หูฟัง True Wireless เป็นที่นิยมขึ้นมากและมีหลายๆแบรนด์ทำออกมาเยอะขึ้นแบบเห็นได้ชัดในปีนี้และยังคงมีมาเรื่อยๆแน่นอนว่าทางค่าย Samsung ก็เป็นอีกค่ายที่ทำออกมาเรื่อยๆจนมาถึงรุ่นล่าสุดที่เปิดตัวมาพร้อมกับเรือธง S10 นั้นเอง รุ่นนี้ทำออกมาน่าสนใจ ราคาไม่แรงและฟีเจอร์ถือว่าดีเลย ตัวนี้คือ Galaxy Buds ครับ รุ่นนี้ถือว่าเป็นการต่อยอดรุ่นเดิมและทำให้รองรับฟีเจอร์ที่เด่นๆคือการชาร์จไร้สายที่รองรับการส่งผ่านตัว S10 ด้วยถือว่าทำออกมาน่าสนใจ ส่วนราคาก็ไม่แพงครับ มาพร้อมกับ Bluetooth 5.0 รองรับ การตัดเสียงรบกวน และ สามารถสัมผัสควบคุมการสั่งงานได้ และได้การพัฒนาเสียงร่วมกับทาง AKG อีกทั้งยังรองรับการใช้งานได้มากถึง 6 ชั่วโมงเลย
ทางด้านราคาของ SAMSUNG GALAXY BUDS ในประเทศไทยเปิดราคามาแล้วที่ 4,990 บาท มาพร้อม สีขาว ดำ และ เหลือง ในตัวที่รีวิวจะเป็นสีขาวนะครับ
UNBOX
ตัวกล่องมาในขนาดเล็กๆบอกชื่อรุ่นชัดเจนเป็นการเล่นแสงสีตรงอักษรได้สวยงาม พร้อมกับสีของหูฟังพร้อมรูปชัดเจนครับ ส่วนของในกล่องนั้นก็ถือว่าให้มาครบครัน และมีสายชาร์จ Type-C มาให้ รวมถึงจุกหูฟังหลายๆขนาด ที่เกี่ยวเพิ่มเติมสำหรับใส่ออกกำลังกายได้ด้วยทั้งหมดมาในสีขาวเหมือนตัวหูฟัง เคสใส่ รวมถึงสายชาร์จด้วยนั้นเอง
DESIGN
การออกแบบในรุ่นนี้มีขนาดเล็กพกพาได้ง่ายวัสดุเป็นพลาสติกทั้งหมดครับเป็นแบบด้านสีขาว ตัวเคสที่ใส่ในภาพนั้นมีขนาดไม่ใหญ่ พอดีสำหรับการพกพาหรือใส่กระเป๋ากางเกงครับแต่ด้วยวัสดุแบบนี้อาจจะเลอะได้ง่ายนิดหน่อยถ้าใส่ในกางเกงยืนส์นานๆหรือบ่อยๆอาจจะมีสีจากกางเกงเลอะได้สำหรับบางท่านนะครับด้วยตัวเคสมันเป็นสีขาว ส่วนเรื่องน้ำหนักวัสดุโดยรวมนั้นถือว่าทำได้ดี ไม่หนักเกินไป งานประกอบแน่นและสัมผัสดีครับ โดยรวมการออกแบบถือว่าดี เน้นพกพาง่าย ใช้งานง่าย วัสดุเบา แต่อาจจะเลอะง่ายไปหน่อยเพราะเป็นสีขาวแบบพลาสติกด้านครับ ส่วนตัวหูฟังก็มีเล่นวัสดุเงาสวยคล้ายๆกับฝาหลังของ S10 นั้นเองมีเหลือบๆสีมุกเล็กน้อยครับ เป็นวัสดุแบบเงาแตกต่างกับบอดี้รวมๆครับ
