.....

กระทู้สนทนา

เราเจอกระทู้นี้แล้วเรารู้สึกเป็นกระทู้ที่ดีเลยอยากที่ดีมากอะ เลยแปลมาลงที่นี่อ่าค่ะ
แต่อ่านๆดูแล้ว ไม่น่าลงห้อง KPOP เราเลยติดแต่แท็ก BTS นะคะ

[The qoo] 방탄소년단이 한국, 미국 인기를 얻게된건 언제부터일까? บังทันในเกาหลี ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่พวกเขาได้รับความนิยมในอเมริกา?

https://theqoo.net/1088341493

ปี 2013

พวกเขาเปิด sns ตั้งแต่ก่อนเดบิวต์ และโพสต์อย่างสม่ำเสมอ

(ในรูป เป็นทวิตที่อัพตั้งแต่วันที่ 2 มิถุนา ก่อนเดบิวต์ "ถ้าคุณเสริชชื่อ 방탄소년단 ในกล่องสีเขียวนั้น จะมีประโยคนึงที่ขึ้นมาคือ 방탄소년단언제데뷔해 짜증나 "เมื่อไหร่บังทันโซนยอดันจะเดบิวต์ ชักท้อแล้วนะ" )

และวันที่ 13 มิถุนาก็มาถึง

ฮิปฮอบไอดอลเดบิวต์ บังทันโซนยอดัน

แต่อย่างไรก็ตามในปี 2013 ที่พวกเขาเดบิวต์ เป็นปีที่มีรุ่นพี่ที่เดบิวต์ในปี 2011-2012 ทำผลงานพีคและป็อบปูล่าขั้นสุด ซึ่งพอเทียบแล้วพวกเขาแล้ว ทำให้พวกเขาไม่ค่อยโดดเด่นนักในปีนั้น

แต่ก็ไม่ถึงกับแย่ทีเดียว

ตอนสิ้นปี 2013 และต้นปี 2014 เป็นช่วงเวลาของประกาศรางวัลปลายปี

2013 melon music awards - best new artris
2014 goldendisk awards - rookie of the years
2014 seoul music awards - best new artris
2014 gaon music awards - best new artris

ในปี 2013 ยอดขายอัลบั้มบังทันนั้นขายได้ 58,000 อัลบั้ม ไม่ใช่ตัวเลขที่สูงเลย แต่สูงมากในฐานะศิลปินหน้าใหม่

ในปี 2014

ปีแห่งการเริ่มต้น

เพราะเพลงนี้ เพลงที่หลายๆคนพูดเหมือนกันว่า เพราะเพลงนี้แหละถึงทำให้ได้รู้จักพวกเขาเป็นครั้งแรก

"상남자" BOY IN LOVE ซังนัมจา

เพลงแรกที่ได้เข้าชาร์ต Melon

และครั้งแรกที่ได้เป็นผู้เช้าขิงที่ 1 ในรายการเพลง ตั้งแต่เดบิว์ตมา

ถึงแม้สุดท้ายจะไม่ได้ที่ 1

แต่พวกเขาก็ประสบความสำเร็จในการดึงคนเข้ามาเป็นแฟนคลับได้มากขึ้น

หลังจากนั้นพวกเขาก็เริ่มเปิดตัวที่ฝั่งญี่ปุ่นและจีน และต่อด้วยบินไปที่ LA อเมริกา เพื่อถ่ายทำรายการเรียลลิตี้ของ Mnet

"American Hustle Life"

รายการเรียลลิตี้นั้นเป็นรายการเรียลลิตี้เกี่ยวกับการเรียนรู้เรื่อง Hiphop ในอเมริกา และนอกจากถ่ายรายการแล้วพวกเขายังทำอัลบั้มใหม่ไปพร้อมๆกันที่นั่นด้วย

ส่วนเรียลลิตี้นั้นค่อนข้างได้รับผลตอบรับที่ดีมากๆจากแฟนๆ

เดือนสิงหาปี 2014 ในงาน KCON ที่ LA จากคำถามออนไลน์ของแฟนๆว่าอยากเจอใครผลตอบรับออกมาที่ BTS พวกเขาได้แฟนคลับเพิ่มขึ้นมากจากฝั่ง local อเมริกา

และแน่นอนว่าความทรงจำที่ดีที่สุดอย่างนึงของแฟนคลับฝั่งอเมริกันของ BTS ก็คือ American Hustle-Life นี่แหละ

หลังจากนั้น ช่วงปลายปีพวกเขาก็ปล่อยอัลบั้มแรก (Dark & Wild) ตามจริงแล้วนั้นโมเมนตั้มพวกเขาจะต้องได้รับผลตอบรับที่ดีขึ้น ทั้งในและต่างประเทศ

แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกับเพลง Danger นั้น.....

