ที่จริงทริปนี้เป็นทริปยาวๆเลยครับ 6-13 มีนาคม
Bangkok - NGO - Gifu(1) - Gero(1) - Takayama(2) - Shirakawago - Honoki Daira Ski Resort - Nagoya(2) - Bangkok
ในวงเล็บคือจำนวนคืนที่ไปนอนครับ ทริปนี้เราบินกับ JAL ครับ จองผ่าน Expedia แบบตั๋วเครื่องบิน+โรงแรม 1 คืน ในราคา 114xx บาท
แต่ว่ากระทู้นี้ผมอยากจะแชร์เฉพาะวันแรกวันเดียวครับ นั่นคือแพลนการพาเด็กๆไปเที่ยวปราสาทกิฟุแล้วพาเดินลงเขากันแค่นั้นครับ
เนื่องจากว่าก่อนที่จะไปนั้นผมพยายามหาข้อมูลต่างๆของที่นี่แต่ว่ามันหาไม่ค่อยได้ มีกระทู้เก่าๆอยู่อันเดียว ที่ไม่ค่อยละเอียดสักเท่าไหร่
ก็เลยคิดว่ากระทู้นี่ก็น่าจะมีประโยชน์บ้างไม่มากก็น้อยครับ
เราบินกันมาถึงสนามบิน NGO ตอนเช้าๆครับ ที่สนามบินแห่งนี้มีรถไฟออกจากสนามบินแค่เจ้าเดียวนั่นคือ Meitetsu ปรกติแล้วส่วนใหญ่ก็จะเข้าเมือง
ไป Nagoya กัน แต่เนื่องจากวันนี้เป็นวันแรกที่มาถึง การเที่ยวในเมืองนั่นต้องเดินเยอะมากๆ แพลนของผมเลยข้ามเมือง Nagoya ไปดีกว่า
ก็เลยมองไปที่เมือง Gifu ซึ่งนั่งรถไฟไปประมาณ 1 ชม.แค่นั้น ในสนามบินมี Family Mart อยู่ด้วย ก็เลยจัดการหาซื้ออาหารเช้าขึ้นไปกินบนรถไฟด้วยเลย
ก่อนไปก็งงๆครับกับรถไฟเพราะมันมีสองราคา ผมเลือกซื้อตั๋วแบบ Ordinary เพราะราคามันถูกกว่าแล้วก็เดินเข้ามาเจอภาพนี้ครับ
ถึงได้รู้ว่า Ordinary นั้นมันก็ขบวนเดียวกัน เพียงแต่ต้องเดินเข้ามาลึกหน่อยแค่นั้น
นั่งรถไฟมาถึงเมือง Gifu ผมเลือกโรงแรมคืนแรกที่ Daiwa Roynet Hotel Gifu ซึ่งเดินจากสถานีรถไฟ MeitetsuGifu แค่ 170 เมตรเอง
โรงแรมเครือนี้ผมชอบมากๆครับ ห้องใหญ่แล้วก็ราคาถูกมาก นอนกันห้องละ 3 คน ราคาสองพันนิดๆ ติดกันข้างๆโรงแรมเป็น Family Mart สบายเลย
เอาของมาฝากแล้วก็เดินกลับไปยังสถานีรถไฟ MeitetsuGifu แล้วก็ข้ามถนนไปรอรถบัสฝั่งตรงข้ามเพื่อไปยังปราสาทกิฟุกัน
นั่งบัสมาได้ไม่นาน(ประมาณ 15 นาที) ก็ถึงแล้วครับ ลงรถบัสมาปุ๊ปมองขึ้นไปบนยอดเขาก็จะเห็นปราสาทกิฟุด้วย
สำหรับเมืองกิฟุ เมืองเล็กๆแห่งนี้นั้นก็จะมีที่เที่ยวหลักๆอยู่แถวๆนี้หมดเลย ลองดูแผนที่นี้ดูครับ
จะว่าไปที่เที่ยวแถวๆนี้นี่ก็ใช้เวลาเป็นวันเหมือนกันครับ เพราะมีทั้งปราสาท สวนสาธารณะ พิพิธภัณฑ์แมลง วัดพระใหญ่ 1 ใน 3 ของญี่ปุ่น
