ราฟาเอล ฟาน เดอร์ ฟาร์ท เกิดเมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 1983 ที่heemskerk โดยแม่ของเขาเป็นชาวสเปน
โดยฟานเดอร์ฟาร์ทเริ่มเล่นให้กับทีมเล็กๆอย่าง De Kennemers ก่อนย้ายเข้าอะคาเดมี่ชุดเยาวชนของยอดทีมแดนกังหันอย่าง
อาแจ๊กซ์ อัมสเตอร์ดัมในวัย 10 ขวบโดยมีเพื่อนๆร่วมรุ่นอย่างจอห์น ไฮติงก้า และ เวสลีย์ ชไนเดอร์
และในวันที่ 20 เมษายน 2000 ฟานเดอร์ฟาร์ทได้ลงสนามครั้งแรกในวัย 17 ปี ในเกมเสมอกับ เอฟ.ซี. เดน บอช ซึ่งทั้งโลก
ได้ยลโฉมฝีเท้าของนักเตะวัยกระเตาะผู้นี้ที่ได้รับการคาดหมายว่าจะก้าวขึ้นมาแทนโยฮัน ครัฟฟ์ อดีตนักเตะเทวดา
ในช่วงเวลาของเขากับอาแจ๊กซ์มีช่วงเวลาที่สุดยอดเขาก้าวขึ้นมาเป็นกัปตันทีมคว้าแชมป์เอเดเรวิซี่(ลีกสูงสุด) 2 สมัยและบอลถ้วย 1 สมัย
และคว้ารางวัล โกลเด้นบอย อวอร์ด ในปี2003 และดูเหมือนว่าอาแจ๊กซ์ อัมสเตอร์ดัมจะดูเล็กไปสำหรับสำหรับเขาแล้ว
ประตูออกสู่โลกกว้างได้เปิดออกและเขาเห็นแสงรำไรที่สโมสรยักษ์หลับแห่งตอนเหนือของเยอรมัน
“ฮัมบรูกเกอร์ เอสฟา”
-----------------------------------------------------------------------------------------------
ท่ามกลางความสนใจของทีมยักษ์ใหญ่หลายทีมในยุโรปแต่เขากลับทำเซอร์ไพรส์ ชนิดที่ว่า โยฮัน ครัฟฟ์ นักเตะรุ่นพี่ต้องเอ่ยปากสงสัย
ด้วยการเลือกย้ายไปฮัมบรูก ด้วยค่าตัว 5.5 ล้านในซัมเมอร์ปี 2005 ฮัมบรูกภายใต้การคุมทีมของโทมัส โดล กุนซือหนุ่มไฟแรงชาวด๊อยซ์
ผู้ที่กำลังปลุกปั้นสร้างทีมให้กลับขึ้นมายอดทีมเมืองเบียร์อีกครั้งหนึ่ง โดยเพียงแค่ในฤดูกาลแรกของฟานเดอร์ฟาร์ท
สามารถพาทีมคว้าแชมป์อินเตอร์โตโต้ คัพ หลังเอาชนะบาเลนเซีย 1-0 จากประตูชัยของเซอร์เก บาบาเรซ และพาทีมจบอันดับ 3
มีคะแนนตามหลังแชมป์อย่างเสือใต้ บาเยิร์น มิวนิค เพียงแค่ 7 คะแนนพร้อมกับเข้าไปเล่นฟุตบอลยุโรปถ้วยหูโตอย่างยูฟ่าแชมป์เปี้ยนลีก
เป็นครั้งแรกในรอบหลายปีนับตั้งแต่ครั้งล่าสุดในฤดูกาล1999-00 เพียงแค่ฤดูกาลแรกของเขาในบุนเดสลีกาเขาสามารถเข้ามานั่งในหัวใจแฟนๆ
ของชาวสิงห์เหนือได้อย่างรวดเร็วด้วยผลงาน 16 ประตู แอสซิส 9 ครั้ง จาก36 นัด
ดูเหมือนหนทางข้างหน้าช่างดูสดใสเหมือนกับพระอาทิตย์ในยามเช้า แต่เพียงแค่ฤดูกาลที่สองของเขากับทีม สิงห์เหนือของโทมัส โดล
