[Review] New Zealand แดนสวรรค์ เกาะเหนือ เกาะใต้ ชิลๆ ไป เท่าที่ใจอำนวย

New Zealand แดนสวรรค์ เกาะเหนือ เกาะใต้ ชิลๆ ไป เท่าที่ใจอำนวย


นิวซีแลนด์ หนึ่งในเป้าหมายของนักท่องเที่ยวหลายคน ธรรมชาติที่งดงาม บ้านเมืองที่เงียบสงบ อากาศดี ไร้ฝุ่นควันหรือ PM2.5 รวมถึงเรื่องราวของ Lord of the Ring สิ่งเหล่านี้ทำให้ประเทศนี้เป็นหมุดหลักของนักท่องเที่ยวในปัจจุบัน

1. เตรียมตัว

การไปนิวซีแลนด์ครั้งเป็นครั้งแรกของผม เป็นโอกาสอันดีเนื่องจากผมได้รับการตอบรับให้ไปประชุมที่เมือง Wellington เป็นเวลา 4 วันตั้งแต่ 29-2 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ดังนั้น การร่างทริปจึงถือกำเนิดขึ้น เพื่อตะลอนไปให้ได้เต็มอิ่มที่สุดเท่าที่เวลาจะอำนวย

การเตรียมตัวไป เริ่มตั้งแต่การศึกษาการทำวีซ่า ซึ่งมีกระทู้รีวิวไว้เยอะพอสมควร รวมถึงการตามหาตั๋วเครื่องบิน ที่พัก และซื้อตั๋วเข้าสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ และรถเช่า สิ่งที่ดีคือช่วงที่ผมไป ค่าเงินไทยค่อนข้างแข็งทำให้เงินถูกลงมาก

แผนการท่องเที่ยวของผมคร่าวๆ ของผมนะครับ
25 เมษายน ออกเดินทางจาก กทม.
26 เมษายน ถึง Auckland
27 เมษายน Hobbiton
28 เมษายน ออกเดินทางไป Wellington เพื่อเข้าประชุม
29-2 พฤษภาคม ประชุม และซึบซับบรรยากาศของเมือง Wellington
2 พฤษภาคม เดินทางสู่ Christchurch
3 พฤษภาคม Tekapo
4 พฤษภาคม Mt. Cook, Wanaka
5 พฤษภาคม Arrowtown, Glenorchy
6 พฤษภาคม Milford Sound, Queenstown
7 พฤษภาคม บินกลับ Auckland และกลับ กทม.

จริงๆ อยากอยู่ให้นานกว่านี้ เนื่องจากอยากสัมผัสบรรยากาศความชิลที่ Queenstown ให้เต็มอิ่ม แต่ด้วยวันลาที่จำกัด ทำให้พวกเรา แพลนได้ประมาณนี้ เอาน่า อย่างน้อยก็จะได้เหลืออะไรไว้ให้เที่ยวบ้างในครั้งหน้า

หลังจากแพลนเสร็จ เราจึงเริ่มกรอกข้อมูลวีซ่า และจองตั๋วเครื่องบิน โดยครั้งนี้เราเลือกบินกับสายการบิน Qantas แม้จะไม่ได้บินตรง แต่ในราคาที่พอๆ กัน ผมสามารถเก็บไมล์สะสมเข้า Alaska Mileage Plan ได้ 100% ก็คือประมาณ 12000 ไมล์ เราได้ตั๋วมาในราคา 31xxx บาท นับว่าไม่ถูกแต่ก็ไม่แพงสำหรับประเทศที่หาตั๋วต่ำกว่าสามหมื่นได้ลำบากหน่อย ยิ่งเราขยับวันไม่ได้ด้วย ก็ถือว่าราคานี้โอเคครับสำหรับผม

ปัญหาเล็กๆ ที่กวนใจเราก่อนออกไปคือ วีซ่าท่องเที่ยวนั้นใช้เวลาค่อนข้างนาน เพื่อนร่วมทริปเราสองคนยื่นออนไลน์กันช่วงต้นเดือนมีนาคม และภายในสองสัปดาห์ก็ได้รับวีซ่า ในขณะที่ผมและเพื่อนอีกคน ยื่นช้ากว่ากันสองสัปดาห์ กลับต้องรอเกือบ 4 สัปดาห์ถึงจะอนุมัติ ตอนนั้นก็เสียวมากว่าวีซ่าจะไม่ทัน ทราบมาว่าติดช่วงอีสเตอร์ ทำให้วีซ่าได้ช้า ต้องขอบคุณเพจวีซ่านิวซีแลนด์ด้วยครับ ที่ช่วยพวกเราติดตามวีซ่าจนได้ มา ณ ที่นี้

