สวัสดีค่ะ พวกเราได้รับมิชชั่นจากอาจารย์วิชาอาเซียน ให้ไป ถ่ายรูปคู่กับอนุเสาวรีบุเรงนอง!! ที่เกาะสอง ประเทศพม่า
อันดับแรก พวกเราขึ้นรถที่สายใต้ใหม่ เวลา 20:20 น. ซึ่งพวกเราไปถึงในเวลา 20:24 น.!! ต้องบอกก่อนว่าพวกเราออกหอมาตั้งแต่ 6 โมงเย็น รอ Grab car ประมาณ 40 นาที รอไม่ไหว รถติดมาก เลยตัดสินใจยกเลิก แล้วนั่งวินไปลง Bts อโศก จาก Bts อโศก ลง Bts บางหว้า จากนั้นนั่งแท็กซี่ไปสายใต้ใหม่ ซึ่งพี่คนขับใจดีมาก เหยียบคันเร่งเร็วแรงแซงนรกเลยจ้า ทำให้พวกเรามาถึงได้ทันเวลาพอดี
หลังจากที่พวกเราขึ้นรถมาได้สักพักหนึ่ง ก็ถึงเวลาอันสมควรที่จะรับประทานอาหารกลางคืนแล้ว จะบอกว่าหากจะใช้บริการรถบริษัทโชคอนันต์ทัวร์ แนะนำให้พกหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันกลิ่นไม่พึงประสงค์ และยาดมเพื่อปัดเป่าภัยร้ายต่อโพรงจมูก หากจะเช็คเวลารถออก ให้โทรอย่างน้อย 3 ปี ก่อนใช้บริการ เพราะติดต่อยากมาก แต่ที่ประทับใจที่สุดคืออาหาร บริการดีเยี่ยม อร่อย สะอาด ถูกหลักอนามัย
และแล้วก็เดินทางมาถึงสถานีบริษัทโชคอนันต์ทัวร์ จังหวังระนอง ในเวลา 05:00 น. ก่อนหน้านี้พวกเราทำการจองที่พักไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากสถานีบริษัทโชคอนันต์ทัวร์
ระหว่างทางที่เดินไปที่พัก พวกเราก็เจอเซเว่น ทันใดนั้น ก็วิ่งเข้าไปหาของกินอย่างหิวโหย
หลังจากที่พวกเราทำภาระกิจส่วนตัวเสร็จแล้วนั้น ก็เริ่มออกเดินโดยขึ้นรถโดยสาร ค่าโดยสารคนละ 15 บาทตลอดทาง เพื่อเดินทางไปที่ท่าเทียบเรือ เทศบาลตำบลปากน้ำ หรือที่เรียกว่า สะพานปลา นั้นเองค่ะ
เมื่อถึงสะพานปลา จุดบริการออกหนังสือผ่านแดนชั่วคราว เปิดทำการเวลา 09:00 น. ซึ่งพวกเรามาถึงก่อนเวลา จึงแวะรับประอาหารเช้าที่ร้านข้าวแกง ร้านข้าวแกงที่นี้ราคาเป็นกันเอง กับข้าว 2 อย่าง 30 บาท
และก็ถึงเวลาทำบัตรผ่านแดน สิ่งที่ใช้ทำบัตรผ่านแดนก็คือบัตรประจำตัวประชาชน โดยการถ่ายสำเนาบัตรแผ่นละ 3 บาท คนละ 2 แผ่น โดยเจ้าหน้าที่จะจัดการให้เราทั้งหมด ค่าทำบัตรผ่านแดนคนละ 30 บาท รอไม่นานเราก็ได้เอกสารผ่านแดนมาละจ้าา ในการข้ามฟากไปเกาะสองครั้งนี้เราใช้บริการเรือหางยาวของลุงน้อย