กลายเป็นสิงห์ป่วยโชว์ฟอร์มห่วยได้อับดับบ๊วยของกลุ่มจนตกรอบแรกยูฟ่าแชมป์เปี้ยนส์ลีกไปอย่างรวดเร็วและผลงานในบุนเดสลีกาย่ำแย่อย่างหนัก
ส่วนฟานเดอร์ฟาร์ทกำลังประสบปัญหากับอาการบาดเจ็บบ่อยครั้งทำให้เขาทำได้เพียงแค่เฝ้ามองทีมกำลังดิ้นรนหนีตาย
แต่แล้วสิงห์เหนือตัดสินใจแต่งตั้ง ฮูปส์ สตีเฟ่น ผู้เข้ามากอบกู้วิกฤตศรัทธาจากแฟนบอลผลงานทีมชนะรัวๆ หนีตายสำเร็จ
ด้วยผลงานมาสเตอร์พีซ ชนะ 9 นัด เสมอ 3 จาก14และฟานเดอร์ฟาร์ทหายเจ็บกลับมาช่วยทีมได้ทันเวลาเขายิงไป 7 ประตูจาก 14นัดหลังสุด
ก่อนพาทีมจบอันดับ 7 (ในซีซั่นนั้น ฟานเดอร์ฟาร์ท ยิงในลีก 8 ประตู ซึ่ง 7 ประตูมาจาก 14 นัดหลังสุดในยุค ฮูปส์ สตีเฟ่น)
และในฤดูกาล2007-08 เป็นขวบปีที่สุดยอดของเขา ฟานเดอร์ฟาร์ทหายจากการบาดเจ็บกลับมาโชว์ฟอร์มสุดยอดอีกครั้งหนึ่ง
เขายิงไป21ประตู แอสซิส 10 ครั้ง จาก 44 นัด สิงห์เหนือของฮูปส์ สตีเฟ่นและฟานเดอร์ฟาร์ทกลับมายึดหัวตาราง
และพาทีมกลับไปเล่นฟุตบอลยุโรปได้อีกครั้งหนึ่ง และคว้าอินเตอร์โตโต้ อีกหนึ่งสมัย
แต่ด้วยฟอร์มอันยอดเยี่ยมของเขา ด้วยวัยและประสบการณ์ถึงเวลาที่เขาต้องไปอยู่ที่มยักษ์ใหญ่จริงๆเสียที
จบฤดูกาลเขาย้ายไปร่วมทีมระดับโลก รีลมาดริด ด้วยค่าตัว 11.4 ล้านยูโร
-----------------------------------------------------------------------------------------------
เขาใช้เวลาช่วงสั้นๆอยู่กับรีลมาดริดเพียงแค่ 2 ซีซั่น เป็น 2 ปีที่ล้มเหลวเขาไม่สามารถโชว์ฟอร์มได้ดีเหมือนเดิม
ก่อนย้ายไปร่วมทีมทอตแน่ม ฮอตสเปอร์ ในพรีเมียร์ลีกฟานเดอร์ฟาร์ททำผลงานได้ดี โชว์ฟอร์ม 28 ประตู 18 แอสซิสส์ จาก 77 นัด
แต่เขากลับไม่เป็นที่จดจำของผู้คนเท่าไหร่และแล้วมันก็ถึงเวลาที่เขาจะต้องกลับไปสานต่อภารกิจเดิมที่เขาทิ้งมา
เขากลับไปฮัมบรูกอีกครั้งในนาทีสุดท้ายของตลาดซื้อขายด้วยคำพูดที่ว่า “a dream for him and his family”
-----------------------------------------------------------------------------------------------
การกลับมาของฟานเดอร์ฟาร์ทรอบนี้ เขาจะกลับมากอบกู้ทีมอีกครั้งหลายจากสภาพทีมตอนนี้กลายเป็นทีมลุ้นหนีตกชั้นไปโดยปริยาย
