สวัสดีค่ะ ขอมารีวิวทริปญี่ปุ่นที่เราได้ไปมา เมื่อ 10 – 17 เมษายน ที่ผ่านมา
รีวิวญี่ปุ่นใน Pantip มีเยอะมากอยู่แล้วนะคะ Smart search เอาก็เจอเพียบ เราคงไม่ได้เล่าวิธีการไปอะไรมากมายนะคะ ขอเน้นพวกข้อมูลเล็กๆน้อยๆที่น่าจะเป็นประโยชน์กับคนอื่นได้ เราเองก้เป็นคนหาข้อมูลเที่ยวจาก Pantip อยู่ตลอด เลยจะชอบมาเขียนทิ้งไว้ เผื่อมีใครมีโอกาสได้อ่านแล้วได้ประโยชน์
..... เริ่มกันเลยยย
เราเดินทางด้วย Air Asia ก็ลงเครื่องที่ Narita 8 โมงเช้า คนเยอะมากนะคะ ตรง ตม. ช่วงเวลานั้น น่าจะเครื่องลงพร้อมๆกันเยอะ
ตอนที่เราไปเจอเข้าแถวอยู่เราว่าร่วมพันคนอ่ะ เพราะแถวทบไปทบมาเป็นงู จนล้นเขตเข้าคิวตม. ออกมาเลย เจ้าหน้าที่ต้องให้ไปตั้งแถวเพิ่มบริเวณโถงทางเดินก่อนถึง พื้นที่ ตม. ก็ยังต่อทบไปทบมาอีกเยอะมาก
ใช้เวลากว่าจะผ่านได้ ประมาณ 1 ชั่วโมงกว่า แต่เค้าก็ทำงานเต็มที่นะคะ ไม่ได้ช้า มีคนคอยช่วยจัดคิวให้เป็นระเบียบอยู่ตลอด มีการเปิด counter เพิ่ม มีคนคอยเร่งแถวให้เดินเร็วๆ กว่าจะพ้นออกมาได้ รถไฟขบวนที่ตั้งใจไว้ก็พลาดไป เราตั้งใจจะไป Sendai วันนี้เลยด้วย แต่ไม่เป็นไรค่ะ รถไฟมีเยอะ ก็ต้องใจเย็นหน่อย
Sakura at Sendai
มาถึง 11 เมษายน 62 ซากุระ แถว Tokyo ก็ยังพอมีนะคะ อยู่ตามสวนต่างๆสามารถหาดูได้บ้าง
แต่เรา Plan มาแล้วว่าอยากไปดูที่ Sendai เพราะตามพยากรณ์เห็นว่า Full Bloom พอดี ก็เลยซื้อ JR East Tohoku Area pass – flexible 5 วัน ได้ที่ราคา 5,149 บาท (ซื้อจากไทย Agent เจ้านึงนะคะ ถ้าอยากได้ชื่อ Agent หลังไมค์มานะคะ กลัวบอกหน้ากระทู้จะโดนเป็น SR เคยโดนมาแล้ว)
ซึ่งสุดท้าย เมื่อลองมาคิดค่า JR + shinkansen ทั้งหมดที่เราขึ้น (ตลอดทริป) + ค่าจองที่นั่ง รวมกันแล้ว ประมาณ 40,950 Y (จากราคา Pass 19,000 Y) ก็คุ้มค่าเกินราคาบัตรนะ
JR Pass จองเสร็จตัดเงินผ่านบัตรเครดิต จะได้ E-Voucher มาก็ print ไปรับบัตรจริงได้ที่ JR Office ที่สนามบิน Narita ได้เลยค่ะ
Office อยู่ชั้นเดียวกับทางเข้ารถไฟเข้าเมืองนะคะ ผ่านศุลกากรมาแล้ว ลงบันไดเลื่อน 1 ชั้น เดินไปตามป้าย To Train อยู่ก่อนถึงทางเข้ารถไฟ
ที่ JR Office ให้เจ้าหน้าที่ช่วยจองที่นั่งให้ได้เลยนะคะ (เราให้เค้าจองให้ทั้ง Nex และ Shinkansen ไป sendai)
ก่อนจองคิดคำนวนเวลาที่จะไปถึง Track ให้ดีๆนะ คนไทยเดินช้ากว่าคนญี่ปุ่น และยิ่งถ้ามีประเป๋าใบใหญ่ เวลาจองให้เผื่อเวลาหาบันไดเลื่อน หาลิฟต์ หา Track ด้วย ไม่งั้นเพิ่งไปถึงไม่คุ้นเคย วิ่งกันตาเหลือก ตกรถทั้งแต่วันแรกจะไม่สนุกเอา
ฝากกระเป๋า Locker Tokyo Station
จากสนามบินเรานั่ง Nex เข้ามาลง สถานี Tokyo แล้วหา Locker ฝากกระเป๋า เพื่อเปลี่ยนขึ้น Shinkansen ไป Sendai
ขอให้ระวัง !!! ตอนฝากรีบๆ พอตอนมารับคืน หา Locker ไม่เจอ จำชั้น จำทิศทาง หาจุดสังเกตให้ดี เพราะสถานีใหญ่มากๆ มีสารพัดรถไฟ
สารพัด Track เราเองขนาดคิดว่าจำดีแล้วแท้ๆว่าจุดสังเกตคืออะไร แถมถ่ายรูปไว้อีก
พอตกเย็นมาเอากระเป๋าจริงๆ หลงจ้า วนไปวนมานานมากกกกก หาว่า Locker อยู่ตรงไหน สรุปชั้นที่วนหากับชั้น Locker เป็นคนละชั้นกัน ...