ค่าใช้จ่ายในการข้ามฟากไปเกาะสอง เราเหมาเรือของลุงน้อยไป-กลับ 1500 บาท (แต่ถ้าไม่เหมา ราคาก็จะคิดเป็นคน คนละ 50 บาท ไป-กลับก็หนึ่งร้อยบาท) ที่เราเลือกเหมาเรือไป-กลับ เพราะมันสะดวกในการเดินทาง และการไปตรวจเอกสารที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง โดยลุงน้อยจะอำนวยความสะดวกเราทุกอย่างรวมไปถึงการดำเนินเรื่องเอกสารให้ด้วย
และตอนนี้เวลา 10:00 น. พวกเราก็ได้ออกเดินทางไปเกาะสอง ประเทศเมียนมาร์ด้วยเรือหางยาว ระหว่างทางจะเจอด่านตรวจคนเข้าเมือง 2 จุด และลุงน้อยคนขับเรือก็เป็นคนดำเนินเอกสารนำบัตรผ่านแดนที่เราทำมานั้นไปยื่นที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองโดยที่เราไม่ต้องลงจากเรือด้วยตนเองเลย เพราะด่านตรวจคนเข้าเมืองอยู่กลางน้ำ ซึ่งกว่าจะขึ้นจากเรือไปได้และก็ต้องต่อแถวดำเนินเอกสารก็ต้องใช้เวลานาน เนื่องจากมีคนต่อแถวยาวมากกกกก
ในระหว่างการนั่งเรือนั้น เราก็ได้ถ่ายภาพสวยๆมาเยอะเลยค่ะ วิวสวยมากเลยค่ะ แม้อากาศจะร้อนมากกก และลุงน้อยก็ได้เล่าบรรยายสิ่งที่พบเห็นระหว่างทางให้พวกเราฟัง โดยพวกเราใช้เวลาในการเดินทางไปยังเกาะสองประมาณ 30 นาที
และในที่สุดพวกเราก็เดินทางมาถึงเกาะสอง ประเทศเมียนมาร์ เวลา 10:30 น. และเราก็มาถึงแลนด์มาร์คสำคัญนั้นก็คืออออ สะพานเกาะสองซึ่งทุกคนที่มาเที่ยวเกาะสอง ต้องขึ้นจากเรือและมายังสะพานแห่งนี้ และลุงน้อยก็ได้ติดต่อคนขับรถนำเที่ยวให้เราไว้แล้วชื่อว่าลุงลีซาน ลุงลีซานได้ช่วยดำเนินเอกสารบัตรผ่านแดนที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองที่เกาะสองให้พวกเรา และเราก็ได้เสียค่าเหยียบแผ่นดินคนละ 30 บาท
และนี้ก็คือรถที่เราเหมาไปเที่ยวรอบเกาะสอง จำนวน 7 สถานที่ ค่าเหมารถ 500 บาท
ที่แรกและก็เป็นสถานที่ที่เราได้รับภารกิจให้มาถ่ายรูป นั้นก็คือ อนุสาวรีย์พระเจ้าบุเรงนอง 🙏🏻 และเราก็ได้เสียค่าเข้าชมคนละ 10 บาท ซึ่งอนุสาวรีย์พระเจ้าบุเรงนอง ตั้งอยู่บนภูเขาใกล้ท่าเรือเกาะสองเลย ⛰ ขึ้นไปด้านบนจะเป็นที่ตั้งอนุสาวรีย์พระเจ้าบุเรงนอง บริเวณนี้ยังเป็นสวนสาธารณะอีกด้วย ถ้ามองไปข้างล่างจะเห็นวิวสวยมาก 🏝
