สวัสดีค่ะ ชื่อหมิวนะคะ หลายๆคนมักจะมีจุดด้อยของตัวเองที่รู้สึกไม่มั่นใจกันอยู่แล้ว และบางทีจุดด้อยเหล่านี้ก็มักจะถูกคนใกล้ตัวนำไปล้อเลียนเสมอ อย่างตัวหมิวเองตั้งแต่เด็กจนโตก็โดนล้อเลียนมาจนชิน และสิ่งที่โดนล้อหนักที่สุดก็คือ ‘จมูก’ นี่แหละ
หมิวเป็นคนที่ไม่ค่อยมีสันดั้ง แล้วตรงปลายจมูกก็บานๆใหญ่ๆเหมือนชมพู่ ซึ่งจุดด้อยตรงนี้ทำให้หมิวโดนล้อเลียนตลอด ประโยคที่ได้ยินประจำเลยก็คือ ‘มุงหายใจทางไหนเนี่ย’ ‘แบนกว่านมตูก็จมูกมุงนี่แหละ’ หมิวก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากแสร้งทำเป็นขำๆไป แต่ในใจคือไม่ชอบเลย ทั้งโกรธทั้งอาย แล้วมันก็สะสมมาเรื่อยๆ เรื่องจมูกจึงกลายเป็นเหมือนปมในใจไปเลย
พออายุครบ18 ใกล้เรียนจบม.6และเตรียมตัวเข้ามหาวิทยาลัย หมิวก็คิดว่าอยากเปลี่ยนเป็นคนใหม่ ไม่อยากโดนล้ออีกเหมือนเมื่อก่อน ก็เลยตั้งใจว่าจะไปเสริมจมูกค่ะ แต่ตอนนั้นก็ได้แค่คิด เนื่องจากหมิวไม่รู้อะไรเกี่ยวกับศัลยกรรมเลย เลยไม่รู้ว่าจะไปทำที่ไหน เริ่มยังไง หมิวก็ขี้ระแวงด้วย คิดว่าเขาจะหลอกหรือเปล่า ทำแล้วจะสวยกว่าเดิมหรือมันจะแย่กว่าเดิม คิดกลัวนั่นนี่ก็เลยไม่ได้เสริมจมูกสักที
แล้วในช่วงนั้นหมิวก็ได้มีโอกาสเจอกับเพื่อนคนหนึ่งซึ่งเป็นคนที่หมิวสนิทด้วย เพื่อนคนนี้เขาย้ายไปเรียนต่างจังหวัดแล้วพึ่งกลับมาหลังจากเรียนจบแล้ว เราทั้งคู่ก็เลยนัดเจอกัน ซึ่งครั้งแรกที่หมิวได้เจอหน้าเพื่อนคนนี้หมิวรู้สึกได้เลยว่าเพื่อนเปลี่ยนไป ดูสวยกว่าแต่ก่อนมากๆ หมิวก็เลยถามเขาว่าไปทำอะไรมาทำไมดูดีขึ้น เขาก็บอกตรงๆนะคะว่าไปทำหน้ามา ทำที่อัคราคลีนิค หมิวก็เลยคิดได้ว่างั้นทำที่นี่แหละ เพราะเห็นเพื่อนทำแล้วสวย เราทำก็ต้องออกมาสวยเหมือนกันสิ
พอไปที่คลีนิคจริงๆมันก็ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิดเลยนะ เพราะทุกคนในคลีนิคดูใจดีมากๆแล้วก็บริการดีมากด้วย ทำให้หมิวหายกดดันไปเยอะ ซึ่งหมิวได้คุยกับหมออัครเดชเจ้าของคลีนิคโดยตรงเลย หมิวบอกหมออัครเดชไปว่าอยากให้จมูกสวยและดูเล็กกว่านี้ หมอก็เลยแนะนำให้หมิวเสริมจมูกและตัดปีกจมูกด้วย หมิวเองก็ไม่คิดว่าจะมีตัดจมูกด้วย แต่มาถึงขั้นนี้ก็เลยตกลงทำไปรวดเดียวเลย จะได้ไม่ต้องเจ็บตัวซ้ำๆ
