แน่นอนว่าหากพูดถึงจังหวัดตราด หลายๆคนก็คงจะนึกถึงเกาะช้าง หรือไม่ก็เกาะกูด ซึ่งเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังของจังหวัดตราด แต่ถ้าเราจะไปเกาะช้าง หรือที่ๆคนส่วนใหญ่เคยไปแล้วมันก็คงจะจำเจเกินไปหน่อย และผมก็เชื่อว่าคงมีรีวิวเที่ยวเกาะต่างๆในจังหวัดตราดที่ดีกว่ากระทู้นี้ร้อยเท่าแน่นอน5555+ ต้องออกตัวก่อนว่าทริปนี้ของพวกเราจะเป็นทริปกึ่งๆ Backpack trip ท่องเที่ยวแบบ local life ซึมซับวิธีของผู้คนแถวนั้น (มีแถมของประเทศเพื่อนบ้านด้วยนะจะบอกให้) ว่าแล้วก็มาเข้าเรื่องกันเลยครับ
สถานที่ๆเราจะไปกันนั้นนะครับ หลายคนอาจจะไม่รู้จัก เพราะยังไม่ได้ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวหลักๆของจังหวัดตราดที่ผู้คนจะรู้จักกัน แต่ ณ ตอนที่พวกเราไปก็เริ่มมีการพัฒนาให้เป็นสถานที่พักผ่อนตากอากาศแบบชิวๆแล้ว ที่นั่นก็คือ อำเภอคลองใหญ่ จังหวัดตราด คงไม่ต้องพูดถึงตัวจังหวัดตราดมากนัก เรามาพูดถึงอำเภอคลองใหญ่กันดีกว่า อำเภอคลองใหญ่เป็นอำเภอเล็กๆที่อยู่ห่างจากอำเภอเมืองออกไปทางชายแดนประมาณ 80 กิโลเมตร ซึ่งอำเภอคลองใหญ่นั้นติดกับประเทศกัมพูชา มีด่าน ตม.สามารถข้ามไปยังเกาะกง ประเทศกัมพูชาได้
การออกทริปในครั้งนี้เราไปทั้งหมด 4 วัน 3 คืน โดยเราออกเดินทางกันวันเสาร์ ที่ 30 มีนาคม 2562 ประมาณสิบเอ็ดโมงกว่าๆ การเดินทางของเรานะครับเราเลือกที่จะเดือนทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว 2 คันเพราะเรามีผู้ร่วมเดินทางในครั้งนี้รวมกัน 6 คน สาเหตุที่เราเลือกที่จะเดินทางด้วยรถยนต์นั้น เพราะว่าเมื่อหารค่าน้ำมันออกมาแล้ว แพงกว่านั่งรถทัวร์ประมาณ 70 บาท แต่สะดวกกว่ามาก เพราะการเดินทางจากที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่งในคลองใหญ่นั้นไม่มีรถสาธารณะ แต่ถ้าจะมาแค่มาพักนอนเล่นตากอากาศที่คลองใหญ่ ก็สามารถมาได้ด้วยรถทัวร์ (ประมาณเที่ยวละ 230บาท) แล้วต่อรถตู้จากท่ารถมาได้ แต่เราเลือกจะขับรถมาก็นั่งกันวนไปยาววยาววว มื้อเที่ยงของเราก็แวะกินข้างแกงข้างทางกันที่ร้านสหเครน แถวบางปะกง เรียกว่าเป็นร้านประจำของพวกเราเลย เพราะมาทำงานแถวชลบุรีทีไรต้องแวะกินร้านนี้ วันนี้โชคร้ายมาเจอรถติดช่วงเข้าชลบุรี และมีก่อสร้างช่วงก่อนถึงคลองใหญ่ทำให้การเดินทางนานกว่าปกติ กว่าจะมาถึงตัวอำเภอคลองใหญ่ได้ก็สองทุ่มเศษแล้ว รวมเวลาเดินทางขามาทั้งหมด(ไม่นับแวะกินข้าว)ก็ประมาณ 8 ชั่วโมงกว่าๆได้
มื้อเย็นของวันนี้เราเลือกที่จะหาอะไรทานกันที่ตลาดเทศบาลคลองใหญ่ ส่วนใหญ่ก็จะเป็นอาหารตามสั่ง ก๋วยเตี๋ยว ฯลฯ นึกไม่ออกบอกไม่ถูกก็มีร้านสะดวกซื้อที่ทุกคนคุ้นเคยเช่นกัน 7
