สวัสดีค่ะ เป็นมือใหม่อยากเขียนนิยายค่ะ ฝากอ่านและให้คำแนะนำ ติชมด้วยนะคะ อยากปรับปรุง พัฒนาตัวเองจริงๆค่ะ ขอบคุณค่ะ
.
.
บรรยากาศบ่ายกว่าของวันจันทร์อันอึมครึม ทำให้สาวของโรงแรมระดับห้าดาวนั้นเหนื่อยอ่อนหมดความสดชื่น แต่พลันสายตาของหล่อนก็เป็นประกายด้วยความสนใจ เสียงใสของหล่อนถามรุ่นน้องที่ทำงานเคียงข้างกันว่า
"นี่ๆ หนูนา เธอว่านั้นใช่คุณบุญรักษาหรือเปล่านะ" ประชาสัมพันธ์สาวถามเพื่อนร่วมงานที่เด็กกว่า
"บุญรักษา นั้นชื่อคนเหรอพี่ เช้ยเชย" ฝ่ายตรงข้ามตอบ
"บุญรักษา ไฮโซตระกูลดังไง เขาน่ะคบกับแพรวพราว นางเอกหนังรักด่วนขบวนสุดท้าย"
"อ้อๆ พอนึกออกแล้ว นี่เหรอแฟนเขาเหรอ ก็ดูดีนี่น่า เสียดายดำไปหน่อยเนอะ"
"โอ๊ย เห็นอย่างนี้นะ แต่งเป็นสะใภ้ไปก็เป็นหนูตกยุ้งข้าวเลยล่ะ"
บุญรักษา จีรกรวิวัฒฒ์ธำรง ชายหนุ่มที่กำลังมีชื่อเสียงในสังคม นอกจากเป็นลูกชายคนที่ 12 จากเมียอันดับที่ 7 ของเจ้าสัวใหญ่แห่งจีรกรวิวัฒฒ์ธำรงแล้ว ยังมีข่าวควงดาราสาวชื่อดังหลายต่อหลายคน ไม่ว่านักร้อง นางร้าย นางเอกล้วนมีข่าวคบหากับเขามาหลายคน คนปัจจุบัน คือ แพรวพราว ดาราสาวสวยภาพลักษณ์ดีที่พอตกเป็นข่าวกับเขาก็กลายเป็นพวกของเล่นไฮโซทันที
ตั้งแต่เขาล้มลุกคลุกคลานกับธุรกิจแรกๆทีเดียว ที่คำว่าไฮโซทานำหน้าชื่อเขา
'โอโห้ ไอ้บาสเอ้ย เดี๋ยวกลายเป็นไฮโซแล้วนี่หว่า'
'อะไรของ ไฮซงไฮโซอะไร' บุญรักษาตอบกลับ
'นี่ไง แหกตาดู' แล้วกิจกมลเพื่อนรัก และหุ้นส่วนก็ส่งหน้าจอข่าวบันเทิงให้เขาแหกตาดูอย่างที่มันบอก
พิน พินพนิต ปากแข็งคบ ไฮโซบุญรักษา ทายาทจีรกรวิวัฒฒ์ธำรง อ้างยังไม่พร้อมเรื่องรัก
'ไอ้กิจ เดี๋ยวอ่านข่าวไร้สาระอย่างนี้ด้วยเหรอวะ กูนึกว่าดูแต่บอลกับหนังโป๊'
' เรื่องของกู ว่าแต่ดังแล้วนะเว้ย ไฮโซบุญรักษา เช้ยเชยวะ ข่าวน่าจะลงชื่อเล่นเนอะ ไฮโซบาสเข้าท่ากว่าเยอะ น่าอิจฉาจริงๆ
กิจกมล หนุ่มตี๋ขาวแว่น ปากอมชมพู เจ้าของร่างสูง 185 ซม. วัย 32 ปี ผู้ครองตำแหน่งรองประธาน และดูแลฝ่ายเครือข่ายไอทีอันเป็นส่วนสำคัญของบริษัท
จำได้ว่าสมัยเรียนตั้งแต่มัธยมต้นมา กิจกมลไอ้ตี๋เยาวราช ลูกร้านขายของ เป็นหนุ่มฮอตประจำโรงเรียน ครั้นไปเรียนพิเศษสถานกวดวิชาดัง มันยังได้รางวัลป๊อปปูล่าโหวต จนใครๆก็คิดว่ามันคงจะไปเป็นดารา แต่ความขี้อาย และความเนิร์ดแอบในก็ทำให้มันเลือกหันหลังให้วงการบันเทิงอย่างสิ้นเชิง และเดินไปในเส้นทางไอทีที่ชื่นชอบ
ใครมันจะไปคิดว่าคนอย่างบุญรักษา เด็กตัวดำคล้ำ ตัวผอมกระหร่อง เจ้าของที่หน้าริมหน้าต่าง จะไปคบเป็นเพื่อนกับกิจกมลได้ ถ้าดูภายนอกน่ะ กิจกมลเป็นคุณหนู ส่วนบุญรักษาน่ะคล้ายคนรับใช้เลยทีเดียว จนมาตอนมหาวิทยาลัยนั้นแหละที่ถึงจุดเปลี่ยน...