ก่อนเข้าห้องผ่าตัดหมอบอกให้ล้างหน้าแล้วเปลี่ยนชุด แต่ตอนถ่ายรูปหมิวยังไม่เปลี่ยนชุดเพราะอยากทิ้งท้ายด้วยการถ่ายรูปหน้าเก่าตัวเองก่อน 555+ ตอนนั้นตื่นเต้นมากเพราะกลัวเจ็บ แอบเครียดอยู่นิดหนึ่ง แต่เข้าไปทำจริงๆแล้วไม่รู้สึกเจ็บเท่าไรเพราะหมออัครเดชมือเบามาก ตอนฉีดยาชานี่แทบไม่เจ็บเลย สบายกว่าที่คิดเอาไว้มากๆ
หลังทำเสร็จก็กลับไปพักฟื้นที่บ้านได้เลยค่ะ หมิวไม่ได้รู้สึกเจ็บนะคะ มันรู้สึกตึงๆมากกว่า เวลานอนก็ต้องใช้หมอนรองคอช่วยไปก่อน สังเกตได้ว่าจมูกไม่ค่อยบวมเท่าไร ไม่ช้ำด้วย หมิวคิดว่าหมอมือเบาด้วยเลยทำให้ไม่ค่อยบวมเท่าไร
ผ่านไปได้เกือบๆอาทิตย์หมิวก็ถอดผ้าก็อซออกได้แล้ว แอบตื่นเต้นอยู่หน่อยๆ เพราะอยากเห็นจมูกใหม่ตัวเองไวๆ แต่ความบวมยังมีอยู่เนอะเลยบอกอะไรไม่ได้มาก แต่ก็เริ่มเห็นความเปลี่ยนแปลงบ้างแล้ว เห็นสันจมูกชัดขึ้นหลังจากที่เมื่อก่อนนี่ลาดลงไปเลย
หลังจากอดทนรอ(ประมาณ1-2อาทิตย์นี่แหละ จำไม่ได้แล้ว 555+)ก็ได้ฤกษ์ตัดไหมซักที และนี่ก็คือสภาพที่หมิวได้มาจากการเสริมจมูกค่ะ จริงๆหมออัครเดชบอกว่าจมูกหมิวยังไม่เข้าที่เต็มที่ ต้องรอประมาณเดือนถึงจะเห็นผลชัดเจน หมิวก็เลยไม่ได้คาดหวังเท่าไร ตอนนั้นก็คิดแค่ว่ารออีกซักเดือนล่ะกัน แต่กลายเป็นว่าหลังตัดไหมคนใกล้ตัวฮือฮากันหมดเลยค่ะ จากหน้าบ้านๆดั้งแหมบจมูกใหญ่ที่เคยโดนล้อเป็นประจำก็เปลี่ยนไปเป็นคนละคนเลย มีแต่คนทักคนถามว่าไปทำมาจากไหน นี่ขนาดจมูกยังไม่เข้าที่เต็มที่นะเนี่ย
นี่เป็นภาพปัจจุบันของหมิวเองค่ะ(จมูกเข้าที่แล้ว อิอิ) ผลลัพธ์ที่ได้คือพอใจมากค่ะ ชอบตรงที่หมอเสริมจมูกให้โด่งโค้งรับกับหน้าหมิว ไม่ได้ทำตรงแน่วเป็นสันเขื่อนแนวๆพริตตี้อะไรทำนองนั้น จมูกเลยออกมาดูธรรมชาติมาก แบบที่ไม่มีใครรู้ว่าหมิวเสริมจมูกมาเลย(ยกเว้นคนที่เคยเห็นหมิวก่อนเสริมจมูกนะ) ซึ่งนอกจากดั้งโด่งขึ้นแล้ว ทรงจมูกที่เปลี่ยนไป(เล็กลงและโด่งขึ้น)ก็เสริมให้หน้าหมิวดูคมขึ้นไปด้วย จนหลายๆคนเคยเข้าใจผิดว่าหมิวมีเชื้อแขกทั้งๆที่หมิวนี่ไทยแท้ๆเลย 555+ ซึ่งหมิวก็ไม่ปิดบังนะคะ เวลาใครถามก็บอกไปตรงๆเลยว่าเป็นคนไทยนี่แหละ แค่ไปเสริมจมูกมาเฉยๆ
