#ความรู้สึกหลังชม #แบบไม่สปอย #MortalEngines #smwo
Mortal Engines คะแนน 7/10
***หมายเหตุเกณฑ์การให้คะแนนไม่มีเหตุผลอะไรทั้งนั้นขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของผู้เขียนล้วนๆ หากจะถามว่าอะไรเป็นเกณฑ์การให้คะแนนนั่นก็คือตัวผู้เขียนนั่นเองจอบอ.
#เกริ่นนำก่อนเข้าเรื่อง
Mortal Engines เป็นผลงานที่เป็นกระแสตอนเปิดตัวอยู่อย่างมากกับการมีชื่อของ ปีเตอร์ แจ็คสัน ผู้กำกับในงานของไตรภาค The Lord of the Rings ทำให้ Mortal Engines เป็นผลงานที่น่าสนใจอีกทั้งยังเห็นถึงความพยายามสร้างโมเดลจำลองของเมืองต่างๆหรือยานบินต่างๆภายในเรื่อง แต่พอคำวิจารณ์แรกของหนังออกมากระแสกลับเป็นในด้านค่อนข้างลบและรายได้ก็เป็นไปตามนั้นแหละ
#เรื่องย่อ
Mortal Engines เป็นเรื่องราวของโลกหลังสงครามโลกครั้งล่าสุดที่กินเวลาเพียงแค่60นาทีทำให้แผ่นเปลือกโลกแตกกระจายไปทั่วและเมืองต่างๆก็ต้องปรับตัวกับโลกหลังสงคราม ทำให้โลกมีทั้งเมืองเคลื่อนที่ได้ เมืองลอยฟ้า ในเรื่องจะเล่าถึงความเป็นไปกับสงครามที่จะเกิดขึ้นหลังจากสงครามนั้นแรกนั่นแหละและพวกพระเอกก็ต้องดำเนินการเพื่อที่จะหยุดสงครามนั้นให้ได้
#ความรู้สึกไม่ค่อยประทับใจ
ด้วยความที่ Mortal Engines เป็นนิยายมาก่อนละมั้ง ทำให้รู้สึกว่าเนื้อเรื่องทั้งเรื่องมันบีบแน่นกระชับอัดแน่นมากเกินไป ตัวหนังมีประเด็นที่จะเล่าดีแต่ประเด็นที่จะให้เล่าแยกย่อยไปหมดจนขาดความซึ้งกินใจในแต่ละพาทของเนื้อเรื่อง ทำให้เนื้อเรื่องมันก็จะรวบๆลัดๆวูบวาบไปตามความเร็วของการเล่าด้วยความจำกัดของเวลาที่มีในตัวหนัง แม้จนสุดท้ายก็จะจบลงด้วยความแฮปปี้เอ็นดิ้งพอสมควร ก็เข้าใจแหละว่าด้วยความที่เป็นตัวหนังทำให้ต้องเล่าด้วยความรวดเร็วแต่ประเด็นต่างๆในเรื่องมันมีมากเกินไปทำให้ไม่เกิดความประทับใจในการดูเท่าไหร่ ทำให้ผมดูจบก็ยังคง งงๆว่า นี่เราดูอะไรอยู่ จบแล้วเหรอ อืม จบก็จบ ประมาณนั้น เพราะมันไม่ค่อยมีอะไรให้ประทับใจได้เลยในเรื่อง
#ความรู้สึกประทับใจที่ยังมีอยู่บ้าง
อย่างที่บอกไปว่าMortal Enginesไม่ค่อยมีความประทับใจอยู่ในนั้นแต่นอกเหนือจากงานเนื้อเรื่องที่วุ่นวายและบีบกระฉับนั้นสิ่งที่ดีที่สุดในเรื่องก็คงจะเป็นงานภาพที่งดงามจริงๆทำให้เราเชื่อได้ตลอดทั้งเรื่องว่าโลกเราจะเป็นแบบในเรื่องหรือเห็นภาพอนาคตของโลกได้เลยว่าอาจจะเป็นแบบนั้นได้แบบไม่ต้องเคลือบแคลงสงสัยนี่แหละคือข้อดีของงานภาพที่ถือว่ากินขาดในการเป็นตัวดำเนินเรื่องให้ผมนั่งดูได้จนจบ