...
ในความคิดของบุญรักษาเอง เรื่องเป็นข่าวกับดารา คนธรรมดาอย่างเขาไม่ได้คิดมากหรอก มองไปแล้วมีข้อดีเสียด้วยซ้ำ มันเป็นการประชาสัมพันธ์ธุรกิจ และเขาไปอีกทาง ลงสื่อฟรี โดยไม่ต้องลงทุนอะไรด้วยซ้ำ
แต่คำว่าไฮโซ คำเรียกบ้าบอ อย่างเขาน่ะหรือ ตลกสิ้นดี เพียงแค่มีธุรกิจ และคบหาดารา คนก็พากันเรียก ไฮโซ หรือเพียงแค่ไปงานเลี้ยงพวกไฮโซ ต้องสมาคม คบหากับพวกชั้นสูงนั้นน่ะเหรอ จะย้อมสีให้เขาเป็นแบบคนพวกนั้น
เขาก็กำลังขับรถสปอตสีแดงมัสแตงคันใหม่ ไปตามที่ได้รับนัดหมาย มันเป็นการนัดหมายเป็นค่อนข้างทำให้เขาแปลกใจไม่น้อย และมันไม่ใช่การแปลกใจที่ดีนัก
ศีตภา..อดีตคู่หมั้นของพี่ชายคนหนึ่งของเขา สาวตระกูลผู้ดีเก่า ที่เขาเคยพบเพียงผ่านตาเท่านั้น ดูเหมือนจะเคยมีคนแนะนำสักครั้งหนึ่งให้รู้จักหน้าตาและชื่อ แต่ฝ่ายตรงข้ามช่างดูหยิ่ง เย็นชา ไม่ยิ้ม ไม่พูดไม่จาอะไรมากนัก เหมือนตุ๊กตาแกะสลักที่ดูภายนอกน่ารักสวยงาม แต่พอจับต้องก็ทำให้รู้สึกนิ้วมือรู้สึกเย็น ทำให้เขาหมดความสนใจไปอย่างรวดเร็ว
น่าสงสัยอะไรที่ทำให้ศีตภา ผู้ไม่เคยเกี่ยวข้อง และสนใจในตัวเขา มีธุระที่ต้องการพบเขานัก เขายังจำได้ว่าเมื่อสามวันก่อนนี้ มีเบอร์โทรศัพท์ไม่คุ้นตาปรากฎขึ้นที่หน้าจดโทรศัพท์มือถือ เขาลังเลไปครู่ ก่อนที่อะไรสักอย่างดลใจให้รับสาย และปรากฎว่าคือเธอ...ศีตภา
...
