[CR] Lost in Malaysia 5 Days-4 Nights with 6 people ปีนัง-กัวลา พามาจะมีไร

ทริปนี้เราจะไปแอ่วมาเลเซียเป็นเวลา 5 วัน 4 คืน โดยเรามีผู้ร่วมชะตากรรมทั้งหมด 6 คนที่ไม่รู้จักกันมาก่อน
เป็นทริปที่รู้สึกเหมือนจับพลัดจับผลู แล้วหวยออกมาเป็น 'มาเลเซีย' จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่รู้ว่าทำไมถึงสรุปกันว่าจะไปมาเลฯ 555555555
ทริปนี้พวกเราใช้บริการของ Airasia ทั้งขาไปและขากลับ ถือว่าเป็นความโชคดีก็ว่าได้ที่ทางสายการบินมีโปรโมชั่นในช่วงนั้นพอดี
ทำให้เราได้ตั๋วในราคาที่ถูกแสนถูก สำหรับงบนักศึกษา
ขาไป  Don Mueang (DMK) - Penang (PEN)   Flight :FD403
ขากลับ Kuala Lumpur (KuL) - Don Mueang (DMK) Flight :AK888

มาเลมีอะไรน่าเที่ยว? จะไปทำอะไร? นอกจากปีนังแล้วยังมีที่ไหนอีก? ผู้คนจะเป็นยังไง? หลากหลายคำถามที่ไหลเข้ามาให้เราหาตอบ และแน่นอน การเดินทางจะเป็นผู้เฉลยคำถามเหล่านี้เอง
เราออกเดินทางช่วง 18-22 เมษายน 2562 เป็นช่วงวันหยุดเทศกาลสงกรานต์พอดี ประจวบเหมาะกับที่ทางมหาวิทยาลัยเพิ่มวันหยุดให้เราอีก รวมทั้งสิ้นแล้วเราได้หยุดทั้งหมด 9 วัน! คุณพระ นี่คือช่วงเวลาทองที่เราจะมอบของขวัญดี ๆ ให้แก่ตัวเอง ตอบแทนความเหนื่อยที่เราได้ลงแรงไปมาตลอดทั้งปี


-DAY1-
เรามาถึงสนามบินปีนังเร็วกว่ากำหนด ด้วยความช่วยเหลือจากกัปตันที่พาเราซิ่งผ่านกลุ่มก้อนของเมฆฝนที่ค่อย ๆ ก่อตัวอย่างช้า ๆ ถามว่าลุ้นไหม บอกเลยค่ะว่ามาก ได้แต่ภาวนาว่าขอให้หนูถึงที่พักก๊อนนนนน แล้วค่อยลงมานะเจ้าคะ ดังนั้นแล้วการวางแผนและศึกษาพยากรณ์อากาศของสถานที่ ๆ เราจะไปก็สำคัญนะคะ เพราะมันช่วยให้เราวางแผนอะไรต่าง ๆ ได้เยอะเลย
เราถึงสนามบินเวลา 13.20 น. บวกเวลาในการผ่านตม. และรอกระเป๋าก็กินเวลาเกือบบ่ายสอง
แต่ขอบอกไว้เลยว่าตม. ผ่านง่ายมว้ากกก เพียงแค่ใช้สองนิ้วและสายตาของคุณเท่านั้น ไม่ต้องเขียนใบอะไรให้วุ่นวาย แค่นี้ก็ผ่านเข้าประเทศได้แล้ว ข้อสำคัญอีกอย่างที่อยากแนะนำคือ การหยิบโบรชัวร์จากสนามบินจ้าาา เขาจะมีไว้ให้บริการเยอะแยะเลย สามารถเลือกหยิบได้ตามใจชอบ และแน่นอน เราหยิบมันมาทั้งหมดเลย