หลังจากหาอะไรทานเราก็เข้าที่พักของเราซึ่งเป็นโฮมสเตย์ของชาวบ้านที่เป็นชาวประมงในตำบลคลองขุด ซึ่งอยู่ไม่ห่างจากคลองใหญ่เลย ขับรประมาณ 7-10 นาทีก็ถึงที่พักของเราแล้ว ถึงที่พักจัดแจงอะไรต่างๆเสร็จเราก็พักผ่อนเลย เพราะไม่ไหวแล้ว นั่งรถกันจนตูดแฉะ รูปที่พงที่พักก็ไม่ถ่ายแล้วไว้ถ่ายตอนมีแสงตองเช้าแล้วกัน555
และนี่ก็คือรูปที่พักของเรา ที่พักของเราเป็นบ้านที่ชาวประมงใช้เก็บเรือแล้วเวลาที่ไม่ใช่ก็เปลี่ยนมาเป็นโฮมสเตย์เองที่เห็น เรียกได้ว่าสัมผัสบรรยากาศธรรมชาติเต็มๆ เวลานอนก็อาศัยกางเต๊นท์เอา ตอนเช้าเวลาประมาณตี 3 ครึ่งก็จะได้ยินเสียงเรือออกไปหาปลา ราคาของที่พักโฮมสเตย์ที่คลองขุดจะอยู่ที่ 200 บาทต่อหัว ต่อคืนรวมอาหารเช้า แต่หากไม่ต้องการพักแบบโฮมสเตย์ก็ยังมีที่พักซึ่งเป็นโรงแรมเก๋ๆอยู่ริมหาดไม้รูด ราคาก็จะแตกต่างกันออกไป หรือจะเป็นที่พักในตัวคลองใหญ่ก็มีเช่นกัน
วิวหน้าบ้านของเรา
ส่วนเช้านี้เราก็จะออกเรือไปดูชาวบ้านจับปลาจับหอยกัน เราขึ้นเรือที่ท่าน้ำเล็กๆซึ่งห่างออกไปไม่ไกลนัก
จะเห็นว่าการทำประมงของที่นี่จะเป็นจากการทำประมงแบบพื้นบ้านอยู่ ไม่ใช่การประมงเชิงพาณิชย์ที่ออกเรือไปเป็นเวลานานโดยใช้อวนขนาดใหญ่ในการหาปลา
แต่เดี๋ยวนี้เรือชาวบ้านก็ใช่ย่อยเหมือนกัน มีวิทยุสื่อสาร กับ gps ด้วยนะ
แต่ละลำที่เราไปแวะมา ก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าจับได้น้อยมา เมื่อเทียบกับเมื่อก่อนที่สมบูรณ์กว่านี้
มาได้สักพักพอเมาเรือเมาแดดกันไปพอประมาณก็ถึงเวลากลับฝั่งกินข้าวเช้ากัน
แล้วนี่ก็คือมื้อเช้าของเราในวันนี้ครับ ก็จะเป็น เมนูที่ทางเจ้าของบ้านได้จัดเอาไว้ซึ่งก็คือ ข้าวต้มคู่กับกุนเชียงทอด ปลาเค็มทอด และก็ไชโป๊ผัดไข่
กิจกรรมในช่วงเช้าของเราก็จะมีประมาณนี้ครับในช่วงสายเราก็นั่งเล่นพักผ่อนกันตามอัธยาศัยเพราะว่าอากาศร้อนมาก ไม่เหมาะจะออกไปไหนจริงๆกับแดดเมืองไทย
มื้อเที่ยงในวันนี้ของเรานะครับเราก็กินกันที่ร้าน Folkways cafe and britro ซึ่งอยู่ในละแวกใกล้ๆกัน ซึ่งเอาจริงๆก็เดินไปได้แต่เรานั่งรถดีกว่าดี5555 เพราะแดดร้อนเหลือเกิน
ภาพแรกขอยืมจากทางเพจร้าน
ร้านโฟร์คเวย์เป็นร้านที่ตกแต่งแนวอินดัสเตรียลที่บอกเลยว่าเท่ที่สุดในคลองใหญ่ ไม่ควรพลาดเป็นอันขาด ร้านนี้ทั้งอาหารไทยอาหารฝรั่งอาหารฟิวชั่น นอกจากอาหารแล้วก็ยังมีเมนูเครื่องดื่มและเบเกอรี่เยอะมาก
