นให้เกิดการซ่อมแซมผิวหนังอย่างรวดเร็ว ซึ่งวิธีนี้ เป็นที่นิยม และใช้กันทั่วไปในการรักษาแผลเป็นหลุมสิวในปัจจุบัน ซึ่งจะมีเครื่องมือที่ทำให้เกิดแผลทีาเป็นรูมากมายหลายแบบ ตั้งแต่
Derma roller เป็นเครื่องที่เหมือนเป็นลูกกลิ้ง จะมีเข็มแหลมๆเล็กๆ อยู่ที่ผิวของลูกกลิ้ง แพทย์จะใช้แรงมือกดลูกกลิ้งไถลไปตามผิวหน้าที่มีแผลเป็น จนทำให้เกิดรูเล็กๆ ลึกและจำนวนมากพอ บริเวณที่โดนลูกกลิ้งจะมีเลือดซึมๆ หลังทำได้ และจะมีรอยแดงที่หน้าราวๆ 3-7 วัน แล้วแต่ ความแรงของการกด ได้ผลค่อนข้างดี รองจากการใช้เลเซอร์ลอกผิวหนัง แต่เนืองจาก มีรอยแดงเป็นแผลที่หน้านานหลายวัน และค่อนข้างเจ็บ และมีเครื่องมืออื่นที่ เจ็บน้อยกว่า หน้าแดงอักเสบ หลังทำน้อยกว่า จึงทำให้วิธีน้อยมีความนิยมน้อยลง แต่ยังมีหลายคลินิก รักษาด้วยวิธีนี้อยู่เพราะค่อนข้างถูก
Fractional Ablasion ทำให้เกิดแผลรูเล็กๆ ที่ผิวหนังบริเวณที่เป็นแผลเป็น โดยความร้อนจากเลเซอร์ ซึ่งมีมากมายหลายชนิด เช่น Carbon dioxide laser - Erbium laser - RF เป็นต้น
กลไกการรักษาก็จะคล้ายกับ Derma roller แต่จะใช้ความร้อนจากเลเซอร์ ทำให้เกิดแผลแทนปลายเข็ม
จะมีข้อดีคือ มีความแม่นยำให่การกำหนดความลึกของแผลมากขึ้น เจ็บน้อยลง รอยแดงน้อยลง บริเวณที่เกิดแผลจากการรักษาหายเป็นปกติไวขึ้น
แต่เนื่องจากวิธีนี้เป็นเทคโนโลยีใหม่ และมีการพัฒนาความแม่นยำให้การรักษาและกระตุ้นคอลลาเจนที่ทำให้แผลซ่อมแซมได้ดีขึ้นกว่าวิธีอื่น จึงทำให้มีราคาค่อนข้างแพง (คล้ายๆกับราคาไอโฟนเลยครับ ยิ่งเครื่องใหม่ ราคายิ่งแพง)
มีหลายรุ่น หลายยี่ห้อ ทั้งแบรนด์ไทย เกาหลี อเมริกา
ที่นิยมๆกัน ก็มี FRAXEL, FINESCAN, E-MATRIX เป็นต้น
การรักษาด้วยวิธีนี้ แผลเป็นจะหายแบบค่อยเป็นค่อยไป อาจจะต้องทำหลายครั้ง แล้วแต่ความลึกและปริมาณของแผลเป็น เฉลี่ยจะอยู่ราวๆ 6 ครั้ง
ผมไม่เคยไปพิษณุโลกเลย เลยให้คำแนะนำไม่ได้
แต่ไปค้นดูให้
ไปคลินิกหมอนิติธรรมดูยังครับ ที่นี่มี eMatrix ที่ใช้รักษาหลุมสิวด้วย แต่เครื่องนี้ค่อนข้างใหม่ ราคาน่าจะ ค่อนข้างสูงอยู่ ลองไปปรึกษาดูสิครับ เผื่อหมออาจจะมีเครื่องอื่นด้วย
วิธีรักษาให้ได้ผล คือเราต้องไปทำลายพังผืดตรงนี้ก่อน
ซึ่งจะมีทั้ง
การทำ subcision เอาปลายเข็ม ไปสะกิดทำลายพังผืดนี้ กระตุ้นให้ผิวหนัง สร้างเนื้อเยื่อขึ้นมาซ่อมแซมใหม่
การใช้เลเซอร์ ตัดลอกชั้นผิวหนังที่มีปัญหาออกเป็นหย่อมๆ ให้ผิวหนังสร้างขึ้นมาใหม่ ซึ่งวิธีนี้เป็นการรักษาดั้งเดิมแต่ได้ผลค่อนข้างดี แต่เนื่องจากมีผลข้างเคียงค่อนข้างสูง และผลการรักษาไม่แน่นอน ต้องใช้ประสบการณ์สูง ในการตัดผิวหนัง อีกทั้งหลังการรักษา บริเวณที่รักษาจะเป็นแผลค่อนข้างลึก ประมาณแผลถลอกมีเลือดซึมๆ เวลาหกล้ม
