ขอคำแนะนำค่ะ มีคุณป้าอายุ68 ย้ายมาพักอยู่บ้านครอบครัวเราชั่วคราว (บ้านท่านมีปัญหา กำลังรอตกแต่งคอนโดใหม่)
ซึ่งท่านทานอาหารไม่เหมือนคนบ้านเรา คือบ้านเราทานรสไม่จัด และทานอาหารฝรั่งบ่อย
แต่ท่านทานอาหารไทยอย่างเดียว แบบเผ็ดเค็มมากๆๆๆ
ก็โอเคค่ะคุณป้าบอกว่าจะทานแยกกัน ท่านจัดการซื้ออาหารเอง เพราะหมู่บ้านเราก็มีร้านขายอาหารใกล้ๆ
แต่ปรากฏว่าท่านซื้อมาเยอะทุกวัน เยอะจนน่าตกใจ หิ้วสองมือค่ะ
ซื้อมาส่วนหนึ่งแกะทานเลยร้อนๆตอนนั้น อีกส่วนเก็บใส่ตู้เย็น บอกว่าจะเอาไว้กินมื้ออื่น
แต่คุณป้าทานมื้อหนึ่งไม่เยอะ บางทีก็กับข้าวเหลือ เก็บใส่ถุงเอากลับเข้าตู้ไปอีก
เช้าวันต่อมา ก็ไปขนซื้อมาเพิ่มอีก ทำแบบเดิม
ของเก่ามันก็เลยไม่หมดสักทีค่ะ
คือแกงถุงสารพัด อัดแน่น เต็มตู้เย็นบ้านเราไปหมดเลยค่ะทั้ง2ตู้ เปิดประตูออกมานี่ มีถุงหล่น
เราตกใจเพราะผ่านมาเดือนหนึ่ง ค้นๆดู เห็นกับข้าวในถุงที่บูดเน่าเยอะมาก ปลาทูกินเหลืองี้ขึ้นราอย่างกับหิมะเกาะ
เด็กที่บ้านบอก ไม่กล้าทิ้ง เพราะเคยไปถามคุณป้าว่ามันเสียแล้วจะขอทิ้งนะ ท่านโกรธ
และ ปกติตู้เย็นจัดระเบียบไว้ ลิ้นชักไหนเป็นอะไร มาตอนนี้ มีแต่แกง แกง แกง!
ซึ่งเป็นแกงที่คุณป้ากินได้แค่คนเดียวด้วยในบ้าน จะแอบช่วยกินก็ไม่ได้
พยายามคุยกับคุณป้า ท่านก็ยอมให้ทิ้งที่เก่ามากๆ แบบเห็นเชื้อราชัดๆไป ประมาณ10ถุงเท่านั้น
ที่เหลือยังเก็บ บอกยังกินได้ อุตส่าห์ซื้อมา และท่านไม่ได้ขอเงินเราไปซื้อสักหน่อยเราอย่ายุ่ง!
