[spoil] มิตรภาพ,การเสียสละและปมในอดีต : Avengers endgame


จากการที่หนังพาเราทำการย้อนเวลาเพื่อแก้ไขปัญหาบางอย่างทำให้เราพบกับสถานการณ์เหตุการณ์ต่างๆในหนังภาคก่อนๆและยังได้เจอตัวละครที่มีผลต่อชีวิตของเหล่าตัวละครเอกฮีโร่ทั้งสามตัวของเรา อันนำไปซึ่งการเปลี่ยนแปลงบางอย่างในชีวิตเขา
เข้าใจบางอย่างในอดีต สู่การทำบางสิ่งในอนาคต
โทนี่ สตาร์ค
จากการย้อนเวลาของเขาทำให้เขาได้พบกับพ่อของตัวเองอีกครั้ง การพบกันในครั้งนั้นได้ทำให้เกิดแลกเปลี่ยนให้ข้อมูลเกี่ยวกับการเตรียมพร้อมเป็น"พ่อ"ผู้ที่ซึ่งเป็นผู้นำครอบครัว ซึ่งโทนี่ได้ให้ไว้กับพ่อของตัวเองอันเกิดมาจากประสบการณ์ของโทนี่ในการดูแลลูกตัวน้อย การคุยกันสั้นๆครั้งนั้นทำให้โทนี่ได้เข้าใจหัวอกของการเตรียมตัวเป็นคุณพ่อและเข้าใจอะไรๆหลายอย่างในตัวพ่อของเขา ที่แม้แต่ตอนที่ ฮาเวิร์ด ยังมีชีวิตอยู่ โทนี่ในตอนนั้นก็ไม่มีวันจะเข้าใจ และที่สำคัญเขาเองได้เข้าใจอะไรต่อมิอะไรในชีวิตของมากขึ้น
ธอร์
จากการสูญเสียครอบครัวทั้งหมดที่มี ทำให้เขาใช้ชีวิตอย่างประชดตัวเอง เมาหัวราน้ำ ปล่อยตัวให้อ้วนลงพุง แต่ผลจากการย้อนเวลาทำให้เขาพบกับบุคคลในครอบครัวที่จากไปโดนที่เขาไม่มีโอกาสได้ร่ำลา "แม่" การเจอกันกับแม่ครั้งนั้น ธอร์จึงไม่ลังเลที่จะเปิดเผยความจริง ความในใจออกเป็นกับแม่ตรงๆ เหมือนกับเด็กน้อยคนหนึ่ง ผู้ซึ่งเป็นแม่เองเองก็ไม่ลังเลที่จะสอนและกล่าวบางสิ่งบางอย่างบอกกล่าวต่อเขาอย่างตรงๆ ในการเป็นตัวของตัวเอง กลับคืนสู่รากเหง้าของตัวเอง ไปทำในสิ่งที่รักและชอบ แม้ว่าห้วนเวลานั้นเป็นห้วนเวลาเดียวกับที่แม่ของเขาจะจากไป และธอร์ก็ได้พยายามเหลือเกินในการกล่าวแจ้งเตือนกับแม่ของตน แต่กระนั้นแม่ของเขากลับหลีกเลี่ยงจะฟัง พร้อมกล่าวในทำนองว่า อะไรจะเกิดก็ต้องปล่อยให้มันเป็นไป ซึ่งที่ธอร์จะสามารถจะทำได้ก็เพียงแค่ กอดและร่ำลา แม่เขาเพียงเท่านั้น ซึ่งในเวลาในปัจจุบันนั้นเขาไม่มีทางจะทำได้เลย

สตีฟ โรเจอร์
จากการย้อนเวลาทำให้เขาได้พบกับผู้หญิงคนหนึ่งที่เคียงข้างเขาในยามที่เป็นเพียงพลทหารจนกระทั่งเขากลายมาเป็นกัปตันอเมริกาซึ่งเขาเองก็ยังคงรักไม่เสื่อมคลาย "เพ็กกี้ คาร์เตอร์" เพียงแค่การพบรูปของเขาเองในโต๊ะทำงานของเธอ เขาก็ได้พบบางอย่าง ณ เวลาที่เขาย้อนกลับไปนั้น เป็นเวลาที่ล่วงผ่านมาแล้วจากสูญหายไปของตัวเขาเองในธารน้ำแข็งร่วมๆ20ปีเห็นจะได้ เขาจึงทราบว่าเธอเองก็รักเขาไม่เสื่อมคลาย แม้ว่าเขาจะเคยพบเธอในวัยชราที่มีลูกหลานรอบล้อมแล้วก็ตาม

