สวัสดีค่ะ วันนี้พวกเราจะพาทุกคนไปรู้จักกับที่แห่งหนึ่ง ที่หลายๆคนอาจจะไม่เคยรู้จักมาก่อนเมื่อพูดถึงชายแดนไทย – พม่า สถานที่ที่ทุกคนนึกถึงก็คงเป็น ด่านพรมแดนไทย – พม่า ที่แม่สอดหรือแม่สายแต่ยังมีอีกสถานที่หนึ่ง ที่เป็นชายแดนไทย-พม่า ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพของเรานี่เองที่นั่นก็คือออออออออ “ด่านสิงขร” จังหวัดประจวบคีรีขันธ์นั่นเองค่ะ ด่านสิงขรเป็นตลาดการค้าชายแดนที่เป็นเพียงจุดผ่อนปรนการค้ายังไม่ได้เปิดเป็นด่านหรือจุดผ่านแดนถาวร
ในอดีตบริเวณด่านสิงขรนั้นมีความสำคัญทั้งไทยและพม่าโดยใช้การคมนาคมผ่านดินแดนคาบสมุทรจากชายฝั่งทะเลด้านหนึ่งไปยังอีกด้านหนึ่งคือฝั่งทะเลอ่าวไทย ไปยังฝั่งทะเลอันดามัน ที่พม่าเรียกว่า เส้นคาบสมุทร
ปัจจุบันด่านสิงขรเป็นจุดผ่อนปรนทางการค้า ระหว่างชายแดนไทยและพม่าจำหน่ายสินค้าพื้นเมืองของคนไทยและคนพม่า สินค้าที่มีจำหน่ายได้แก่
เฟอร์นิเจอร์ไม้แกะสลักซึ่งเป็นงานฝีมือ เหมาะสำหรับเป็นของใช้และตกแต่งบ้านต้นไม้ต่างๆ รวมถึงเครื่องประดับที่ทำจากหินและพลอยหลากนักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปเลือกชมและซื้อของฝากกลับบ้านได้ทุกวัน
เมื่อรู้จักความเป็นมาของด่านสิงขรแล้วพร้อมหรือยังที่จะไปเรียนรู้วัฒนธรรมระหว่างไทย-พม่า ไปพร้อมกับพวกเรา ถ้าพร้อมแล้วไปกันเลยยยยยยยยยยยยยยยยย ปล.ทริปของเรา จะเป็นทริปที่ประหยัดที่สุด!! ไปพม่าง่ายๆใกล้กรุงเทพ
การเดินทาง
วันที่ 6 เมษายน 2562
05.00 เริ่มต้นที่สถานีเดินรถโดยสารขนาดเล็ก(จตุจักร) หรือที่เรียกกันว่า สถานีรถตู้จตุจักรใหม่นั่นเองค่ะ มาถึงแล้วไปซื้อตั๋วกันเลยยยยโดยเราจะไปซื้อตั๋วที่อาคาร D ภาคใต้ค่ะ เมื่อถึงจุดจำหน่ายตั๋วแล้ว ซื้อตั๋วรถตู้กรุงเทพฯ-ประจวบคีรีขันธ์ รอบ 06.00 ราคา 220 บาท/คน
05.30 เริ่มเดินทางออกจาก กรุงเทพฯไปยังประจวบคีรีขันธ์ระหว่างเดินทางเราก็มีเพื่อนร่วมทางเป็นพี่ๆที่จะเดินทางกลับบ้านในช่วงวันหยุดค่ะ ซึ่งรถตู้นั้นเมื่อคนเต็มก็จะออกรถทันทีค่ะ และรถของพวกเราก็ออกก่อนเวลา
10.30 เดินทางถึงท่ารถตู้จังหวัดประจวบคีรีขันธ์จากนั้นติดต่อซื้อตั๋วรถตู้ไปที่ด่านสิงขร ราคา 100บาท/คน ระหว่างรอรถตู้เราก็พักรับประทานอาหารที่ท่ารถตู้ เป็นขนมจีนน้ำยา อร่อย เข้มข้น แต่เผ็ชชมากกกกกกกกราคาจานละ 30 บาทเท่านั้น
11.30 รถมาแล้ววววว ขึ้นรถออกเดินทางไปที่ด่านสิงขรคุณลุงคนขับรถก็ได้บอกถึงหมู่บ้านมูด่องว่าเป็นหมู่บ้านโบราณ มีโรงเรียนที่เป็นแบบไม่มีห้องกั้น มีหอนาฬิกาโดยใช้ไม้ทำ ซึ่งน่าสนใจมากๆค่ะ
12.00 ถึงแล้ว ด่านสิงขร ทันทีที่ลงจากจากรถก็สัมผัสได้ถึงความร้อนแรงของแดดประเทศประจวบฯและเราก็ได้นัดหมายกับลุงคนขับรถว่าตอนกลับให้ขึ้นรถตรงไหน แล้วพวกเราก็เดินสำรวจด่านและได้เจอกับเพื่อนบ้าน ชาวพม่า
ก่อนอื่นเราขอแนะนำวิธีทำ