รวมทั้งแม่น้ำ Nagara ที่เป็นแม่น้ำสายสำคัญของเมือง กับการหาปลาโดยการใช้นกกาน้ำ หรือเทศกาลอุไก แถมแถวๆนี้ถ้ามาในช่วงซากุระนี่ก็สวยนะ
จากป้ายรถบัสเดินข้ามถนนมาก็จะเจอทางเข้าสวนสาธารณะกิฟุครับ
แถวๆนี้อากาศดีมาก ช่วงที่ไปนั้นยังถือว่าหนาวเลยล่ะครับ เดินเล่นในนี้ได้สบายๆ มีทั้งบ่อปลา มีสวนสวยๆให้เดินเล่นชมวิวได้อย่างสบายใจ
เลี้ยวซ้ายมาอีกนิดก็จะเจอทางไปยังกระเช้าสำหรับขึ้นเขา Kinka เพื่อไปชมปราสาทกิฟุแล้วครับ
มาถึงตรงนี้ก็ทำการตกลงกันว่าจะเอาอย่างไร เพราะการขึ้นไปยังปราสาทกิฟุนั้นสามารถไปได้โดยการ เดินป่าขึ้นไป กับ นั่งกระเช้าขึ้นไป
เด็กๆ 3 คนคุยกันแล้วได้ผลสรุปว่า "เดินขึ้นเขา" และแน่นอนว่าผู้ใหญ่อีก 3 คนเลือกที่จะ "นั่งกระเช้า" ผลสุดท้ายที่ออกมาก็คือ
เราจะนั่งกระเช้าขึ้นไปและเดินลงเขาลงมา
ภายในสถานีกระเช้าก็จะมีอะไรให้ดูมากมายครับ นี่โปรโมทสักหน่อยครับว่า Nawa Insect Museum มีแมลงสวยๆตัวใหญ่ๆด้วยนะ
ส่วนผมก็ไปซื้อตั๋วสำหรับขึ้นกระเช้าครับ
สำหรับกระเช้าขึ้นเขานั้นดีมากๆครับ วันที่ไปคนญี่ปุ่นเพียบเลย แต่นี่คือประเทศญี่ปุ่นครับ บริเวณด้านหน้ากระเช้าซึ่งเป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุดนั้น
เขาจะมีเส้นกั้นบอกไว้ว่าเอาไว้สำหรับเด็กๆ พวกเด็กๆก็เลยสบายเลยครับ เดินไปยืนอยู่หน้าสุดได้เลย
ใช้เวลาไม่นานก็จะขึ้นมาถึงด้านบนแล้วครับ เดินออกจากกระเช้ามาก็จะเจอนี่เลยครับ
หมู่บ้านกระรอก มีค่าเข้าคนละ 200 เยน ก่อนเข้าเขาก็จะมาอธิบาย ข้อควรระวังต่างๆ ล้างมือ แล้วก็แจกอุปกรณ์
จากตรงหมู่บ้านกระรอกนี้ก็จะเป็นเส้นทางเดินไปยังปราสาทกิฟุครับ
ระยะทางเดินก็ไม่กี่ร้อยเมตร อากาศเย็นๆสบายๆ วันที่ไปนั้นแทบไม่เจอนักท่องเที่ยวต่างชาติเลย มีแต่คนญี่ปุ่น รวมทั้งเด็กๆอนุบาลด้วย
ถึงแล้วครับ ปราสาทกิฟุ
ทีนี้ก็จะมาถึงการเดินลงเขากันแล้ว สำหรับเส้นทางเดินลงเขานั้นมีอยู่หลายเส้นทางครับ ยาก ง่าย ใกล้ ไกล แตกต่างกันออกไป ตอนที่ผมไปนั้น
พยายามหาข้อมูลแล้วแต่มันหายากมากๆ แทบจะไม่รู้เลยครับว่าควรจะลงเส้นไหนดี แต่ตอนที่เดินไปยังปราสาทนั้นเราก็จะผ่านเส้นทางเดินขึ้นลงเขา
อยู่หลายเส้น มีป้ายบอกชัดเจนครับว่าแต่ละเส้นเดินไกลแค่ไหน พวกเส้นทางที่โหดๆนี่เขาจะมีป้ายกำกับไว้เลยครับว่าเส้นนี้โหดนะ ไม่เหมาะกับคนไม่ฟิต
ส่วนผมเลือกเส้นทางนี้ครับ
เส้นทางนี้จะอยู่ข้างๆหมู่บ้านกระรอกเลยครับ
