เทียวแคชเมียร์ ชิมลา มะนาลี ดาลัมศาลา ด่านวาการ์

กระทู้สนทนา
แคชเมียร์

          ความตั้งใจของฉันและเพื่อนต้องการเที่ยวแคชเมียร์สักครั้งหลังจากปีที่แล้วโดนเทจากกรุ๊ป ทั้งที่เก็บเสื้อผ้าเรียบร้อยพรุ่งนี้จะบินแล้ว ทัวร์โทรฯมาบอกยกเลิก ซะงั้น ปีนี้เลยบอกว่าเราต้องไป ฉันกับเพื่อน 2 คน เราคบกันมานานมากแล้วตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัย เรียนคณะเดียวกัน สาขาเดียวกัน ห้องเดียวกัน อยู่หอตึกเดียวกัน คนละห้อง กินข้าวด้วยกัน เช้าไปมหาวิทยาลัยพร้อมกัน เล่ามายาวเลย หลังจากเรียนจบต่างคนต่างทำงานก็ยังคบกันเที่ยวด้วยกัน ตกลงเราได้ไปแคชเมียร์ (ยังมีเรื่องนิดหน่อยก่อนเดินทาง 2 วัน ทัวร์โทรมาบอกว่า flight เที่ยวกลับถูกเปลี่ยน เพราะ Spice jet Airbus ถูกยกเลิกเที่ยวบิน เครื่อง Boing 737 Max8 ที่มีปัญหาทั่วโลก วุ่นละซิ จองตั๋วบินกลับบ้านต้องเปลี่ยน วุ่นดีนะแคชเมียร์ จะเล่าต่อตอนเที่ยวกลับว่ามาราธอนขนาดไหน) กรุ๊ปนี้มีทั้งหมด 17 คนรวมไกด์ โดยสายการบิน spice jet ถึงอินเดียตอนเช้า (เวลาอินเดียช้ากว่าไทย 1.30 ชั่วโมง) หลังจากผ่านพิธีการ รับกระเป๋าเรียบร้อยเดินทางโดยรถมินิบัสอินเดีย สู่ทัชมาฮาล และอัคราฟอร์ด เมืองอัครา รัฐอุตรประเทศ ประเทศอินเดียใช้เวลาในการเดินทาง    3 ชั่วโมงจากกรุงเดลฮี

           วันแรก เริ่มที่ทัชมาฮาล อนุสรณ์แห่งความรักหรือความหลง หรือความเศร้าโศกอันสุดแสนคณานับของจักรพรรดิชาห์ชหานซึ่งเป็นกษัตริย์องค์ที่ 4 แห่งราชวงศ์โมกุล(ช่วงเวลาของโมกุล อยูใน ค.ศ.16-19) พระองค์ได้พบรักกับบุตรสาวรัฐมนตรีเป็นรักแรกพบ เมื่อนางอายุเพียง 14 ปี และอีก 5 ปีต่อมาทรงเสกสมรสกับนาง และคั้งพระนามของพระมเหสี มุมตัส มาฮาล แปลว่าอัญมณีแห่งพระราชวัง พระองค์รักมเหสีมากครองคู่กันมา 18 ปีไม่เคยห่างจากกันแม้แต่ในยามสงคราม จนพระมเหสีให้กำเนิดทายาทองค์ที่ 14 แล้วสิ้นพระชนม์เนื่องจากตกเลือดในอ้อมกอดของพระสวามี ทำให้พระองค์โศกเศร้า เสียใจมาก (ดวงใจแทบแตกสลาย)ไม่สามารถปฏิบัติภารกิจได้ ทุก ๆ วันจะนุ่งขาวห่มขาว และกอดหลุมพระศพของพระมเหสีเหมือนคนเสียสติ
          ทำไม ทัชมาฮาลสถาปัตย์สถานจึงงดงาม 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก เพราะถูกออกแบบมาอย่างสมมาตรสมบูรณ์ทุกสัดส่วน มีขนาดกว้างยาว ด้านละ 100 ม สูง 60 ม อัตราส่วน สูง : กว้าง = 1:1.6 ( ตามมาตรฐานสัดส่วนทองคือ 1 :1.618  เชื่อกันว่าเป็นสัดส่วนที่สวยงามสมบูรณ์ที่สุดในการออกแบบ เช่น วิหาร Parthenon , Mona Lisa ,Great Pyramid of Giza รวมทั้ง Logo (ลูกแอปเปิล แหว่ง) ของแบรนด์ที่ดังสุด Apple ฯ ) บนพื้นที่ 42 เอเคอร์ ( 1 เอเคอร์ = 2.5 ไร่ ) โดยใช้วัสดุหินอ่อนสีขาวอย่างดี สถาปนิกที่ออกแบบคืออุดตาด  ไอชา   การทำงานภายใต้การควบคุมของกษัตริย์ชาห์ชหาน ใช้แรงงานถึง 20,000 คน ใช้เวลาในการสร้าง 22 ปี สูญเสียพระราชทรัพย์ไปอย่างมหาศาล