ตามด้วย “อนุสาวรีย์อองซาน” ท่านอองซานหรืออู้อองซาน เป็นบิดาของอองซานซูจี 🧑🏼 ท่านอองซานได้รับการยกย่องเป็นบิดาแห่งประเทศพม่า หรือ "วีรบุรุษเพื่ออิสรภาพของประเทศพม่า" นั้นเอง 👏🏻
เดินทางไป “เจดีย์ปิดอร์เอ”
ซึ่งจำลองลักษณะรูปแบบมาจากพระมหาธาตุชเวดากอง มีขนาดเล็กกว่า แต่ความสวยนี้ 10 10 10 😱เจดีย์ตั้งอยู่บนเขาสูง ทำให้เห็นวิวเกาะสองได้สวยมาก 📌 ไฮไลต์ที่ทำให้เราตื่นเต้นคงเป็น พื้นกระเบื้องรอบเจดีย์คือเย็นเว่อร์ ❄️ ไม่ร้อน 🌬 ปกติถ้าเราเหยียบพื้นกระเบื้องก็จะร้อนเท้า แต่ที่นี้ไม่เลยจ้าาา ฟินกันปายยย
อีกหนึ่งแลนด์มาร์ค ที่ไปเกาะสองแล้วต้องถ่ายรูป 📸 ว่าเราไปถึงเกาะสองแล้วจ้าาา ถ้าขับรถผ่านป้ายนี้อีกนิด ก็จะข้ามไปอีกอำเภอหนึ่ง
หลังลงจากภูเขามาก็แวะ วัดกลางน้ำ ที่กำลังก่อสร้างเพิ่มเติม วัดไม่ใหญ่มาก 📢 ประเทศพม่าค่อนข้างเคร่งในเรื่องศาสนาเด้อ ก่อนเข้าเขาย้ำตลอดว่าให้ถอดรองเท้า ๆ 👍
ลุงคนขับรถ พาไปช้อปปิ้ง 💸 มีทั้งเสื้อผ้า ขนม บลาๆ ราคาเป็นกันเองอยู่นะ แต่เราเหมาแต่ขนมงา ขนมถั่วมา เพราะมันถูกดี แฮร่ แม่ค้า ก็ชวนให้ลองเสื้อบ้าง หมวกบ้าง อยากซื้อนะแต่ก็ประหยัดเงินไงงง งดไปก่อนนะจ้ะ 😭 แม่ค้ารีวิวทานาคาแบบสุด บอกสรรพคุณต่างๆนานา อีกทั้งทาบนผิวเราบ้าง ก็ถือว่าเป็นของดีพม่าจริงๆ
ก่อนกลับขอถ่ายรูป ลุงลีซานซักหน่อย 🙏🏻 และแนบนามบัตรคุณลุงไว้ด้วย อิอิ ต้องขอบคุณลุงลีซาที่เป็นไกด์นำเที่ยวและเป็นช่างภาพให้พวกเรา ❤️ ลุงแกถ่ายรูปสวยเด้อ ท่าตอนถ่ายรูปคือสุดยอดดด เลิ้ปปป
และเมื่อจบภารกิจของเรา เราก็ได้เดินทางกลับโดยเรือลำเดิม ทั้งขา ไป-กลับ เรือทุกลำต้องเข้าตรวจคนเข้าเมืองด้วยนะโดยลุงคนขับเรือเป็นคนนำหนังสือผ่านแดนไปให้เจ้าหน้าที่ ลุงแกคงกลัวเราตกเรือ 555
ตอนนี้เราก็เดินทางมาถึงท่าเรือสะพานปลา
ก่อนกลับเข้าที่พักเราก็ได้ขอเซลฟี่กับลุงน้อยซะหน่อยย ลุงน้อยน่ารักมากค่ะ แกใจดี เป็นกันเองกับเรามากกก แถมให้ความรู้เราตลอดการเดินทางอีกด้วย
จากนั้นเราก็เดินทางกลับที่พัก และก็เข้าพักผ่อนเพื่อเตรียมตัวเดินทางกลับพรุ่งนี้เช้าหลังจากที่เราไปตะล่อนทัวร์เหนื่อยมาทั้งวัน 5555555
