*****กระทู้นี้เป็นการเขียนรีวิวครั้งแรกของพวกเรา หากผิดพลาดประการใด ขอโทษมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ
สิงคโปร์ เป็นประเทศยอดฮิตในช่วงนี้เลยก็ว่าได้ เพราะเห็นตามโซเชียล มีแต่คนเช็คอินว่าอยู่ที่สิงคโปร์ อาจเป็นเพราะว่าสิงคโปร์อยู่ใกล้กับไทยและใช้เวลาบินไม่นาน สิงคโปร์จึงเป็นอีกหนึ่งประเทศที่คนทุกคนสามารถไปเที่ยวได้ ไม่ว่าจะไปกับครอบครัว คู่รัก กลุ่มเพื่อน หรือไปคนเดียวก็สามารถทำได้ เพราะสิงคโปร์เที่ยวโคตรง่ายยยย แค่มีโทรศัพท์เครื่องเดียวก็ไปได้ทุกซอกทุกมุมของสิงคโปร์แล้ว
แต่ถ้าพูดถึงสิงคโปร์ สิ่งแรกที่เรานึกถึงเลยก็คือ ลอดช่องสิงคโปร์5555 เอ้ย ไม่ใช่ เรานึกถึง สิงโตพ่นน้ำ กระเป๋า Charles and Keith สวนสนุก และก็ช็อปปิ้ง แต่วันนี้เราจะพาทุกคนไปเที่ยวสิงคโปร์แบบ No Plan ใช่!! No Plan เราไปเที่ยวแบบตามสไตล์เรา เที่ยวตามใจฉัน5555555 แต่เรามีเป้าหมายอย่างนึงคือ เราอยากไปเที่ยวแบบไม่ใช่แค่เพื่อความสนุกสนานอย่างเดียว เราอยากไปศึกษาวิถีชีวิต วัฒนธรรมของที่นู่นว่าเป็นอย่างไรบ้าง วันนี้เราจะมารีวิวการเที่ยวในแบบสไตล์เรา เที่ยวแบบไม่มีแพลนให้กับทุกคน เผื่อว่าจะได้เป็นประโยชน์ให้กับคนที่กำลังสนใจประเทศนี้อยู่
การเตรียมตัว
ตั๋วเครื่องบิน
ทริปนี้เราไปกันทั้งหมด 5 คน เราไปกันทั้งหมด 5 คืน 6 วัน ตั้งแต่วันที่ 5 - 10 เมษายน 2562 พวกเราจองตั๋วกันช้ามาก จองกัน 1อาทิตย์ก่อนบิน พอใกล้ๆบินราคาแต่ละสายการบินราคาโหดมาก แต่โชคก็ยังเข้าข้างพวกเรา อยู่ๆก็เลื่อนเว็บไปเจอสายการบิน Jetstar ราคาน่ารัก เป็นมิตรที่สุดแล้ว พวกเราเลยรีบกดเข้าไปจองรัวๆ แต่ก็มีเพื่อนเราคนนึงกดจองผิดวันเลยทำให้ต้องบินแยกกัน เรา 4 คนล่วงหน้าไปก่อน แล้วเพื่อนอีกคนค่อยบินตามมาเจอกันอีกวัน
************** ราคาตั๋วไป-กลับ (รวมค่าธรรมเนียมแล้ว) คนละ 2,475 บาท
เราไม่ได้โหลดกระเป๋า และก็ไม่ได้ซื้อน้ำหนักกระเป๋าเพิ่ม ซึ่งทางสายการบินให้ถือขึ้นเครื่องได้น้ำหนัก ไม่เกิน 7 กก. ถือได้ไม่เกิน 2 ใบนะคะ