ด้วยปัจจัยหลายอย่างในการเข้าใจบางอย่างในอดีตทำให้พวกเขาตัดสินใจกระทำบางอย่างที่เป็นการปิดฉากและยุติ"หน้าที่การทำงาน" ของพวกเขาลงอย่างมีความสุข
การปิดฉากตัวละครเอกทั้งสามตัวก็สามารถทำให้คนดูอย่างเราๆท่านๆซาบซึ้งไปกับพวกเขาได้เลยซึ่งไม่จำเป็นบิ้วมากมายแต่อย่างใด
- โทนี่ตัดสินพร้อมใจสละชีพของตัวเองเพื่อพิชิตธานอสเพื่อไม่ให้ธานอสได้ทำการพรากชีวิตผู้คนบริสุทธิ์ทั้งจักรวาลและการสลายหายไปของคนที่เขา "รัก"
- ธอร์ตัดสินใจสละบัลลังก์เพื่อไปใช้ชีวิตตามที่ตนเองรักและชอบ อย่างการผจญภัยที่โลดโผน และมอบหน้าที่นั้นแก่ผู้เหมาะสมและเข้าใจในการเป็น "ผู้ปกครอง"
- สตีฟสละตำแหน่งและมอบโล่ ให้แก่เพื่อนผู้ที่เป็นทั้งสหายและผู้ช่วย เพื่อย้อนเวลากลับไปหาคนที่เขารักซึ่งก็ยังรักไม่เสื่อมคลายและเขาก็พร้อมที่จะ"แก่" ไปกับเธอ

จากข้างต้นที่เขียนมาขนาดนี้เองผมพึ่งมาทราบว่าปมที่ค้างคาใจต่างๆของเหล่าฮีโร่ตัวเอกทั้ง3ตัว ที่ก่อร้างสร้างมาตั้งแต่หนังไตรภาคของเขา ท้ายสุดก็ได้สะสางและแก้ปมต่างๆจบลงที่ภาคนี่นี้เอง ด้วยการเสียสละในบางสิ่ง
สละบางสิ่งที่เกาะมาจากอดีต แล้วใช้ชีวิตในปัจจุบันอย่างมีความสุข
ปมเรื่องความรักของโทนี่ ซึ่งอาจจะมาจากความไม่ได้รับความอบอุ่นจากครอบครัว ความไม่เข้าใจและความขัดแย้งบางอย่างในอดีตของพ่อของเขา ทำให้เขากลายเป็นเขาที่ดูเห็นแก่ตัว ไม่รักและคำนึงต่อคนอื่นรวมถึงส่วนรวม เป็นคนเจ้าชู้เพลย์บอยสายปาร์ตี้
แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์ที่โดนลักพาตัวไปและเริ่มสร้างชุดเกราะไอรอนแมนเป็นครั้งแรก รวมทั้งที่มีเลขาคนสนิทที่ต่อมากลายเป็นเลขาคู่ชีวิตที่เข้ามาเติมเต็มบางอย่างในชีวิตเขาและเปลี่ยนเขาไปจนกลายเป็นพ่อคนที่สมบูรณ์แบบและการได้พบปะเปิดใจคุยกับพ่อของเขาในภาคนี้ ปมต่างๆจึงสลายหายไปพร้อมกับการสละชีพแลกชีวิตให้กับคนส่วนรวมได้อยู่ต่อ
