Jerseys football in my memory>>>>>เจมี่ เรดแนปป์ "สไปซ์ บอย"<<<<<


เจมี่ แฮรี่ เรดแนป์ เกิดเมื่อ 25 มิถุนายน 1973 โดยเขาเกิดที่ barton on sea เขตแฮมเชียร์ โดยในช่วงวัยเด็กเขาเริ่มเล่นฟุตบอล
ให้กับท๊อตแน่ม ฮอตสเปอร์ ชุดเยาวชน แต่ในปี1989 เขาได้ย้ายไปร่วมทีมชุดใหญ่ของบอร์นมัธซึ่งอยู่ในระดับดิวิชั่น2ของอังกฤษ
ที่มี่ "แฮรี่ เรดแนปป์" พ่อบังเกิดเกล้าของเขาเป็นผู้จัดการทีมอยู่ ในวัยเพียงแค่ 16 ปี เขาใช้เวลาอยู่2ฤดูกาลโชว์ผลงานลงสนาม 13 นัด ยิงไป 3 ประตู
ก่อนเตะตา คิงเคนนี่ ผู้จัดการทีมของลิเวอร์พูลเซ็นสัญญาคว้าตัวเขามายังแอนฟิลด์ด้วยค่าตัวสูงถึง 350,000 ปอนด์ ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดของเกาะอังกฤษในเวลานั้น

-----------------------------------------------

ท่ามกลางการเซอร์ไพรส์และการงุนงงของใครหลายคนในการคว้าตัวดาวรุ่งผู้นี้ ในวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 1991 คิงเคนนี่ ชายผู้คว้าตัวเขามาจากบอร์นมัธ
ได้ลาออกจากการเป็นผู้จัดการทีมลิเวอร์พูลชนิดที่ช๊อคกันทั้งโลก ซึ่งรอนนี่ มอแรน รับอาสาเป็นผู้จัดการทีมชั่วคราวต่อจากคิงเคนนี่ก่อนแต่งตั้ง
แกรมส์ ซูเนสส์ กุนซือขาโหด อดีตลูกหม้อของทีมขึ้นมาคุมทีมแทน โดยในวันที่ 23 ตุลาคม 1991 ซูอี้จัดสินใจส่งมิดฟิลด์หน้าหล่อผู้นี้ลงสนามในเกมส์
ยูฟ่า คัพ กับโอแซร์ ซึ่งเป็นสถิตินักเตะที่อายุน้อยที่สุดของลิเวอร์พูล ในวัยเพียงแค่ 18 ปี 120 วัน ลงเล่นเป็นตัวจริงเคียงข้างรุ่นพี่อย่าง บรูซ กรอบเบลลาร์ , สตีฟ นิโคล , สตีฟ แมคมาน , เอียน รัช โดยจบลงด้วยการแพ้ 2-0 โดยอีก2เดือนให้หลัง มิดฟิลด์หน้าหล่อผู้นี้สามารถยิงประตูแรกของเขาให้กับลิเวอร์พูลได้จากการลงมาเป็นตัวสำรองของแยน โมลบี้ ซัดประตูตีเสมอเซาท์แธมป์ตันในเดอะเดลได้สำเร็จ แต่ยุคของซูอี้ ลิเวอร์พูลกลายเป็นทีมกลางตารางซึ่งเขาทำการถ่ายเลือดใหม่และเปลี่ยนทีมเร็วเกินไปจากทีมของคิงเคนนี่จากหน้ามือเป็นหลังเท้า และในปี1992-1993 ดิวิชั่น1เดิมของอังกฤษได้ทำการเปลี่ยนชื่อเป็น พรีเมียร์ลีก จึงทำการโปรโมตโดยการนำนักเตะทีนเอจชื่อดังในสมัยนั้นอย่าง เดวิด แบคแฮม , ไรอัน กิ๊กส์ , ลี ชาร์ป และมิดฟิลด์หน้าหล่อผู้นี้ เจมี่ เรดแนปป์ ลิเวอร์พูลยุคซูอี้เกมส์รุกนำโดยเอียน รัชยิงประตูระเบิดเถิดเทิงแต่เกมส์รับเสียประตูเป็นน้ำ โดยพาทีมห่างไกลจากทีมลุ้นแชมป์หลายขุม ซึ่งซูอี้ไขก๊อกโดยการลาออกในปี1994 ทิ้งผลงานไว้ที่อันดับ6ของลีก 2 ปีติดและหนึ่งแชมป์เอฟเอคัพแต่อีกสิ่งหนึ่งที่เขาทิ้งไว้ให้กับทีมก็คือเหล่าดาวรุ่งทีนเอจ ผู้จะขึ้นมาเป็นกำลังสำคัญของทีมในยุคต่อมา แก๊งค์ที่ได้รับฉายาจากสื่อว่า "สไปซ์ บอย"