borderpass ใช้เงิน 30บาท/คนโดยใช้แค่บัตรประชาชนใบเดียว ตอนที่เราไปทำ ก็มีคนมาทำมากมาย เขาเล่าว่าโดยส่วนใหญ่แล้ว เขาจะข้ามไปทำไร่ ทำสวนที่ฝั่งพม่า เพราะทางฝั่งนั้น ที่ดินราคาถูกโดยในแต่ละรอบที่ไป เขาจะข้ามไปอยู่ที่หมู่บ้านมูด่อง ซึ่งเป็นหมู่บ้านชนเผ่า อยู่ได้ไม่เกิน7 วัน เพราะด่านนี้เป็นด่านพรมแดนชั่วคราวยังไม่ถูกยกให้เป็นด่านพรมแดนถาวร การท่องเที่ยวจึงไม่คึกคักเท่าด่านอื่นๆส่วนการที่จะข้ามไปฝั่งพม่า จะต้องมีรถยนต์มาเอง หรือเช่ารถข้ามไปเพราะจะต้องนั่งรถเข้าไปอีกหลายกิโลจึงจะถึงแหล่งท่องเที่ยวคนที่ข้ามไปส่วนใหญ่จะเป็นคนในพื้นที่ ที่เข้า ออก เป็นประจำ แต่ในฝั่งไทยก็มีคนพม่าอยู่จำนวนมาก
หมายเหตุ :ทางกลุ่มของพวกเราจึงได้สอบถามเจ้าหน้าที่เกี่ยวกับการข้ามไปหมู่บ้านมูด่องเจ้าหน้าที่แนะนำพวกเราว่าไม่ควรข้ามไปเนื่องจาก หมู่บ้านมูด่องเป็นชนเผ่าของชาวพม่าไม่สามารถสื่อสารภาษาไทย,ภาษาอังกฤษได้เท่าที่ควร คนส่วนใหญ่ที่ข้ามไปเป็นคนในพื้นที่ และพวกเรามีแต่ผู้หญิงที่เดินทางไปสำรวจด่านในครั้งนี้ถึงแม้ว่าในครั้งนี้ที่เราไปไม่ได้ข้ามไปหมู่บ้านมูด่องแต่เราจะมารีวิวตลาดการค้าชายแดนในครั้งนี้ก็ทำให้เราได้สัมผัสความเป็นพม่าไปเต็มๆเลยจ้า
เริ่มจากที่ป้ายนี้ก่อนเลย
นี้คือสิ่งแรกที่พวกเราเจอค่าาา
ผ้าถุงชิคๆก็มีนะคะ
หยกพม่า หินพม่า คือมีเยอะมากกกก สมาชิกของกลุ่มเราก็ไปตำกำไลหินมา 2 เส้นเลยค่าาา
นี้ก็เป็นของแนวๆคาบอย นักสะสมหรือผู้สนใจก็สามารถเลือกใช้ซื้อกันได้เลยนะ
เฟอร์นิเจอร์ที่นี้มีเยอะมาก ใครอยากตกแต่งบ้านมาซื้อกันได้นะคะ
กล้วยไม้ป่าที่นี้ก็มี
ทาราคาคือมีทุกร้านที่อยู่ในตลาด
เดินสำรวจต่อไปเรื่อยๆเลยค่ะ
สมาชิกผู้กล้าของเรา จะทำการทดลองทาทานาคาหวังว่าสิวบนใบหน้าจะหายไปนะคะ
ขอยืนยันว่าเป็นด่านที่แคบที่สุดในสยามค่ะ
เราสังเกตว่าคนพม่าส่วนใหญ่จะทาทานาคากันเราจึงมาหาคำตอบกัน เขาบอกว่าช่วยให้ผิวดีและช่วยกันแดดนั้นเองค่ะ
15.00 หลังจากเดินสำรวจจนสาแก่ใจแล้วเราก็เดินทางกลับท่ารถตู้ด้วยรถตู้คันเดิม โดยไปซื้อตั๋วที่จุดจำหน่ายตั๋ว ราคาก็เหมือนเดิม100บาท/คน
ระหว่างรอรถขอถ่ายภาพสมาชิกหน่อยนะคะว่าเรามาถึงแล้วด่านสิงขร
15.30 ถึงท่ารถตู้และส่งเพื่อนอีกคนกลับกรุงเทพ ด้วยตั๋ว ราคา 220 บาทส่วนพวกเราที่เหลือ อยู่เที่ยวประจวบต่อ!!! ซึ่งในการเที่ยวครั้งนี้พวกเราได้ไปเที่ยวถนนคนเดินประจวบคีรีขันธ์ เขาล้อมหมวก อ่าวมะนาว และที่ขาดไม่ได้เลยนั้นก็คือร้านบุฟเฟ่นั้นเองงงซึ่งการไปเที่ยวในครั้งนี้ไม่สิ้นสุดเพียงเท่านี้เราก็ได้เดินทางต่อที่อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ก็ได้ไปสำรวจอีกด่านที่ข้ามไปพม่าและเราได้เดินทางต่อไปที่จังหวัดอำนาจเจริญและอุบลราชธานี ซึ่งการเดินทางในครั้งนี้ทำให้เราเปิดประตูสู่อาเซียนของประเทศกันเลยทีเดียว ถ้าอยากรู้ว่าการเดินในครั้งนี้เป็นยังไงก็ติดตามตอนต่อไปกันเลยยยยยย !!!