พนักงานเสิร์ฟของโรงแรม นำชาวานิลลาร้อนไปเสิร์ฟให้แก่หญิงสาวร่างโปร่งระหงในชุดเดรสขาว ซึ่งตัดกับผิวสีน้ำผึ้งอ่อนนั้นเป็นอย่าง สาวเสิร์ฟแอบมองลูกค้าซึ่งกำลังมองทะเล เหมือนอยู่ในภวังค์
ว้า เสียดายจัง ทำไมถึงซ่อนตาในแว่นตาดำอย่างนั้นล่ะ อยากเห็นจังว่าตาจะสวยสักแค่ไหน สาวเสิร์ฟคิดในใจ
"ขอบคุณค่ะ" เสียงหวานของลูกค้านั้นเอ่ยขึ้น หญิงสาวนั้นหันมา พร้อมกับรอยยิ้มเย็นๆ ที่ทำให้สาวเสิร์ฟนั้นอดชื่นชม และเปรียบเทียบความงาม และมรรยาทกับลูกค้าบางคนที่มีเงินแต่ใช่ว่าต้องมีมรรยาทไม่ได้
เมื่อเด็กเสิร์ฟเดินจากไป ศีตภาค่อยๆ มองดูนาฬิกาประทับเพชร บอกเวลาว่าเลยเวลานัดหมายมาได้ 15 นาทีแล้ว และตัดสินใจว่าจะรออีก 15 นาที หล่อนอดเคืองในใจไม่ได้ว่า ทำไมเขาถึงไม่โทรมาหากมีธุระ หรือติดเหตุที่จะมาล่าช้า และจะให้หล่อนโทรไป ก็จะดูเหมือนหล่อนเร่ง และรอเขาเกินไป
‘คิดถูกหรือคิดผิดกันแน่นะ’
บุญรักษาในความคิดของหล่อน เขาคือน้องชายคนหนึ่งของครองวุฒิ อดีตคู่หมั้นของหล่อน จำได้ว่าครองวุฒิแทบไม่เคยเอ่ยถึงเขานัก จนเมื่อบุญรักษาเริ่มเข้ามาในวงการไฮโซชั้นสูง
ครองวุฒิเคยบอกแบบเหยียดหยันว่า บุญรักษาเป็นลูกชายจาก 1 ในเมียน้อยปลายแถวของเจ้าสัว วิวัฒน์ที่ขึ้นชื่อว่ามีเมียมากมาย การสะสมเมียเป็นดั่งสะสมบารมีที่เขาชื่นชอบ
'รู้ไหม น้องเพื่อน แม่ของมันน่ะเหรอ ก็แค่หมอนวดบ้านนอกๆน่ะ คิดแล้วนะ ต้องนับญาติ ใช้สกุลเดียวกันกับพวกมัน พี่อดอายคนอื่นเขาไม่ได้จริงๆ' เขาพูดแล้วเหยียดปากออก เป็นกิริยาที่ศีตภาไม่เคยเห็นมาก่อน
คำพูด ท่าทางและความคิดนั้นทำให้เจ้าของร่างสูงโปรง หน้าคม คิ้วหนา ผิวขาว พร้อมรอยยิ้มประกายเสมอนั้น หมดความสง่างามดูดีไปในสายตาของศีตภา แต่หล่อนก็คิดแก้ตัวให้คู่หมั้นว่าเพราะแอลกอฮอล์ทำให้เขาขาดสติยั้งคิดในการพูดด้วย
จะแปลกอะไรล่ะ ในเมื่อครองวุฒินั้นเกิดมาอย่างเพียบพร้อม เขาเป็นลูกชายคนรองของเจ้าสัววิวัฒน์กับคุณบัวบุษบง ผู้สืบเชื้อสายเจ้าเมืองเหนือ เขาครบพร้อมทั้งชื่อเสียง เงินทอง และชาติตระกูล พ่อและแม่ต่างรักและตามใจเขามาก
3 ปีที่แล้ว ทั้งสองหมั้นกันตามความเห็นควรของผู้ใหญ่ แรกเริ่มครองวุฒิก็ทำทีจะไม่ยอม แต่เมื่อพบศีตภา เขาก็พอใจ และเห็นดีเห็นตามผู้ใหญ่ไปด้วย ขณะที่ศีตภา วัย 21 ปีนั้นอึดอัด และไม่เห็นด้วยเพราะหล่อนยังไม่ทันจบการศึกษาดี แต่สุดท้ายก็ขัดทุกฝ่ายไม่ได้
หล่อนมั่นใจว่า สักวันคู่หมั้นหนุ่มคงจะเบื่อหล่อนเป็นแน่ เพราะเขาเป็นคนที่ชอบให้คนห้อมล้อม ให้ความสำคัญ และเอาอกเอาใจเขามากๆ
ขณะที่หล่อนนั้นเรียกได้ว่าพูดเท่าที่จำเป็นเท่านั้น หล่อนรู้ตัวทีเดียวว่าตนเองนั้นเป็นคู่หมั้นที่แสนเย็นชา และน่าเบื่อ หล่อนไม่มีทางที่จะอ่อนหวาน เอาใจในแบบที่เขาชอบ
กลับกลายเป็นว่าสถานการณ์ทุกอย่างใน 3 ปีของการหมั้นเป็นไปได้ด้วยดี ศีตภาคิดว่าครองวุฒิเป็นผู้ชายที่พอใช้ได้มากพอที่หล่อนจะฝากชีวิตและหัวใจไว้ได้ ตราบจนเกิดเหตุการณ์ในวันหนึ่ง
ภวังค์วิวาห์ 1-3 (มือใหม่หัดเขียน อยากได้คำวิจารณ์ ติชมค่ะ) โดย รุจิเรขา
.