วีซ่ามา ตั๋วพร้อม เราจึงออกเดินทาง การเดินทางโดยสายการบิน Qantas นั้นประทับใจผมพอสมควร มีดีเลย์เล็กน้อยแต่ไม่ทำให้แผนการท่องเที่ยวเสีย บิน smooth หลับสบาย แม้จะบินด้วย A330 ที่หลายๆ คนไม่ประทับใจ แต่ผมกลับรู้สึกสบายมากบนไฟลท์

2. Auckland

และแล้วเราก็ถึง Auckland วันแรกเรามาถึงตอนบ่ายสามแล้ว ช่วงนี้นิวซีแลนด์กำลังจะเปลี่ยนฤดูกาลเข้าสู่ฤดูหนาว แม้อากาศจะยังอุ่นอยู่ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือ พระอาทิตย์เริ่มตกไวขึ้น ทำให้พวกเรามีเวลาในการท่องเที่ยวน้อยลงบ้าง วันแรกเราเดินเล่นในเมือง ขึ้น Auckland Sky Tower หาข้าวทาน และกลับที่พักครับ

Auckland เป็นเมืองที่น่าอยู่ ช่วงนี้เมืองดูมีการก่อสร้างเต็มไปหมด เพราะกำลังจะมี subway สายแรกขึ้นในเมือง ถ่ายรูปมาอาจจะไม่สวยบ้าง แม้จะเป็นเมืองใหญ่สุด แต่ก็นับว่าเงียบเหงาเมื่อเทียบกับเมืองใหญ่อื่นๆ ทั่วโลก

Auckland Sky Tower ค่าเข้าไม่แพง ราคาถูกกว่าขึ้นชมวิวที่ตึกมหานครเสียอีก เป็นจุดรวมนักท่องเที่ยวของที่นี่ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวจีน


3. Hobbiton

วันรุ่งขึ้นเราตื่นแต่เช้าเพื่อไปยัง Hobbiton Movie Set ซึ่งอยู่ที่เมือง Manamata ห่างจาก Auckland ไปทางใต้ประมาณ 3 ชั่วโมง เช่ารถขับไปกัน อ้อ ลืมบอก รถเช่า พวกเราเช่าผ่าน easycarrent ครับ ใช้ code ในแอพลดได้พอสมควร รอบนี้เช่า 3 วัน รถ Toyota Alphard ของบริษัท EZI ได้มาในราคาไม่ถึงพัน ผมซื้อประกันแบบ 100% covering เพิ่มอีกวันละ 15 เหรียญ ถือว่าถูกมากทั้งค่ารถและประกัน

Hobbiton Movie Set จะพาเราไปลุยหมู่บ้าน Shire วันที่เราไปฝนตกพรำๆ ถ่ายรูปมาฟ้าไม่ใสเลย สิ่งที่ชอบคือ ไกด์ที่ดูแลเรานั้น แม่นใน script มาก และเล่าให้เราฟังในหลายๆ ฉากที่เราเคยดู ทำให้เราอินไปกับสถานที่ได้ไม่ยาก ตอนท้ายมี complimentary drink ให้ด้วย ผมเลือก pale ale อร่อยดีนะครับ หอมมาก กินหมดแก้วก็อุ่นๆ หน้าเหมือนกัน น่าจะมีแอลกอฮอล์อยู่พอสมควร

  
4. Auckland& Devonport

หลังจากจบ Hobbiton เราก็ขับรถกลับมา Auckland ครับ ช่วงเย็นๆ เราเดินแล้วแถว Port แล้วนั่ง Ferry ข้ามไปฝั่ง Devonport ค่าเรือน่าจะคนละ 15 เหรียญถ้าจำไม่ผิด Devonport เป็นชุมชนบ้านคน จากฝั่งนั้นจะมองเห็น Skyline เมือง Auckland ได้สวยงามดีครับ ผมชอบเมืองฝั่งนี้นะ ดูชิลกว่า มีคนพาสุนัขมาวิ่งเล่น เด็กๆ มาเล่นกันที่สวนสาธารณะเต็มไปหมด


ค่ำๆ เราขับรถไปจบทริปวันนี้กันที่ Mt. Hobson ไปดูวิวกลางคืนกันจากยอดเนิน อากาศบนนี้ดีมากครับ ลมพัดเย็นๆ มีวัยรุ่นมานั่งชิลกันพอสมควรแม้จะมืดมาก รูปถ่ายเราก็จะมืดๆ หน่อยเพราะไม่มีขาตั้ง 5555


หลังจากนั้นเรากลับมาโรงแรม พบว่าตรงใกล้ๆ โรงแรมมีตลาดอาหาร เราจึงมาเดินเล่น หาอาหารทานกัน แล้วเข้านอนครับ

แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่