ค่าใช้จ่าย/คน
ค่ารถตู้ กรุงเทพ – ประจวบ220 บาท
ค่าขนมจีน30 บาท
ค่ารถตู้ ประจวบ – ด่านสิงขร100 บาท
ค่าทำ border pass30 บาท
ค่ารถตู้ ด่านสิงขร – ประจวบ100 บาท
ค่ารถตู้ ประจวบ – กรุงเทพ220 บาท
รวม 700 บาท
ปล.เราหวังว่าเราจะได้กลับมาที่นี้อีกครั้งและได้ไปเที่ยวหมู่บ้านมูด่องตามที่เราหวังถ้าหากทุกคนที่เข้ามาชมเคยได้ไปสัมผัสหมู่บ้านมูด่องหรือด่านสิงขรแล้วอย่าลืมมาแนะนำพวกเราด้วยนะคะ และถ้าการรีวิวในครั้งนี้มีข้อผิดพลาดประการใดขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ
เปิดประตูสู่อาเซียน "ด่านสิงขร" จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
สวัสดีค่ะ วันนี้พวกเราจะพาทุกคนไปรู้จักกับที่แห่งหนึ่ง ที่หลายๆคนอาจจะไม่เคยรู้จักมาก่อนเมื่อพูดถึงชายแดนไทย – พม่า สถานที่ที่ทุกคนนึกถึงก็คงเป็น ด่านพรมแดนไทย – พม่า ที่แม่สอดหรือแม่สายแต่ยังมีอีกสถานที่หนึ่ง ที่เป็นชายแดนไทย-พม่า ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพของเรานี่เองที่นั่นก็คือออออออออ “ด่านสิงขร” จังหวัดประจวบคีรีขันธ์นั่นเองค่ะ ด่านสิงขรเป็นตลาดการค้าชายแดนที่เป็นเพียงจุดผ่อนปรนการค้ายังไม่ได้เปิดเป็นด่านหรือจุดผ่านแดนถาวร
ในอดีตบริเวณด่านสิงขรนั้นมีความสำคัญทั้งไทยและพม่าโดยใช้การคมนาคมผ่านดินแดนคาบสมุทรจากชายฝั่งทะเลด้านหนึ่งไปยังอีกด้านหนึ่งคือฝั่งทะเลอ่าวไทย ไปยังฝั่งทะเลอันดามัน ที่พม่าเรียกว่า เส้นคาบสมุทร
ปัจจุบันด่านสิงขรเป็นจุดผ่อนปรนทางการค้า ระหว่างชายแดนไทยและพม่าจำหน่ายสินค้าพื้นเมืองของคนไทยและคนพม่า สินค้าที่มีจำหน่ายได้แก่
เฟอร์นิเจอร์ไม้แกะสลักซึ่งเป็นงานฝีมือ เหมาะสำหรับเป็นของใช้และตกแต่งบ้านต้นไม้ต่างๆ รวมถึงเครื่องประดับที่ทำจากหินและพลอยหลากนักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปเลือกชมและซื้อของฝากกลับบ้านได้ทุกวัน
เมื่อรู้จักความเป็นมาของด่านสิงขรแล้วพร้อมหรือยังที่จะไปเรียนรู้วัฒนธรรมระหว่างไทย-พม่า ไปพร้อมกับพวกเรา ถ้าพร้อมแล้วไปกันเลยยยยยยยยยยยยยยยยย ปล.ทริปของเรา จะเป็นทริปที่ประหยัดที่สุด!! ไปพม่าง่ายๆใกล้กรุงเทพ
การเดินทาง
วันที่ 6 เมษายน 2562
