สโมสร ลิเวอร์พูล ฟุตบอลคลับ ชื่อนี้คงมีแฟนบอลจำนวนไม่น้อยทั่วโลก ยิ่งใหญ่ในอดีต แต่ไม่เคยได้แชมป์พรีเมียร์ลีก ตั้งแต่เปลียนชื่อ แม้มันจะใช้วิธีกติกานับคะแนนเหมือน ดิวิชั่น 1 เดิม เป๊ะๆ แต่ไม่ว่าจะชื่ออะไร ลิเวอร์พูล ก็ห่างหายจาก การเป็นแชมป์ลีกสูงสุดของอังกฤษ มาร่วม 28 ปี และ ปีนี้มีลุ้นแชมป์ครั้งแรก แบบจริงๆ หลังจากปี 90 ที่ ดัลกลิช คุมทีมคว้าแชมป์ แล้วก็ไม่เคยมีลุ้นอีกเลย แม้จะเคยได้รองแชมป์ แต่ แต้มนั้นไม่เคยเบียดได้ถึงขนาดนาทีนี้ 

โอกาส 

คู่แข่งคือ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ อีกทีมที่มีผลงานดีมาตลอดช่วงเวลา 10 ปี คว้าแชมป์ลีกสูงสุดในปี 2012 ด้วยน้ำมือ มันชินี่ ในขณะที่ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ยังไม่เกษียณ จากการยิงประตูของ กุน อเกวโร่ ในช่วงท้ายเกมส์ 
หากมองแต้มในมือ กับเกมส์ที่เหลือ 1 แต้ม และ เปิดบ้านรับ เลสเตอร์ กับ เยือน ไบรท์ตัน คงต้องยอมรับกันว่า โอกาส ที่ ซิตี้ จะคว้าแชมป์สองปีติดนั้นไม่ยากเลย

ไบรท์ตัน ไม่มีทางจะยันทีมไหนอยู่ได้แม้ท้ายตารางด้วยกัน ดูแล้วเจอ ซิตี้ คงจะแพ้แน่นอน และคงเละเทะเสียด้วย
เลสเตอร์ จิ้งจอกสยาม ประเด็นคนมอง แบรนดอน ร็อดเจอร์ ว่า อดีตกุนซือหงส์แดง จะจัดทัพเต็ม ขัดขวาง ซิตี้ ผมไม่แน่ใจว่า ในยูโรป้าลีก นอกจาก อันดับ 5 6 แล้ว เขาจะเอารองแชมป์ซึ่งถ้าเป็น วัตฟอร์ดไป หรือ จะเอาอันดับ 7 ไป ซึ่งถ้าเป็นแบบนั้น ร็อเจอร์ก็ต้องเต็มที่และไปยูโรป้าลีกในฐานะอันดับ 7 ของลีก แต่ว่า หากมองกลับกันเพียงนิดเดียว เจอร์เก้น คล็อป คือคนที่ถูกมองว่า ดีกว่า ร็อดเจอร์ และ ไฉนเลย ร็อดเจอร์ จะต้องเต็มที่กับ ซิตี้ อันนี้คิดในแง่คนติดละครดราม่า 

แต่ส่วนตัวผมมองว่า ร้อดเจอร์ มอง พื้นที่ยูโรป้า แน่นอน เพียงแต่จะทำได้ไหม ซิตี้ คือด่านสำคัญ และด่านใหญ่ แม้จะทำกระบอกปืนใหญ่แตกมาแล้วเมื่อสุดสัปดาห์ 3 -0 ก็ตาม แต่ โค้ช ซิตี้ คือ เป๊ป ที่ทำทีมเป็นปีที่ 3 แล้ว การลงทุนจัดทัพซื้อตัวนักเตะ ของ เป๊ป เหมือนมีสองทีมที่อุดมด้วยนักเตะชั้นดี หากคิดแค่ แบ่งแต้ม ร็อดเจอร์ ก็คงจะไม่เจองานง่ายแน่นอน และความเป็นไปได้ ณ สเตเดี้ยม ออฟ แมนเชสเตอร์ คือ ซิตี้ บุกแหลกแน่นอน

ดังนั้น หากจะต้องเลือกทายผล คนย่อมทายว่า เลสเตอร์ ก็คงไม่อาจต้าน เรือใบสีฟ้าได้แน่นอน แต่ผลการแข่งจริง คงต้องรอให้จบก่อน ถึงจะพูดได้เต็มปาก เพราะ หลังๆ ซิตี้ ชนะแต่ละเกมส์ ก็เรียกว่า เต็มกลืนเหมือนกัน