ถึงแม้ยอดดิจิตอลจะพังไม่เป็นท่า

แต่ในด้านยอดอัลบั้ม พวกเขาสามารถทำยอดทะลุ 100,000 อัลบั้มได้เป็นครั้งแรก เห็นได้ชัดในด้านแฟนคลับนั้นพวกเขาเพิ่มขึ้นมากจริงๆ

หลังจากนั้นพวกเขาก็เริ่มโปรโมทเพลง War of Hormone ต่อ และมี Performance ในงานปลายปีที่หลายคนประทับใจ

บอกได้เลยว่าปี 2014 นั้นเป็นปีที่พวกเขาสามารถสะสมฐานแฟนคลับในต่างประเทศให้เพิ่มมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

ชาร์ตปลายปี Tumblr 2014 พวกเขาขึ้นมาถึงอันดับ 2 ของเคป็อบไอดอล รวมทั้งยอดในแฟนคาเฟ่และยอดฟอลโล่ทวิตเตอร์นั้นเพิ่มขึ้นมา 2-3 เท่า

ในปี 2015

พวกเขาเริ่มจากทัวร์ที่ญี่ปุ่น wake up (4 เมือง , 6 รอบ) คนดูรวม 25,000 คน หลังจากพวกเขาเริ่มขึ้นคอน The Red Bullet ที่เกาหลีไปแล้ว

หลังจากนั้นก็มาถึงคัมแบคเพลง "I NEED U"

ประสบความสำเร็จในการขึ้นไปถึงอันดับ 2 บน Melon Chart รวมทั้งพาทุกเพลงในอัลบั้มเข้า TOP20 ได้หมด

หลังจากนั้นก็ชนะรายการเพลงช่องสาธารณะได้เป็นครั้งแรก หลังจากเดบิวต์มาสองปี

ยอดทุกอย่าง ยอดดิจิตอล ยอด sns ยอดอัลบั้ม ขนาดสเกลคอนเสิร์ต เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

หลังจากนั้นพวกเขาก็เริ่มโปรโมทเพลงรอง "쩔어"

ถ้าจะให้คะแนนเพลง "쩔어" นั้น ต้องบอกเลยว่าเป็นเพลงประสบความสำเร็จมาก จากการที่มีคลิปรีแอคจากฝั่งอเมริกาเยอะอย่างเห็นได้ชัด ซึ่ง ณ ตอนนั้นการรีแอคชั่นส่วนใหญ่จากฝั่งอเมริกาที่มีต่อเกาหลีจะเป็นละครหรือภาพยนต์เป็นส่วนมาก ของ kpop น้อยมาก ตอนนั้นถือว่าคลิปรีแอคชั่นเพลง 쩔어 เยอะจนน่าตกใจ

และหลังจบกิจกรรมโปรโมทพวกเขาก็เริ่มคอนเสิร์ต World tour ต่อทันที โดยที่อเมริกานั้นเป็นการทัวร์สเกลคอนระดับเพียง Theatre เท่านั้น ทั้งหมด 4 เมือง

จากนั้น V app ก็เกิดขึ้น แอปที่มีไว้ให้ศิลปินได้มีปฎิสัมพันธ์กับแฟนคลับ บอกได้เลยว่า BTS เป็นวงที่ใช้ประโยชน์จาก V app ได้คุ้มค่าที่สุดในการเพิ่มฐานแฟนคลับ

คอนเทนทืในรายการ V App ของพวกเขาทั้งบันเทิงและสนุกด้วยตัวของพวกเขาเอง รายการที่มาตั้งแต่ 2015 อย่าง "Run BTS" ตอนนี้ก็ยังมีอย่างต่อเนื่องมาถึงปี 2019 จน ep.70 แล้ว พวกเขามักจะอัพโหลดรายการนี้ในช่วงเวลาที่เริ่มออกทัวร์ต่างประเทศ

