จากพิษของ AI (เวอร์ไปมั้ยเนี่ย) ทำให้เศรษฐกิจหลายด้านชะลอตัวหรือเกือบจะพังแล้ว (ใส่เครื่องช่วยหายใจ)
ที่เห็นผ่านๆตาและได้ยินมา หลายกิจการไม่ว่าด้านไหน พยายามจะลดจำนวนพนักงานลงโดยเฉพาะสาย IT หรืองานบริการอื่นๆ
จากที่ จขกท สังเกตุคือเด็กที่เพิ่งเรียนจบ (นศ.จบใหม่) บางคนก็มุ่งสายวิชาการ หลานผมนี่จ้องจะสอบกพให้ได้ เพราะเขาบอกว่ามันคุ้มถ้าสอบติด ซึ่งมันก็จริงนะ งานราชการเรื่องของสวัสดิการมันดีจริงๆในระยะยาว แรกๆก็อาจจะเหนื่อยหน่อย (จากที่มีเพื่อนเป็นอาจารย์สอนในมหาลัยแห่งหนึ่ง)

จะมีเบนไปทางสายราชการประมาณ 10% สอบติดกับไม่ติดก็รวมกันเลยนะ 10% นี้
อีก 20% คือร่อนใบสมัครเรซูเม่ในเว็บบ้าง เข้าไปสอบถามพูดคุยแบบตัวต่อตัวบ้าง (ถ้ามีตังค์ค่าน้ำมัน มีรถพร้อมใช้งาน)
อีก  60% อยากเปิดกิจการส่วนตัว ค้าขายอะไรก็ว่าไป มี ซึ่งส่วนใหญ่เด็กบอกว่าไม่ชอบงานบริษัท ชอบเหนื่อยเท่าไหร่ได้เท่านั้น
ซึ่งผมมองว่า เออเด็กมันก็ดีเนอะคิดได้ ไม่เหมือนสมัยเราๆที่งานบริษัทนี่แข่งกับเข้าแทบตาย ระบบราชการก็คิดว่าเด็กไม่สนใจ แต่กลับกันเด็กยังมองเห็นโอกาส และประโยชน์ของงานราชการ 

งานนี้มาลุ้นกันว่าบริษัทจะอยู่ยังไง ถ้าทรัพยากรมนุษย์ไม่เป็นไปตามความต้องการของตลาด แต่หันไปเป็นนายตัวเองกันหมด
เจ๊งบ้าง รุ่งบ้าง ยืนได้บ้างถ้าแน่จริงและสายป่านยาว สนุกละงานนี้ จริงๆผมลองเข้าไปดูคุณสมบัติที่แต่ละบริษัทต้องการ
หัวข้อเขาเขียนว่า ยินดีรับเด็กจบใหม่ แต่พออ่านข้อต่อมาคือมันเกินความสามารถของเด็กจบใหม่จริงๆนะ

คุณคิดว่าเด็กที่เพิ่งเรียนจบ เขาจะพร้อมให้คุณใช้งานได้ขนาดนั้นไหมน้อ ให้เขาได้ลอง ให้มีคนได้สอนเขา
ไม่ใช่ทุ่มงานให้เขาแล้วปล่อยลอยแพ เด็กไม่เข้าใจตรงไหนให้เขาถาม พร้อมบอกให้เขาจับปากกาจดด้วยเลย
จะได้ไม่ต้องบอกหลายรอบ บางทีเด็กเขาลืมเขาก็สอนก็บอกเขาให้เขารู้ตัว บอกเด็กเขาไปเดี่ยวเขาก็รู้เขาก็ทำ ด่าเขาดุเขามันไม่มีอะไรดีขึ้นหรอก มีแต่จะทำร้ายจิตใจกัน เสียกำลังใจในการทำงานร่วมกันเปล่าๆ อะไรพอลดหย่อนกันได้ก็ลดหย่อนเป็นการดี แบบนี้ก็น่าจะโอเคกว่ามั้ยผมว่า เอาจริงๆผมก็อายุขนาดนี้

ส่วนตัวผมยังคิดว่าผู้ใหญ่บางคนใช้คำพูดกับเด็กไม่ค่อยเป็น ทั้งเด็กและตัวเราต้องจูนกัน ต้องปรับตัวเข้าหากัน เอาเหตุผลมาคุยกันซิ
ว่าเพราะอะไรทำไมต้องเป็นแบบนี้แบบนั้น ผลลัพธ์จะเป็นแบบไหนเพราะอะไร มันจะทำให้อะไรดีขึ้น น่าร่วมงานกันมากขึ้นนะ

อย่างว่าแหละ ทุกอย่างมันมีเหตุผลของมัน อยู่ที่ว่าจะแสดงออกมาแบบไหนแค่นั้น
ล่าสุดธนาคารแถวบ้าน ปิดไปไล่เรี่ยกัน 3 สาขา และบริษัทกราฟฟิกสื่อสิ่งพิมพ์ที่เคยขับผ่านก็ปิดประกาศขายตึก 2 บ. ในเวลาไล่เรี่ยกัน เกิดอะไรขึ้น.....

คุณคิดเห็นอย่างไรกับเรื่องนี้ มาแชร์กัน