โค้ชคนแล้วคนเล่าเอาชื่อมาทิ้งที่แดนเหนือแห่งนี้ แต่ด้วยสภาพร่างกายที่ถดถอยและองค์ประกอบทีม 3 ฤดูกาลในการหวนแดนเหนือ
เขาไม่สามารถแบกรับแรงกดดันที่ถาโถมเข้าใส่ สิงห์เหนือจบอันดับ16 ต้องไปเพลย์ออฟหนีตาย 2 ฤดูกาลติดต่อกัน
และฟานเดอร์ฟาร์ทโบกมืออำลาทีมไปหลังจากจบฤดูกาล 2014-15 ด้วยสถิติ 86นัด 18ประตู 23 แอสซิส
-----------------------------------------------------------------------------------------------
เขาใช้เวลาสั้นๆกับ รีล เบติส ในลาลีกา และ 2 สโมสรเล็กๆในเดนมาร์กอย่าง Midtjylland และ Esbjerg fB
ก่อนปิดฉากการค้าแข้งในฤดูกาล 2018-19 อย่างเงียบเชียบ
-----------------------------------------------------------------------------------------------
สถิติการลงเล่นกับฮัมบรูก : 113 นัด 48 ประตู 32 แอสซิส (ช่วงแรก) , 86 นัด 18 ประตู 23 แอสซิส (ช่วงสอง)
เกียรติประวัติกับฮัมบูรก : แชมป์อินเตอร์โตโต้ คัพ 2005 ,2007
ระดับความว้าว : 8.5
ระดับความซื้ด : 8
ระดับความเร้าใจ : 8.5
Jerseys football in my memory>>>>>ราฟาเอล ฟาน เดอร์ฟาร์ท "ความฝันของผมและครอบครัว"<<<<<
ราฟาเอล ฟาน เดอร์ ฟาร์ท เกิดเมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 1983 ที่heemskerk โดยแม่ของเขาเป็นชาวสเปน
โดยฟานเดอร์ฟาร์ทเริ่มเล่นให้กับทีมเล็กๆอย่าง De Kennemers ก่อนย้ายเข้าอะคาเดมี่ชุดเยาวชนของยอดทีมแดนกังหันอย่าง
อาแจ๊กซ์ อัมสเตอร์ดัมในวัย 10 ขวบโดยมีเพื่อนๆร่วมรุ่นอย่างจอห์น ไฮติงก้า และ เวสลีย์ ชไนเดอร์
และในวันที่ 20 เมษายน 2000 ฟานเดอร์ฟาร์ทได้ลงสนามครั้งแรกในวัย 17 ปี ในเกมเสมอกับ เอฟ.ซี. เดน บอช ซึ่งทั้งโลก
ได้ยลโฉมฝีเท้าของนักเตะวัยกระเตาะผู้นี้ที่ได้รับการคาดหมายว่าจะก้าวขึ้นมาแทนโยฮัน ครัฟฟ์ อดีตนักเตะเทวดา
ในช่วงเวลาของเขากับอาแจ๊กซ์มีช่วงเวลาที่สุดยอดเขาก้าวขึ้นมาเป็นกัปตันทีมคว้าแชมป์เอเดเรวิซี่(ลีกสูงสุด) 2 สมัยและบอลถ้วย 1 สมัย
และคว้ารางวัล โกลเด้นบอย อวอร์ด ในปี2003 และดูเหมือนว่าอาแจ๊กซ์ อัมสเตอร์ดัมจะดูเล็กไปสำหรับสำหรับเขาแล้ว
ประตูออกสู่โลกกว้างได้เปิดออกและเขาเห็นแสงรำไรที่สโมสรยักษ์หลับแห่งตอนเหนือของเยอรมัน