สถานที่ที่เราเลือกเข้าพักผ่อนนั้นก็คือ มนต์ตรา เกสเฮาส์ เป็นห้องพักเตียงใหญ่ มีแอร์ การบริการดี และห้องพักเหมาะสมกับราคาค่ะ แถมเดินทางสะดวกสุดๆ อยู่ใกล้กับสถานีรถบริษัทโชคอนันต์ทัวร์ที่เราใช้บริการเดินทางไป-กลับกรุงเทพในครั้งนี้อีกด้วยค่ะ
เช้าวันที่ 24 มีนาคม เราเดินทางกลับกรุงเทพเวลา 06:00 น. มาถึงกรุงเทพเวลา 2 ทุ่ม แล้วก็เป็นการจบทริปของพวกเราค่ะ
📢 ค่าใช้จ่ายทั้งหมด
-นั่งวินไปBTSอโศก คนละ15บาท
-นั่งBTSไปบางหว้า คนละ59 บาท
-แท็กซี่ไปสายใต้ใหม่ 100บาท คนละ 20 บาท
-ค่ารถทัวร์โชคอนันต์ทัวร์คนละ 403 บาท ไป-กลับคนละ 806 บาท
-นั่งรถจากที่พักมาท่าเรือคนละ15บาท
-ค่าผ่านแดนคนละ 30 บาท
-ค่าถ่ายเอกสารคนละ 6 บาท
-ค่าเหมาเรือ 1000 บาท คนละ 200 บาท
-ค่าเหยียบแผ่นดินพม่าคนละ 30 บาท
-ค่าเข้าชมวัด 10 บาท
-ค่ารถพาเที่ยว 500 บาท คนละ 100 บาท
-ค่าที่พัก 2 ห้อง คนละ 190 บาท
-ค่าอาหาร/เครื่องดื่ม คนละ 400 บาท
-ค่าของฝาก คนละ 200 บาท
-ค่าแท็กซี่ไป BTS 100 บาท คนละ 20 บาท
-ค่าBTS 59 บาท
-ค่าเเท็กซี่กลับมอ คนละ 10 บาท
ใช้ไปประมาณคนละ 2,170 บาท
[SR] เที่ยวเกาะสองประเทศพม่าด้วยงบไม่เกิน 2500 จร้า "คึกคะนองที่ระนองนิ"
สวัสดีค่ะ พวกเราได้รับมิชชั่นจากอาจารย์วิชาอาเซียน ให้ไป ถ่ายรูปคู่กับอนุเสาวรีบุเรงนอง!! ที่เกาะสอง ประเทศพม่า
อันดับแรก พวกเราขึ้นรถที่สายใต้ใหม่ เวลา 20:20 น. ซึ่งพวกเราไปถึงในเวลา 20:24 น.!! ต้องบอกก่อนว่าพวกเราออกหอมาตั้งแต่ 6 โมงเย็น รอ Grab car ประมาณ 40 นาที รอไม่ไหว รถติดมาก เลยตัดสินใจยกเลิก แล้วนั่งวินไปลง Bts อโศก จาก Bts อโศก ลง Bts บางหว้า จากนั้นนั่งแท็กซี่ไปสายใต้ใหม่ ซึ่งพี่คนขับใจดีมาก เหยียบคันเร่งเร็วแรงแซงนรกเลยจ้า ทำให้พวกเรามาถึงได้ทันเวลาพอดี
หลังจากที่พวกเราขึ้นรถมาได้สักพักหนึ่ง ก็ถึงเวลาอันสมควรที่จะรับประทานอาหารกลางคืนแล้ว จะบอกว่าหากจะใช้บริการรถบริษัทโชคอนันต์ทัวร์ แนะนำให้พกหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันกลิ่นไม่พึงประสงค์ และยาดมเพื่อปัดเป่าภัยร้ายต่อโพรงจมูก หากจะเช็คเวลารถออก ให้โทรอย่างน้อย 3 ปี ก่อนใช้บริการ เพราะติดต่อยากมาก แต่ที่ประทับใจที่สุดคืออาหาร บริการดีเยี่ยม อร่อย สะอาด ถูกหลักอนามัย