ต่อด้วยคัมแบคที่สองขอองปี 2015 "RUN"

ครั้งแรกกับการขึ้นอันดับ 1 Melon Chart และพาเพลงในอัลบั้มขึ้น TOP12 ได้หมด มียอด unique listeners ถึง 380,000 เป็นการคัมแบคที่น่าประทับใจมาก

และทำยอดขายอัลบั้มมากกว่า 200,000 ได้ทั้งสองอัลบั้ม ติดอันดับ 5 และ 6 ชาร์ตปลายปี Gaon

และที่ประสบความสำเร็จที่สุดก็คือส่งอัลบั้ม 화양연화 pt.2 เข้าชาร์ต Billboard200 ได้เป็นครั้งแรกในอันดับ 171

หลังจากนั้นช่วงสรุปชาร์ตปลายปีพวกเขาก็ขึ้นมาติดอันดับ 2 Twitter หมวด Music ของเกาหลีของปี 2015

และอันดับ 9 ช่องออฟฟิเชียล Youtube ที่เติบโตขึ้น

ในปี 2016

กลายเป็นปีที่พวกเขาเปล่งประกายขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

เริ่มต้นปีด้วยคัมแบค "불타오르네" (FIRE) เป็น Special repackage Album

ขึ้นอันดับ 1 Melon Chart และ 20 เพลงเข้าชาร์ตได้หมด

รวมทั้งติดอันดับ Billboard200 ในอันดับที่ 107 อีกด้วย

จากนั้นก็มีคอนเสิร์ตใหญ่ในเกาหลีที่จัดขึ้นที่ Olympic Gymnastics Arena ได้เป็นครั้งแรกㅠㅠ

สถานที่ที่เป็นเหมือนความฝัน ในตอนนั้น ตอนที่ยังไม่มี Kochok Dome ที่ Olympic Gymnastics Arena นั้นเป็นสถานที่ที่เป็นความฝันของไอดอลที่จะมาจัดคอนที่นี่ แน่นอนว่าบังทันก็พูดเรื่องนี้หลายครั้ง และสุดท้ายมันก็กลายเป็นจริง

พวกเขาเริ่มเอเชียร์ทัวร์ จากนั้นตุลาคมก็คัมแบคครั้งที่สองด้วยเพลง "피 땀 눈물"

กับการครองชาร์ตในวันปล่อย ถูกพูดถึงในราย radio star เพราะศิลปินที่เป็นแขกรับเชิญในรายการบอกว่าเขาปล่อยเพลงพร้อมบังทันโซนยอดัน แต่เพลงเขาขึ้นมาไม่ได้เลยเพราะอย่างที่เห็น (ชาร์ต)

และอัลบั้มนี้ยังสามารถขึ้นไปถึงอันดับ 26 ชาร์ต Billboard200 ได้ กลายเป็นสถิติใหม่ทันที เห็นได้ชัดว่าแฟนด้อมพวกเขาในอเมริกาเติบโตขึ้นจนน่ากลัว

สุดท้ายจบปี 2016 ด้วยการคว้าสองแดซัง จากงาน Melon Music Awards และ Mama Music Awards

ปี 2016 เป็นปีที่แฟนคลับในประเทศก็เติบโตขึ้นเช่นกัน จากสเกลคอนอารีน่า และชาร์ตต่างๆ เช่นเดียวกับในต่างประเทศ ที่ทำสถิติศิลปินเกาหลี พาอัลบั้มไปติดชาร์ต Billboard200 ถึงอันดับ 26 ทำให้ในปีต่อมา (2017 ) พวกเขาได้เชิญไปร่วมงาน Billboard Music Awards 2017 และเข้าชิงรางวัล Top Social

ในปี 2017

ในปีนี้กลายเป็นปีที่พวกเขาเริ่มครอบครองได้ทั้งในเกาหลี อเมริกา และญี่ปุ่น

ในช่วงต้นปีพวกเขาเริ่มต้นด้วยเพลง 봄날 (Spring day) และทำกิจกรรมโปรโมทเพลงนี้เพียงสองวีคเท่านั้น