ปมการเป็นผู้ปกครองของธอร์ ธอร์คือบุตรชายของโอดินเทพและกษัตริย์ผู้มีอำนาจและยิ่งใหญ่สุดแห่ง แอสการ์ด ธอร์เติบโตด้วยความเป็นคนที่ยโสโอหัง หยิ่งผยอง อีโก้สูงจัด และต้องการเป็นใหญ่ และด้วยสิ่งเหล่านี้ส่งผลกระทบต่ออาณาจักร โอดินจึงจำเป็นต้องส่งธอร์ไปยังโลกมนุษย์ยึดอำนาจและพลังทั้งหมด เพื่อพิสูจน์ว่าธอร์คู่ควรหรือไม่ และในที่สุดธอร์ก็ได้เรียนรู้ในหลายสิ่ง และกลายเป็นผู้คู่ควรในที่สุดซึ่งมาพร้อมกับค้อนสายฟ้าสำหรับผู้คู่ควร จุดแตกหักในชีวิตของธอร์คือ เมื่อโอดินจากไป เฮร่า ผู้มีศักดิ์เป็นพี่สาวผู้ชั่วร้ายยึดอำนาจทำลายค้อนธอร์ ทำการปกครองแอสการ์ดด้วยความชั่วร้าย การปราบเฮร่าของธอร์ไม่ได้ผลเพราะเขาไร้ซึ่งค้อนจนกระทั่งโอดินมาให้สติว่า ธอร์ยึดติดกับค้อนมากเกินไป แท้จริงธอร์เป็นเทพแห่งสายฟ้าไม่ใช่เทพแห่งค้อน แล้วในที่สุดก็สำเร็จ ธอร์กลายเป็นผู้ปกครองโดยสมบูรณ์ แต่แล้วธานอสก็พรากในหลายๆสิ่งไปจากเขา ธอร์ได้แต่เฝ้าโทษตนเองที่ช่วงชีวิตประชาชนของตัวเองไม่ได้ยึดติดในอดีตเสียศูนย์ไปมาก จนกระทั่งเขาได้ย้อนเวลาไปเปิดใจคุยตรงไปตรงมากับแม่ของเขาอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน แล้วก็พบว่าเขายึดติดในอะไรบางสิ่งมากเกินไป เขาอาจไม่ใช่ผู้ปกครองที่ดีมากนัก เขาอาจไม่เหมาะกับการปกครอง เขาควรทำในสิ่งที่ตนเองถนัดดีกว่าฝืนทำในสิ่งที่ตนเองคิดว่าถนัด ในที่สุดจึงสละตำแหน่งยกหน้าที่ผู้ปกครองแก่ผู้ที่เหมาะสมและไว้ใจที่สุด แล้วจากนั้นเขาจึงไปทำในสิ่งที่รักและถนัดอย่างมีความสุข
ปมวัยชราของสตีฟ จากผู้ชายที่ดูอ่อนแอต่อมากลายเป็นผู้นำกำลังสำคัญ โดยที่มีผู้หญิงคนหนึ่งอยู่เคียงข้างตลอดเวลาจากความใกล้ชิดกันจึงเปลี่ยนเป็นความรัก และด้วยภารกิจบางอย่างทำให้เขาต้องสละชีวิต แต่เขากลับไม่ตายและอยู่รอดมาจนถึงปัจจุบันอันเป็นเวลาล่วงเลยมา70กว่าปีโดยที่ไม่แก่ลงไปเลย การใช้ชีวิตในการปรับตัวต่อโลกปัจจุบันของเขามันไม่ยาก แต่สิ่งที่ยากคือเขาจะใช้ชีวิตอย่างโดดเดี่ยวได้อย่างไร เมื่อบุคคลต่างๆในยุคที่เขาอาศัยอยู่ล้วนได้แก่เฒ่าชราและตายลงไปบ้างแล้ว คงเหลือแต่ตัวเขาคนเดียว และการได้พบกับเพ็กกี้ คาร์เตอร์อีกครั้งในยามชรา และยามที่เธอไร้วิญญาณ เขาจึงตระหนักว่าเขาคงเหลืออยู่โลกนี้เพียงคนเดียวแล้ว แม้ว่าจะมีบัคกี้ผู้ที่มีสถานะเดียวกันกับเขาอยู่บ้าง แต่สิ่งที่ขาดหายไปคือคนที่รัก และเมื่อมีหนทางย้อนเวลากลับไปในอดีต เขาจึงตัดสินใจสละตำแหน่งหน้าที่ย้อนเวลากลับไปใช้ชีวิตในที่ที่เขาอยู่ ที่ที่เขาจากมา และที่ที่มีเพ็กกี้ คาร์เตอร์ รักแรกรักเดียวของ สตีฟ โรเจอร์ ตลอดไป
เพื่อน มิตรภาพ ครอบครัว
