[รีวิว+สปอยล์พิเศษ!!] Game of Thrones S8E3 “เพราะค่ำคืนมันโคตรมืด และเต็มไปด้วยความผิดหวัง” by ตั๋วหนังมันแพง

[รีวิว+สปอยล์พิเศษ] Game of Thrones ซีซั่น 8 ตอนที่ 3:

“เพราะค่ำคืนมันโคตรมืด และเต็มไปด้วยความผิดหวัง”

คะแนน: 6/10

by ตั๋วหนังมันแพง
**คำเตือน!**

**มีการเปิดเผยเนื้อหาสำคัญทั้งหมด**
.
.
👎🏻 สิ่งที่ไม่ชอบ 👎🏻

1.”ฉากต่อสู้ในตอนนี้มันดาร์กมาก”

… แบบ literally dark, คือ “มืดฉิบเป๋ง” เป็นครั้งแรกที่ผมดูซีรีส์แล้วต้องเร่ง brightness ของหน้าจอให้เต็มร้อย เพื่อจะได้ดูฉากสงครามขั้นเทพให้เป็นบุญตา แต่อนิจจา แม่มเอ๊ย เต็มร้อยก็ยังดูไม่รู้เรื่อง
.
ยิ่งในช่วง 30 นาทีแรกของหนังคือเหมือนผมฟังพอดแคสต์อยู่ ไม่รู้ว่าใครเป็นใคร ได้ยินแต่เสียงอู้อ้าๆ ของคนสู้รบกัน เวลามีตัวละครมันพยายามจุดไฟหรือมังกรพ่นไฟสว่างๆ นะ โอ้โห ผมนี่เฮคนเดียวในบ้าน “ดูรู้เรื่องแล้วโว้ยยย”
.
คุณอาจจะค้านทำนองว่า

“เฮ้ยแก ก็มันเป็นฉากต่อสู้ยุคโบราณในฤดูหนาว+พายุหิมะ มันก็ต้องมืดสิจ๊ะ”

… เอาจริงสิ? คือเข้าใจว่าความสมจริงมันมีความสำคัญ แต่มันก็ไม่ควรถึงขนาดที่ทำให้คนดูตาบอดหรือเปล่า แล้วจะโยนงบเป็นสิบล้านร้อยล้านลงไปทำไม ถ้าคนดู can’t see shit at all?
.
2.”ถ้าใจไม่ถึงพอจะฆ่าตัวละครสำคัญจริงๆ ก็อย่าโม้ตั้งแต่แรกดีกว่า”

ก่อนตัวหนังจะฉาย ทีมผู้สร้างเขาก็ออกมาโม้หนักเลยว่าจะมีตัวสำคัญตายเพียบ ให้เกิดความสมจริงแบบสงครามที่ต้องมีการสูญเสีย แต่พอเอาเข้าจริงแล้วมันก็อีหรอบเดิม คือผู้สร้างก็ยังปอดแหกเกินกว่าจะปลิดชีพตัวทำมาหากินของซีรีส์ได้ … “สงครามที่ยิ่งใหญ่ที่สุด” จึงกลายเป็นเทศกาลฆ่าตัวประกอบ (อีกแล้ว)
.
ถ้าคุณคิดว่า “เขาก็ฆ่าตัวละครหลักไปตั้งเยอะแยะแล้วนะ” ผมก็ขอค้านว่า “คุณคิดผิดแล้ว” ไอ้ที่ตายๆ ไปน่ะ เป็นตัวละครเสริมที่ไม่มีความสำคัญกับเนื้อเรื่องล้วนๆ คือถูกเลี้ยงมาเป็นวัตถุดิบตายโหงชัดๆ เลย เช่น

💀 ธีออน เกรย์จอย: หมดคุณค่าไปตั้งแต่เนื้อเรื่องกบฏโบลตั้นแล้ว ได้มีโอกาสไถ่บาปกับแบรนดอนก็ถือว่าโอเคอยู่

💀 ลีอานนา มอร์มอนท์ (น้องหมี): มีฉากเท่ๆ เพียบ ได้ใจคนดูทุกหย่อมหญ้า เกิดมาเพื่อรอให้คนเขียนบทฆ่าแต่แรก

💀 เซอร์ จอราห์ มอร์มอนท์: แทบจะเป็นมนุษย์ล่องหนอยู่แล้ว มีหรือไม่มีก็ไม่สำคัญ

💀 ลอร์ดเบริก ดอนดาเรี่ยน/เอ็ดแห่งไนท์วอช: ตัวประกอบอย่างแท้จริง

💀 กองทัพโดธรากี + ผู้ไร้มลทิน: อยู่ในจุดที่ไม่เข้ากับธีม “จอนแดนี่” แล้ว สังเกตว่าไม่มีบทพูด/สกรีนไทม์เลย คนเขียนบทเลยตัดสินใจส่งไปตายให้หมด

… ส่วนที่เหลือ รอดหมดจ้า!

แม้ว่าคุณจะอยู่ในสถานการณ์ที่สมควรตายแค่ไหนก็ตาม แต่ถ้าคุณเป็นตัวหลัก คุณก็จะมี “คนมาช่วย” ในวินาทีสุดท้ายเสมอ
.
ดูอย่างบริแอนน์กับแซมสิ โดนผีดิบรุมทึ้งซะขนาดนั้นยังเหลือรอดมาครบ 32 ได้อีก ไม่รู้ว่าพวกคุณคิดยังไง แต่สำหรับผมมันเป็น plot armor ที่น่าอนาถมากๆ
.
3.”ไนท์คิงจะแพ้ศึกแบบนี้จริงดิ?”