และแล้วก็เดินทางมาถึงสถานีบริษัทโชคอนันต์ทัวร์ จังหวังระนอง ในเวลา 05:00 น. ก่อนหน้านี้พวกเราทำการจองที่พักไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากสถานีบริษัทโชคอนันต์ทัวร์
ระหว่างทางที่เดินไปที่พัก พวกเราก็เจอเซเว่น ทันใดนั้น ก็วิ่งเข้าไปหาของกินอย่างหิวโหย
หลังจากที่พวกเราทำภาระกิจส่วนตัวเสร็จแล้วนั้น ก็เริ่มออกเดินโดยขึ้นรถโดยสาร ค่าโดยสารคนละ 15 บาทตลอดทาง เพื่อเดินทางไปที่ท่าเทียบเรือ เทศบาลตำบลปากน้ำ หรือที่เรียกว่า สะพานปลา นั้นเองค่ะ เมื่อถึงสะพานปลา จุดบริการออกหนังสือผ่านแดนชั่วคราว เปิดทำการเวลา 09:00 น. ซึ่งพวกเรามาถึงก่อนเวลา จึงแวะรับประอาหารเช้าที่ร้านข้าวแกง ร้านข้าวแกงที่นี้ราคาเป็นกันเอง กับข้าว 2 อย่าง 30 บาท
และก็ถึงเวลาทำบัตรผ่านแดน สิ่งที่ใช้ทำบัตรผ่านแดนก็คือบัตรประจำตัวประชาชน โดยการถ่ายสำเนาบัตรแผ่นละ 3 บาท คนละ 2 แผ่น โดยเจ้าหน้าที่จะจัดการให้เราทั้งหมด ค่าทำบัตรผ่านแดนคนละ 30 บาท รอไม่นานเราก็ได้เอกสารผ่านแดนมาละจ้าา ในการข้ามฟากไปเกาะสองครั้งนี้เราใช้บริการเรือหางยาวของลุงน้อย ค่าใช้จ่ายในการข้ามฟากไปเกาะสอง เราเหมาเรือของลุงน้อยไป-กลับ 1500 บาท (แต่ถ้าไม่เหมา ราคาก็จะคิดเป็นคน คนละ 50 บาท ไป-กลับก็หนึ่งร้อยบาท) ที่เราเลือกเหมาเรือไป-กลับ เพราะมันสะดวกในการเดินทาง และการไปตรวจเอกสารที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง โดยลุงน้อยจะอำนวยความสะดวกเราทุกอย่างรวมไปถึงการดำเนินเรื่องเอกสารให้ด้วย
และตอนนี้เวลา 10:00 น. พวกเราก็ได้ออกเดินทางไปเกาะสอง ประเทศเมียนมาร์ด้วยเรือหางยาว ระหว่างทางจะเจอด่านตรวจคนเข้าเมือง 2 จุด และลุงน้อยคนขับเรือก็เป็นคนดำเนินเอกสารนำบัตรผ่านแดนที่เราทำมานั้นไปยื่นที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองโดยที่เราไม่ต้องลงจากเรือด้วยตนเองเลย เพราะด่านตรวจคนเข้าเมืองอยู่กลางน้ำ ซึ่งกว่าจะขึ้นจากเรือไปได้และก็ต้องต่อแถวดำเนินเอกสารก็ต้องใช้เวลานาน เนื่องจากมีคนต่อแถวยาวมากกกกก
ในระหว่างการนั่งเรือนั้น เราก็ได้ถ่ายภาพสวยๆมาเยอะเลยค่ะ วิวสวยมากเลยค่ะ แม้อากาศจะร้อนมากกก และลุงน้อยก็ได้เล่าบรรยายสิ่งที่พบเห็นระหว่างทางให้พวกเราฟัง โดยพวกเราใช้เวลาในการเดินทางไปยังเกาะสองประมาณ 30 นาที