และถ้าจะให้ผมสรุปละก็สำหรับคนที่ว่างๆไม่มีอะไรดูก็ถือว่า Mortal Engines เป็นงานที่จะทำให้คุณนั่งดูเพลินๆได้ แต่หลังจากผมดูนอกจากงานภาพก็ยังไม่รู้สึกว่าประทับในอะไรในเนื้อเรื่องอยู่ดี ขอบคุณครับ
ขอจบการบรรยาย #ความรู้สึกหลังดู Mortal Engines ไว้เพียงเท่านี้หากมีคำผิดหรือพิมพ์ผิดพลาดประการณ์ใดขออภัยมาไว้ที่นี้หรือหากใครต้องการแสดงความคิดเห็นก็สามารถทำได้ที่ด้านล่าง หรือหากผมเข้าใจเรื่องราวใดในเรื่องผิดไปก็สามารถติชมได้ด้านล่าง สุดท้ายนี้ขอบอกว่า ใช้ชีวิตให้มีสติและมีสติเมื่ออยู่กับคนที่เรารัก เพราะเวลามีค่า ควรใช้เวลากับคนที่เรารัก ขอบคุณที่สละเวลาในการอ่านมาจนถึงจุดนี้ หากท่านไม่อยากเสียเวลาในการทำสิ่งใดๆก็จงจำไว้ไม่แน่ผมอาจเคยทำมาแล้ว อยากให้ท่านมาเสพข้อมูลจากผมได้ที่นี่ ที่เพจ “โลกแคบ”ขอบคุณครับ
***ฝากแฟนเพจ โลกแคบ ของผมด้วยครับ เพิ่งตั้งวันนี้ จะเป็นเพจที่เป็นความรู้สึกของผมกับหลายๆเรื่อง โดยน่าจะเริ่มต่อจากนี้ไปเรื่องๆ ทั้งเรื่องภาพยตร์ การ์ตูน ซี่รี่ หรือเรื่องต่างๆที่ผมเคยรับชม จะพยายามแสดงออกมาตามที่ผมเข้าใจและซื่อตรงต่อความรู้สึกของตนเองที่สุด ขอบคุณครับ
https://www.facebook.com/โลกแคบ-2180885415324096
#ความรู้สึกหลังชม #แบบไม่สปอย #MortalEngines #smwo
Mortal Engines คะแนน 7/10
***หมายเหตุเกณฑ์การให้คะแนนไม่มีเหตุผลอะไรทั้งนั้นขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของผู้เขียนล้วนๆ หากจะถามว่าอะไรเป็นเกณฑ์การให้คะแนนนั่นก็คือตัวผู้เขียนนั่นเองจอบอ.
#เกริ่นนำก่อนเข้าเรื่อง
Mortal Engines เป็นผลงานที่เป็นกระแสตอนเปิดตัวอยู่อย่างมากกับการมีชื่อของ ปีเตอร์ แจ็คสัน ผู้กำกับในงานของไตรภาค The Lord of the Rings ทำให้ Mortal Engines เป็นผลงานที่น่าสนใจอีกทั้งยังเห็นถึงความพยายามสร้างโมเดลจำลองของเมืองต่างๆหรือยานบินต่างๆภายในเรื่อง แต่พอคำวิจารณ์แรกของหนังออกมากระแสกลับเป็นในด้านค่อนข้างลบและรายได้ก็เป็นไปตามนั้นแหละ
#เรื่องย่อ
Mortal Engines เป็นเรื่องราวของโลกหลังสงครามโลกครั้งล่าสุดที่กินเวลาเพียงแค่60นาทีทำให้แผ่นเปลือกโลกแตกกระจายไปทั่วและเมืองต่างๆก็ต้องปรับตัวกับโลกหลังสงคราม ทำให้โลกมีทั้งเมืองเคลื่อนที่ได้ เมืองลอยฟ้า ในเรื่องจะเล่าถึงความเป็นไปกับสงครามที่จะเกิดขึ้นหลังจากสงครามนั้นแรกนั่นแหละและพวกพระเอกก็ต้องดำเนินการเพื่อที่จะหยุดสงครามนั้นให้ได้
#ความรู้สึกไม่ค่อยประทับใจ