** ซึ่งเราแนะนำว่าควรซื้อน้ำหนักกระเป๋าเพิ่ม เพราะ 7 กก. มันไม่พอออออออออ เนื่องจากเราไปกัน 6 วัน เสื้อผ้าก็เยอะ ของจุกจิกอีก พวกเราดูรีวิวในเน็ตแล้วเค้าบอกว่าค่อนข้างเคร่งเรื่องน้ำหนักกระเป๋า แต่จัดยังไงมันก็ไม่พอ สุดท้ายเรา เลือกที่จะเสี่ยงดวง55555 ของเราชั่งจากที่บ้านประมาณ 8.6 กก. เพื่อนคนอื่นๆก็ประมาณ 7-8 กก. ต้องไปลุ้นกันว่า จะรอดหรือไม่รอดนะ5555555
ที่พัก
ที่พักคือเราอยากประหยัดงบ เราเลยเลือกพักแบบโฮสเทล ซึ่งเราก็พยายามหาที่ใกล้Mrt ใกล้ Bus stop จะได้เดินทางสะดวก เราก็ลองหาตามพวก agoda booking และเราก็ได้เจอ “ Ark Hostel ” อ่านรีวิวที่พักแล้ว ค่อนข้างดี เราเลยตัดสินใจจองที่นี่เลย และโชคเข้าข้างเราอีกแล้ว ที่นี่มีห้องพักแบบ 5 เตียงพอดี เหลืออยู่ห้องเดียวพอดี เราเลยรีบจองก่อนที่มันจะเต็ม
**ที่พัก เราจองไว้ 4 คืน เช็คอิน วันที่ 6 เมษายน เช็คเอ้าท์ 10 เมษายน
**ราคาที่เราได้คือลดราคาแล้ว 14% คืนละ 2220 ต่อห้อง เราจอง 4 คืน รวมเป็นเงิน 8880 บาท
เรามี 5 คน หารกันแล้วตก
คนละ 1776 บาท
เราว่าราคาค่อนข้างโอเคเลยพอหารกันแล้ว และห้องยังได้เป็นห้องส่วนตัวอีก ห้องน้ำเป็นห้องน้ำรวม (ห้องน้ำมีแยก ชายและหญิง)

*ห้องพักจะหน้าตาประมาณนี้ ดูรวมๆแล้วดูอบอุ่นเหลือเกิน55555555555

*อันนี้เป็นห้องน้ำรวม ชายและหญิง ส่วนผู้หญิงจะมีห้องน้ำแยกไปอีกสองห้องที่เข้าได้เฉพาะผู้หญิง เราก็อาบแต่ในห้องน้ำผู้หญิงนี่แหละ เพราะส่วนตัวดีและคนก็ไม่เยอะด้วย
***** สำหรับใครที่จะไปเที่ยวสิงคโปร์และมากันเป็นกลุ่มเพื่อน ห้องพักมีทั้งห้องรวมและก็ห้องพักที่เป็นส่วนตัว เราแนะนำ Ark Hostel เลย เดินทางสะดวก อยู่ใกล้ Bus stop และ Mrt สถานี Kallang มีร้านอาหารอยู่ใกล้ๆเต็มไปหมด มีทั้งอาหารอินเดีย อาหารจีน ที่สำคัญ พนักงานน่ารักมาก เป็นคนจีน ใจดีมาก ดูแลดีเป็นกันเอง ประทับใจสุดๆ ส่วนห้องพักถือว่าโอเคเลย เป็นเตียง สองชั้น แต่ห้องอาจจะแคบไปนิดนึง พอนั่งรวมตัวกันแล้ว ค่อนข้างอึดอัด555555 แต่โดยรวมแล้วหลับสบายดี ถือว่าคุ้มค่ากับราคา
วันศุกร์ที่ 5 เมษายน 2562
ไฟท์บินเรา ออกจากสุวรรณภูมิ 21.20 น ถึงสิงคโปร์ประมาณ 00.45 น ซึ่งคืนนี้เราจะต้องไปนอนกันที่สนามบินซางงี!!!! แค่ฟังก็ตื่นเต้นแล้ว55555
เนื่องจากเราเดินทางในวันศุกร์แห่งชาติ แน่นอนว่า รถโคตรติด!! รถติดตั้งแต่ออกจากบ้าน ตอนแรกพ่อจะไปส่งสนามบิน แต่พอเห็นการจราจรแล้ว เปลี่ยนใจไป แอร์พอตลิ้ง ทันที555555 เรากับเพื่อนนัดเจอกันที่ แอร์พอตลิ้ง ประมาณ 6 โมงเย็น แล้วก็นั่งไปพร้อมกัน