เราต้องต่อรถจากสนามบินเพื่อไปยังจอร์จทาวน์เมืองที่ได้ชื่อว่าเป็นมรดกโลก หนึ่งในเมืองเป้าหมายของเราในทริปครั้งนี้ อะไรทำให้เมืองแห่งนี้ได้รับการยกย่องว่าเป็นเมืองแห่งมรดกโลกกัน? นี่คงเป็นคำตอบแรกที่การเดินทางจะให้กับเรา
ก่อนซึ้ง ึงหาทางไปให้ได้ก่อนนน!!
ในการเดินทางนั้นก็มีบริการขนส่งสาธารณะให้เลือกใช้บริการมากมายทั้ง Taxi, Grab และรถเมล์ เราเลือกใช้บริการรถเมล์ สายรถเมล์ที่เราจะใช้บริการในครั้งนี้ได้แก่สาย  401 และ 401E เพื่อไปลง ณ ป้าย Komtar อารมณ์คล้ายกับอนุเสาวรีย์ชัยฯบ้านเรา ที่จะมีรถเมล์หลายๆสายมาจอดอะ
ความต่างของรถเมล์ทั้งสองสายนี้คือ สาย 401E จะถึงเร็วกว่าสาย 401 ธรรมดาเนื่องจากสาย 401 นั้นจะจอดตามป้ายต่างๆมากกว่า
จุดสังเกตุของการขึ้นรถก็ดูได้ง่าย  ๆ เลยคือ เมื่อเดินออกมาจากสนามบินให้ข้ามถนนมา 1 ช่วงถนน เราจะมองเห็น Bus station คุณ จะมี คนมากมายมารอรถ ณ บริเวณนี้ ป้ายรถเมล์เขาเหมือนของเราเลย ระหว่างรอรถเมล์เราขอเตือนคุณด้วยความหวังดีว่าคุณควรมีสติอยู่ตลอดเวลาเพราะไม่เช่นนั้นแล้ว…
ปรี๊ด ปรี๊ดดดด  ปรี๊ดดดดดดดด…  ปรี๊ดดดดดดดดดด!!!
เออ รู้แล้วเหวยยยย ยอมรับเลยว่าตกใจมากครั้งแรก สะดุ้งเหมือนเวลาฝันว่าตกจากที่สูงอะ คุณพระ คนที่นี่บีบแตรกันเป็นว่าเล่น บีบเหมือนเป็นการทักทายคันข้างหน้า บีบเสมือนประหนึ่งกำลังแซวเราว่าไปไหนจ๊ะน้องสาวววว ฮิ้วววว
แนะนำเลยใครอยากลองบีบแตร มาที่นี่เลยจ้า เพราะเขาไม่มีการหันมาด่า หรือมีอารมณ์เอือมระอาของคนรอบข้างเราใด ๆ ทั้งสิ้น เพราะถ้าบีบแบบนี้ในบ้านเราก็...นั้นแหละค่ะ จริง ๆ เราก็เป็นหนึ่งในคนที่ขับรถนะ แต่เคยใช้แตรจริง ๆ แค่ครั้งสองครั้งเอง ที่เหลือกรี๊ดเอา...

แค่เพียงไม่กี่อึดใจรถเมล์ก็มาจอด Let go ค่ะคุณขาาา  แต่! คุณคะ รถเมล์ที่นี่ไม่มีการทอนเงินใด ๆ ทั้งสิ้นนะคะ เราเตือนคุณไว้เลย เวลาแลกเงินอย่าลืมแลกแบงค์ย่อยกันมาด้วยนะคะ ด้วยความใหม่ของค่าเงินที่เราเพิ่งได้ทำความรู้จักบวกกับความขี้เหนียวของพวกเรา เราจึงพยายามคิดแล้วคิดอีกเพื่อให้เงินออกมาพอดี หรือเสียหายน้อยที่สุด นานเท่าไหร่ไม่รู้ที่เรายืนออกันอยู่อย่างนั้น และแล้วเสียงที่ไม่คาดฝันก็ดังขึ้น ‘No No No, You should go to that bus!’ พร้อมทั้งชี้ไปยังรถคันข้างหน้าที่จอดอยู่! พวกเราเลิ่กลั่กและส่งสายตาปริบๆไปให้คุณลุงคนขับ ว่ารับพวกหนูขึ้นรถไปเถอะคุณลุง อย่าทิ้งพวกหนู...
แต่คุณลุงก็ยังยืนยัน นอนยันพร้อมจะกดปิดประตูและบีบแตรให้พวกเราไปขึ้นรถคันข้างหน้าสักที คุณพระ ตื่นเต้นอีกแล้วเหวยยย เข้ามาเรื่อย ๆ เลยนะเจ้าเรื่องน่าตื่นเต้น ใจหนึ่งก็กลัวว่าจะตกรถรอบนี้ ใจหนึ่งก็กลัวว่าการสื่อสารจะไม่ตรงกัน กลัวไปหมดเลยค่ะตอนนั้น แต่ในเมื่อใจเรามันไปด้วยกันไม่ได้ เราก็ต้องแยกทางกัน ลาก่อนนะคะคุณลุง