ทางลงช่วงแรกจะเป็นหินครับ เดินยากอยู่เหมือนกัน
ช่วงต่อๆมาก็จะเป็นทางดินครับ เดินสบายๆอาจจะเป็นเพราะว่าอากาศมันหนาวมาก ดูได้จากรูปที่เด็กๆใส่เสื้อผ้ากันครับ
พวกเด็กนั้นสนุกสนานมากกกกกกกกกกกกกกกกก วิ่งเล่นกันนำหน้าไปไกลเลยครับ พอระยะเริ่มห่างออกไปหน่อย พวกเขาก็จะจับกลุ่มยืนรอกัน
ส่วนเรื่องอันตราย.... เส้นทางเดินลงเขานี้แทบจะไม่มีช่วงอันตรายเลยครับ ตรงไหนที่ชันมากๆ เขาก็จะทำเป็นบันไดให้เลยครับ
เรื่องหลงทาง.... อันนี้ก็ไม่ต้องห่วงอีกเช่นกันครับ ตลอดเส้นทางมีเชือกมีป้ายบอกอยู่ตลอดทางเลยครับ
เราใช้เวลากันประมาณ 40-50 นาทีครับ ถามเด็กๆว่าชอบไหม เด็กๆตอบว่าชอบมากกกกกกกกกกกก สนุกสนานกันสุดๆ ได้ผจญภัยเล็กๆ
สาวน้อยตัวเล็กสุดนี่เดินนำหน้าเลย แม่ถึงกับอึ้งมากเพราะว่านี่คือครั้งแรกที่มาทำอะไรแบบนี้
จบ
ลืมบอกไปครับว่า เส้นทางนี้จะลงมายังบริเวณด้านข้างของกระเช้าครับ ถัดออกมาอีกนิดหน่อย จากจุดนี้เดินไปอีกนิดเดียวก็ Nawa Insect Museum
แล้วครับ ซึ่งจากตรงนี้เดินเลยไปอีกหน่อยก็จะถึงหลวงพ่อโตแล้วครับ
***** tex *****
[CR] เที่ยวญี่ปุ่น ลองพาเด็กไปลงเขา Kinka ที่ปราสาทกิฟุดูไหมครับ...
ที่จริงทริปนี้เป็นทริปยาวๆเลยครับ 6-13 มีนาคม
Bangkok - NGO - Gifu(1) - Gero(1) - Takayama(2) - Shirakawago - Honoki Daira Ski Resort - Nagoya(2) - Bangkok
ในวงเล็บคือจำนวนคืนที่ไปนอนครับ ทริปนี้เราบินกับ JAL ครับ จองผ่าน Expedia แบบตั๋วเครื่องบิน+โรงแรม 1 คืน ในราคา 114xx บาท
แต่ว่ากระทู้นี้ผมอยากจะแชร์เฉพาะวันแรกวันเดียวครับ นั่นคือแพลนการพาเด็กๆไปเที่ยวปราสาทกิฟุแล้วพาเดินลงเขากันแค่นั้นครับ
เนื่องจากว่าก่อนที่จะไปนั้นผมพยายามหาข้อมูลต่างๆของที่นี่แต่ว่ามันหาไม่ค่อยได้ มีกระทู้เก่าๆอยู่อันเดียว ที่ไม่ค่อยละเอียดสักเท่าไหร่
ก็เลยคิดว่ากระทู้นี่ก็น่าจะมีประโยชน์บ้างไม่มากก็น้อยครับ
เราบินกันมาถึงสนามบิน NGO ตอนเช้าๆครับ ที่สนามบินแห่งนี้มีรถไฟออกจากสนามบินแค่เจ้าเดียวนั่นคือ Meitetsu ปรกติแล้วส่วนใหญ่ก็จะเข้าเมือง
ไป Nagoya กัน แต่เนื่องจากวันนี้เป็นวันแรกที่มาถึง การเที่ยวในเมืองนั่นต้องเดินเยอะมากๆ แพลนของผมเลยข้ามเมือง Nagoya ไปดีกว่า
ก็เลยมองไปที่เมือง Gifu ซึ่งนั่งรถไฟไปประมาณ 1 ชม.แค่นั้น ในสนามบินมี Family Mart อยู่ด้วย ก็เลยจัดการหาซื้ออาหารเช้าขึ้นไปกินบนรถไฟด้วยเลย