“ฮัมบรูกเกอร์ เอสฟา”
-----------------------------------------------------------------------------------------------
ท่ามกลางความสนใจของทีมยักษ์ใหญ่หลายทีมในยุโรปแต่เขากลับทำเซอร์ไพรส์ ชนิดที่ว่า โยฮัน ครัฟฟ์ นักเตะรุ่นพี่ต้องเอ่ยปากสงสัย
ด้วยการเลือกย้ายไปฮัมบรูก ด้วยค่าตัว 5.5 ล้านในซัมเมอร์ปี 2005 ฮัมบรูกภายใต้การคุมทีมของโทมัส โดล กุนซือหนุ่มไฟแรงชาวด๊อยซ์
ผู้ที่กำลังปลุกปั้นสร้างทีมให้กลับขึ้นมายอดทีมเมืองเบียร์อีกครั้งหนึ่ง โดยเพียงแค่ในฤดูกาลแรกของฟานเดอร์ฟาร์ท
สามารถพาทีมคว้าแชมป์อินเตอร์โตโต้ คัพ หลังเอาชนะบาเลนเซีย 1-0 จากประตูชัยของเซอร์เก บาบาเรซ และพาทีมจบอันดับ 3
มีคะแนนตามหลังแชมป์อย่างเสือใต้ บาเยิร์น มิวนิค เพียงแค่ 7 คะแนนพร้อมกับเข้าไปเล่นฟุตบอลยุโรปถ้วยหูโตอย่างยูฟ่าแชมป์เปี้ยนลีก
เป็นครั้งแรกในรอบหลายปีนับตั้งแต่ครั้งล่าสุดในฤดูกาล1999-00 เพียงแค่ฤดูกาลแรกของเขาในบุนเดสลีกาเขาสามารถเข้ามานั่งในหัวใจแฟนๆ
ของชาวสิงห์เหนือได้อย่างรวดเร็วด้วยผลงาน 16 ประตู แอสซิส 9 ครั้ง จาก36 นัด
ดูเหมือนหนทางข้างหน้าช่างดูสดใสเหมือนกับพระอาทิตย์ในยามเช้า แต่เพียงแค่ฤดูกาลที่สองของเขากับทีม สิงห์เหนือของโทมัส โดล
กลายเป็นสิงห์ป่วยโชว์ฟอร์มห่วยได้อับดับบ๊วยของกลุ่มจนตกรอบแรกยูฟ่าแชมป์เปี้ยนส์ลีกไปอย่างรวดเร็วและผลงานในบุนเดสลีกาย่ำแย่อย่างหนัก
ส่วนฟานเดอร์ฟาร์ทกำลังประสบปัญหากับอาการบาดเจ็บบ่อยครั้งทำให้เขาทำได้เพียงแค่เฝ้ามองทีมกำลังดิ้นรนหนีตาย
แต่แล้วสิงห์เหนือตัดสินใจแต่งตั้ง ฮูปส์ สตีเฟ่น ผู้เข้ามากอบกู้วิกฤตศรัทธาจากแฟนบอลผลงานทีมชนะรัวๆ หนีตายสำเร็จ
ด้วยผลงานมาสเตอร์พีซ ชนะ 9 นัด เสมอ 3 จาก14และฟานเดอร์ฟาร์ทหายเจ็บกลับมาช่วยทีมได้ทันเวลาเขายิงไป 7 ประตูจาก 14นัดหลังสุด
ก่อนพาทีมจบอันดับ 7 (ในซีซั่นนั้น ฟานเดอร์ฟาร์ท ยิงในลีก 8 ประตู ซึ่ง 7 ประตูมาจาก 14 นัดหลังสุดในยุค ฮูปส์ สตีเฟ่น)
และในฤดูกาล2007-08 เป็นขวบปีที่สุดยอดของเขา ฟานเดอร์ฟาร์ทหายจากการบาดเจ็บกลับมาโชว์ฟอร์มสุดยอดอีกครั้งหนึ่ง
เขายิงไป21ประตู แอสซิส 10 ครั้ง จาก 44 นัด สิงห์เหนือของฮูปส์ สตีเฟ่นและฟานเดอร์ฟาร์ทกลับมายึดหัวตาราง