เล่นเอาเหนื่อยค่ะ
Sendai จะไปดูซากุระที่ Funaoka Park > จากสถานี Sendai ให้ต่อรถ Local ไปสถานี Funaoka ใช้ JR East Tohoku ที่เรามีอยู่ได้ค่ะ นั่งรถออกไปประมาณ 40 นาที พอถึงสถานีก็เดินค่ะ ช่วงหน้าซากุระที่ Park ก็จะมีงาน มีป้ายปักตลอดทาง เดินตามป้ายไม่หลงค่ะ ระยะเดินช้าๆ ถ่ายรูปไปเรื่อยๆ ประมาณ 15 นาทีได้ค่ะ (ประมาณ 1.3 Km.) ถ้าใครเดินไม่ไหว นั่ง taxi ก็ไม่น่าจะแพงมาก คิดว่าไม่น่าเกิน 1,000 Y แต่รถแอบหายาก
ป้ายหน้าตาประมาณนี้ มีตลอดทาง เดินตามได้เลย
ที่สวนมีรถรางขึ้นไปชมบนภูเขาด้วยนะคะ
ดูจากรูปคนอื่นก่อนไปก็ดูน่าตื่นเต้น แต่พอไปจริงๆ จากในรถคนแน่นค่ะ มองไม่ค่อยเห็น ความสวยที่รถไฟผ่านอุโมงค์ซากุระ ต้องดูจากนอกรถนะคะ คนตั้งกล้องถ่ายรูปจากข้างนอกกัน
อากาศหนาวคนท้องถิ่นยังแต่งตัวกันเต็มที่ มีแต่เราที่คิดว่ามา ใบไม้ผลิน่าจะอากาศสบายๆใส่แจ็คเก็ตยีนส์บางๆมา สั่นเลย
น้องเราหนักกว่า ใส่ขาสั้นมาจากเมืองไทย ลงมาก็เที่ยวต่อเลย สรุปต้องไปซื้อถุงน่องจากร้านสะดวกซื้อมาใส่เพิ่มค่ะ
ซากุระบานสวยงาม
ขากลับ กว่าจะถ่ายรูปเสร็จ กว่าจะกลับมาถึง Sendai Station ก็เริ่มมืดแล้ว รถไฟเข้า Tokyo มาถึงสถานีพอดี เวลาแบบพอดีกันมากๆเลยวิ่งขึ้นรถไปทั้งที่ยังไม่ทันได้จองที่นั่ง ขึ้นไปถึงดันเป็นขบวนที่ไม่มี Non - Reserve อีก ขึ้นไปยืนเก้ๆกังๆ โชคดีมีเจ้าหน้าที่รถไฟมาช่วยหาที่นั่งให้ (เราใช้ JR อยู่แล้ว ก็เลยจองที่นั่งฟรีไม่มีปัญหาอะไร) ถ้ายังไงเผื่อเวลาซะหน่อย จะได้จองที่ให้เรียบร้อยขึ้นไปนั่ง ไม่ต้องวิ่งเหมือนเรา สบายใจกว่าค่ะ
ตะลุย
Disney Land & Disney Sea > เราเป็นสาวก Disney มากๆ ตามล่าให้ครบทุกที่อยู่
ตั๋ว Disney เราซื้อล่วงหน้าผ่าน App เหมือนกันค่ะ ถ้าอยากได้ชื่อหลังไมค์มานะ (ราคาอาจจะขึ้นอยู่กับ Promotion แตกต่างกันไป)
ราคาช่วงที่เราซื้อ ราคาเท่ากันทั้ง Disney Land & Sea : 2,090 บาท / วัน / คน
สำหรับเรา Disneyland ของเล่นน้อยกว่า ส่วนใหญ่มีแต่ของเล่นเด็กน้อย ถ้าใครต้องเลือกระหว่าง 2 ที่นี้ เราฟันธง !!! ว่าเลือก Sea สนุกกว่า มีของเล่นหลากหลาย เล่นได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ มี Show ที่ให้ความรู้สึกนึก Disney แบบต้นตำหรับที่อเมริกา มากกว่า
แต่ !!! พาเหรดในน้ำของ Sea ค่อนข้างไกลคนดู ไม่ใกล้ชิดเหมือน Land ที่อยู่บนถนนเหมือนที่อื่นๆ (แต่เพลงที่เปิดใน พาเหรดของ Land เป็นเพลงที่ไม่ค่อยรู้จักเลย เหมือนเป็นเพลงแต่งสำหรับ Disneyland Tokyo โดยเฉพาะ แต่คนญี่ปุ่นทั้งเต้นทั้งร้องกันได้แทบทุกคน)
ช่วงนี้ ที่ Disney Sea ตอนหัวค่ำตอนนี้มี Show Fantasmic ด้วย น่าจะคล้ายๆกับที่ Disney world ค่ะ
ข้าวแกงกะหรี่เนื้อที่ Zone India ใน Sea อร่อยมากกกก รสชาติเป็นแกงกะหรี่แขกปนญี่ปุ่น นั่งกินอยู่ในบรรยากาศ Akraba ฟินไปอี๊กก