เจอร์เก้น คลอป คงไม่คิดกลุ้มใจอะไรมาก เมื่อสถาณการณ์มาถึงจุดนี้แล้ว คล็อปคงคุมลูกทีม ให้ชนะรวด กับ นิวคาสเซิ่ล และ วูลฟ์ ซึ่งก็มีประเด็นคนมองอีกว่า  ราฟา แห่ง เซ้นต์เจมส์ปาร์ค ก็คือ อีกหนึ่งอดีต ผจก หงส์แดง ที่ทำทีมใกล้คว้าแชมป์มากสุดคนนึง เคยมีขุนพล ตอเรส เจอราร์ด อลองโซ่ และอีกมากมาย ซึ่ง คลาสบอล ดูดีกว่าตอนนี้เสียอีก แต่ก็ยังพาหงส์แดงคว้าแชมป์ลีกสูงสุดไม่ได้ แล้ว ราฟา จะอ่อนข้อให้ คล็อป เพื่อส่งหงส์แดงมีโอกาสคว้าแชมป์หรือ ? มองเป็นดราม่า ก็ได้อีกเหมือนกัน  ส่วนเกมส์สุดท้าย กับ วูลฟ์ ก็ไม่ใช่จะง่ายซะทีเดียว

แต่สรุปว่า เรื่อง ร็อดเจอร์ กับ ราฟา แฟนบอลเลิกคิดได้เลยว่า จะอ่อนข้อ หรือ จะสู้เพื่อหงส์ เพราะทั้งสองคนไม่ใช่ อูลดิเย่ห์ ที่ออกทำ แอสตัน วิลล่า แล้ว ยังยกย่อง หงส์แดง จนโดนด่า ทั้ง ราฟา และ ร็อดเจอร์ ผมมั่นใจว่า สิ่งที่สองคนนี้คิดคือ ไม่สน ลิเวอร์พูล เลยแม้แต่น้อย เพราะหน้าที่ตอนนี้ไม่ใช่คนของหงส์แดงแล้ว 

เกมส์สุดท้าย กับ วูลฟ์ ก็ไม่ต้องหวาดเกรงสิ่งใด เพราะ ถ้าบุกไปชนะได้ แล้วนัดสุดท้ายไม่สามารถปราบวูลฟ์ได้ ลิเวอร์พูล ก็คือต้องโทษตัวเอง นี่คือเบื้องต้น

แต่ถึงชนะวูลฟ์ได้ คล็อป ก็คงรู้ชะตาดีว่า หาก เลสเตอร์หยุดหรือแบ่งแต้ม ซิตี้ ไม่ได้ ตั้งแต่สัปดาห์ก่อนสุดท้าย แล้ว คล็อปคงไม่หวังพึ่งไบรท์ตัน และต้องรับในความสามารถ ของซิตี้ และควรภูมิใจแล้วกับผลงานลูกทีม ในฤดูกาลนี้ และ ฤดูกาลหน้า จะยากกว่านี้อีกแน่นอน 

UCL : เกมส์ กับ บาร์เซโลน่า ทีมอันดับหนึ่งแห่งยุโรป แต่โดนสเปอร์ บุกยันถึงคัมป์นู เสมอ บาเลนเซีย และ ลิยง ทีมที่ เล่น ชปล ด้วยกัน แม้สถาณการณ์จะต่างเวลา แต่ หงส์แดง ก็มีโอกาสอยู่พอสมควร และ ผลการแข่งนัดแรก จะเป็นตัวบอกเองว่า ใครมีโอกาสมากกว่ากัน 

ลิเวอร์พูล ในเวลานี้ มีโอกาสกับสองรายการ แต่คู่ต่อสู้ คือ ยอดทีมยุโรป ที่ไม่มีอะไรต้องพะวง ทั้งคู่ เพราะ ซิตี้ ไม่มี ชปล ให้ห่วง ส่วน บาร์ซ่าก็คว้าแชมป์เรียบร้อย แต่ถ้ามองความเป็นไปได้ ในนาทีนี้ UCL ยังถือว่า ลิเวอร์พูล ยังลิขิตชะตาตัวเอง ขณะที่ พรีเมียร์ลีกนั้น ดูเหมือนจะได้เพียงปาฏิหารย์อย่างเดียว