     ต่อจากนั้นได้เดินทางไปอัครฟอร์ด หรือป้อมอัครา (Agra Fort )  ยักษ์แดงแห่งอินเดีย เป็นพระราชวังที่ยิ่งใหญ่ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำยมุนา ใช้เวลาในการก่อสร้างยาวนาน ถึง 3 ยุคกษัตริย์ราชวงศ์โมกุล (ป้อมอัครา อยู่ไม่ไกลจากทัชมาฮาล)

                        
       การชิงราชสมบัติของพระโอรสจากกษัตร์ชาห์ชหาน โดยกล่าวอ้างว่าพระบิดาเสียสติและใช้เงินไปมหาศาล พระองค์จึงถูกจับคุมขัง ( หรือกักกันบริเวณ) ไว้ในพระราชวังนี้ แต่พระโอรสกษัตริย์ออรงเซป ยังทรงพระกรุณาให้อยู่ห้อง ที่มองเห็นทัชมาฮาล เล่ากันว่าพระบิดาเฝ้ามองทัชมาฮาลด้วยหลงไหล(คงคิดถึงมเหสี)  พระวรกายอ่อนแอและสิ้นพระชมน์หลังจากถูกคุมขังมา.  8 ปี ในขณะสิ้นพระชนม์ในมือพระองค์ยังกำกระจกที่สะท้อนให้เห็นทัชมาฮาล อนิจจา ..ความรัก ความทุกข์ หรือความเศร้า....เดินทางกลับเดลฮี พรุ่งนี้เดินทางไปศรีนาคาร์ (แคชเมียร์) แต่เช้ามาก

วันที่ 2 แคชเมียร์- พาฮาแกรม
            ตอนเช้าหลังจากทำเรื่องส่วนตัวเรียบร้อยเดินทางไปสนามบินเดลฮี เพื่อต่อเครื่องภายในประเทศ (สายการบิน Indigo Airline) ไปศรีนาคาร์ใช้เวลาในการบิน 1.30 ชั่วโมง เมื่อไปถึงศรีนาคาร์ ไกด์บอกเราจะต้องใช้รถ Tempo แบ่งเป็น 2 คัน ๆละ 8 คน เรานั่งรถคันที่ 2 อาหารกลางวันเป็น set box กินบนรถ

                จากนั้นขับรถตรงไปพาฮาแกรม ระหว่างทางได้หยุดที่สวนแอปเปิล ซึ่งกำลังออกดอกสวยมากเลยคล้าย ๆ  ซากุระผสมกุหลาบ กลีบสีชมพู ขาว  มีกลิ่นหอมเย็น ๆ  เขาบอกกันว่าแอปเปิลที่แคชเมียร์เป็นแอปเปิลที่หวาน กรอบอร่อยที่สุด (ในโลกรึเปล่านะ) สงสัยต้องกลับมาลองชิมแล้ว.... มั้ง....

                หมู่บ้านพาฮาแกรม(หรือหุบเขาแกะ) ซึ่งสูงกว่าระดับน้ำทะเล 2,130 ม หมู่บ้านคนเลี้ยงแกะหรือที่เรียกว่าหุบเขาแกะ อยู่ห่างจากศรีนาคาร์  90  กม ตอนนี้ยังหนาว มีกราเซียเต็มเลย ไปขี่ม้ากัน
       เมื่อเลือกม้าได้แล้ว การต่อรองราคาเกิดขึ้น(จริงแล้วไกด์จัดการ) เราคงได้เจ้าตัวนี้ และพี่เลี้ยงคนนี้จะจูงม้าให้ขี่ ผ่านหมู่บ้านทางเดินของม้าสูง ๆ ต่ำๆ น่ากลัวเหมือนกัน เพราะเป็นทางเฉพาะของม้า เดินไปประมาณ 20-30 นาที จะไปถึงจุด สูงสุด ชมวิว สวยยังกับภาพวาด อากาศเย็นสบาย มีคนขายของพวก Saffron (เกสรดอกหญ้า Saffron ว่ากันว่า มีประโยชน์มากมายต้านอนุมูลอิสระ บำบัดรักษาโรคมะเร็ง ลดไขมันและคอเรสเตอร์รอน บำรุงกำลัง ฯลฯ เกสรดอก Saffron 100,000 ดอก จึงจะได้ saffron 1 kg ทำให้ saffron มีราคาแพงมากกว่าทองคำ ) แต่ไม่ได้ซื้อ ขี่ม้ากลับมาที่จุดพักรถ ( ทิป คนจูงม้าบ้างก็ได้ แม้ว่าไกด์จะบอกว่าเขาจัดการแล้ว ต้องเฉลี่ยเท่า ๆ กัน ทั่วโลกเรานี้ยังมีคนยากไร้มากมาย เขาต้องการเพียงเงินเล็กน้อยเพื่อปกป้องตัวเองและครอบครัวให้มีแค่อาหารพออิ่ม เสื้อผ้า และที่พักอบอุ่น ส่วนสุขอนามัยคงมาทีหลัง)