เครื่องเล่นที่เราได้เล่นทั้งหมด ของแต่ละสวน (ด้วยการต่อคิว + กด Fast Pass ช่วยไปทีละเครื่อง) พยายามใช้ประโยชน์จาก Fast Pass นะคะ ช่วยได้เยอะเลย แต่ข้อเสียคือ ในแต่ละวัน Fast Pass จะมีจำนวนจำกัด ลองวางแผนให้ดี เพราะจะกดได้ก็ต่อเมื่อเวลาของเครื่องเล่นเก่าที่กดไปแล้วมาถึง ไม่ใช่กดได้ตลอดทั้งวันนะ
Disney Land : ไปวันศุกร์คิวค่อนข้างเยอะ สู้ความอดทนในการต่อคิวของคนญี่ปุ่นไม่ได้จริงๆ กลัวใจเลย เลยเลือกเล่นแค่เครื่องที่ยังไม่เคยเล่นมาก่อน (เครื่องไหนเคยเล่นมาแล้วจาก Disney อื่นก็ผ่านไปค่ะ)
Big Thunder Mountain
Space Mountain
Hunted Mansion
Peter pan's Flight
ข้าวแกงกระหรี่ยังน่ารัก
ไป Disneyland อย่าลืมซื้อ Popcorn นะ อันนี้ถังดัมโบ้น่ารักมาก เอากลับบ้านมาแม่นึกว่าซื้อกระเป๋าใหม่ ฮ่าๆ
Disney Sea : ไปวันจันทร์ อันนี้เล่นได้เยอะเพราะ มีเครื่องเล่นไม่ซ้ำกับที่อื่น ก็ต่อคิวสู้กับคนญี่ปุ่น
20,000 Leagues Under the Sea Ride-through
Center of the Earth
Indiana Jones Adventure
Raging spirits
King Triton's concert
Tower of Terror (อันนี้เคยเล่นที่ Disney wold แล้ว ชอบมากก..มาเจอที่นี่ เลยเล่น 2 รอบไปเลย ใช้ Fast Pass รอบนึง ต่อคิวเองรอบนึง)
Aquatopia
Jasmine’s Flying Carpets
Caavan carousel
( 2 อันนี้พรมหมุนเด็กน้อยมาก แต่เราชอบ Aladdin เป็นพิเศษ เลยขึ้นด้วย ฮ่าๆๆ)
Magic Lamp Theater
Sinbad's storybook voyage
kawagoe
มีโอกาสได้ไป Kawagoe วันนึง โดยวันที่กลับจาก Takaragawa จากสถานี Jomo Kogen เราลงที่ Omiya Station เอาประเป๋าฝาก Locker ก่อนต่อ JR Kawaoke ไปค่ะ สถานี Omiya ถ้าออกจาก ชินคันเซนมา แต่ยังไม่ออกจาก JR จะมีLocker ไม่เยอะนะคะ และ Locker สำหรับกระเป๋าลากใบใหญ่มีน้อยมาก วันที่เราไปหา locker ใหญ่อยู่นานมาก สรุปต้องออกจาก JR อีกทีก่อนนะคะ แล้วเดินไปทาง ฝั่ง south Gate จะมี Locker ไซส์ใหญ่เยอะหน่อย
เหล่าของกินที่ Kawagoe
โอนิกิริรูปสุดท้ายแถวยาวมาก รสชาติก็อร่อยมากเช่นกันเป็นปลาแห้งโรย
Review ที่พัก
Unizo Inn Hatchobori
Business Hotel แขกที่มาพักส่วนใหญ่ดูเป็นคนทำงานนะ นักท่องเที่ยวมีน้อย เราเลือกห้อง Economy Double room – เตียงนอนได้ 2 คน แบบเบียดๆนะคะ Style ญี่ปุ่น ห้องก็แคบๆ ราคา 2 คน พัก 2 คืน อยู่ที่ 9,114 บาท
เราจะไปเที่ยว Disney เลยเลือกพักที่สถานีนี้เพราะกะว่าเลิกจาก Disney ดึกๆ เหนื่อยๆ จะได้ถึงบ้านเร็วๆ ไม่ต้องต่อรถหลายต่อค่ะ
มีออนเซนเล็กๆ ในโรงแรมนะคะ ที่นั่งอาบน้ำได้ 3 คน บ่อแช่เล็กๆ ก็สบายดีค่ะ เหมาะสำหรับผ่อนคลายหลังจากเดินเยอะๆมาทั้งวัน
อาหารเช้ามีเป็นชุด ให้เราสั่ง ประมาณ 4 - 5 แบบ พอทานได้