**ค่าแอร์พอตลิ้งจาก พญาไท ไป สุวรรณภูมิ 45 บาท นั่งยาวๆไปเลยจ้าา
เราถึงสุวรรณภูมิประมาณ 18.45 น จากนั้นก็ไปแลกเงินกับเพื่อนที่สนามบิน
**ตรงทางเชื่อมระหว่างแอร์พอตลิ้งกับสนามบิน ตรงนั้นจะมีที่ให้แลกเงินมากมาย หลายร้านมาก เราก็เดินดูเรทราคากัน เปรียบเทียบกัน คือทำเหมือนมีเวลาเยอะ ยังไม่รีบไปเช็คอิน ซักที!!! 555555
****สุดท้ายจบลงที่ Super Rich สีเขียว เพราะเรทดีสุด เรทตอนนั้นคือ 23.48 เราแลก 300 ดอลล่าสิงคโปร์ ประมาณ 7044 บาท พอแลกเงินเสร็จพวกเราก็รีบวิ่งไปเช็คอินกันจ้าาา
เคาน์เตอร์เช็คอินของ Jetstar จะอยู่ตรงประตูทางเข้า3 เคาน์เตอร์ E1 - E3 แต่!! พวกเรายังคงกังวลกับน้ำหนักกระเป๋า ซึ่งน้ำหนักเกินที่สายการบินกำหนดแน่นอน เราจึงไปลองชั่งกันอีกรอบ ก่อนที่จะเข้าไปเช็คอิน แบบหยอดเหรียญ 10 บาท สุดท้ายแล้วจะเอาของออกยังไงก็เกิน พวกเราจึงตัดสินใจ สู้!! เสี่ยงดวงเอาเว้ย โดนปรับก็จ่ายเงิน55555555
พอถึงเคาน์เตอร์เช็คอิน ยื่นพาสปอต เจ้าหน้าที่ก็แจกป้ายแท้กติดกระเป๋า แล้วก็ทุกอย่างเสร็จสิ้น และเจ้าหน้าที่ก็ปล่อยเราไป เวลาผ่านไปไวมาก55555 ไม่แม้แต่จะสัมผัสกระเป๋าเราซักนิด555555 ทั้งนี้เราว่าอยู่ที่ดวงด้วยแหละ เพราะจากที่อ่านเจอมาหลายๆคนก็เจอไม่เหมือนกันซักคน ครั้งนี้ถือว่าพวกเราโชคดีมาก สรุปรอดจ้าาาาาาา

**กระเป๋าใบเล็กใบน้อยของพวกเรา นี่คือพยายามเซฟน้ำหนักกันสุดๆ เพราะกลัวน้ำหนักเกิน (ความงกไม่ยอมซื้อน้ำหนักเพิ่ม55555)
พอเช็คอินเสร็จก็ประมาณ 20.00 น ซึ่งเราต้องไปถึง Gate ประมาณ 20.50 น และ Gate E10 ของเราอยู่ริมสุดเลยจ้า ไกลเว่อร์วัง ตอนนั้นคือหิวมากก แต่ต้องรีบเดินไปตม นู่นนี่นั่น กว่าจะเสร็จ กินไม่ทันแน่นอน ทำใจไว้แล้วว5555555
@ Gate E10
เราไปถึงก่อนเวลา และก็ซิ้อน้ำเปล่าตุนเอาไว้ เพราะชื่อเสียงของสิงคโปรนั้นเลื่องลือมากเว่อร์ว่าน้ำเปล่าแพง พวกเราเลยซื้อจากไทยไป แต่ราคาน้ำเปล่าในสนามบินที่เราโดนไปคือ น้ำแร่มองเฟอร์ ขวดละ 50 บาท นี่คือนึกว่าอยู่ที่สิงคโปร์แล้วนะเนี่ย555555555 เราเลยซื้อไปแค่ขวดเดียว แต่พอเดินเข้าไปอีกหน่อยก่อนจะเข้า Gate จะมีตู้หยอดน้ำ ซึ่งน้ำจะราคาถูกกว่าตรงร้านที่เราซื้อ คือขวดละ 35 บาท เป็นน้ำแร่เหมือนกัน เราแนะนำให้หยอดตู้ดีกว่าเพราะถูกกว่า555555