.
บรรยากาศบ่ายกว่าของวันจันทร์อันอึมครึม ทำให้สาวของโรงแรมระดับห้าดาวนั้นเหนื่อยอ่อนหมดความสดชื่น แต่พลันสายตาของหล่อนก็เป็นประกายด้วยความสนใจ เสียงใสของหล่อนถามรุ่นน้องที่ทำงานเคียงข้างกันว่า
"นี่ๆ หนูนา เธอว่านั้นใช่คุณบุญรักษาหรือเปล่านะ" ประชาสัมพันธ์สาวถามเพื่อนร่วมงานที่เด็กกว่า
"บุญรักษา นั้นชื่อคนเหรอพี่ เช้ยเชย" ฝ่ายตรงข้ามตอบ
"บุญรักษา ไฮโซตระกูลดังไง เขาน่ะคบกับแพรวพราว นางเอกหนังรักด่วนขบวนสุดท้าย"
"อ้อๆ พอนึกออกแล้ว นี่เหรอแฟนเขาเหรอ ก็ดูดีนี่น่า เสียดายดำไปหน่อยเนอะ"
"โอ๊ย เห็นอย่างนี้นะ แต่งเป็นสะใภ้ไปก็เป็นหนูตกยุ้งข้าวเลยล่ะ"
บุญรักษา จีรกรวิวัฒฒ์ธำรง ชายหนุ่มที่กำลังมีชื่อเสียงในสังคม นอกจากเป็นลูกชายคนที่ 12 จากเมียอันดับที่ 7 ของเจ้าสัวใหญ่แห่งจีรกรวิวัฒฒ์ธำรงแล้ว ยังมีข่าวควงดาราสาวชื่อดังหลายต่อหลายคน ไม่ว่านักร้อง นางร้าย นางเอกล้วนมีข่าวคบหากับเขามาหลายคน คนปัจจุบัน คือ แพรวพราว ดาราสาวสวยภาพลักษณ์ดีที่พอตกเป็นข่าวกับเขาก็กลายเป็นพวกของเล่นไฮโซทันที
ตั้งแต่เขาล้มลุกคลุกคลานกับธุรกิจแรกๆทีเดียว ที่คำว่าไฮโซทานำหน้าชื่อเขา
'โอโห้ ไอ้บาสเอ้ย เดี๋ยวกลายเป็นไฮโซแล้วนี่หว่า'
'อะไรของ ไฮซงไฮโซอะไร' บุญรักษาตอบกลับ
'นี่ไง แหกตาดู' แล้วกิจกมลเพื่อนรัก และหุ้นส่วนก็ส่งหน้าจอข่าวบันเทิงให้เขาแหกตาดูอย่างที่มันบอก
พิน พินพนิต ปากแข็งคบ ไฮโซบุญรักษา ทายาทจีรกรวิวัฒฒ์ธำรง อ้างยังไม่พร้อมเรื่องรัก
'ไอ้กิจ เดี๋ยวอ่านข่าวไร้สาระอย่างนี้ด้วยเหรอวะ กูนึกว่าดูแต่บอลกับหนังโป๊'
' เรื่องของกู ว่าแต่ดังแล้วนะเว้ย ไฮโซบุญรักษา เช้ยเชยวะ ข่าวน่าจะลงชื่อเล่นเนอะ ไฮโซบาสเข้าท่ากว่าเยอะ น่าอิจฉาจริงๆ
กิจกมล หนุ่มตี๋ขาวแว่น ปากอมชมพู เจ้าของร่างสูง 185 ซม. วัย 32 ปี ผู้ครองตำแหน่งรองประธาน และดูแลฝ่ายเครือข่ายไอทีอันเป็นส่วนสำคัญของบริษัท
จำได้ว่าสมัยเรียนตั้งแต่มัธยมต้นมา กิจกมลไอ้ตี๋เยาวราช ลูกร้านขายของ เป็นหนุ่มฮอตประจำโรงเรียน ครั้นไปเรียนพิเศษสถานกวดวิชาดัง มันยังได้รางวัลป๊อปปูล่าโหวต จนใครๆก็คิดว่ามันคงจะไปเป็นดารา แต่ความขี้อาย และความเนิร์ดแอบในก็ทำให้มันเลือกหันหลังให้วงการบันเทิงอย่างสิ้นเชิง และเดินไปในเส้นทางไอทีที่ชื่นชอบ
ใครมันจะไปคิดว่าคนอย่างบุญรักษา เด็กตัวดำคล้ำ ตัวผอมกระหร่อง เจ้าของที่หน้าริมหน้าต่าง จะไปคบเป็นเพื่อนกับกิจกมลได้ ถ้าดูภายนอกน่ะ กิจกมลเป็นคุณหนู ส่วนบุญรักษาน่ะคล้ายคนรับใช้เลยทีเดียว จนมาตอนมหาวิทยาลัยนั้นแหละที่ถึงจุดเปลี่ยน...