ในห้องพักมีชุดคลุมอาบน้ำแบบมีกระดุม ใส่แทนชุดนอนได้ เครื่องอาบน้ำ แปรงสีฟัน ยาสีฟัน มีให้ครบ (ไม่ต้องพกมาเองเลย)
Takarakawa Onsen
อันนี้โด่งดังนะคะ คงไม่ต้องเล่าอะไรมาก
เราได้พักตึก Main Buildind ชั้น 2 ห้อง Keisei ชักโครกไม่ค่อยดีนะคะ กดไม่ค่อยลง ห้องพักมีวิวแม่น้ำ ใกล้น้ำตกเล็กๆ นอนฟังเสียงน้ำตกทั้งคืนเลย ราคารวมอาหารเย็น - เช้า พัก 2 คน 1 คืน โดนไป 43,400 Y
ไปถึง Jomo Kogen 11:00 ก็นั่งหลับรออยู่ในห้องพักรอของสถานี ที่สถานีไม่มีอะไรมากนะคะ ไม่คึกคักเหมือน Echigo Yuzawa
12:45 ก็มีเจ้าหน้าที่ถือป้ายเข้ามาเรียกและเช็คชื่อที่เราจองรอบรถไปก่อนทาง Email แล้ว 13:00 รถออกตรงเวลาค่ะ
ความเห็นส่วนตัว
สำหรับคนที่ชอบถ่ายรูป ใช้เวลาในการถ่ายรูปเยอะ ขึ้นรถรอบ 13:00 ก็ดีนะคะ ไปถึงเร็วได้มีเวลาเยอะ แต่ถ้าคนที่ไม่ได้ชอบถ่ายรูป ไปรอบ 15:00 ก็ได้นะ เพราะไปถึงก็ไม่ค่อยมีอะไรทำนอกจากถ่ายรูปกับแช่น้ำร้อน คือเป็นการไปเผื่อ Slow life มากจริงๆ สำหรับเราแอบน่าเบื่อไปหน่อย
บรรยากาศออนเซนก็ดีงามตามที่หลายๆคนเล่าค่ะ ผู้หญิงใส่ชุดเอี้ยมลงบ่อรวมได้ ผชก็มีผ้านุ่งอาบน้ำให้ไม่ต้องกลัวโป๊
เราไป ผญ 2 คน ก็สะดวกใจลงบ่อหญิงล้วนมากกว่า ส่วนมากผญ ที่ลงบ่อรวมจะมีผช ร่วม group มาด้วยนะ
Shibuya Tokyu Rei
ห่างจาก ห้าแยก Shibuya ประมาณ 150 เมตร
ห้องพักชั้น 11 เตียงแฝด ปลอดบุหรี่ พัก 2 คน 3 คืน ราคา 15,706 บาท (ไม่มีอาหารช้า) ห้องไม่กว้าง ไม่แคบ (เทียบกับมาตรฐานญี่ปุ่นทั่วไป) กางกระเป๋าเดินทาง 2 ใบ บนทางเดินได้พอดี (เดินข้ามกระเป๋าเอา)
ดีงามสำหรับคนชอบ Shopping นะคะ อยู่ห่างจาก ห้าแยก shibuya แค่ประมาณ 150 เมตร แถมโรงแรมอยู่ติดกับ Big Camera อีกตะหาก เรียกว่าวน shopping อยู่แถวนั้น แล้วเอาของมาเก็บที่ห้อง นอนพักขา ยังออกไปใหม่ได้อีก 2-3 รอบต่อวัน ดีต่อขา shop มากๆค่ะ
จากสถานี shibuya สามารถขึ้น Nex แบบยาวรวดไปลงสนามบิน Narita ได้เลยด้วยค่ะ ไม่ต้องลากกระเป๋าขึ้นลงให้เหนื่อย แต่ให้เข้าสถานีทาง South Gate นะเพราะมีลิฟต์ สบายกว่า ตรง Hajiko Gate มีแต่บันไดเดิน ส่องหาเส้นทางกันให้ดี จองที่นั่ง nex จองได้ทั้งตรง Hajiko Gate และ South Gate ค่ะ
- สั้นๆนะคะ จบแค่นี้ ถ้าไปเที่ยวไหนอีก จะเก็บพวกเกร็ดเล็กๆน้อยๆแบบนี้มาเล่าเรื่อยๆค่า -
[CR] ทริปญี่ปุ่น Tokyo – Sendai - Disneyland & Sea - Takarakawa onsen - kawagoe เน้นเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยเท่าที่จะนึกออก
รีวิวญี่ปุ่นใน Pantip มีเยอะมากอยู่แล้วนะคะ Smart search เอาก็เจอเพียบ เราคงไม่ได้เล่าวิธีการไปอะไรมากมายนะคะ ขอเน้นพวกข้อมูลเล็กๆน้อยๆที่น่าจะเป็นประโยชน์กับคนอื่นได้ เราเองก้เป็นคนหาข้อมูลเที่ยวจาก Pantip อยู่ตลอด เลยจะชอบมาเขียนทิ้งไว้ เผื่อมีใครมีโอกาสได้อ่านแล้วได้ประโยชน์