**** ขอรีวิวบนเครื่องบิน Jestar นิดนึงเน้อ
เบาะที่นั่งก็นั่งโอเค แต่ว่าพื้นที่ตรงที่วางขา ค่อนข้างแคบ คือเราก็ไม่ได้ขายาวมาก แต่ว่านั่งละติดเข่า คือแบบต้องเกร็งๆเมื่อยนิดนึง555555 แต่พอขึ้นเครื่องไปเราก็หลับเลย หลับแบบยังไม่ทันจะสนิทเลย Now, We have landed at Changi Airport ห้ะ!! ถึงแล้วหรอ เอออเร็วจริง หรือเพราะมันกลางคืนด้วยแหละมั้งเลยแบบรู้สึกว่ามันถึงเร็ว ใช้เวลาบินไม่ถึง สองชั่วโมง อะเตรียมตัวไปลุยสิงคโปร์จ้าาา
พอถึง Changi Airport เราก็รีบเดินตรงไปที่ Immigration ซึ่งเป็นด่านสุดท้ายของสนามบินละ

**ระหว่างรอเพื่อนคัดลายมือไปให้ ตม ดู เขียนเสียไปหลายใบมาก5555555555555
ไม่ต้องกังวลว่าจะเขียนไม่เป็นหรือไม่รู้เรื่อง เพราะตรง Immigration มีตัวอย่างให้ดูแบบตัวใหญ่ เห็นได้ชัดเจน ทุกชาติทุกภาษา มีทั้ง ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ ภาษาจีน ภาษามาเล มีให้ดูหมดเลยจ้า ไม่ต้องกังวล
**** รีวิว ตม
ไม่น่ากลัวอย่างที่คิดเลยนะ เราเองไม่โดนถามอะไรเลย แต่เพื่อนเราโดนถามว่าแบบ มาทำอะไรที่นี่?? ถามหลายคำถามอยู่นะ เพื่อนเลยบอกไปว่า ขอโทษนะครับ ผมไม่ค่อยได้ใช้ภาษาอังกฤษ555555 มันก็ผ่านมาได้5555555 ฉะนั้นไม่ต้องกลัว ผ่านแน่นอน
หลังจากผ่าน ตม สิ่งแรกที่พวกเราทำที่สิงคโปร์คือ หาของกิน!!! ตอนนั้นเป็นเวลาประมาณ ตีสอง
**เวลาที่ไทยกับที่สิงคโปร์จะห่างกัน 1 ชม เวลาสิงคโปร์จะเร็วกว่าที่ไทย **
มื้อแรกของเราก็คือ Burger King ตอนแรกไม่มีคนเลย พอดึกๆหน่อย คนทยอยเข้ามาเรื่อยๆ ยิ่งดึกคนก็ยิ่งเยอะ

ปล. เราถ่ายอาหารไม่ทัน เพราะหิวมาก และหมดภายในไม่กี่นาที5555 มื้อแรกเราโดนกันไปคนละ 8.3 sgd (194 บาท) เป็นเซตไก่ทอด เฟรนฟราย โคตรอิ่มมมมมมม คือเซตใหญ่กว่าที่คิด แล้วนี่คือมื้อดึกมาก!!!! ไม่อยากจะคิดถึงน้ำหนักเลย55555555
หลังจากกินกันเสร็จ หนังท้องตึง หนังตาก็หย่อน ตอนแรกว่าจะเดินชมสนามบิน เพราะอยากเดินย่อย แต่ว่าพออิ่มก็เริ่มอยากเอนหลังละ55555 เราเลยเดินหาที่นอนกัน และเราก็เจอที่ที่นอนสุดหรูของเราในค่ำคืนนี้