อาร์ยาลอบสังหารไนท์คิงถือเป็นบทหนังที่ “โคตรขี้เกียจเลย” คือมันแย้งในตัวเองไปหมด สรุปว่าไนท์คิงจะเป็นตัวร้ายที่ฉลาดใช้กลยุทธ์หรือว่าเป็นผีดิบโง่ๆ ที่โดนหลอกมาฆ่าตรงกับดักกันแน่?
.
ส่วนตัวผมคิดว่ามันพิลึกตั้งแต่สาเหตุที่ไนท์คิงมาตามล่าแบรนแล้ว “เพื่อลบความจำของโลก” เนี่ยนะ? ผมว่ามันเป็นเหตุผลที่ตลกสิ้นดี
.
จะว่าฆ่าแบรนแล้วมนุษย์ทุกคนจะความจำเสื่อมกันหมดก็ไม่ใช่ ทุกคนก็ยังบอกเล่ากันได้อยู่ ยังมีการจดบันทึกอยู่ โน่น! ถ้าอยากจะลบประวัติศาสตร์คนจริงๆ ให้ไปบุก Citadel โน่น จดหมายเหตุมีเป็นแสนเป็นล้านฉบับ คือมันไม่เมกเซนส์ตั้งแต่ต้นแล้ว
.
สำหรับผมมันน่าเศร้าที่ซีรีส์ที่เคยฉลาดอย่าง GOT กลายสภาพมาเป็นหนังแมสจ๋าแบบนี้ ซึ่งเป็นผลพวงมาจากการที่ไม่มี “วัตถุดิบดีๆ ” จากหนังสือของจอร์จมาร์ตินมาอ้างอิงแล้ว มันอยู่ในช่วงค่อยๆ ดิ่งเหวตั้งแต่ season 6-7 อย่างเห็นได้ชัด (คุณจำการเสื่อมถอยของตัวละครลิตเติลฟิงเกอร์ได้ไหม?)

👍🏻 สิ่งที่ชอบ 👍🏻

1.ฉากจุดไฟใส่ดาบของกองทัพโดธรากีคือ visually impact มากกก มันมีความสวยงามและยิ่งใหญ่น่าตื่นตา และการทำให้เปลวไฟค่อยๆ มอดหายไปจนเหลือแต่ความมืดมิดมันก็นำเสนอ “ความสิ้นหวัง” ได้ดีจริงๆ
.
2.กองทัพคนตายน่ากลัวสมคำร่ำลือมากๆ มันโถมเข้ามาเป็นคลื่นแบบไม่กลัวตาย ฆ่าไปเท่าไรก็ไม่หมดสักที จนเรารู้สึกได้จริงๆ ว่าถ้าเราต้องไปรบกับไอ้ตัวพวกนี้จริงๆ เราคงกลัวหัวหดเลยล่ะ
.
3.ฉากในสุสานใต้ดินเมกเซนส์ดี คือผมเคยคาดการณ์เล่นๆ ไว้ว่า “หลบไปอยู่ในสุสาน เดี๋ยวก็เจอซอมบี้อดีตราชาแดนเหนือหรอก” เออว่ะ มันมาจริงด้วย กลายเป็นสถานที่หลบภัยที่โคตรเฮงซวยไปเฉยเลย
.
4.ฉากถ่านไฟเก่าระหว่างซานซ่าและทีเรี่ยนก็น่ารักดี มันส่งอารมณ์จนถึงจุดดที่ใจแวบนึงผมแอบคิดว่าทีเรี่ยนคว้ามีดไปสู้กับผีคงไม่รอดแหงๆ … อ้าว สรุปคือไม่ได้ทำอะไรสักอย่างเลยนี่หว่า ลุ้นเก้อไปสิ
.
5.ฉากการใช้กลศึก “ศพดับไฟ” ของไนท์คิงนี่โคตรพีคเลย คือตอนจุดไฟสนามเพลาะก็นึกว่าฝ่ายมนุษย์จะได้เปรียบแล้ว แต่ผีดิบมันก็แก้เกมได้อย่างชาญฉลาด แต่ก็เนี่ย มันเลยไปขัดแย้งความบื้อของตัวละครไนท์คิงที่บ่นไปข้างต้นไง
.
.
.
ทั้งนี้ผมต้องออกตัวเลยว่าผมไม่ได้เกลียด GOT นะ ผมรักมันมากทั้งในฐานะนักอ่านและคนดู แต่มันปฏิเสธจุดเสื่อมถอยของฉบับ tv series ไม่ได้จริงๆ เสน่ห์ความเฉียบคม ความหลักแหลมของหนังชิงไหวพริบการเมืองมันหดหายไปหมด กลายเป็นซีรีส์ขายความเป็นฮีโร่ เป็นพระนางไปซะอย่างนั้น

แต่ก็นั่นแหละ ถึงผมจะบ่นไปเยอะแยะ แต่ถ้าคุณดูแล้วชอบมันก็ไม่ผิดนะ สุดท้ายมันก็อยู่ที่ว่าคนดูต้องการอะไรจากหนังเรื่องหนึ่งนั่นแหละ ลองพูดคุยสนทนากันได้ครับ

ถ้าถูกใจบทความและเนื้อหา ขอเชิญมาสนับสนุนผู้เขียนได้ที่เพจ "ตั๋วหนังมันแพง" https://www.facebook.com/expensivemovie/ นะครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่