...
ในความคิดของบุญรักษาเอง เรื่องเป็นข่าวกับดารา คนธรรมดาอย่างเขาไม่ได้คิดมากหรอก มองไปแล้วมีข้อดีเสียด้วยซ้ำ มันเป็นการประชาสัมพันธ์ธุรกิจ และเขาไปอีกทาง ลงสื่อฟรี โดยไม่ต้องลงทุนอะไรด้วยซ้ำ
แต่คำว่าไฮโซ คำเรียกบ้าบอ อย่างเขาน่ะหรือ ตลกสิ้นดี เพียงแค่มีธุรกิจ และคบหาดารา คนก็พากันเรียก ไฮโซ หรือเพียงแค่ไปงานเลี้ยงพวกไฮโซ ต้องสมาคม คบหากับพวกชั้นสูงนั้นน่ะเหรอ จะย้อมสีให้เขาเป็นแบบคนพวกนั้น
เขาก็กำลังขับรถสปอตสีแดงมัสแตงคันใหม่ ไปตามที่ได้รับนัดหมาย มันเป็นการนัดหมายเป็นค่อนข้างทำให้เขาแปลกใจไม่น้อย และมันไม่ใช่การแปลกใจที่ดีนัก
ศีตภา..อดีตคู่หมั้นของพี่ชายคนหนึ่งของเขา สาวตระกูลผู้ดีเก่า ที่เขาเคยพบเพียงผ่านตาเท่านั้น ดูเหมือนจะเคยมีคนแนะนำสักครั้งหนึ่งให้รู้จักหน้าตาและชื่อ แต่ฝ่ายตรงข้ามช่างดูหยิ่ง เย็นชา ไม่ยิ้ม ไม่พูดไม่จาอะไรมากนัก เหมือนตุ๊กตาแกะสลักที่ดูภายนอกน่ารักสวยงาม แต่พอจับต้องก็ทำให้รู้สึกนิ้วมือรู้สึกเย็น ทำให้เขาหมดความสนใจไปอย่างรวดเร็ว
น่าสงสัยอะไรที่ทำให้ศีตภา ผู้ไม่เคยเกี่ยวข้อง และสนใจในตัวเขา มีธุระที่ต้องการพบเขานัก เขายังจำได้ว่าเมื่อสามวันก่อนนี้ มีเบอร์โทรศัพท์ไม่คุ้นตาปรากฎขึ้นที่หน้าจดโทรศัพท์มือถือ เขาลังเลไปครู่ ก่อนที่อะไรสักอย่างดลใจให้รับสาย และปรากฎว่าคือเธอ...ศีตภา
...