** บรรยากาศเงียบ สงบ ไร้ผู้คน เหมาะแก่การพักผ่อน และที่สำคัญใกล้ห้องน้ำและที่เติมน้ำ Full Service มากเว่อร์ ประทับใจสุดๆ พอเจอที่นอนก็เริ่มทำการ ล้างหน้า แปรงฟัน พร้อมนอนแล้นน

** อันนี้คือเป็นวิวที่นอนคืนแรกของเรา5555 เราสามารถมองเห็นรันเวย์ของสนามบินตอนกลางคืน แสงไฟ ระยิบระยับ สวยงามมาก เป็นอีกบรรยากาศหนึ่งที่เราประทับใจมากกับที่นอนคืนแรกของเรา

** รีวิวที่นอน ขนาดกำลังดี นิ่มประมาณนึง สบาย ถือว่าคุ้มค่าและประหยัด5555555 เห็นเพื่อนนอน ก็ง่วงตามเลย ถ่ายรูปเล่น เล่นโทรศัพท์ ได้ซักพัก เราก็หลับไปตามๆกัน
** รีวิว Wifi สนามบิน เรากับเพื่อนยังไม่มีเน็ต เลยหาเดินWifiกันเป็นว่าเล่น55555 อันนี้แล้วแต่คนนะ เรากับเพื่อน Log in อันเดียวกัน เราเล่นได้ เน็ตแรงและเร็วดี แต่เพื่อนเราเล่นไม่ได้ เน็ตช้า อืดมาก อันนี้แล้วแต่กรรมเวรของแต่ละคนจริงๆนะ555555555
ชื่อสินค้า: สิงคโปร์ , Singapore
[CR] Review เที่ยวสิงคโปร์ แบบโนแพลน 5 คืน 6 วัน กิน เที่ยว ช็อป กับงบไม่เกิน 10,000 บาท
สิงคโปร์ เป็นประเทศยอดฮิตในช่วงนี้เลยก็ว่าได้ เพราะเห็นตามโซเชียล มีแต่คนเช็คอินว่าอยู่ที่สิงคโปร์ อาจเป็นเพราะว่าสิงคโปร์อยู่ใกล้กับไทยและใช้เวลาบินไม่นาน สิงคโปร์จึงเป็นอีกหนึ่งประเทศที่คนทุกคนสามารถไปเที่ยวได้ ไม่ว่าจะไปกับครอบครัว คู่รัก กลุ่มเพื่อน หรือไปคนเดียวก็สามารถทำได้ เพราะสิงคโปร์เที่ยวโคตรง่ายยยย แค่มีโทรศัพท์เครื่องเดียวก็ไปได้ทุกซอกทุกมุมของสิงคโปร์แล้ว
แต่ถ้าพูดถึงสิงคโปร์ สิ่งแรกที่เรานึกถึงเลยก็คือ ลอดช่องสิงคโปร์5555 เอ้ย ไม่ใช่ เรานึกถึง สิงโตพ่นน้ำ กระเป๋า Charles and Keith สวนสนุก และก็ช็อปปิ้ง แต่วันนี้เราจะพาทุกคนไปเที่ยวสิงคโปร์แบบ No Plan ใช่!! No Plan เราไปเที่ยวแบบตามสไตล์เรา เที่ยวตามใจฉัน5555555 แต่เรามีเป้าหมายอย่างนึงคือ เราอยากไปเที่ยวแบบไม่ใช่แค่เพื่อความสนุกสนานอย่างเดียว เราอยากไปศึกษาวิถีชีวิต วัฒนธรรมของที่นู่นว่าเป็นอย่างไรบ้าง วันนี้เราจะมารีวิวการเที่ยวในแบบสไตล์เรา เที่ยวแบบไม่มีแพลนให้กับทุกคน เผื่อว่าจะได้เป็นประโยชน์ให้กับคนที่กำลังสนใจประเทศนี้อยู่
การเตรียมตัว
ตั๋วเครื่องบิน
