ปวดหัวกับแม่ตัวเองเรื่องงานแต่ง

เราจะจัดงานแต่งช่วงปลายเดือน กันยายนค่ะ
โดยจัดที่บ้านเรา 1 ครั้ง (เดือนกันยายน)
และจัดที่บ้านแฟนอีก 1 ครั้ง (เดือนพฤศจิกายน)

งานแต่งในฝันของเรา คือ งานแต่งoutdoor
อยากได้บรรยากาศแบบอบอุ่น เป็นกันเอง
เรามีโรงแรมที่เราชอบอยู่แล้ว บรรยากาศดี
มีoutdoor ที่สวย ไม่ต้องแต่งมากก็สวย

แม่เราพยายามเป่าหูเราให้เอาโรงแรมเก่าแก่ของจังหวัดเรา แต่เราไม่ชอบ มันเก่า มันซ้ำ บรรยากาศไม่ดี
(เราไม่อยากได้โรงแรมเก่ามาก เพราะถ้าใหม่ก็จะได้ไม่ต้องเสียเงินจัดตกแต่งเยอะ)

แม่เราก็บอก outdoor มันร้อนนะ ฝนจะตกนะ
เค้าไม่เปิดสินสอดกันกลางแจ้งแบบนั้น (เหตุผลสุดท้ายนี่เกี่ยวด้วยหรอ เพิ่งเคยได้ยิน)

เราบอกโรงแรมเก่า ไม่อยากตกแต่งมาก แม่ก็มีข้ออ้างว่าตรงไหนก็ต้องแต่งเหมือนกัน เราก็รู้ว่าต้องแต่ง แต่แต่งน้อยกว่า ก็ประหยัดกว่า

เราก็ได้ๆ ไปใน indoor ก็ได้

มาถึงเรื่องโรงแรมที่เราชอบ
เพราะบรรยากาศดี เราอยากให้ญาติแฟนเราที่มาจากต่างจังหวัด มาสัมผัสบรรยากาศสไตล์จังหวัดเรา
เราก็เลือกโรงแรมนี้
แม่ก็บอก อาหารไม่อร่อยนะ กินไม่ได้เลย
เรางงมาก มันขนาดนั้นเลยหรอ กินไม่ได้ คืออะไร

พอเราลองหาอีก choice ก็บอกโรงแรมนี้ห่วยแตก
ลำโพงไม่ดี อาหารไม่อร่อย กินไม่ได้เลย

แม่เราบอกไปกินมาหมดแล้ว ไปบ่อย ไม่อร่อย

เราก็หงุดหงิดเลยสวนไปว่า ทำไมเราต้องคาดหวังจากงานคนอื่นด้วย ว่ามันต้องดี ต้องอร่อย
มันต้องเย็น ไม่ร้อน บลาๆๆๆ
แม่เราก็เงียบไป

นี่เราก็คิดมากนะ เราอยากได้แบบนี้ แต่แม่ไม่อยากได้
เราไม่เห็นพ่อเรา หรือครอบครัวแฟนเราเค้าจะมากำกับอะไรแบบนี้เลย

เราเคยพูดกับแม่นะ ว่า หนูไม่ใช่เด็กแล้วนะ หนูจะทำอะไร หนูก็ศึกษาหาข้อมูลก่อน ไม่ได้ปล่อยให้มันไม่ดี

เราเลยตัดสินใจไม่ได้สักที จะเอาแบบไหนดี

เราต้องแคร์ใคร แคร์ตัวเอง หรือแคร์แม่และแขกของแม่


ปล.เราเคยอ่านเจอกระทู้นึงค่ะ เค้าบอกว่า เราควรดูก่อนว่าแขกใครมาเป็นส่วนมาก ถ้าเป็นแขกพ่อแม่เยอะ เราควรตามใจพ่อแม่มากกว่า มันใช่จริงๆหรอคะ
เพราะนับๆดูแล้วแขกเรา 1/4 ของแขกแม่เองค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่