..... เริ่มกันเลยยย
เราเดินทางด้วย Air Asia ก็ลงเครื่องที่ Narita 8 โมงเช้า คนเยอะมากนะคะ ตรง ตม. ช่วงเวลานั้น น่าจะเครื่องลงพร้อมๆกันเยอะ
ตอนที่เราไปเจอเข้าแถวอยู่เราว่าร่วมพันคนอ่ะ เพราะแถวทบไปทบมาเป็นงู จนล้นเขตเข้าคิวตม. ออกมาเลย เจ้าหน้าที่ต้องให้ไปตั้งแถวเพิ่มบริเวณโถงทางเดินก่อนถึง พื้นที่ ตม. ก็ยังต่อทบไปทบมาอีกเยอะมาก
ใช้เวลากว่าจะผ่านได้ ประมาณ 1 ชั่วโมงกว่า แต่เค้าก็ทำงานเต็มที่นะคะ ไม่ได้ช้า มีคนคอยช่วยจัดคิวให้เป็นระเบียบอยู่ตลอด มีการเปิด counter เพิ่ม มีคนคอยเร่งแถวให้เดินเร็วๆ กว่าจะพ้นออกมาได้ รถไฟขบวนที่ตั้งใจไว้ก็พลาดไป เราตั้งใจจะไป Sendai วันนี้เลยด้วย แต่ไม่เป็นไรค่ะ รถไฟมีเยอะ ก็ต้องใจเย็นหน่อย
Sakura at Sendai
มาถึง 11 เมษายน 62 ซากุระ แถว Tokyo ก็ยังพอมีนะคะ อยู่ตามสวนต่างๆสามารถหาดูได้บ้าง
แต่เรา Plan มาแล้วว่าอยากไปดูที่ Sendai เพราะตามพยากรณ์เห็นว่า Full Bloom พอดี ก็เลยซื้อ JR East Tohoku Area pass – flexible 5 วัน ได้ที่ราคา 5,149 บาท (ซื้อจากไทย Agent เจ้านึงนะคะ ถ้าอยากได้ชื่อ Agent หลังไมค์มานะคะ กลัวบอกหน้ากระทู้จะโดนเป็น SR เคยโดนมาแล้ว)
ซึ่งสุดท้าย เมื่อลองมาคิดค่า JR + shinkansen ทั้งหมดที่เราขึ้น (ตลอดทริป) + ค่าจองที่นั่ง รวมกันแล้ว ประมาณ 40,950 Y (จากราคา Pass 19,000 Y) ก็คุ้มค่าเกินราคาบัตรนะ
JR Pass จองเสร็จตัดเงินผ่านบัตรเครดิต จะได้ E-Voucher มาก็ print ไปรับบัตรจริงได้ที่ JR Office ที่สนามบิน Narita ได้เลยค่ะ
Office อยู่ชั้นเดียวกับทางเข้ารถไฟเข้าเมืองนะคะ ผ่านศุลกากรมาแล้ว ลงบันไดเลื่อน 1 ชั้น เดินไปตามป้าย To Train อยู่ก่อนถึงทางเข้ารถไฟ
ที่ JR Office ให้เจ้าหน้าที่ช่วยจองที่นั่งให้ได้เลยนะคะ (เราให้เค้าจองให้ทั้ง Nex และ Shinkansen ไป sendai)
ก่อนจองคิดคำนวนเวลาที่จะไปถึง Track ให้ดีๆนะ คนไทยเดินช้ากว่าคนญี่ปุ่น และยิ่งถ้ามีประเป๋าใบใหญ่ เวลาจองให้เผื่อเวลาหาบันไดเลื่อน หาลิฟต์ หา Track ด้วย ไม่งั้นเพิ่งไปถึงไม่คุ้นเคย วิ่งกันตาเหลือก ตกรถทั้งแต่วันแรกจะไม่สนุกเอา
ฝากกระเป๋า Locker Tokyo Station
จากสนามบินเรานั่ง Nex เข้ามาลง สถานี Tokyo แล้วหา Locker ฝากกระเป๋า เพื่อเปลี่ยนขึ้น Shinkansen ไป Sendai
ขอให้ระวัง !!! ตอนฝากรีบๆ พอตอนมารับคืน หา Locker ไม่เจอ จำชั้น จำทิศทาง หาจุดสังเกตให้ดี เพราะสถานีใหญ่มากๆ มีสารพัดรถไฟ
สารพัด Track เราเองขนาดคิดว่าจำดีแล้วแท้ๆว่าจุดสังเกตคืออะไร แถมถ่ายรูปไว้อีก
พอตกเย็นมาเอากระเป๋าจริงๆ หลงจ้า วนไปวนมานานมากกกกก หาว่า Locker อยู่ตรงไหน สรุปชั้นที่วนหากับชั้น Locker เป็นคนละชั้นกัน ...
