คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 4
ที่ชัดเจนที่สุดคือราคาที่ดินที่ถูกปั่นกันจนสูงนั่นแหละครับ บางรายก็ซื้อมาขายไปแบบเกือบจะจับเสือมือเปล่า สมัยนั้นใครต่อใครก็คิดแต่จะขายที่ดินเอาเงินกันทั้งนั้น มีไม่กี่คนหรอกที่คิดจะเก็บที่ดินเอาไว้ไม่ขาย พวกที่ขายได้เงินมาเยอะๆก็เอาไปฝากธนาคารหวังกินดอกเบี้ยไปจนตาย บรรดานายหน้าค้าขายที่ดินนี่เงินสะพัดซื้อรถซื้อบ้านซื้อนู่นนี่กันอย่างไม่เสียดาย
ปัจจุบันวงการอสังหาริมทรัพย์ก็ยังไม่เข็ดดีพยายามจะสร้างฟองสบู่ขึ้นมาอีกแล้ว พยายามสร้างภาพว่าให้ซื้อคอนโดเก็บไว้ให้คนเช่าเก็บส่วนต่างไปเรื่อยๆ ราคาคอนโดก็สูงขึ้นทุกทีจนคนธรรมดายากจะซื้อได้ เพราะพวกนี้จะคิดว่าคนไทยซื้อไม่ได้แต่ต่างชาติกล้าซื้อ
ปัจจุบันวงการอสังหาริมทรัพย์ก็ยังไม่เข็ดดีพยายามจะสร้างฟองสบู่ขึ้นมาอีกแล้ว พยายามสร้างภาพว่าให้ซื้อคอนโดเก็บไว้ให้คนเช่าเก็บส่วนต่างไปเรื่อยๆ ราคาคอนโดก็สูงขึ้นทุกทีจนคนธรรมดายากจะซื้อได้ เพราะพวกนี้จะคิดว่าคนไทยซื้อไม่ได้แต่ต่างชาติกล้าซื้อ
แสดงความคิดเห็น
ก่อนวิกฤตต้มยำกุ้ง ที่ว่าเศรษฐกิจยุคฟองสบู่มันยังไง ขนาดไหนครับ?
กว่าจะรู้เรื่องรู้ราวว่าเศรษฐกิจมันพังพินาศจากวิกฤตต้มยำกุ้ง ช่วงปี 40 ก็พ้นมา4-5 ปี ที่เริ่มโตขึ้น สนใจโลกมากขัน
รวมถึงเรื่องราวของเพื่อนที่ธุรกิจของครอบครัว (เกือบ)ล้มไม่เป็นท่า
แต่ไอ้ก่อนหน้าที่ฟองสบู่มันจะแตกตอนปี 40
ที่ว่าทุกอย่างมันสวยหรู ฟุ้งเฟ้อ เศรษฐกิจดีมากมาย ดอกเบี้ยเงินฝากเกือบ10% ฯลฯ
ทุกอย่งเหมือนเป็นฟองสบู่มันเลเวลไหนครับ ทำไมถึงไม่มีใครคิดเรื่องวิกฤตการเงินเลย
เห็นมีแค่คนแชร์ประสบการหลังวิกฤต แต่ก่อนหน้านั้นใครเกิดทันมาแชร์ประสบการณ์กันหน่อยครับ
ขอบคุณทุกประสบการณ์ที่มาแชร์กันครับ