เสร็จ ก็ไปซื้อเพิ่มมาอีกเหมือนเดิม
ไม่รู้ควรจะพูดอย่างไรค่ะ อาจเพราะเราอายุน้อยกว่า ท่านเลยไม่ฟัง คุณแม่เราซึ่งเป็นน้องสาวท่านก็เป็นคนไม่กล้าหือ
แต่มันตู้เย็นบ้านเรา กับข้าวเหลือใส่ถ้วยไว้เป็นรา เรากลัวเชื้อมันจะลามไปผักผลไม้เรา
เราแคร์ความรู้สึกคุณป้านะคะ อยากทราบว่า มีวิธีพูดอย่างไรให้เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมได้ แบบไม่ต้องแตกหัก
เพราะจริงๆไม่อยากให้ท่านเป็นแบบนี้ต่อไป นอกจากเปลืองเงินเปล่าแล้ว ท่านก็ทานของเสียเข้าไปด้วยน่ะค่ะ สุขภาพพังพอดี
ถ้าเป็นผู้สูงอายุมาตอบก็ดีค่ะ ว่าคำพูดประมาณไหนฟังแล้วเชื่อ ขอบคุณค่ะ
ญาติสูงวัยชอบซื้ออาหารมาสะสมในตู้เย็นจนเสีย ทำอย่างไร
ซึ่งท่านทานอาหารไม่เหมือนคนบ้านเรา คือบ้านเราทานรสไม่จัด และทานอาหารฝรั่งบ่อย
แต่ท่านทานอาหารไทยอย่างเดียว แบบเผ็ดเค็มมากๆๆๆ
ก็โอเคค่ะคุณป้าบอกว่าจะทานแยกกัน ท่านจัดการซื้ออาหารเอง เพราะหมู่บ้านเราก็มีร้านขายอาหารใกล้ๆ
แต่ปรากฏว่าท่านซื้อมาเยอะทุกวัน เยอะจนน่าตกใจ หิ้วสองมือค่ะ
ซื้อมาส่วนหนึ่งแกะทานเลยร้อนๆตอนนั้น อีกส่วนเก็บใส่ตู้เย็น บอกว่าจะเอาไว้กินมื้ออื่น
แต่คุณป้าทานมื้อหนึ่งไม่เยอะ บางทีก็กับข้าวเหลือ เก็บใส่ถุงเอากลับเข้าตู้ไปอีก
เช้าวันต่อมา ก็ไปขนซื้อมาเพิ่มอีก ทำแบบเดิม
ของเก่ามันก็เลยไม่หมดสักทีค่ะ
คือแกงถุงสารพัด อัดแน่น เต็มตู้เย็นบ้านเราไปหมดเลยค่ะทั้ง2ตู้ เปิดประตูออกมานี่ มีถุงหล่น
เราตกใจเพราะผ่านมาเดือนหนึ่ง ค้นๆดู เห็นกับข้าวในถุงที่บูดเน่าเยอะมาก ปลาทูกินเหลืองี้ขึ้นราอย่างกับหิมะเกาะ
เด็กที่บ้านบอก ไม่กล้าทิ้ง เพราะเคยไปถามคุณป้าว่ามันเสียแล้วจะขอทิ้งนะ ท่านโกรธ
และ ปกติตู้เย็นจัดระเบียบไว้ ลิ้นชักไหนเป็นอะไร มาตอนนี้ มีแต่แกง แกง แกง!
ซึ่งเป็นแกงที่คุณป้ากินได้แค่คนเดียวด้วยในบ้าน จะแอบช่วยกินก็ไม่ได้
พยายามคุยกับคุณป้า ท่านก็ยอมให้ทิ้งที่เก่ามากๆ แบบเห็นเชื้อราชัดๆไป ประมาณ10ถุงเท่านั้น
ที่เหลือยังเก็บ บอกยังกินได้ อุตส่าห์ซื้อมา และท่านไม่ได้ขอเงินเราไปซื้อสักหน่อยเราอย่ายุ่ง!
เสร็จ ก็ไปซื้อเพิ่มมาอีกเหมือนเดิม
ไม่รู้ควรจะพูดอย่างไรค่ะ อาจเพราะเราอายุน้อยกว่า ท่านเลยไม่ฟัง คุณแม่เราซึ่งเป็นน้องสาวท่านก็เป็นคนไม่กล้าหือ
แต่มันตู้เย็นบ้านเรา กับข้าวเหลือใส่ถ้วยไว้เป็นรา เรากลัวเชื้อมันจะลามไปผักผลไม้เรา
เราแคร์ความรู้สึกคุณป้านะคะ อยากทราบว่า มีวิธีพูดอย่างไรให้เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมได้ แบบไม่ต้องแตกหัก
เพราะจริงๆไม่อยากให้ท่านเป็นแบบนี้ต่อไป นอกจากเปลืองเงินเปล่าแล้ว ท่านก็ทานของเสียเข้าไปด้วยน่ะค่ะ สุขภาพพังพอดี
ถ้าเป็นผู้สูงอายุมาตอบก็ดีค่ะ ว่าคำพูดประมาณไหนฟังแล้วเชื่อ ขอบคุณค่ะ