เล่นเอาเหนื่อยค่ะ
Sendai จะไปดูซากุระที่ Funaoka Park > จากสถานี Sendai ให้ต่อรถ Local ไปสถานี Funaoka ใช้ JR East Tohoku ที่เรามีอยู่ได้ค่ะ นั่งรถออกไปประมาณ 40 นาที พอถึงสถานีก็เดินค่ะ ช่วงหน้าซากุระที่ Park ก็จะมีงาน มีป้ายปักตลอดทาง เดินตามป้ายไม่หลงค่ะ ระยะเดินช้าๆ ถ่ายรูปไปเรื่อยๆ ประมาณ 15 นาทีได้ค่ะ (ประมาณ 1.3 Km.) ถ้าใครเดินไม่ไหว นั่ง taxi ก็ไม่น่าจะแพงมาก คิดว่าไม่น่าเกิน 1,000 Y แต่รถแอบหายาก
ป้ายหน้าตาประมาณนี้ มีตลอดทาง เดินตามได้เลย
ที่สวนมีรถรางขึ้นไปชมบนภูเขาด้วยนะคะ
ดูจากรูปคนอื่นก่อนไปก็ดูน่าตื่นเต้น แต่พอไปจริงๆ จากในรถคนแน่นค่ะ มองไม่ค่อยเห็น ความสวยที่รถไฟผ่านอุโมงค์ซากุระ ต้องดูจากนอกรถนะคะ คนตั้งกล้องถ่ายรูปจากข้างนอกกัน
อากาศหนาวคนท้องถิ่นยังแต่งตัวกันเต็มที่ มีแต่เราที่คิดว่ามา ใบไม้ผลิน่าจะอากาศสบายๆใส่แจ็คเก็ตยีนส์บางๆมา สั่นเลย
น้องเราหนักกว่า ใส่ขาสั้นมาจากเมืองไทย ลงมาก็เที่ยวต่อเลย สรุปต้องไปซื้อถุงน่องจากร้านสะดวกซื้อมาใส่เพิ่มค่ะ
ซากุระบานสวยงาม
ขากลับ กว่าจะถ่ายรูปเสร็จ กว่าจะกลับมาถึง Sendai Station ก็เริ่มมืดแล้ว รถไฟเข้า Tokyo มาถึงสถานีพอดี เวลาแบบพอดีกันมากๆเลยวิ่งขึ้นรถไปทั้งที่ยังไม่ทันได้จองที่นั่ง ขึ้นไปถึงดันเป็นขบวนที่ไม่มี Non - Reserve อีก ขึ้นไปยืนเก้ๆกังๆ โชคดีมีเจ้าหน้าที่รถไฟมาช่วยหาที่นั่งให้ (เราใช้ JR อยู่แล้ว ก็เลยจองที่นั่งฟรีไม่มีปัญหาอะไร) ถ้ายังไงเผื่อเวลาซะหน่อย จะได้จองที่ให้เรียบร้อยขึ้นไปนั่ง ไม่ต้องวิ่งเหมือนเรา สบายใจกว่าค่ะ
ตะลุย Disney Land & Disney Sea > เราเป็นสาวก Disney มากๆ ตามล่าให้ครบทุกที่อยู่
ตั๋ว Disney เราซื้อล่วงหน้าผ่าน App เหมือนกันค่ะ ถ้าอยากได้ชื่อหลังไมค์มานะ (ราคาอาจจะขึ้นอยู่กับ Promotion แตกต่างกันไป)
ราคาช่วงที่เราซื้อ ราคาเท่ากันทั้ง Disney Land & Sea : 2,090 บาท / วัน / คน
สำหรับเรา Disneyland ของเล่นน้อยกว่า ส่วนใหญ่มีแต่ของเล่นเด็กน้อย ถ้าใครต้องเลือกระหว่าง 2 ที่นี้ เราฟันธง !!! ว่าเลือก Sea สนุกกว่า มีของเล่นหลากหลาย เล่นได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ มี Show ที่ให้ความรู้สึกนึก Disney แบบต้นตำหรับที่อเมริกา มากกว่า
แต่ !!! พาเหรดในน้ำของ Sea ค่อนข้างไกลคนดู ไม่ใกล้ชิดเหมือน Land ที่อยู่บนถนนเหมือนที่อื่นๆ (แต่เพลงที่เปิดใน พาเหรดของ Land เป็นเพลงที่ไม่ค่อยรู้จักเลย เหมือนเป็นเพลงแต่งสำหรับ Disneyland Tokyo โดยเฉพาะ แต่คนญี่ปุ่นทั้งเต้นทั้งร้องกันได้แทบทุกคน)
ช่วงนี้ ที่ Disney Sea ตอนหัวค่ำตอนนี้มี Show Fantasmic ด้วย น่าจะคล้ายๆกับที่ Disney world ค่ะ