พวกเราลงจากรถไปขึ้นอีกคันหนึ่ง ซึ่งเป็นสาย AT ในตอนแรกพวกเราก็ตกใจกันว่าไม่ใช่สาย 401E หรือ 401 ที่ตั้งใจจะขึ้น เราไม่สามารถรู้เลยด้วยซ้ำว่าสายนี้จะจอดที่ Komtar รึเปล่า พวกเราก็เลยส่งสายตาไปหาคุณขับรถพร้อมกับถามว่า “Komtar, How much?” ในใจก็ภาวนาว่าอย่า No เลยยย และมันก็เป็นดังเสียงสวรรค์ค่ะ ‘2.80 MYR’ พร้อมกับส่งยิ้มหวานมาให้ คุณคะ คนขับรถเขายินดีให้บริการมากค่ะ เขาไม่อึกอักใจในการให้บริการเลย ซึ่งบอกเลยว่าเราประทับใจตรงนี้มาก ความประทับใจอย่างที่ 2 ก็คือกริ่ง ใช่ค่ะคุณ กริ่งรถเมล์บ้านเขามีไว้ให้บริการทุกที่นั่งและแทบจะทุกเสาภายในรถเมล์เลย ซึ่งเรามองว่ามันดีนะ คือเราไม่ต้องพยายามเดินผ่านแรงต้านเพื่อไปกดกริ่งที่หน้าประตูรถเหมือนบ้านเราอะ ดีไม่ดีรถหยุดกลางคันหัวทิ่มหัวตำกันไปอีก เราว่าตรงนี้มันน่าอิจฉามาก ๆ เลยค่ะ และอีกอย่างคือกริ่งบ้านเขากดแล้วไม่ดังนะคะ อย่าเพิ่งงงค่ะ คือเวลาที่เรากดกริ่งไปเนี้ย มันจะไปขึ้นเป็นไฟแดง ๆ ให้คนขับเห็นด้านหน้าค่ะ ซึ่งเขาก็จะจอดรถให้เราตามป้ายเช่นกัน และบอกเลยจอดป้ายคือจอดป้าย ไม่มีการเลยป้ายหรือไม่ถึงป้ายใด ๆ ทั้งสิ้น

ผ่านไปประมาณ 45 นาทีพวกเราก็อยู่ที่ Komtar  สังเกตง่ายๆเลยว่าคุณพี่คนขับจะตะโกนว่า ‘Komtar!!’ ก็ลงเลยค่ะ
โดยภาพรวมของป้าย Komtar จะเป็นย่านการค้าที่มีห้างร้านใหญ่ๆ จริง ๆ แล้วชื่อป้าย Komtar น่าจะมาจากชื่อของห้างที่อยู่บริเวณนั้นค่ะ ซึ่งห้าง Komtar เนี้ยถือว่าเป็นแลนด์มาร์คของปีนังเลยก็ว่าได้ค่ะ ลักษณะของตึกเนี้ยก็จะสูงเด่น เราสามารถมองเห็นได้จากที่ไกล ๆ เลย มีจุดรวมรถเมล์หลายสายที่จะวิ่งผ่าน ณ ป้ายนี้ ดังนั้นเวลาที่เราจะขึ้นหรือต่อรถส่วนใหญ่จึงมาใช้บริการ ณ ป้ายนี้ค่ะ
เมื่อลงจากรถเราก็ออกเดินเท้าไปยังที่พัก ซึ่งอยู่ห่างออกไป 1.5 กิโล ไม่ต้องบอกก็คงรู้นะคะว่าเพระาอะไร แต่ถ้าใครอยากนั่งรถเราก็สามารถใช้บริการรถ Grab คือถ้าไปหลายคนแล้วหารกันมันก็คุ้มค่ะ คือเราจะแนะนำมากกว่า Taxi นะ คือมันจะถูกกว่าแล้วก็เสียงโดนโกงน้อยกว่าอะค่ะ หรือจะนั่งรถเมล์ต่อจากป้าย Komtar เลยก็ย่อมได้ แอบกระซิบว่าเขามีบริการรถเมล์ฟรีรอบเมืองด้วย แต่ด้วยความห้าวของพวกเรา เดินเท่ ๆ ไปเลยค่ะ เลือด backpack มันสูบฉีดรุนแรง (ถ้าเลือดพูดได้มันคงบอก เดี๋ยว ึงรู้เลย)
คุณคะ สัมผัสแรงของการเดินก็ทำเราขนลุกเลย แดดแรงมาก ึงเอ้ยยย เราเดินกันน่าจะประมาณช่วงบ่ายสามของที่นู้น ซึ่งมันคือเวลาประมาณบ่ายสองของประเทศเรา อารมณ์ของพระอาทิตย์คงแบบ เป็นไงละ ึง ห้าวดีนัก รับไปอีก!! จงรับความร้อนแรงของเราไปอีกกกก รู้สึกเหมือนจะละลายลงไปกองอยู่บนพื้นให้ได้อะ
แต่ทำเป็นเล่นไปคุณ ตึกรางบ้านช่องเขาคือ classic มาก ตื่นตาตื่นใจจนลืมร้อนไปเลย (ชั่วขณะนะ สักพักก็กลับมาร้อนใหม่) บางทีการเดินมันก็ทำให้เราได้เรียนรู้ชีวิตความเป็นอยู่ของคนไปเลย ๆ นะ ซึ่งมันก็ทำให้เราเกิดคำถามว่า เขารักษาความ classic ขนาดนี้กันไว้ได้ยังไง ต้องทำยังไงถึงทำให้การพัฒนามันเกิดควบคู่ไปกับการอนุรักษ์ อะไรดลบันดาลให้ฉันเลือกเดินเคียงข้างกับพระอาทิตย์มาขนาดนี้ มันร้อนขนาดนี้ได้ยังไงกันนะ ร้อนโว้ยยยยยย ฮืออ T^T