ทริปนี้เราไปกันทั้งหมด 5 คน เราไปกันทั้งหมด 5 คืน 6 วัน ตั้งแต่วันที่ 5 - 10 เมษายน 2562 พวกเราจองตั๋วกันช้ามาก จองกัน 1อาทิตย์ก่อนบิน พอใกล้ๆบินราคาแต่ละสายการบินราคาโหดมาก แต่โชคก็ยังเข้าข้างพวกเรา อยู่ๆก็เลื่อนเว็บไปเจอสายการบิน Jetstar ราคาน่ารัก เป็นมิตรที่สุดแล้ว พวกเราเลยรีบกดเข้าไปจองรัวๆ แต่ก็มีเพื่อนเราคนนึงกดจองผิดวันเลยทำให้ต้องบินแยกกัน เรา 4 คนล่วงหน้าไปก่อน แล้วเพื่อนอีกคนค่อยบินตามมาเจอกันอีกวัน
************** ราคาตั๋วไป-กลับ (รวมค่าธรรมเนียมแล้ว) คนละ 2,475 บาท
เราไม่ได้โหลดกระเป๋า และก็ไม่ได้ซื้อน้ำหนักกระเป๋าเพิ่ม ซึ่งทางสายการบินให้ถือขึ้นเครื่องได้น้ำหนัก ไม่เกิน 7 กก. ถือได้ไม่เกิน 2 ใบนะคะ
ที่พัก
ที่พักคือเราอยากประหยัดงบ เราเลยเลือกพักแบบโฮสเทล ซึ่งเราก็พยายามหาที่ใกล้Mrt ใกล้ Bus stop จะได้เดินทางสะดวก เราก็ลองหาตามพวก agoda booking และเราก็ได้เจอ “ Ark Hostel ” อ่านรีวิวที่พักแล้ว ค่อนข้างดี เราเลยตัดสินใจจองที่นี่เลย และโชคเข้าข้างเราอีกแล้ว ที่นี่มีห้องพักแบบ 5 เตียงพอดี เหลืออยู่ห้องเดียวพอดี เราเลยรีบจองก่อนที่มันจะเต็ม
**ที่พัก เราจองไว้ 4 คืน เช็คอิน วันที่ 6 เมษายน เช็คเอ้าท์ 10 เมษายน
**ราคาที่เราได้คือลดราคาแล้ว 14% คืนละ 2220 ต่อห้อง เราจอง 4 คืน รวมเป็นเงิน 8880 บาท
เรามี 5 คน หารกันแล้วตก คนละ 1776 บาท
เราว่าราคาค่อนข้างโอเคเลยพอหารกันแล้ว และห้องยังได้เป็นห้องส่วนตัวอีก ห้องน้ำเป็นห้องน้ำรวม (ห้องน้ำมีแยก ชายและหญิง)
***** สำหรับใครที่จะไปเที่ยวสิงคโปร์และมากันเป็นกลุ่มเพื่อน ห้องพักมีทั้งห้องรวมและก็ห้องพักที่เป็นส่วนตัว เราแนะนำ Ark Hostel เลย เดินทางสะดวก อยู่ใกล้ Bus stop และ Mrt สถานี Kallang มีร้านอาหารอยู่ใกล้ๆเต็มไปหมด มีทั้งอาหารอินเดีย อาหารจีน ที่สำคัญ พนักงานน่ารักมาก เป็นคนจีน ใจดีมาก ดูแลดีเป็นกันเอง ประทับใจสุดๆ ส่วนห้องพักถือว่าโอเคเลย เป็นเตียง สองชั้น แต่ห้องอาจจะแคบไปนิดนึง พอนั่งรวมตัวกันแล้ว ค่อนข้างอึดอัด555555 แต่โดยรวมแล้วหลับสบายดี ถือว่าคุ้มค่ากับราคา
วันศุกร์ที่ 5 เมษายน 2562
ไฟท์บินเรา ออกจากสุวรรณภูมิ 21.20 น ถึงสิงคโปร์ประมาณ 00.45 น ซึ่งคืนนี้เราจะต้องไปนอนกันที่สนามบินซางงี!!!! แค่ฟังก็ตื่นเต้นแล้ว55555