พนักงานเสิร์ฟของโรงแรม นำชาวานิลลาร้อนไปเสิร์ฟให้แก่หญิงสาวร่างโปร่งระหงในชุดเดรสขาว ซึ่งตัดกับผิวสีน้ำผึ้งอ่อนนั้นเป็นอย่าง สาวเสิร์ฟแอบมองลูกค้าซึ่งกำลังมองทะเล เหมือนอยู่ในภวังค์
ว้า เสียดายจัง ทำไมถึงซ่อนตาในแว่นตาดำอย่างนั้นล่ะ อยากเห็นจังว่าตาจะสวยสักแค่ไหน สาวเสิร์ฟคิดในใจ
"ขอบคุณค่ะ" เสียงหวานของลูกค้านั้นเอ่ยขึ้น หญิงสาวนั้นหันมา พร้อมกับรอยยิ้มเย็นๆ ที่ทำให้สาวเสิร์ฟนั้นอดชื่นชม และเปรียบเทียบความงาม และมรรยาทกับลูกค้าบางคนที่มีเงินแต่ใช่ว่าต้องมีมรรยาทไม่ได้
เมื่อเด็กเสิร์ฟเดินจากไป ศีตภาค่อยๆ มองดูนาฬิกาประทับเพชร บอกเวลาว่าเลยเวลานัดหมายมาได้ 15 นาทีแล้ว และตัดสินใจว่าจะรออีก 15 นาที หล่อนอดเคืองในใจไม่ได้ว่า ทำไมเขาถึงไม่โทรมาหากมีธุระ หรือติดเหตุที่จะมาล่าช้า และจะให้หล่อนโทรไป ก็จะดูเหมือนหล่อนเร่ง และรอเขาเกินไป
‘คิดถูกหรือคิดผิดกันแน่นะ’
บุญรักษาในความคิดของหล่อน เขาคือน้องชายคนหนึ่งของครองวุฒิ อดีตคู่หมั้นของหล่อน จำได้ว่าครองวุฒิแทบไม่เคยเอ่ยถึงเขานัก จนเมื่อบุญรักษาเริ่มเข้ามาในวงการไฮโซชั้นสูง
ครองวุฒิเคยบอกแบบเหยียดหยันว่า บุญรักษาเป็นลูกชายจาก 1 ในเมียน้อยปลายแถวของเจ้าสัว วิวัฒน์ที่ขึ้นชื่อว่ามีเมียมากมาย การสะสมเมียเป็นดั่งสะสมบารมีที่เขาชื่นชอบ
'รู้ไหม น้องเพื่อน แม่ของมันน่ะเหรอ ก็แค่หมอนวดบ้านนอกๆน่ะ คิดแล้วนะ ต้องนับญาติ ใช้สกุลเดียวกันกับพวกมัน พี่อดอายคนอื่นเขาไม่ได้จริงๆ' เขาพูดแล้วเหยียดปากออก เป็นกิริยาที่ศีตภาไม่เคยเห็นมาก่อน
คำพูด ท่าทางและความคิดนั้นทำให้เจ้าของร่างสูงโปรง หน้าคม คิ้วหนา ผิวขาว พร้อมรอยยิ้มประกายเสมอนั้น หมดความสง่างามดูดีไปในสายตาของศีตภา แต่หล่อนก็คิดแก้ตัวให้คู่หมั้นว่าเพราะแอลกอฮอล์ทำให้เขาขาดสติยั้งคิดในการพูดด้วย
จะแปลกอะไรล่ะ ในเมื่อครองวุฒินั้นเกิดมาอย่างเพียบพร้อม เขาเป็นลูกชายคนรองของเจ้าสัววิวัฒน์กับคุณบัวบุษบง ผู้สืบเชื้อสายเจ้าเมืองเหนือ เขาครบพร้อมทั้งชื่อเสียง เงินทอง และชาติตระกูล พ่อและแม่ต่างรักและตามใจเขามาก
3 ปีที่แล้ว ทั้งสองหมั้นกันตามความเห็นควรของผู้ใหญ่ แรกเริ่มครองวุฒิก็ทำทีจะไม่ยอม แต่เมื่อพบศีตภา เขาก็พอใจ และเห็นดีเห็นตามผู้ใหญ่ไปด้วย ขณะที่ศีตภา วัย 21 ปีนั้นอึดอัด และไม่เห็นด้วยเพราะหล่อนยังไม่ทันจบการศึกษาดี แต่สุดท้ายก็ขัดทุกฝ่ายไม่ได้
หล่อนมั่นใจว่า สักวันคู่หมั้นหนุ่มคงจะเบื่อหล่อนเป็นแน่ เพราะเขาเป็นคนที่ชอบให้คนห้อมล้อม ให้ความสำคัญ และเอาอกเอาใจเขามากๆ
ขณะที่หล่อนนั้นเรียกได้ว่าพูดเท่าที่จำเป็นเท่านั้น หล่อนรู้ตัวทีเดียวว่าตนเองนั้นเป็นคู่หมั้นที่แสนเย็นชา และน่าเบื่อ หล่อนไม่มีทางที่จะอ่อนหวาน เอาใจในแบบที่เขาชอบ
กลับกลายเป็นว่าสถานการณ์ทุกอย่างใน 3 ปีของการหมั้นเป็นไปได้ด้วยดี ศีตภาคิดว่าครองวุฒิเป็นผู้ชายที่พอใช้ได้มากพอที่หล่อนจะฝากชีวิตและหัวใจไว้ได้ ตราบจนเกิดเหตุการณ์ในวันหนึ่ง