           ขี่ม้ากลับมาถึงที่จอดรถ คนที่ตามถ่ายรูปนำรูปมาให้ ราคารูปละ 60 รูปี ( 2 INR = 1 THB ) อัตรานี้ราคาประมาณ สำหรับรูปไม่เอาก็ได้ (หากเราใจแข็งพอขึ้นรถเขาจะมาเคาะหน้าต่าง ลดราคาแบบให้เปล่าเลย... มองไปที่ดวงตาเขา.. ซื้อเถอะ..สงสาร...) เมื่อคณะขี่ม้ากลับมาเรียบร้อย ไกด์บอกว่าจะพาไปร้านขายเมล็ดพืชเปลือกแข็ง walnut ,Hazelnut,Almond,dry fruit และ Safforn (หญ้าฝรั้น มีดอกสีม่วงเล็ก ๆ คล้าย ๆดอกบัวดินบ้านเรา แต่ฝรั่งบอกมันอยู่ในตระกูลไอริสเพาะพันธุ์ด้วยหัว มีเกสรสีเหลืองทอง ต่อไป Saffron และตากล้อง จะตามไปหลอกหลอนคุณทุกที่ ) ที่เขามาใช้ย้อมสีข้าวหมกไก่ ทดลองชิมชาหญ้าฝรั้น แล้วออกเดินทางกลับศรีนาคาร์ ไปพักโรงแรมบ้านเรือ
          ถึงท่าเรือไกด์จัดให้นั่งเรือพายลำละ 4 คน ไปบ้านพัก(โรงแรมเรือ เหมือนโฮมสเตย์ตั้งอยู่ในทะเลสาบดาล Dal Lake) บ้านละ 6 คน มี 3 ห้อง
         กินข้าวเย็นที่บ้านพักเราได้บ้านเรือชื่อ Firdous พ่อบ้านจัดโต๊ะอาหารไว้เรียบร้อย เมื่อทุกคนพร้อมกินได้เลย อย่านึกว่าอยู่อังกฤษเชี่ยวนะ ไม่เหมือนหรอก (แคชเมียร์แบ่งการปกครองออกเป็น 3 เขตใหญ่คือ เลห์-ดาลัก ศรีนาคาร์ และจัมมู สำหรับศรีนาคาร์เป็นเมืองหลวงของแคชเมียร์) เมื่อมาพักบนบ้านเรือจะมีพ่อค้าพายเรือมาขายสินค้าประเภทศิลปะของที่ระลึก Paper Mache (กระดาษปะ เขียนลวดลายสวยงาม) และที่ขาดไม่ได้คือ Safforn (ตามมาหลอก อีกแล้ว) เครื่องประดับ เพชรนิล จินดา มั้งค่ะ