05.00 เริ่มต้นที่สถานีเดินรถโดยสารขนาดเล็ก(จตุจักร) หรือที่เรียกกันว่า สถานีรถตู้จตุจักรใหม่นั่นเองค่ะ มาถึงแล้วไปซื้อตั๋วกันเลยยยยโดยเราจะไปซื้อตั๋วที่อาคาร D ภาคใต้ค่ะ เมื่อถึงจุดจำหน่ายตั๋วแล้ว ซื้อตั๋วรถตู้กรุงเทพฯ-ประจวบคีรีขันธ์ รอบ 06.00 ราคา 220 บาท/คน
05.30 เริ่มเดินทางออกจาก กรุงเทพฯไปยังประจวบคีรีขันธ์ระหว่างเดินทางเราก็มีเพื่อนร่วมทางเป็นพี่ๆที่จะเดินทางกลับบ้านในช่วงวันหยุดค่ะ ซึ่งรถตู้นั้นเมื่อคนเต็มก็จะออกรถทันทีค่ะ และรถของพวกเราก็ออกก่อนเวลา
10.30 เดินทางถึงท่ารถตู้จังหวัดประจวบคีรีขันธ์จากนั้นติดต่อซื้อตั๋วรถตู้ไปที่ด่านสิงขร ราคา 100บาท/คน ระหว่างรอรถตู้เราก็พักรับประทานอาหารที่ท่ารถตู้ เป็นขนมจีนน้ำยา อร่อย เข้มข้น แต่เผ็ชชมากกกกกกกกราคาจานละ 30 บาทเท่านั้น
11.30 รถมาแล้ววววว ขึ้นรถออกเดินทางไปที่ด่านสิงขรคุณลุงคนขับรถก็ได้บอกถึงหมู่บ้านมูด่องว่าเป็นหมู่บ้านโบราณ มีโรงเรียนที่เป็นแบบไม่มีห้องกั้น มีหอนาฬิกาโดยใช้ไม้ทำ ซึ่งน่าสนใจมากๆค่ะ
12.00 ถึงแล้ว ด่านสิงขร ทันทีที่ลงจากจากรถก็สัมผัสได้ถึงความร้อนแรงของแดดประเทศประจวบฯและเราก็ได้นัดหมายกับลุงคนขับรถว่าตอนกลับให้ขึ้นรถตรงไหน แล้วพวกเราก็เดินสำรวจด่านและได้เจอกับเพื่อนบ้าน ชาวพม่า
ก่อนอื่นเราขอแนะนำวิธีทำ
borderpass ใช้เงิน 30บาท/คนโดยใช้แค่บัตรประชาชนใบเดียว ตอนที่เราไปทำ ก็มีคนมาทำมากมาย เขาเล่าว่าโดยส่วนใหญ่แล้ว เขาจะข้ามไปทำไร่ ทำสวนที่ฝั่งพม่า เพราะทางฝั่งนั้น ที่ดินราคาถูกโดยในแต่ละรอบที่ไป เขาจะข้ามไปอยู่ที่หมู่บ้านมูด่อง ซึ่งเป็นหมู่บ้านชนเผ่า อยู่ได้ไม่เกิน7 วัน เพราะด่านนี้เป็นด่านพรมแดนชั่วคราวยังไม่ถูกยกให้เป็นด่านพรมแดนถาวร การท่องเที่ยวจึงไม่คึกคักเท่าด่านอื่นๆส่วนการที่จะข้ามไปฝั่งพม่า จะต้องมีรถยนต์มาเอง หรือเช่ารถข้ามไปเพราะจะต้องนั่งรถเข้าไปอีกหลายกิโลจึงจะถึงแหล่งท่องเที่ยวคนที่ข้ามไปส่วนใหญ่จะเป็นคนในพื้นที่ ที่เข้า ออก เป็นประจำ แต่ในฝั่งไทยก็มีคนพม่าอยู่จำนวนมาก
หมายเหตุ :ทางกลุ่มของพวกเราจึงได้สอบถามเจ้าหน้าที่เกี่ยวกับการข้ามไปหมู่บ้านมูด่องเจ้าหน้าที่แนะนำพวกเราว่าไม่ควรข้ามไปเนื่องจาก หมู่บ้านมูด่องเป็นชนเผ่าของชาวพม่าไม่สามารถสื่อสารภาษาไทย,ภาษาอังกฤษได้เท่าที่ควร คนส่วนใหญ่ที่ข้ามไปเป็นคนในพื้นที่ และพวกเรามีแต่ผู้หญิงที่เดินทางไปสำรวจด่านในครั้งนี้ถึงแม้ว่าในครั้งนี้ที่เราไปไม่ได้ข้ามไปหมู่บ้านมูด่องแต่เราจะมารีวิวตลาดการค้าชายแดนในครั้งนี้ก็ทำให้เราได้สัมผัสความเป็นพม่าไปเต็มๆเลยจ้า