--------------------------------------------

หลังจากยุคมืดมน ลิเวอร์พูลดูเหมือนเห็นแสงสว่างรำไรอีกครั้ง(หรือเปล่า) รอยส์ อีแวนส์ หนึ่งในบูทรูมตัดสินใจรับเผือกร้อนต่อจากซูอี้ โดยการเล่นฟุตบอลสไตล์บุกแหลกโดยมีแก๊งค์เด็กทีนเอจของซูอี้เป็นแกนนำ ซึ่งเรดแนปป์ , แมคก้า , ฟาวเลอร์ พาหงส์แดงสยายปีกคว้าแชมป์ลีกคัพในฤดูกาล 1994-95หลังจากเอาชนะโบลตัน วันเดอร์เรอร์ 2-0 ลิเวอร์พูลของรอยส์ อีแวนส์กลับมาอยู่หัวตารางอีกครั้งโดยมีคู่หูกองหน้าใหม่อย่าง
ร๊อบบี้ ฟาวเลอร์และสแตน คอลลี่เมอร์ช่วยกันยิงกันเป็นว่าเล่น แต่ท่ามกลางกระแสความเปลี่ยนแปลงของวงการฟุตบอลนักฟุตบอลกลายเป็นดาราดัง
พวกเขาสนใจการเดินแบบ , ถ่ายแบบ มากกว่าเตะฟุตบอล จนสื่อได้ตั้งฉายาว่า สไปซ์ บอย ผลงานในสนามสวนทางกับผลงานถ่ายแบบของพวกเขา
ซึ่งในช่วงเวลาหลายปีที่ผ่านมาคู่อริตลอดกาลอย่างแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พวกเขาขึ้นมาคว้าแชมป์แล้วแชมป์เล่า ชนิดที่ว่าความสำเร็จห่างกันหลายช่วงตัว ในขวบปีสุดท้ายของรอยส์ อีแวนส์ได้คุมทีมร่วมกับเชราร์ อูลิเยร์กุนซือเลือดน้ำหอมในช่วงเวลาสั้นๆก่อนพาทีมจบอันดับ7ในตาราง
แต่มันเป็นฤดูกาลที่เรดแนปป์เล่นได้ดีสุดในชีวิตการค้าแข้งของเขา เขายิงไป10ประตู จากการลงสนาม40นัด
ซึ่งเยอะที่สุดในชีวิตการค้าแข้งของเขาและฟรีคิกสุดสวยในเกมส์กับน๊อตติงแฮม ฟอเรสต์

----------------------------------------------------

หลังจากรอยส์ อีแวนส์เปิดทางให้เชราร์ อูลลิเยร์ กุนซือเลือดน้ำหอมทำทีมอย่างเต็มตัวในฤดูกาล1999-2000 เขาค่อยๆสร้างทีมขึ้นมาใหม่ นักเตะหลายรายจากยุครอยส์ อีแวนส์ถูกปล่อยตัวชนิดล้างบางและที่ดาวเตะคนสำคัญ สตีฟ แมคมานามาน ย้ายทีมไปรีล มาดริด ฟรีๆด้วยกฏบอสแมน
มิดฟิลด์หน้าหล่อผู้นี้ได้รับผลกระทบเช่นกันและด้วยอาการบาดเจ็บหัวเข่าของเขาทำให้เขาแทบจะกลายเป็นส่วนเกินของทีมกลายเป็นช่วงเวลาที่มืดหม่นของเขา ซึ่งสวนทางกับทีม เพราะอูลิเยร์ พาทีมคว้าทริปเปิ้ลแชมป์ เอฟเอคัพ , ยูฟ่าคัพ และลีกคัพ อย่างยิ่งใหญ่ใน ฤดูกาล 2000-01
ซึ่งมิดฟิลด์หน้าหล่อผู้นี้ไม่ได้ลงสนามเลยสักวินาทีเดียว แต่ด้วยความที่เป็นกัปตันทีม เขาได้ขึ้นไปชูถ้วยเอฟเอคัพ หลังจากที่ชนะอาเซน่อลได้ด้วยความมหัศจรรย์ของไมเคิล โอเว่น และแล้วเวลาของเขากับลิเวอร์พูลมันเริ่มเหลือน้อยลงทุกๆทีในฤดูกาลสุดท้ายของเขา ลงสนามไปเพียงแค่8นัด ยิงไป2ประตู โดยการลงสนามกับโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ในเกมยูฟ่า แชมป์เปี้ยนลีก คือเกมส์สุดท้ายของเขาในสีเสื้อหงส์แดง

-----------------------------------------------------

หลังจากนั้นเขาย้ายไปท๊อตแน่ม ฮอตสเปอร์ และ เซาต์แธมป์ตัน ในช่วงเวลาสั้นๆ และแขวนสตั๊ดที่นั่นในวัยเพียงแค่ 32 ปี
ด้วยอาการบาดเจ็บหัวเข่าเรื้อรัง โดยผู้คนจำภาพเขาคือ สไปซ์บอยและอาการบาดเจ็บ....

------------------------------------------------------

สถิติการลงเล่น : 308นัด ยิง41ประตู
แชมป์ : ลีกคัพ 1994-95 , แชริตี้ ชิลด์ 2001 , ยูฟ่า ซุปเปอร์ คัพ 2001

ระดับความว้าว : 7
ระดับความซื้ด : 7
ระดับความเร้าใจ : 7
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่