ก่อนไปก็งงๆครับกับรถไฟเพราะมันมีสองราคา ผมเลือกซื้อตั๋วแบบ Ordinary เพราะราคามันถูกกว่าแล้วก็เดินเข้ามาเจอภาพนี้ครับ
ถึงได้รู้ว่า Ordinary นั้นมันก็ขบวนเดียวกัน เพียงแต่ต้องเดินเข้ามาลึกหน่อยแค่นั้น
นั่งรถไฟมาถึงเมือง Gifu ผมเลือกโรงแรมคืนแรกที่ Daiwa Roynet Hotel Gifu ซึ่งเดินจากสถานีรถไฟ MeitetsuGifu แค่ 170 เมตรเอง
โรงแรมเครือนี้ผมชอบมากๆครับ ห้องใหญ่แล้วก็ราคาถูกมาก นอนกันห้องละ 3 คน ราคาสองพันนิดๆ ติดกันข้างๆโรงแรมเป็น Family Mart สบายเลย
เอาของมาฝากแล้วก็เดินกลับไปยังสถานีรถไฟ MeitetsuGifu แล้วก็ข้ามถนนไปรอรถบัสฝั่งตรงข้ามเพื่อไปยังปราสาทกิฟุกัน
นั่งบัสมาได้ไม่นาน(ประมาณ 15 นาที) ก็ถึงแล้วครับ ลงรถบัสมาปุ๊ปมองขึ้นไปบนยอดเขาก็จะเห็นปราสาทกิฟุด้วย
สำหรับเมืองกิฟุ เมืองเล็กๆแห่งนี้นั้นก็จะมีที่เที่ยวหลักๆอยู่แถวๆนี้หมดเลย ลองดูแผนที่นี้ดูครับ
จะว่าไปที่เที่ยวแถวๆนี้นี่ก็ใช้เวลาเป็นวันเหมือนกันครับ เพราะมีทั้งปราสาท สวนสาธารณะ พิพิธภัณฑ์แมลง วัดพระใหญ่ 1 ใน 3 ของญี่ปุ่น
รวมทั้งแม่น้ำ Nagara ที่เป็นแม่น้ำสายสำคัญของเมือง กับการหาปลาโดยการใช้นกกาน้ำ หรือเทศกาลอุไก แถมแถวๆนี้ถ้ามาในช่วงซากุระนี่ก็สวยนะ
จากป้ายรถบัสเดินข้ามถนนมาก็จะเจอทางเข้าสวนสาธารณะกิฟุครับ
แถวๆนี้อากาศดีมาก ช่วงที่ไปนั้นยังถือว่าหนาวเลยล่ะครับ เดินเล่นในนี้ได้สบายๆ มีทั้งบ่อปลา มีสวนสวยๆให้เดินเล่นชมวิวได้อย่างสบายใจ
เลี้ยวซ้ายมาอีกนิดก็จะเจอทางไปยังกระเช้าสำหรับขึ้นเขา Kinka เพื่อไปชมปราสาทกิฟุแล้วครับ
มาถึงตรงนี้ก็ทำการตกลงกันว่าจะเอาอย่างไร เพราะการขึ้นไปยังปราสาทกิฟุนั้นสามารถไปได้โดยการ เดินป่าขึ้นไป กับ นั่งกระเช้าขึ้นไป
เด็กๆ 3 คนคุยกันแล้วได้ผลสรุปว่า "เดินขึ้นเขา" และแน่นอนว่าผู้ใหญ่อีก 3 คนเลือกที่จะ "นั่งกระเช้า" ผลสุดท้ายที่ออกมาก็คือ
เราจะนั่งกระเช้าขึ้นไปและเดินลงเขาลงมา
ภายในสถานีกระเช้าก็จะมีอะไรให้ดูมากมายครับ นี่โปรโมทสักหน่อยครับว่า Nawa Insect Museum มีแมลงสวยๆตัวใหญ่ๆด้วยนะ
ส่วนผมก็ไปซื้อตั๋วสำหรับขึ้นกระเช้าครับ
สำหรับกระเช้าขึ้นเขานั้นดีมากๆครับ วันที่ไปคนญี่ปุ่นเพียบเลย แต่นี่คือประเทศญี่ปุ่นครับ บริเวณด้านหน้ากระเช้าซึ่งเป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุดนั้น