และแล้ว และแล้วก็ถึงแล้วค่ะที่พักในคืนแรกของเรา นั้นก็คือ ‘Red Inn Heritage’!!! เย่ สภาพทุกคนตอนนั้นคือเหมือนซอมบี้กะกายเข้าไปที่พักอะ ต้องขออภัยคุณพี่ท่านด้วยที่ทำให้ตื่นต๊กกะจายยย
ที่พักแรกของเราตั้ง อยู่แถวถนน Love Lane ค่ะ ถนนเส้นนี้ทั้งแถบมีบาร์และร้านนั่งชิวต่างๆเต็มไปหมดทั้ง 2 ข้างทาง บรรยากาศตอนกลางคืนกับตอนกลางวันคือแตกต่างกันมาก ตอนแรกที่เราเดินเข้ามาก็แอบกลัว ๆ มาว่าถ้ากลับดึกแถวนี้จะเงียบ แต่ไม่ต้องกลัวแล้วค่ะ คึกขนาดว่าอยากไปตื๊ดอยู่กลางถนน

ที่พักแห่งนี้เป็น hostel ค่ะ จะมีพื้นที่บริการส่วนกลางอยู่ด้านล่างให้ด้วย เราสามารถดูหนังหรือนั่งเล่นกันได้ค่ะ ห้องพักที่เราจองเป็นแบบ Family Shared Bathroom ค่ะ ด้านในตัวห้องหากเทียบกับราคาถือว่าเกินคุ้มเลยทีเดียว เตียงนุ่ม แอร์เย็น มีผ้าเช็ดตัว มีโซนโซฟาให้นั่งทำงานภายในห้อง เงียบสงบ มีอาหารเช้าด้วย! เกินความคาดหมายกับราคาคนละ  194 บาทต่อ1คืนเลยค่ะ แต่ อ๊ะ อ๊ะ!! เป็นห้องน้ำรวมนะจ๊ะ


เก็บของเสร็จก็ค่อนข้างหิวโซกำลังจะออกไปทานข้าวเที่ยงกัน แต่จำได้ไหม เจ้าก้อนเมฆฝนที่กัปตันพาเราฝ่ามาครานั้น คำอธิฐานที่ให้เราถึงที่พักก่อนแล้วท่านค่อยลงมาทำให้ในตอนนี้ ฝนตก!! วันแรกก็ตกเลยเหวยย  แง ไหน ๆ ก็ยังออกไปไหนไม่ได้ล่ะ สำรวจกันหน่อย ด้านหน้าโฮสเทลมีที่ให้นั่งเล่นด้วย ไหนๆก็ติดฝนแล้ว ขออนุญาติเซลฟี่เล็กน้อย แชะ!
ฝนหยุดตกแล้วได้เวลาออกล่าอาหารกันค่ะ เริ่มกันที่แถวๆโฮสเทล
เราจบกันที่ร้าน Wan Tan Mee ที่เป็นภาษาจีนที่อ่านไม่ออก 5555
และนี่คือ Wan Tan Mee หมู มันก็คือบะหมี่หมูแดงบ้านเราเลยค่ะ รสชาติธรรมดาๆเลย แต่เกี๊ยวไส้แน่นอร่อยอยู่ค่ะ ราคา 5.5 MYR (ประมาณ 40 กว่าบาท)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ชื่อสินค้า:   ปีนัง-กัวลาลัมเปอร์
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่