เมนูพื้นบ้านที่พลาดไม่ได้เลยของที่นี่ก็คือต้มสลอมะจูกับหมูชะมวง นอกจากสองเมนูที่ไม่ควรพลาดนี้แล้ว เมนูอื่นๆก็เด็ดไม่แพ้กันเลยเรียกได้ว่าอร่อยทุกอย่าง นอกจากอาหารแล้วเมนูเครื่องดื่มแนะนำของที่นี่ก็คือก็คือน้ำเม็ดมะม่วงหิมพานต์ปั่นที่ใช้มะม่วงหิมพานต์ดิบในการทำ ซึ่งจะได้รสชาติเปรี้ยวหวานหอมมันของตัวมะม่วงหิมพานต์เต็มๆ มือเที่ยงนี้เรากินรวมกันหารออกมาแล้วตกคนละ 500 บาท ซึ่งถือว่าคุ้มค่าไม่แพงมากเมื่อเทียบกับรสชาติและบรรยากาศดีดีของร้านอาหารแห่งนี้ สามารถไปชมกันได้ที่เพจนี้
https://www.facebook.com/folkwayscafe/
รูปสลอมะจูก็ขอยืมเช่นกัน เพราะมาถึงโต๊ะปุ๊บราบเป็นหน้ากลอง ถ่ายไม่ทันสักเมนู
ช่วงบ่ายเราก็ไปวนรถดูรีสอร์ทบริเวณตำบลไม้รูดก็ลงไปเล่นหาดสาธารณะตรงหลังวัดบริเวณใกล้ๆ เผื่อว่าทริปหน้าเราจะมาพักแถวนี้บ้าง
พอแดดเริ่มร่มสักประมาณ 4 โมงแล้วเราก็กลับไปที่ท่าเรือเพื่อที่ออกเรือไปงมหอยกันที่บริเวณสะพานท่าเรือน้ำลึกซึ่งสร้างเอาไว้เตรียมสำหรับการเปิดเขตเศรษฐกิจพิเศษที่กำลังจะเปิดในเร็ววันนี้
วิธีการงมก็ไม่ยากอะไรเราก็ใช้เท้าของเราเกลี่ยไปตามหน้าดินเท้าเราสัมผัสอะไรได้ก็มือลงไปหยิบ แต่ส่วนใหญ่ที่พวกเราหยิบขึ้นมาได้ก็มักจะเป็นเลน ไม่ก็ซากหอยสะส่วนใหญ่5555
หลังจากที่งมหอยกันจนตัวเปื่อยเจ้าของเรือก็พาเราไปวางอวน เป็นกิจกรรมแถมสุดท้ายของวันนี้ ซึ่งการวางอวนกุ้งนั้นชาวบ้านจะออกเรือไปบริเวณที่มีน้ำลึกหน่อยแล้ววางอวนทอดยาวเป็นแนวเส้นอวนที่วางนั้นจะทิ้งไว้ประมาณชั่วโมงถึง 2 ชั่วโมงเพื่อรอให้ปลาและสัตว์น้ำเข้ามาติดแต่ว่าวันที่เราไปนั้นฝนเริ่มตั้งเค้าแล้วเราจึงทิ้งอวนได้แค่ประมาณครึ่งชั่วโมง
ขากลับเรียกได้ว่าฝ่าพายุฝนเข้ามาเลย
พอมาถึงฝั่งเจ้าของเรือก็เอาอวนขึ้นแล้วก็เริ่มปลดกุ้งปลดปลาที่ติดอวนออก แต่เราเลือกที่จะซื้อปูกับกุ้งที่เค้าหามาแล้วมาส่วนหนึ่งเพราะถ้าเอาที่เราจับมาคงไม่พอกินแน่คืนนี้ ปูกับกุ้งที่นี่ถือว่าราคาถูกมากแค่ประมาณ 200 บาทเท่านั้นเองแต่ความสดนี้เรียกว่าแกะกินดิบๆตรงนั้นได้เลย ปูกับกุ้งที่ซื้อมาก็จัดการให้เจ้าของโฮมสเตย์นั้นทำให้ถ้าทำก็ตกอยู่ที่ 200 บาทเท่านี้เอง
และนี่ก็คือมื้อเย็นของเราในค่ำคืนนี้ ประกอบด้วยกุ้ง ปู หอยแครงลวก และก็กุ้งแช่น้ำปลา เรียกได้ว่าเป็นซีฟู้ดที่สดมากๆมั่นใจได้เลยว่าปลอดสารแน่นอน
หอยทั้งหมดที่เราช่วยกันงมมาเมื่อตอนเย็น
To be continue เดี๋ยวมาต่อกันครับ กับวันที่สามของทริป
[CR] "คลองใหญ่ ใหญ่มาจากไหน" feat. เกาะกง ทริป 4 วัน 3 คืน
สถานที่ๆเราจะไปกันนั้นนะครับ หลายคนอาจจะไม่รู้จัก เพราะยังไม่ได้ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวหลักๆของจังหวัดตราดที่ผู้คนจะรู้จักกัน แต่ ณ ตอนที่พวกเราไปก็เริ่มมีการพัฒนาให้เป็นสถานที่พักผ่อนตากอากาศแบบชิวๆแล้ว ที่นั่นก็คือ อำเภอคลองใหญ่ จังหวัดตราด คงไม่ต้องพูดถึงตัวจังหวัดตราดมากนัก เรามาพูดถึงอำเภอคลองใหญ่กันดีกว่า อำเภอคลองใหญ่เป็นอำเภอเล็กๆที่อยู่ห่างจากอำเภอเมืองออกไปทางชายแดนประมาณ 80 กิโลเมตร ซึ่งอำเภอคลองใหญ่นั้นติดกับประเทศกัมพูชา มีด่าน ตม.สามารถข้ามไปยังเกาะกง ประเทศกัมพูชาได้