ต้องการการดูแลแผลที่ดีมาก เพื่อไม่ให้แผลติดเชื้อ ปัจจุบัน ที่ไทยจึงไม่ค่อยนิยม แต่ที่เกาหลี หลายที่จะยังมีการรักษานี้อยู่ เพราะได้ผลดี ตามประสบการณ์ความชำนาญของหมอที่นั่น
ส่วนใหญ่จะทำในเคสที่แผลเป็นค่อนข้างลึก และกินบริเวณกว้าง มีข้อดีตรง ถ้าไม่มีผลข้างเคียง เจอหมอเก่งๆ ทำเพียง 1-2 ครั้ง หลุมสิวก็จะหายหมดแล้ว
การทำให้บริเวณ ที่เป็นแผลเป็น เกิดการบาดเจ็บ เป็นรูเล็กๆหลายๆจุด ทำลายพังผืดใต้แผลเป็น และกระตุ้นให้เกิดการซ่อมแซมผิวหนังอย่างรวดเร็ว ซึ่งวิธีนี้ เป็นที่นิยม และใช้กันทั่วไปในการรักษาแผลเป็นหลุมสิวในปัจจุบัน ซึ่งจะมีเครื่องมือที่ทำให้เกิดแผลทีาเป็นรูมากมายหลายแบบ ตั้งแต่
Derma roller เป็นเครื่องที่เหมือนเป็นลูกกลิ้ง จะมีเข็มแหลมๆเล็กๆ อยู่ที่ผิวของลูกกลิ้ง แพทย์จะใช้แรงมือกดลูกกลิ้งไถลไปตามผิวหน้าที่มีแผลเป็น จนทำให้เกิดรูเล็กๆ ลึกและจำนวนมากพอ บริเวณที่โดนลูกกลิ้งจะมีเลือดซึมๆ หลังทำได้ และจะมีรอยแดงที่หน้าราวๆ 3-7 วัน แล้วแต่ ความแรงของการกด ได้ผลค่อนข้างดี รองจากการใช้เลเซอร์ลอกผิวหนัง แต่เนืองจาก มีรอยแดงเป็นแผลที่หน้านานหลายวัน และค่อนข้างเจ็บ และมีเครื่องมืออื่นที่ เจ็บน้อยกว่า หน้าแดงอักเสบ หลังทำน้อยกว่า จึงทำให้วิธีน้อยมีความนิยมน้อยลง แต่ยังมีหลายคลินิก รักษาด้วยวิธีนี้อยู่เพราะค่อนข้างถูก
Fractional Ablasion ทำให้เกิดแผลรูเล็กๆ ที่ผิวหนังบริเวณที่เป็นแผลเป็น โดยความร้อนจากเลเซอร์ ซึ่งมีมากมายหลายชนิด เช่น Carbon dioxide laser - Erbium laser - RF เป็นต้น
กลไกการรักษาก็จะคล้ายกับ Derma roller แต่จะใช้ความร้อนจากเลเซอร์ ทำให้เกิดแผลแทนปลายเข็ม
จะมีข้อดีคือ มีความแม่นยำให่การกำหนดความลึกของแผลมากขึ้น เจ็บน้อยลง รอยแดงน้อยลง บริเวณที่เกิดแผลจากการรักษาหายเป็นปกติไวขึ้น
แต่เนื่องจากวิธีนี้เป็นเทคโนโลยีใหม่ และมีการพัฒนาความแม่นยำให้การรักษาและกระตุ้นคอลลาเจนที่ทำให้แผลซ่อมแซมได้ดีขึ้นกว่าวิธีอื่น จึงทำให้มีราคาค่อนข้างแพง (คล้ายๆกับราคาไอโฟนเลยครับ ยิ่งเครื่องใหม่ ราคายิ่งแพง)
มีหลายรุ่น หลายยี่ห้อ ทั้งแบรนด์ไทย เกาหลี อเมริกา
ที่นิยมๆกัน ก็มี FRAXEL, FINESCAN, E-MATRIX เป็นต้น
การรักษาด้วยวิธีนี้ แผลเป็นจะหายแบบค่อยเป็นค่อยไป อาจจะต้องทำหลายครั้ง แล้วแต่ความลึกและปริมาณของแผลเป็น เฉลี่ยจะอยู่ราวๆ 6 ครั้ง
ผมไม่เคยไปพิษณุโลกเลย เลยให้คำแนะนำไม่ได้
แต่ไปค้นดูให้
ไปคลินิกหมอนิติธรรมดูยังครับ ที่นี่มี eMatrix ที่ใช้รักษาหลุมสิวด้วย แต่เครื่องนี้ค่อนข้างใหม่ ราคาน่าจะ ค่อนข้างสูงอยู่ ลองไปปรึกษาดูสิครับ เผื่อหมออาจจะมีเครื่องอื่นด้วย
แสดงความคิดเห็น
ใครเคยรักษาหลุมสิวแบบใช้เข็ม หรือเลเซอร์กับคุณหมอบ้างคะ