ข้าวแกงกะหรี่เนื้อที่ Zone India ใน Sea อร่อยมากกกก รสชาติเป็นแกงกะหรี่แขกปนญี่ปุ่น นั่งกินอยู่ในบรรยากาศ Akraba ฟินไปอี๊กก
เครื่องเล่นที่เราได้เล่นทั้งหมด ของแต่ละสวน (ด้วยการต่อคิว + กด Fast Pass ช่วยไปทีละเครื่อง) พยายามใช้ประโยชน์จาก Fast Pass นะคะ ช่วยได้เยอะเลย แต่ข้อเสียคือ ในแต่ละวัน Fast Pass จะมีจำนวนจำกัด ลองวางแผนให้ดี เพราะจะกดได้ก็ต่อเมื่อเวลาของเครื่องเล่นเก่าที่กดไปแล้วมาถึง ไม่ใช่กดได้ตลอดทั้งวันนะ
Disney Land : ไปวันศุกร์คิวค่อนข้างเยอะ สู้ความอดทนในการต่อคิวของคนญี่ปุ่นไม่ได้จริงๆ กลัวใจเลย เลยเลือกเล่นแค่เครื่องที่ยังไม่เคยเล่นมาก่อน (เครื่องไหนเคยเล่นมาแล้วจาก Disney อื่นก็ผ่านไปค่ะ)
Big Thunder Mountain
Space Mountain
Hunted Mansion
Peter pan's Flight
ข้าวแกงกระหรี่ยังน่ารัก
ไป Disneyland อย่าลืมซื้อ Popcorn นะ อันนี้ถังดัมโบ้น่ารักมาก เอากลับบ้านมาแม่นึกว่าซื้อกระเป๋าใหม่ ฮ่าๆ
Disney Sea : ไปวันจันทร์ อันนี้เล่นได้เยอะเพราะ มีเครื่องเล่นไม่ซ้ำกับที่อื่น ก็ต่อคิวสู้กับคนญี่ปุ่น
20,000 Leagues Under the Sea Ride-through
Center of the Earth
Indiana Jones Adventure
Raging spirits
King Triton's concert
Tower of Terror (อันนี้เคยเล่นที่ Disney wold แล้ว ชอบมากก..มาเจอที่นี่ เลยเล่น 2 รอบไปเลย ใช้ Fast Pass รอบนึง ต่อคิวเองรอบนึง)
Aquatopia
Jasmine’s Flying Carpets
Caavan carousel
( 2 อันนี้พรมหมุนเด็กน้อยมาก แต่เราชอบ Aladdin เป็นพิเศษ เลยขึ้นด้วย ฮ่าๆๆ)
Magic Lamp Theater
Sinbad's storybook voyage
kawagoe
มีโอกาสได้ไป Kawagoe วันนึง โดยวันที่กลับจาก Takaragawa จากสถานี Jomo Kogen เราลงที่ Omiya Station เอาประเป๋าฝาก Locker ก่อนต่อ JR Kawaoke ไปค่ะ สถานี Omiya ถ้าออกจาก ชินคันเซนมา แต่ยังไม่ออกจาก JR จะมีLocker ไม่เยอะนะคะ และ Locker สำหรับกระเป๋าลากใบใหญ่มีน้อยมาก วันที่เราไปหา locker ใหญ่อยู่นานมาก สรุปต้องออกจาก JR อีกทีก่อนนะคะ แล้วเดินไปทาง ฝั่ง south Gate จะมี Locker ไซส์ใหญ่เยอะหน่อย
เหล่าของกินที่ Kawagoe
โอนิกิริรูปสุดท้ายแถวยาวมาก รสชาติก็อร่อยมากเช่นกันเป็นปลาแห้งโรย
Review ที่พัก
Unizo Inn Hatchobori
Business Hotel แขกที่มาพักส่วนใหญ่ดูเป็นคนทำงานนะ นักท่องเที่ยวมีน้อย เราเลือกห้อง Economy Double room – เตียงนอนได้ 2 คน แบบเบียดๆนะคะ Style ญี่ปุ่น ห้องก็แคบๆ ราคา 2 คน พัก 2 คืน อยู่ที่ 9,114 บาท
เราจะไปเที่ยว Disney เลยเลือกพักที่สถานีนี้เพราะกะว่าเลิกจาก Disney ดึกๆ เหนื่อยๆ จะได้ถึงบ้านเร็วๆ ไม่ต้องต่อรถหลายต่อค่ะ