เริ่มจากที่ป้ายนี้ก่อนเลย
นี้คือสิ่งแรกที่พวกเราเจอค่าาา
ผ้าถุงชิคๆก็มีนะคะ
หยกพม่า หินพม่า คือมีเยอะมากกกก สมาชิกของกลุ่มเราก็ไปตำกำไลหินมา 2 เส้นเลยค่าาา
นี้ก็เป็นของแนวๆคาบอย นักสะสมหรือผู้สนใจก็สามารถเลือกใช้ซื้อกันได้เลยนะ
เฟอร์นิเจอร์ที่นี้มีเยอะมาก ใครอยากตกแต่งบ้านมาซื้อกันได้นะคะ
กล้วยไม้ป่าที่นี้ก็มี
ทาราคาคือมีทุกร้านที่อยู่ในตลาด
เดินสำรวจต่อไปเรื่อยๆเลยค่ะ
สมาชิกผู้กล้าของเรา จะทำการทดลองทาทานาคาหวังว่าสิวบนใบหน้าจะหายไปนะคะ
ขอยืนยันว่าเป็นด่านที่แคบที่สุดในสยามค่ะ
เราสังเกตว่าคนพม่าส่วนใหญ่จะทาทานาคากันเราจึงมาหาคำตอบกัน เขาบอกว่าช่วยให้ผิวดีและช่วยกันแดดนั้นเองค่ะ
15.00 หลังจากเดินสำรวจจนสาแก่ใจแล้วเราก็เดินทางกลับท่ารถตู้ด้วยรถตู้คันเดิม โดยไปซื้อตั๋วที่จุดจำหน่ายตั๋ว ราคาก็เหมือนเดิม100บาท/คน
ระหว่างรอรถขอถ่ายภาพสมาชิกหน่อยนะคะว่าเรามาถึงแล้วด่านสิงขร
15.30 ถึงท่ารถตู้และส่งเพื่อนอีกคนกลับกรุงเทพ ด้วยตั๋ว ราคา 220 บาทส่วนพวกเราที่เหลือ อยู่เที่ยวประจวบต่อ!!! ซึ่งในการเที่ยวครั้งนี้พวกเราได้ไปเที่ยวถนนคนเดินประจวบคีรีขันธ์ เขาล้อมหมวก อ่าวมะนาว และที่ขาดไม่ได้เลยนั้นก็คือร้านบุฟเฟ่นั้นเองงงซึ่งการไปเที่ยวในครั้งนี้ไม่สิ้นสุดเพียงเท่านี้เราก็ได้เดินทางต่อที่อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ก็ได้ไปสำรวจอีกด่านที่ข้ามไปพม่าและเราได้เดินทางต่อไปที่จังหวัดอำนาจเจริญและอุบลราชธานี ซึ่งการเดินทางในครั้งนี้ทำให้เราเปิดประตูสู่อาเซียนของประเทศกันเลยทีเดียว ถ้าอยากรู้ว่าการเดินในครั้งนี้เป็นยังไงก็ติดตามตอนต่อไปกันเลยยยยยย !!!
ค่าใช้จ่าย/คน
ค่ารถตู้ กรุงเทพ – ประจวบ220 บาท
ค่าขนมจีน30 บาท
ค่ารถตู้ ประจวบ – ด่านสิงขร100 บาท
ค่าทำ border pass30 บาท
ค่ารถตู้ ด่านสิงขร – ประจวบ100 บาท
ค่ารถตู้ ประจวบ – กรุงเทพ220 บาท
รวม 700 บาท
ปล.เราหวังว่าเราจะได้กลับมาที่นี้อีกครั้งและได้ไปเที่ยวหมู่บ้านมูด่องตามที่เราหวังถ้าหากทุกคนที่เข้ามาชมเคยได้ไปสัมผัสหมู่บ้านมูด่องหรือด่านสิงขรแล้วอย่าลืมมาแนะนำพวกเราด้วยนะคะ และถ้าการรีวิวในครั้งนี้มีข้อผิดพลาดประการใดขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