และในที่สุดพวกเราก็เดินทางมาถึงเกาะสอง ประเทศเมียนมาร์ เวลา 10:30 น. และเราก็มาถึงแลนด์มาร์คสำคัญนั้นก็คืออออ สะพานเกาะสองซึ่งทุกคนที่มาเที่ยวเกาะสอง ต้องขึ้นจากเรือและมายังสะพานแห่งนี้ และลุงน้อยก็ได้ติดต่อคนขับรถนำเที่ยวให้เราไว้แล้วชื่อว่าลุงลีซาน ลุงลีซานได้ช่วยดำเนินเอกสารบัตรผ่านแดนที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองที่เกาะสองให้พวกเรา และเราก็ได้เสียค่าเหยียบแผ่นดินคนละ 30 บาท
และนี้ก็คือรถที่เราเหมาไปเที่ยวรอบเกาะสอง จำนวน 7 สถานที่ ค่าเหมารถ 500 บาท
ที่แรกและก็เป็นสถานที่ที่เราได้รับภารกิจให้มาถ่ายรูป นั้นก็คือ อนุสาวรีย์พระเจ้าบุเรงนอง 🙏🏻 และเราก็ได้เสียค่าเข้าชมคนละ 10 บาท ซึ่งอนุสาวรีย์พระเจ้าบุเรงนอง ตั้งอยู่บนภูเขาใกล้ท่าเรือเกาะสองเลย ⛰ ขึ้นไปด้านบนจะเป็นที่ตั้งอนุสาวรีย์พระเจ้าบุเรงนอง บริเวณนี้ยังเป็นสวนสาธารณะอีกด้วย ถ้ามองไปข้างล่างจะเห็นวิวสวยมาก 🏝
ตามด้วย “อนุสาวรีย์อองซาน” ท่านอองซานหรืออู้อองซาน เป็นบิดาของอองซานซูจี 🧑🏼 ท่านอองซานได้รับการยกย่องเป็นบิดาแห่งประเทศพม่า หรือ "วีรบุรุษเพื่ออิสรภาพของประเทศพม่า" นั้นเอง 👏🏻
เดินทางไป “เจดีย์ปิดอร์เอ”
ซึ่งจำลองลักษณะรูปแบบมาจากพระมหาธาตุชเวดากอง มีขนาดเล็กกว่า แต่ความสวยนี้ 10 10 10 😱เจดีย์ตั้งอยู่บนเขาสูง ทำให้เห็นวิวเกาะสองได้สวยมาก 📌 ไฮไลต์ที่ทำให้เราตื่นเต้นคงเป็น พื้นกระเบื้องรอบเจดีย์คือเย็นเว่อร์ ❄️ ไม่ร้อน 🌬 ปกติถ้าเราเหยียบพื้นกระเบื้องก็จะร้อนเท้า แต่ที่นี้ไม่เลยจ้าาา ฟินกันปายยย
อีกหนึ่งแลนด์มาร์ค ที่ไปเกาะสองแล้วต้องถ่ายรูป 📸 ว่าเราไปถึงเกาะสองแล้วจ้าาา ถ้าขับรถผ่านป้ายนี้อีกนิด ก็จะข้ามไปอีกอำเภอหนึ่ง
หลังลงจากภูเขามาก็แวะ วัดกลางน้ำ ที่กำลังก่อสร้างเพิ่มเติม วัดไม่ใหญ่มาก 📢 ประเทศพม่าค่อนข้างเคร่งในเรื่องศาสนาเด้อ ก่อนเข้าเขาย้ำตลอดว่าให้ถอดรองเท้า ๆ 👍
ลุงคนขับรถ พาไปช้อปปิ้ง 💸 มีทั้งเสื้อผ้า ขนม บลาๆ ราคาเป็นกันเองอยู่นะ แต่เราเหมาแต่ขนมงา ขนมถั่วมา เพราะมันถูกดี แฮร่ แม่ค้า ก็ชวนให้ลองเสื้อบ้าง หมวกบ้าง อยากซื้อนะแต่ก็ประหยัดเงินไงงง งดไปก่อนนะจ้ะ 😭 แม่ค้ารีวิวทานาคาแบบสุด บอกสรรพคุณต่างๆนานา อีกทั้งทาบนผิวเราบ้าง ก็ถือว่าเป็นของดีพม่าจริงๆ