  วันที่ 3 ศรีนาคาร์-กุลมาร์ค
      วันนี้ เราออกกันแต่เช้าไปเทือกเขากุลมาร์คเป็นสถานที่ยอดฮิตในการเล่นหิมะ เทือกเขานี้สูงจากระดับน้ำทะเล 2,730 ม.ห่างจากที่พัก 112 กม
ความสูงนี้จึงมีหิมะปกตลุม ค่อนปี ใช้เวลาเดินทาง 2 ชั่วโมง ไกด์บอกทุกคนต้องเปลี่ยนรองเท้าเป็นบู๊ตที่ใช้ย่ำหิมะ (ค่าเช่าคนละ 100 INR) เมื่อไปถึงต้องเดินต่อไปถึงจุดขึ้นเคเบิลคาร์ (Monorial กระเช้าไฟฟ้า) ผ่านหมู่บ้านยิปซี ปกคลุมด้วยหิมะ ดูเหมือนค่ายทหารในหนังเลย ตอนนี้ไม่คนอยู่ไปทำงานรับจ้างในเมืองจัมมู พอถึงฤดูใบไม้ผลิจะกลับมาเพาะปลูก เคเบิลคาร์ มาถึงจุด 1 (phase 1 ) ทุกคนลงไปที่ลานหิมะ หิมะเต็มเลยสวยมาก เล่นลากเลื่อน หรือสกี ได้ หรือใครอยากต่อไป phase 2 ก็ได้
          เมื่อสนุกกันแล้วขึ้นเคเบิล ลงมาข้างล่างเดินไปกินข้าวกลางวันที่โรงแรม ติดภูเขากุลมาร์ค คนเยอะมากมีกรุ๊ปทัวร์มาเลย์ เต็มห้องอาหาร เดินทางกลับศรีนาคาร์ ค่อไปมัสยิดจามาร์ เดิมเป็นวัดของฮินดู สร้างใน ค.ศ. 1398 โดยสุลต่านสิกขานดา ในปี ค.ศ. 1472 ถูกไฟไหม้ในสมัย สุลต่านฮัสสัน ซาร์ และได้ซ่อมแซมในสมัยเดียวกัน (คาดว่ายังเป็นวัดฮินดูอยู่ เพราะผู้ซ่อมคือสุลต่านฮัสสัน ซาร์) มัสยิดถูกไฟไหม้อีกครั้ง ในปี ค.ศ. 1674 กษัตริย์ออรังเซป เป็นผู้ซ่อมแซม บูรณะใหม่(คาดว่าตอนนี้วัดถูกเปลี่ยนเป็นมัสยิดแล้ว จำ กษัตริย์ออรังเซป ได้ไหม ที่เป็นโอรสกษัตริย์ชาห์ชหาน แล้วจับพระบิดากักขังไว้ที่ Agra Fort ) เพราะศาสนาอิสลามถูกเผยแพร่ไปถึงศรีนาคาร์ วัดนี้เลยถูกเปลี่ยนเป็นมัสยิด เป็นมัสยิดเก่าแก่(มีอายุถึง 620 ปี)ของมุสลิมศรีนาคาร์ สร้างด้วยไม้ต้นสนถึง 378 ต้น (นึกเอาเองว่าต้นสนที่ใหญ่ ขนาดเท่ากันนี้จะมาจากป่าสนที่อุดมสมบูรณ์ขนาดไหน และจะมีอายุกี่ร้อยปีจึงจะได้ขนาดที่ต้องการ ) สามารถรองรับผู้มาละหมาดได้ถึง 20,000-30,000 คน มีประตู 4 ด้าน และหอสูง ผู้หญิงเวลาเข้าไปในมัสยิดต้องมีผ้าคลุมศีรษะ
           บริเวณด้านหน้ามัสยิดมีตลาดขายสินค้า (เหมือนวัดใหญ่ ๆ ในเมืองไทย  เช่นวัดพระพุทธชิราช  วิหารหลวงพ่อมงคลบพิตร ฯ ) ด้านหน้าสุดประตูทางเข้ามัสยิดมีร้านขายผลไม้ (คนอินเดียที่ทำงานพ่อค้าหาเงินเป็นผู้ชาย 99.99 % มั้ง เพราะเห็นมีแต่ผู้ชาย )   
      ก่อนเดินทางกันต่อ ลองดูแผนที่อินเดีย เส้นทางการท่องเที่ยวของทริปนี้ คือเริ่มจาก  Bangkok  Delhi   Uttarpradesh ( Taj  Mahal)  Srinagar(Kashmir)  Chandigarh  Shimla Manali  Himachal Chandigarh Delhi Karnataka(Bangalore)   Bangkok  เป็นการท่องเที่ยวในแถบเหนือสุดของอินเดีย
วันที่ 4 ศรีนาคาร์ - สวนทิวลิป - โซนามา
      กินข้าวเช้าบนบ้านเรือเรียบร้อย ไกด์บอกวันนี้ไปสวนทิวลิป ซึ่งอยู่ในศรีนาคาร์ สวนนี้ถูกจัดไว้ให้ชมระหว่างกลางมีนาคม - พฤษภาคม ทุกปี ทุกคนเฮดีใจมาก พอไปถึงสวยจริง เพราะทิวลิปที่ศรีนาคาร์ จะมีถึง 60 สายพันธุ์ ที่นักพฤษศาสตร์อินเดียได้วิจัยพัฒนาและคัดเลือกสายพันธุ์ การผสมพันธุ์ใหม่ ๆ เพื่อให้ได้ สี ต่าง ๆ ที่สวยงามเหมาะสมกับสภาพภูมิอากาศ (ต่อตอน 2)
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่