เขาจะมีเส้นกั้นบอกไว้ว่าเอาไว้สำหรับเด็กๆ พวกเด็กๆก็เลยสบายเลยครับ เดินไปยืนอยู่หน้าสุดได้เลย
ใช้เวลาไม่นานก็จะขึ้นมาถึงด้านบนแล้วครับ เดินออกจากกระเช้ามาก็จะเจอนี่เลยครับ
หมู่บ้านกระรอก มีค่าเข้าคนละ 200 เยน ก่อนเข้าเขาก็จะมาอธิบาย ข้อควรระวังต่างๆ ล้างมือ แล้วก็แจกอุปกรณ์
จากตรงหมู่บ้านกระรอกนี้ก็จะเป็นเส้นทางเดินไปยังปราสาทกิฟุครับ
ระยะทางเดินก็ไม่กี่ร้อยเมตร อากาศเย็นๆสบายๆ วันที่ไปนั้นแทบไม่เจอนักท่องเที่ยวต่างชาติเลย มีแต่คนญี่ปุ่น รวมทั้งเด็กๆอนุบาลด้วย
ถึงแล้วครับ ปราสาทกิฟุ
ทีนี้ก็จะมาถึงการเดินลงเขากันแล้ว สำหรับเส้นทางเดินลงเขานั้นมีอยู่หลายเส้นทางครับ ยาก ง่าย ใกล้ ไกล แตกต่างกันออกไป ตอนที่ผมไปนั้น
พยายามหาข้อมูลแล้วแต่มันหายากมากๆ แทบจะไม่รู้เลยครับว่าควรจะลงเส้นไหนดี แต่ตอนที่เดินไปยังปราสาทนั้นเราก็จะผ่านเส้นทางเดินขึ้นลงเขา
อยู่หลายเส้น มีป้ายบอกชัดเจนครับว่าแต่ละเส้นเดินไกลแค่ไหน พวกเส้นทางที่โหดๆนี่เขาจะมีป้ายกำกับไว้เลยครับว่าเส้นนี้โหดนะ ไม่เหมาะกับคนไม่ฟิต
ส่วนผมเลือกเส้นทางนี้ครับ
เส้นทางนี้จะอยู่ข้างๆหมู่บ้านกระรอกเลยครับ
ทางลงช่วงแรกจะเป็นหินครับ เดินยากอยู่เหมือนกัน
ช่วงต่อๆมาก็จะเป็นทางดินครับ เดินสบายๆอาจจะเป็นเพราะว่าอากาศมันหนาวมาก ดูได้จากรูปที่เด็กๆใส่เสื้อผ้ากันครับ
พวกเด็กนั้นสนุกสนานมากกกกกกกกกกกกกกกกก วิ่งเล่นกันนำหน้าไปไกลเลยครับ พอระยะเริ่มห่างออกไปหน่อย พวกเขาก็จะจับกลุ่มยืนรอกัน
ส่วนเรื่องอันตราย.... เส้นทางเดินลงเขานี้แทบจะไม่มีช่วงอันตรายเลยครับ ตรงไหนที่ชันมากๆ เขาก็จะทำเป็นบันไดให้เลยครับ
เรื่องหลงทาง.... อันนี้ก็ไม่ต้องห่วงอีกเช่นกันครับ ตลอดเส้นทางมีเชือกมีป้ายบอกอยู่ตลอดทางเลยครับ
เราใช้เวลากันประมาณ 40-50 นาทีครับ ถามเด็กๆว่าชอบไหม เด็กๆตอบว่าชอบมากกกกกกกกกกกก สนุกสนานกันสุดๆ ได้ผจญภัยเล็กๆ
สาวน้อยตัวเล็กสุดนี่เดินนำหน้าเลย แม่ถึงกับอึ้งมากเพราะว่านี่คือครั้งแรกที่มาทำอะไรแบบนี้
จบ
ลืมบอกไปครับว่า เส้นทางนี้จะลงมายังบริเวณด้านข้างของกระเช้าครับ ถัดออกมาอีกนิดหน่อย จากจุดนี้เดินไปอีกนิดเดียวก็ Nawa Insect Museum
แล้วครับ ซึ่งจากตรงนี้เดินเลยไปอีกหน่อยก็จะถึงหลวงพ่อโตแล้วครับ
***** tex *****
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้