ก่อนกลับขอถ่ายรูป ลุงลีซานซักหน่อย 🙏🏻 และแนบนามบัตรคุณลุงไว้ด้วย อิอิ ต้องขอบคุณลุงลีซาที่เป็นไกด์นำเที่ยวและเป็นช่างภาพให้พวกเรา ❤️ ลุงแกถ่ายรูปสวยเด้อ ท่าตอนถ่ายรูปคือสุดยอดดด เลิ้ปปป
และเมื่อจบภารกิจของเรา เราก็ได้เดินทางกลับโดยเรือลำเดิม ทั้งขา ไป-กลับ เรือทุกลำต้องเข้าตรวจคนเข้าเมืองด้วยนะโดยลุงคนขับเรือเป็นคนนำหนังสือผ่านแดนไปให้เจ้าหน้าที่ ลุงแกคงกลัวเราตกเรือ 555 ตอนนี้เราก็เดินทางมาถึงท่าเรือสะพานปลา
ก่อนกลับเข้าที่พักเราก็ได้ขอเซลฟี่กับลุงน้อยซะหน่อยย ลุงน้อยน่ารักมากค่ะ แกใจดี เป็นกันเองกับเรามากกก แถมให้ความรู้เราตลอดการเดินทางอีกด้วย
จากนั้นเราก็เดินทางกลับที่พัก และก็เข้าพักผ่อนเพื่อเตรียมตัวเดินทางกลับพรุ่งนี้เช้าหลังจากที่เราไปตะล่อนทัวร์เหนื่อยมาทั้งวัน 5555555
สถานที่ที่เราเลือกเข้าพักผ่อนนั้นก็คือ มนต์ตรา เกสเฮาส์ เป็นห้องพักเตียงใหญ่ มีแอร์ การบริการดี และห้องพักเหมาะสมกับราคาค่ะ แถมเดินทางสะดวกสุดๆ อยู่ใกล้กับสถานีรถบริษัทโชคอนันต์ทัวร์ที่เราใช้บริการเดินทางไป-กลับกรุงเทพในครั้งนี้อีกด้วยค่ะ
เช้าวันที่ 24 มีนาคม เราเดินทางกลับกรุงเทพเวลา 06:00 น. มาถึงกรุงเทพเวลา 2 ทุ่ม แล้วก็เป็นการจบทริปของพวกเราค่ะ
📢 ค่าใช้จ่ายทั้งหมด
-นั่งวินไปBTSอโศก คนละ15บาท
-นั่งBTSไปบางหว้า คนละ59 บาท
-แท็กซี่ไปสายใต้ใหม่ 100บาท คนละ 20 บาท
-ค่ารถทัวร์โชคอนันต์ทัวร์คนละ 403 บาท ไป-กลับคนละ 806 บาท
-นั่งรถจากที่พักมาท่าเรือคนละ15บาท
-ค่าผ่านแดนคนละ 30 บาท
-ค่าถ่ายเอกสารคนละ 6 บาท
-ค่าเหมาเรือ 1000 บาท คนละ 200 บาท
-ค่าเหยียบแผ่นดินพม่าคนละ 30 บาท
-ค่าเข้าชมวัด 10 บาท
-ค่ารถพาเที่ยว 500 บาท คนละ 100 บาท
-ค่าที่พัก 2 ห้อง คนละ 190 บาท
-ค่าอาหาร/เครื่องดื่ม คนละ 400 บาท
-ค่าของฝาก คนละ 200 บาท
-ค่าแท็กซี่ไป BTS 100 บาท คนละ 20 บาท
-ค่าBTS 59 บาท
-ค่าเเท็กซี่กลับมอ คนละ 10 บาท
ใช้ไปประมาณคนละ 2,170 บาท
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้