เนื่องจากเราเดินทางในวันศุกร์แห่งชาติ แน่นอนว่า รถโคตรติด!! รถติดตั้งแต่ออกจากบ้าน ตอนแรกพ่อจะไปส่งสนามบิน แต่พอเห็นการจราจรแล้ว เปลี่ยนใจไป แอร์พอตลิ้ง ทันที555555 เรากับเพื่อนนัดเจอกันที่ แอร์พอตลิ้ง ประมาณ 6 โมงเย็น แล้วก็นั่งไปพร้อมกัน
**ค่าแอร์พอตลิ้งจาก พญาไท ไป สุวรรณภูมิ 45 บาท นั่งยาวๆไปเลยจ้าา
เราถึงสุวรรณภูมิประมาณ 18.45 น จากนั้นก็ไปแลกเงินกับเพื่อนที่สนามบิน
**ตรงทางเชื่อมระหว่างแอร์พอตลิ้งกับสนามบิน ตรงนั้นจะมีที่ให้แลกเงินมากมาย หลายร้านมาก เราก็เดินดูเรทราคากัน เปรียบเทียบกัน คือทำเหมือนมีเวลาเยอะ ยังไม่รีบไปเช็คอิน ซักที!!! 555555
****สุดท้ายจบลงที่ Super Rich สีเขียว เพราะเรทดีสุด เรทตอนนั้นคือ 23.48 เราแลก 300 ดอลล่าสิงคโปร์ ประมาณ 7044 บาท พอแลกเงินเสร็จพวกเราก็รีบวิ่งไปเช็คอินกันจ้าาา
เคาน์เตอร์เช็คอินของ Jetstar จะอยู่ตรงประตูทางเข้า3 เคาน์เตอร์ E1 - E3 แต่!! พวกเรายังคงกังวลกับน้ำหนักกระเป๋า ซึ่งน้ำหนักเกินที่สายการบินกำหนดแน่นอน เราจึงไปลองชั่งกันอีกรอบ ก่อนที่จะเข้าไปเช็คอิน แบบหยอดเหรียญ 10 บาท สุดท้ายแล้วจะเอาของออกยังไงก็เกิน พวกเราจึงตัดสินใจ สู้!! เสี่ยงดวงเอาเว้ย โดนปรับก็จ่ายเงิน55555555
พอถึงเคาน์เตอร์เช็คอิน ยื่นพาสปอต เจ้าหน้าที่ก็แจกป้ายแท้กติดกระเป๋า แล้วก็ทุกอย่างเสร็จสิ้น และเจ้าหน้าที่ก็ปล่อยเราไป เวลาผ่านไปไวมาก55555 ไม่แม้แต่จะสัมผัสกระเป๋าเราซักนิด555555 ทั้งนี้เราว่าอยู่ที่ดวงด้วยแหละ เพราะจากที่อ่านเจอมาหลายๆคนก็เจอไม่เหมือนกันซักคน ครั้งนี้ถือว่าพวกเราโชคดีมาก สรุปรอดจ้าาาาาาา
พอเช็คอินเสร็จก็ประมาณ 20.00 น ซึ่งเราต้องไปถึง Gate ประมาณ 20.50 น และ Gate E10 ของเราอยู่ริมสุดเลยจ้า ไกลเว่อร์วัง ตอนนั้นคือหิวมากก แต่ต้องรีบเดินไปตม นู่นนี่นั่น กว่าจะเสร็จ กินไม่ทันแน่นอน ทำใจไว้แล้วว5555555
@ Gate E10
เราไปถึงก่อนเวลา และก็ซิ้อน้ำเปล่าตุนเอาไว้ เพราะชื่อเสียงของสิงคโปรนั้นเลื่องลือมากเว่อร์ว่าน้ำเปล่าแพง พวกเราเลยซื้อจากไทยไป แต่ราคาน้ำเปล่าในสนามบินที่เราโดนไปคือ น้ำแร่มองเฟอร์ ขวดละ 50 บาท นี่คือนึกว่าอยู่ที่สิงคโปร์แล้วนะเนี่ย555555555 เราเลยซื้อไปแค่ขวดเดียว แต่พอเดินเข้าไปอีกหน่อยก่อนจะเข้า Gate จะมีตู้หยอดน้ำ ซึ่งน้ำจะราคาถูกกว่าตรงร้านที่เราซื้อ คือขวดละ 35 บาท เป็นน้ำแร่เหมือนกัน เราแนะนำให้หยอดตู้ดีกว่าเพราะถูกกว่า555555