ด้วยความที่ Mortal Engines เป็นนิยายมาก่อนละมั้ง ทำให้รู้สึกว่าเนื้อเรื่องทั้งเรื่องมันบีบแน่นกระชับอัดแน่นมากเกินไป ตัวหนังมีประเด็นที่จะเล่าดีแต่ประเด็นที่จะให้เล่าแยกย่อยไปหมดจนขาดความซึ้งกินใจในแต่ละพาทของเนื้อเรื่อง ทำให้เนื้อเรื่องมันก็จะรวบๆลัดๆวูบวาบไปตามความเร็วของการเล่าด้วยความจำกัดของเวลาที่มีในตัวหนัง แม้จนสุดท้ายก็จะจบลงด้วยความแฮปปี้เอ็นดิ้งพอสมควร ก็เข้าใจแหละว่าด้วยความที่เป็นตัวหนังทำให้ต้องเล่าด้วยความรวดเร็วแต่ประเด็นต่างๆในเรื่องมันมีมากเกินไปทำให้ไม่เกิดความประทับใจในการดูเท่าไหร่ ทำให้ผมดูจบก็ยังคง งงๆว่า นี่เราดูอะไรอยู่ จบแล้วเหรอ อืม จบก็จบ ประมาณนั้น เพราะมันไม่ค่อยมีอะไรให้ประทับใจได้เลยในเรื่อง
#ความรู้สึกประทับใจที่ยังมีอยู่บ้าง
อย่างที่บอกไปว่าMortal Enginesไม่ค่อยมีความประทับใจอยู่ในนั้นแต่นอกเหนือจากงานเนื้อเรื่องที่วุ่นวายและบีบกระฉับนั้นสิ่งที่ดีที่สุดในเรื่องก็คงจะเป็นงานภาพที่งดงามจริงๆทำให้เราเชื่อได้ตลอดทั้งเรื่องว่าโลกเราจะเป็นแบบในเรื่องหรือเห็นภาพอนาคตของโลกได้เลยว่าอาจจะเป็นแบบนั้นได้แบบไม่ต้องเคลือบแคลงสงสัยนี่แหละคือข้อดีของงานภาพที่ถือว่ากินขาดในการเป็นตัวดำเนินเรื่องให้ผมนั่งดูได้จนจบ
และถ้าจะให้ผมสรุปละก็สำหรับคนที่ว่างๆไม่มีอะไรดูก็ถือว่า Mortal Engines เป็นงานที่จะทำให้คุณนั่งดูเพลินๆได้ แต่หลังจากผมดูนอกจากงานภาพก็ยังไม่รู้สึกว่าประทับในอะไรในเนื้อเรื่องอยู่ดี ขอบคุณครับ
ขอจบการบรรยาย #ความรู้สึกหลังดู Mortal Engines ไว้เพียงเท่านี้หากมีคำผิดหรือพิมพ์ผิดพลาดประการณ์ใดขออภัยมาไว้ที่นี้หรือหากใครต้องการแสดงความคิดเห็นก็สามารถทำได้ที่ด้านล่าง หรือหากผมเข้าใจเรื่องราวใดในเรื่องผิดไปก็สามารถติชมได้ด้านล่าง สุดท้ายนี้ขอบอกว่า ใช้ชีวิตให้มีสติและมีสติเมื่ออยู่กับคนที่เรารัก เพราะเวลามีค่า ควรใช้เวลากับคนที่เรารัก ขอบคุณที่สละเวลาในการอ่านมาจนถึงจุดนี้ หากท่านไม่อยากเสียเวลาในการทำสิ่งใดๆก็จงจำไว้ไม่แน่ผมอาจเคยทำมาแล้ว อยากให้ท่านมาเสพข้อมูลจากผมได้ที่นี่ ที่เพจ “โลกแคบ”ขอบคุณครับ
***ฝากแฟนเพจ โลกแคบ ของผมด้วยครับ เพิ่งตั้งวันนี้ จะเป็นเพจที่เป็นความรู้สึกของผมกับหลายๆเรื่อง โดยน่าจะเริ่มต่อจากนี้ไปเรื่องๆ ทั้งเรื่องภาพยตร์ การ์ตูน ซี่รี่ หรือเรื่องต่างๆที่ผมเคยรับชม จะพยายามแสดงออกมาตามที่ผมเข้าใจและซื่อตรงต่อความรู้สึกของตนเองที่สุด ขอบคุณครับ
https://www.facebook.com/โลกแคบ-2180885415324096