ขอปิดท้ายกระทู้นี้ด้วยภาพเปรียบเทียบก่อนทำและหลังทำแบบชัดๆเลย การเสริมจมูกครั้งนี้ไม่ใช่แค่การแก้ปมด้อยตัวเองเท่านั้น แต่มันยังทำให้หมิวมีความมั่นใจมากขึ้นและใส่ใจกับตัวเองมากขึ้น หันมาแต่งหน้าแต่งตัวให้ดูดี หมั่นทาครีมบำรุงและออกกำลังกายบ่อยๆ หมิวว่านี่เป็นอีกเหตุผลสำคัญที่ทำให้หมิวดูดีขึ้นกว่าเดิมด้วย(ขอยกเครดิตให้ตัวเองด้วยละกัน) สำหรับใครที่มีปมด้อยไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตาม หมิวอยากฝากไว้ว่าอย่าปล่อยให้ปมด้อยมากดตัวเองมากเกินไปนะคะ อย่าไปคิดว่าตัวเองไม่ดีอย่างนั้นอย่างนี้จนไม่กล้าทำอะไร ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงได้แค่เราลงมือทำเท่านั้นเอง สู้ๆ
[CR] พอกันทีกับดั้งแหมบๆ! บอกเล่าประสบการณ์โดนล้อจนเป็นปมและรีวิวอัพดั้งใหม่ที่อัคราคลินิก
พออายุครบ18 ใกล้เรียนจบม.6และเตรียมตัวเข้ามหาวิทยาลัย หมิวก็คิดว่าอยากเปลี่ยนเป็นคนใหม่ ไม่อยากโดนล้ออีกเหมือนเมื่อก่อน ก็เลยตั้งใจว่าจะไปเสริมจมูกค่ะ แต่ตอนนั้นก็ได้แค่คิด เนื่องจากหมิวไม่รู้อะไรเกี่ยวกับศัลยกรรมเลย เลยไม่รู้ว่าจะไปทำที่ไหน เริ่มยังไง หมิวก็ขี้ระแวงด้วย คิดว่าเขาจะหลอกหรือเปล่า ทำแล้วจะสวยกว่าเดิมหรือมันจะแย่กว่าเดิม คิดกลัวนั่นนี่ก็เลยไม่ได้เสริมจมูกสักที
แล้วในช่วงนั้นหมิวก็ได้มีโอกาสเจอกับเพื่อนคนหนึ่งซึ่งเป็นคนที่หมิวสนิทด้วย เพื่อนคนนี้เขาย้ายไปเรียนต่างจังหวัดแล้วพึ่งกลับมาหลังจากเรียนจบแล้ว เราทั้งคู่ก็เลยนัดเจอกัน ซึ่งครั้งแรกที่หมิวได้เจอหน้าเพื่อนคนนี้หมิวรู้สึกได้เลยว่าเพื่อนเปลี่ยนไป ดูสวยกว่าแต่ก่อนมากๆ หมิวก็เลยถามเขาว่าไปทำอะไรมาทำไมดูดีขึ้น เขาก็บอกตรงๆนะคะว่าไปทำหน้ามา ทำที่อัคราคลีนิค หมิวก็เลยคิดได้ว่างั้นทำที่นี่แหละ เพราะเห็นเพื่อนทำแล้วสวย เราทำก็ต้องออกมาสวยเหมือนกันสิ
พอไปที่คลีนิคจริงๆมันก็ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิดเลยนะ เพราะทุกคนในคลีนิคดูใจดีมากๆแล้วก็บริการดีมากด้วย ทำให้หมิวหายกดดันไปเยอะ ซึ่งหมิวได้คุยกับหมออัครเดชเจ้าของคลีนิคโดยตรงเลย หมิวบอกหมออัครเดชไปว่าอยากให้จมูกสวยและดูเล็กกว่านี้ หมอก็เลยแนะนำให้หมิวเสริมจมูกและตัดปีกจมูกด้วย หมิวเองก็ไม่คิดว่าจะมีตัดจมูกด้วย แต่มาถึงขั้นนี้ก็เลยตกลงทำไปรวดเดียวเลย จะได้ไม่ต้องเจ็บตัวซ้ำๆ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้