ทริปนี้ถือว่าตะตอนออนทัวร์สุดๆไปเลยค่ะ พวกเราได้รับภารกิจไปสถานที่ๆหนึ่งที่ต้องข้ามชายแดนไปประเทศเพื่อนบ้านทางด่านเจดีย์สามองค์ จังหวัดกาญจนบุรีนั่นคือ......ประเทศพม่าหรือเมียนมาร์ค่ะ

สำหรับทริปของพวกเรานะคะได้เริ่มเดินทางจากกรุงเทพไปกาญจนบุรีเวลาประมาณ 17.00 น. โดยขึ้นรถตู้ที่สถานีขนส่งผู้โดยสาร(หมอชิต) ค่ารถ 120บาท

ถึงตัวเมืองกาญจนบุรี เวลาประมาณ 21.00 น. พอถึงตัวเมืองกาญจนบุรีแล้วพวกเราก็ได้ติดต่อรถสองแถวเพื่อไปที่พัก ระหว่างก่อนเข้าที่พักก็ของวาร์ปไปสำรวจอาหารแถวเมืองกาญจนบุรีสักหนึ่งเพราะสมาชิกในกลุ่มเรียกร้องกัน ใกล้ๆบขส.ที่จอดรถตู้มีตลาดโต้รุ่ง สามารถเลือกกินได้ตามใจชอบ ร้านเยอะมาก ราคาสบายกระเป๋า

 จากนั้นก็เข้าที่พัก เอแอนด์เอส เรสซิเดนซ์ กาญจนบุรี (A&S Residence Kanchanaburi) บริการดี สะอาดราคาถูก

     

 

วันที่ 2 เราได้ติดต่อสองแถวที่มาส่งเมื่อคืนไว้ให้มารับหน้าโรงแรม 06.00 น.

จากนั้นไปซื้อตั๋วรถตู้ไปด่านเจดีย์สามองค์ราคา 185 บาทหรือถ้าคนไม่รีบสามารถขึ้นรถเมล์แดงไปได้ในราคา 135 บาท แต่จะหวานเย็นสุดๆเลยจ้า เหมาะสำหรับคนชอบนั่งรถชิวๆ ที่พวกเราเลือกนั่งรถตู้เพราะต้องการทำเวลาและมีแอร์เย็นๆแต่ถ้าใครเมารถแนะนำให้ทานยาแก้เมาก่อนขึ้นรถ   
   

 10.00 น. ถึงด่านเจดีย์สามองค์จะมีร้านขายอาหารตามสั่งที่เป็นชาวพม่าอยู่ประเทศมานาน สามารถแวะพักนั่งเล่นได้ พวกเราก็รอพี่ที่เราติดต่อจะเหมารถพาพวกเราไปทำภารกิจไว้ แต่ถ้าหาไม่มีคนรู้จักแถวนี้สามารถติดต่อรถสองแถวที่เป็นสีเขียวๆข้ามฝั่งได้ แต่ต้องจากท่ารถตู้ที่เราลงมานิดหน่อย

จากนั้นเราได้ข้ามฝั่งไปวัดเสาร้อยต้น เมืองพญาตองซู ประเทศพม่า

เป็นวัดที่หลวงพ่ออุตตมะสร้างขึ้นโดยใช้เสาทั้ง 105 ต้น และเคยจำพรรษาอยู่ที่วัดนี้ ในตัววิหารมีทั้งหมด 3 ชั้น ให้นักท่องเที่ยวสามารถไปกราบไว้พระพุทธรูปได้ แต่ชั้น 3 ไม่อนุญาติให้ผู้หญิงขึ้น

ด้านหลังของวิหารมีพระพุทธรูปถือบาตรยาวจนถึงกำแพงหลังวัด
เดินทางกลับมาเที่ยวฝั่งไทย

 13.00 น. พี่ที่ขับรถแนะนำให้แวะเที่ยวแม่น้ำซองกาเรีย มีที่นั่งเล่น ทานอาหาร เล่นน้ำ อยู่ระหว่างทางกลับด่านเจดีย์สามองค์ไปสังขระบุรี เดินทางด้วยรถสองแถวออกทุก 30 นาที พวกเราใช้เวลาอยู่นี่ประมาณ 2 ชั่วโมง

   
15.00 น. เดินทางเข้าสังขระบุรีโดยรถสองแถว(ต้องติดต่อก่อนล่วงหน้าเพื่อให้คนขับรถแวะรับ) จากนั้นได้เดินทางเข้าที่พัก (พี.เกสท์เฮาส์) แล้วออกมาเหมาเรือราคา 500 บาท (แต่พวกเราต่อรองได้ราคา 400 บาท) สามารถเที่ยวชมได้ 3 วัด มีปราสาทใต้น้ำ ไหว้พระบนเกาะ ชมบริเวณหมู่บ้านใต้น้ำ แต่ปีนี้น้ำมากจึงไม่ได้เห็นสิ่งปลูกสร้างใต้น้ำมากนัก ไปเที่ยวบริเวณสะพานอุตตมานุสรณ์หรือรียกกันว่าสะพานมอญที่เป็นไม้ คนขับเรือเป็นกันเอง ใจดีมากเลยค่ะ

ตอนเย็นๆหลังจากชมวิวแล้วสามารถมาเดินหาของกินได้ที่ตลาดนัดสังขระบุรีมีทุกวันเสาร์ มีอาหาร เสื้อผ้าขายเหมือนตลาดนัดทั่วไป แต่มีไฮด์ไลท์สำคัญคือ หมู่จุ่ม ทานกับน้ำจิ้ม ไม้ละ 2 บาท       

วันที่ 3 ตอนเช้าทุกๆคนที่มาเที่ยวสังขระบุรี สิ่งที่พลาดไม่ได้คือตื่นมาชมดวงอาทิตย์ขึ้นสูดอากาศบริสุทธ์ และใส่บาตรพระบริเวณอีกฝั่งของสะพานไม้ โดยมีอาหารใส่บาตรพระระหว่างทางไปใส่บาตร สองข้างทางมีผู้คนมาถ่ายรูป เช่าชุดประจำชนเผ่าของชาวมอญ มีเด็กมาพูดเล่าประวัติของสะพานไม้และปะทานาคาให้กับนักท่องเที่ยว

การเดินทางกลับของพวกเรา ขากลับอยากนั่งชิวๆเลยขึ้นรถเมล์

มาลงน้ำตกไทรโยคน้อยต่อด้วยรถสองแถวเข้าไปที่สถานีรถไฟ เพื่อจะต่อรถไฟจากสถานีน้ำตกไทรโยค-ธนบุรี
สรุปค่าใช้จ่ายของพวกเรา