การออกทริปในครั้งนี้เราไปทั้งหมด 4 วัน 3 คืน โดยเราออกเดินทางกันวันเสาร์ ที่ 30 มีนาคม 2562 ประมาณสิบเอ็ดโมงกว่าๆ การเดินทางของเรานะครับเราเลือกที่จะเดือนทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว 2 คันเพราะเรามีผู้ร่วมเดินทางในครั้งนี้รวมกัน 6 คน สาเหตุที่เราเลือกที่จะเดินทางด้วยรถยนต์นั้น เพราะว่าเมื่อหารค่าน้ำมันออกมาแล้ว แพงกว่านั่งรถทัวร์ประมาณ 70 บาท แต่สะดวกกว่ามาก เพราะการเดินทางจากที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่งในคลองใหญ่นั้นไม่มีรถสาธารณะ แต่ถ้าจะมาแค่มาพักนอนเล่นตากอากาศที่คลองใหญ่ ก็สามารถมาได้ด้วยรถทัวร์ (ประมาณเที่ยวละ 230บาท) แล้วต่อรถตู้จากท่ารถมาได้ แต่เราเลือกจะขับรถมาก็นั่งกันวนไปยาววยาววว มื้อเที่ยงของเราก็แวะกินข้างแกงข้างทางกันที่ร้านสหเครน แถวบางปะกง เรียกว่าเป็นร้านประจำของพวกเราเลย เพราะมาทำงานแถวชลบุรีทีไรต้องแวะกินร้านนี้ วันนี้โชคร้ายมาเจอรถติดช่วงเข้าชลบุรี และมีก่อสร้างช่วงก่อนถึงคลองใหญ่ทำให้การเดินทางนานกว่าปกติ กว่าจะมาถึงตัวอำเภอคลองใหญ่ได้ก็สองทุ่มเศษแล้ว รวมเวลาเดินทางขามาทั้งหมด(ไม่นับแวะกินข้าว)ก็ประมาณ 8 ชั่วโมงกว่าๆได้
มื้อเย็นของวันนี้เราเลือกที่จะหาอะไรทานกันที่ตลาดเทศบาลคลองใหญ่ ส่วนใหญ่ก็จะเป็นอาหารตามสั่ง ก๋วยเตี๋ยว ฯลฯ นึกไม่ออกบอกไม่ถูกก็มีร้านสะดวกซื้อที่ทุกคนคุ้นเคยเช่นกัน 7
หลังจากหาอะไรทานเราก็เข้าที่พักของเราซึ่งเป็นโฮมสเตย์ของชาวบ้านที่เป็นชาวประมงในตำบลคลองขุด ซึ่งอยู่ไม่ห่างจากคลองใหญ่เลย ขับรประมาณ 7-10 นาทีก็ถึงที่พักของเราแล้ว ถึงที่พักจัดแจงอะไรต่างๆเสร็จเราก็พักผ่อนเลย เพราะไม่ไหวแล้ว นั่งรถกันจนตูดแฉะ รูปที่พงที่พักก็ไม่ถ่ายแล้วไว้ถ่ายตอนมีแสงตองเช้าแล้วกัน555
และนี่ก็คือรูปที่พักของเรา ที่พักของเราเป็นบ้านที่ชาวประมงใช้เก็บเรือแล้วเวลาที่ไม่ใช่ก็เปลี่ยนมาเป็นโฮมสเตย์เองที่เห็น เรียกได้ว่าสัมผัสบรรยากาศธรรมชาติเต็มๆ เวลานอนก็อาศัยกางเต๊นท์เอา ตอนเช้าเวลาประมาณตี 3 ครึ่งก็จะได้ยินเสียงเรือออกไปหาปลา ราคาของที่พักโฮมสเตย์ที่คลองขุดจะอยู่ที่ 200 บาทต่อหัว ต่อคืนรวมอาหารเช้า แต่หากไม่ต้องการพักแบบโฮมสเตย์ก็ยังมีที่พักซึ่งเป็นโรงแรมเก๋ๆอยู่ริมหาดไม้รูด ราคาก็จะแตกต่างกันออกไป หรือจะเป็นที่พักในตัวคลองใหญ่ก็มีเช่นกัน
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้