**** ขอรีวิวบนเครื่องบิน Jestar นิดนึงเน้อ
เบาะที่นั่งก็นั่งโอเค แต่ว่าพื้นที่ตรงที่วางขา ค่อนข้างแคบ คือเราก็ไม่ได้ขายาวมาก แต่ว่านั่งละติดเข่า คือแบบต้องเกร็งๆเมื่อยนิดนึง555555 แต่พอขึ้นเครื่องไปเราก็หลับเลย หลับแบบยังไม่ทันจะสนิทเลย Now, We have landed at Changi Airport ห้ะ!! ถึงแล้วหรอ เอออเร็วจริง หรือเพราะมันกลางคืนด้วยแหละมั้งเลยแบบรู้สึกว่ามันถึงเร็ว ใช้เวลาบินไม่ถึง สองชั่วโมง อะเตรียมตัวไปลุยสิงคโปร์จ้าาา
พอถึง Changi Airport เราก็รีบเดินตรงไปที่ Immigration ซึ่งเป็นด่านสุดท้ายของสนามบินละ
ไม่ต้องกังวลว่าจะเขียนไม่เป็นหรือไม่รู้เรื่อง เพราะตรง Immigration มีตัวอย่างให้ดูแบบตัวใหญ่ เห็นได้ชัดเจน ทุกชาติทุกภาษา มีทั้ง ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ ภาษาจีน ภาษามาเล มีให้ดูหมดเลยจ้า ไม่ต้องกังวล
**** รีวิว ตม
ไม่น่ากลัวอย่างที่คิดเลยนะ เราเองไม่โดนถามอะไรเลย แต่เพื่อนเราโดนถามว่าแบบ มาทำอะไรที่นี่?? ถามหลายคำถามอยู่นะ เพื่อนเลยบอกไปว่า ขอโทษนะครับ ผมไม่ค่อยได้ใช้ภาษาอังกฤษ555555 มันก็ผ่านมาได้5555555 ฉะนั้นไม่ต้องกลัว ผ่านแน่นอน
หลังจากผ่าน ตม สิ่งแรกที่พวกเราทำที่สิงคโปร์คือ หาของกิน!!! ตอนนั้นเป็นเวลาประมาณ ตีสอง
**เวลาที่ไทยกับที่สิงคโปร์จะห่างกัน 1 ชม เวลาสิงคโปร์จะเร็วกว่าที่ไทย **
มื้อแรกของเราก็คือ Burger King ตอนแรกไม่มีคนเลย พอดึกๆหน่อย คนทยอยเข้ามาเรื่อยๆ ยิ่งดึกคนก็ยิ่งเยอะ
หลังจากกินกันเสร็จ หนังท้องตึง หนังตาก็หย่อน ตอนแรกว่าจะเดินชมสนามบิน เพราะอยากเดินย่อย แต่ว่าพออิ่มก็เริ่มอยากเอนหลังละ55555 เราเลยเดินหาที่นอนกัน และเราก็เจอที่ที่นอนสุดหรูของเราในค่ำคืนนี้
** รีวิว Wifi สนามบิน เรากับเพื่อนยังไม่มีเน็ต เลยหาเดินWifiกันเป็นว่าเล่น55555 อันนี้แล้วแต่คนนะ เรากับเพื่อน Log in อันเดียวกัน เราเล่นได้ เน็ตแรงและเร็วดี แต่เพื่อนเราเล่นไม่ได้ เน็ตช้า อืดมาก อันนี้แล้วแต่กรรมเวรของแต่ละคนจริงๆนะ555555555
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้