และพาทีมกลับไปเล่นฟุตบอลยุโรปได้อีกครั้งหนึ่ง และคว้าอินเตอร์โตโต้ อีกหนึ่งสมัย
แต่ด้วยฟอร์มอันยอดเยี่ยมของเขา ด้วยวัยและประสบการณ์ถึงเวลาที่เขาต้องไปอยู่ที่มยักษ์ใหญ่จริงๆเสียที
จบฤดูกาลเขาย้ายไปร่วมทีมระดับโลก รีลมาดริด ด้วยค่าตัว 11.4 ล้านยูโร
-----------------------------------------------------------------------------------------------
เขาใช้เวลาช่วงสั้นๆอยู่กับรีลมาดริดเพียงแค่ 2 ซีซั่น เป็น 2 ปีที่ล้มเหลวเขาไม่สามารถโชว์ฟอร์มได้ดีเหมือนเดิม
ก่อนย้ายไปร่วมทีมทอตแน่ม ฮอตสเปอร์ ในพรีเมียร์ลีกฟานเดอร์ฟาร์ททำผลงานได้ดี โชว์ฟอร์ม 28 ประตู 18 แอสซิสส์ จาก 77 นัด
แต่เขากลับไม่เป็นที่จดจำของผู้คนเท่าไหร่และแล้วมันก็ถึงเวลาที่เขาจะต้องกลับไปสานต่อภารกิจเดิมที่เขาทิ้งมา
เขากลับไปฮัมบรูกอีกครั้งในนาทีสุดท้ายของตลาดซื้อขายด้วยคำพูดที่ว่า “a dream for him and his family”
-----------------------------------------------------------------------------------------------
การกลับมาของฟานเดอร์ฟาร์ทรอบนี้ เขาจะกลับมากอบกู้ทีมอีกครั้งหลายจากสภาพทีมตอนนี้กลายเป็นทีมลุ้นหนีตกชั้นไปโดยปริยาย
โค้ชคนแล้วคนเล่าเอาชื่อมาทิ้งที่แดนเหนือแห่งนี้ แต่ด้วยสภาพร่างกายที่ถดถอยและองค์ประกอบทีม 3 ฤดูกาลในการหวนแดนเหนือ
เขาไม่สามารถแบกรับแรงกดดันที่ถาโถมเข้าใส่ สิงห์เหนือจบอันดับ16 ต้องไปเพลย์ออฟหนีตาย 2 ฤดูกาลติดต่อกัน
และฟานเดอร์ฟาร์ทโบกมืออำลาทีมไปหลังจากจบฤดูกาล 2014-15 ด้วยสถิติ 86นัด 18ประตู 23 แอสซิส
-----------------------------------------------------------------------------------------------
เขาใช้เวลาสั้นๆกับ รีล เบติส ในลาลีกา และ 2 สโมสรเล็กๆในเดนมาร์กอย่าง Midtjylland และ Esbjerg fB
ก่อนปิดฉากการค้าแข้งในฤดูกาล 2018-19 อย่างเงียบเชียบ
-----------------------------------------------------------------------------------------------
สถิติการลงเล่นกับฮัมบรูก : 113 นัด 48 ประตู 32 แอสซิส (ช่วงแรก) , 86 นัด 18 ประตู 23 แอสซิส (ช่วงสอง)
เกียรติประวัติกับฮัมบูรก : แชมป์อินเตอร์โตโต้ คัพ 2005 ,2007
ระดับความว้าว : 8.5
ระดับความซื้ด : 8
ระดับความเร้าใจ : 8.5