มีออนเซนเล็กๆ ในโรงแรมนะคะ ที่นั่งอาบน้ำได้ 3 คน บ่อแช่เล็กๆ ก็สบายดีค่ะ เหมาะสำหรับผ่อนคลายหลังจากเดินเยอะๆมาทั้งวัน
อาหารเช้ามีเป็นชุด ให้เราสั่ง ประมาณ 4 - 5 แบบ พอทานได้
ในห้องพักมีชุดคลุมอาบน้ำแบบมีกระดุม ใส่แทนชุดนอนได้ เครื่องอาบน้ำ แปรงสีฟัน ยาสีฟัน มีให้ครบ (ไม่ต้องพกมาเองเลย)
Takarakawa Onsen
อันนี้โด่งดังนะคะ คงไม่ต้องเล่าอะไรมาก
เราได้พักตึก Main Buildind ชั้น 2 ห้อง Keisei ชักโครกไม่ค่อยดีนะคะ กดไม่ค่อยลง ห้องพักมีวิวแม่น้ำ ใกล้น้ำตกเล็กๆ นอนฟังเสียงน้ำตกทั้งคืนเลย ราคารวมอาหารเย็น - เช้า พัก 2 คน 1 คืน โดนไป 43,400 Y
ไปถึง Jomo Kogen 11:00 ก็นั่งหลับรออยู่ในห้องพักรอของสถานี ที่สถานีไม่มีอะไรมากนะคะ ไม่คึกคักเหมือน Echigo Yuzawa
12:45 ก็มีเจ้าหน้าที่ถือป้ายเข้ามาเรียกและเช็คชื่อที่เราจองรอบรถไปก่อนทาง Email แล้ว 13:00 รถออกตรงเวลาค่ะ
ความเห็นส่วนตัว
สำหรับคนที่ชอบถ่ายรูป ใช้เวลาในการถ่ายรูปเยอะ ขึ้นรถรอบ 13:00 ก็ดีนะคะ ไปถึงเร็วได้มีเวลาเยอะ แต่ถ้าคนที่ไม่ได้ชอบถ่ายรูป ไปรอบ 15:00 ก็ได้นะ เพราะไปถึงก็ไม่ค่อยมีอะไรทำนอกจากถ่ายรูปกับแช่น้ำร้อน คือเป็นการไปเผื่อ Slow life มากจริงๆ สำหรับเราแอบน่าเบื่อไปหน่อย
บรรยากาศออนเซนก็ดีงามตามที่หลายๆคนเล่าค่ะ ผู้หญิงใส่ชุดเอี้ยมลงบ่อรวมได้ ผชก็มีผ้านุ่งอาบน้ำให้ไม่ต้องกลัวโป๊
เราไป ผญ 2 คน ก็สะดวกใจลงบ่อหญิงล้วนมากกว่า ส่วนมากผญ ที่ลงบ่อรวมจะมีผช ร่วม group มาด้วยนะ
Shibuya Tokyu Rei
ห่างจาก ห้าแยก Shibuya ประมาณ 150 เมตร
ห้องพักชั้น 11 เตียงแฝด ปลอดบุหรี่ พัก 2 คน 3 คืน ราคา 15,706 บาท (ไม่มีอาหารช้า) ห้องไม่กว้าง ไม่แคบ (เทียบกับมาตรฐานญี่ปุ่นทั่วไป) กางกระเป๋าเดินทาง 2 ใบ บนทางเดินได้พอดี (เดินข้ามกระเป๋าเอา)
ดีงามสำหรับคนชอบ Shopping นะคะ อยู่ห่างจาก ห้าแยก shibuya แค่ประมาณ 150 เมตร แถมโรงแรมอยู่ติดกับ Big Camera อีกตะหาก เรียกว่าวน shopping อยู่แถวนั้น แล้วเอาของมาเก็บที่ห้อง นอนพักขา ยังออกไปใหม่ได้อีก 2-3 รอบต่อวัน ดีต่อขา shop มากๆค่ะ
จากสถานี shibuya สามารถขึ้น Nex แบบยาวรวดไปลงสนามบิน Narita ได้เลยด้วยค่ะ ไม่ต้องลากกระเป๋าขึ้นลงให้เหนื่อย แต่ให้เข้าสถานีทาง South Gate นะเพราะมีลิฟต์ สบายกว่า ตรง Hajiko Gate มีแต่บันไดเดิน ส่องหาเส้นทางกันให้ดี จองที่นั่ง nex จองได้ทั้งตรง Hajiko Gate และ South Gate ค่ะ
- สั้นๆนะคะ จบแค่นี้ ถ้าไปเที่ยวไหนอีก จะเก็บพวกเกร็ดเล็กๆน้อยๆแบบนี้มาเล่าเรื่อยๆค่า -
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้