จากเหตุการณ์การล้างบางชีวิตครึ่งนึงทั่วจักรวาลทำให้ทุกชีวิตได้รับผลกระทบรวมถึงเหล่าฮีโร่ ฮอว์กอาย  หรือ คลินต์ บาร์ตัน สูญเสียครอบครัวไปทำให้เขาเข้าสู่ด้านมืด กลายเป็นโรนินมือสังหารอำมหิตสังหารคนชั่วอย่างไม่ปรานี กระทั่งนาตาชา หรือ แบล็ควิโดว์ได้มาตามหาชวนไปร่วมภารกิจ ทั้งสองมีหลายสิ่งที่คล้ายกันคือเป็นทั้งสายลับและนักฆ่าตัวฉกาจ แต่อดีตของนาตาชาโหดร้ายและมืดมนกว่า ไม่สามารถใช้ชีวิตครอบครัวร่วมกับคนอื่นเขาได้ ต่างกับบาร์ตันที่สร้างครอบครัวตัวเองออกมาอย่างสมบูรณ์ สิ่งเดียวที่เหลืออยู่ของนาตาชาคือเหล่าฮีโร่ทั้งที่รอดและสลายหายไป นั้นอาจเรียกเป็นกลุ่มเพื่อนสำหรับคนทั่วไป แต่กับนาตาชาและเหล่าอเวนเจอร์ที่เหลือเขาเรียกกันว่าครอบครัว นาตาชาจึงพร้อมสละชีพของตัวเองเพื่อแลกมณีแห่งวิญญาณไปช่วยครอบครัวของเธอเอง โดยที่บาร์ตันขัดขวางไม่ทันช่วยนาตาชา
ไม่ได้เลย การตายของเธอสร้างความเศร้าให้กับกลุ่มอเวนเจอร์ดั้งเดิมเป็นอย่างมากเพราะพวกเขาต่างร่วมรบเคียงข้างกันมามาก โดยเฉพาะบรูซเอง ที่มีใจให้แก่เธอ และเธอเองก็มีความรู้สึกบางอย่างแก่เขาเช่นเดียวกันแต่ด้วยตัวตนและอดีตมันโหดร้ายทั้งสองจึงไม่อาจเป็นได้ดังคู่รัก แต่ก็มีความรักกันฉันเพื่อน เป็นมิตรภาพที่ยากจะตัดขาด
ถ้าไล่ดูอเวนเจอร์ภาคต่างๆตั้งแต่ภาคแรกรวมถึง civil war จะเห็นพัฒนาการต่างๆของทีม จากแรกพบว่าพวกเขาเริ่มจากการเป็นเพียงแค่เพื่อนร่วมงานที่มีหัวหน้าทีมสั่งให้มาร่วมงานแต่หลังจากนั้นมาพวกเขาเริ่มพัฒนาความสัมพันธ์จากเพื่อนร่วมงาน เพื่อน จนกลายเป็นครอบครัวที่พร้อมทำงานและช่วยเหลือและสามารถตายกันได้ในที่สุด ไม่เพียงแต่พวกเขาเท่านั้นคนดูหนังอย่างเราๆเองก็ยังรู้สึกเลยว่าพวกเขาก็เป็นเหมือนคนในครอบครัวของเราเอง

สิ่งที่ผมสัมผัสได้และเข้าใจถึงสารในหนังเรื่องนี้คือการเสียสละและการรู้จักปล่อยวางอะไรบางอย่าง เมื่อเราทำสิ่งเหล่านั้นได้สิ่งดีๆหลายอย่างก็จะมาปรากฏเกิดขึ้นในชีวิตของเราเอง แม้ว่าอาจจำเป็นต้องสละสิ่งที่สำคัญและยิ่งใหญ่ในชีวิตของเราไป แต่สิ่งที่ตอบแทนกลับมาย่อมมีสุขคุ้มค่าประเสริฐที่สุดในโลกอย่างแน่นอน
ไม่เสียสละชัยชนะไม่เกิด

หากมีข้อพลาดบางอย่างหรือผมตีความผิดประการใดข้ออภัยด้วยนะครับ ชี้แนะและติชมได้เสมอครับผม 😁
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่