ตัวกล่องเคสชาร์จนั้นจะเห็นว่าด้านหน้าจะเป็น ไฟแสดงสถานะทั้งหมด 3 สีหลักๆคือ 1.สีแดง เมื่อแบตเตอรี่ต่ำกว่า 30% 2.สีเหลือง เมื่อแบตเตอรี่ 30 – 60% 3.สีเขียว เมื่อแบตเตอรี่เกิน 60% และด้านหลังนั้นจะเป็นช่องสำหรับชาร์จไฟเข้าเคสรวมถึงหูฟังจะผ่านช่องแบบ TYPE-C แต่ก็รองรับการชาร์จไร้สายเข้าด้วยเช่นกันครับถือว่าดีมากๆเลย
ด้านในเมื่อเปิดออกมานั้นจะเห็นว่ามีหูฟังวางอยู่พร้อมไฟสถานะ ไฟสถานะอันนี้จะเป็นการบอกว่า ตัวหูฟังนั้นชาร์จอยู่ หรือ เต็มแล้วนั้นเองครับ ซึ่งมี 2 สีหลักๆ คือ ไฟสีแดง ที่จะบอกว่ากำลังชาร์จไฟเข้าหูฟัง และ ไฟสีเขียวแปลว่าหูฟังเรานั้นแบตเต็มแล้วพร้อมใช้งานแบบเต็มที่ แต่ถ้าอยากดูอย่างละเอียด ว่าข้างไหนแบตเท่าไรสามารถดูในแอพบนมือถือได้เลย
ตัวการออกแบบของหูฟังนั้นเป็นลักษณะที่ค่อนข้างคุ้นๆกันดีและมีขนาดกำลังดีพร้อม เซนเซอร์อะไรมากมายรวมถึง ตัวบอกว่าข้างไหนซ้ายขวา และ มีตัวจับว่าเราใส่อยู่ไหม ถ้าถอดออกเพลงจะหยุดเองด้วย ! รวมถึงแม่เหล็กสำหรับชาร์จไฟเข้านั้นเองครับ ความหนาของมันดูในภาพเหมือนจะเยอะแต่เมื่อใช้งานจริงๆนั้นจะค่อนข้างเข้ารูปและไม่โผล่ออกมาครับ ด้านนอกนั้นเป็นวัสดุแบบเงาส่วนนั้นจะเป็นส่วนที่สัมผัสสั่งงานได้โดยการแตะเท่านั้น ไม่สามารถปัดไปมา
รูปทรงการออกแบบโดยรวมนั้นก็ถือว่าดีเลยเพราะเข้ากับหูได้ดีล็อคได้แน่นและไม่หลุดง่ายๆแม้จะวิ่งหรือเต้นก็รองรับได้ดี ขนาดและน้ำหนักใส่สบาย สาวๆก็ใส่ได้สบายครับไม่เกะกะหรือหนักอะไรแม้จะใส่นานๆ วัสดุเป็นพลาสติกหลักๆทำให้น้ำหนักเบา กันเหงื่อได้ดี และ รักษาได้ง่าย จุกยางนั้นมีให้อีก 2 ขนาด วัสดุนุ่มกำลังดี แต่ถ้าใครอยากหาจุกมาเปลี่ยนอาจจะต้องดูดีๆเพราะจุกเสริมบางยี่ห้อใส่แล้วจะยื่นและปิดฝาเคสไม่ได้นะครับอันนี้ต้องระวัง
SPEC
- รองรับฟังเพลงได้นาน 6 ชั่วโมง
- เชื่อมต่อด้วย Bluetooth 5.0 และ RAM 1.5 GB ขึ้นไป
- ชาร์จไฟด้วย USB-C + Wireless Charging
- Accelerometer,Hall Sensor,Proximity Sensor
- A2DP,AVRCP,HFP
- แบตเตอรรี่ บนตัวหูฟัง 58 mAh
- แบตเตอรรี่ เคส 252 mAh
- Stanby 20 ชั่วโมง
- ใช้งานต่อเนื่อง 6 ชั่วโมง* เคสสามารถชาร์จได้ 1 รอบ
- ไมค์ 2 ตัว
- น้ำหนักหูฟัง 6 g
- น้ำหนักเคส 40 g
SOFTWARE
ทางด้าน Software จริงๆถ้าไม่โหลดก็ใช้งานได้นะครับ คือซื้อมา เปิดเชื่อมต่อ Bluetooth ได้เลยไม่ต้องมีแอพ * แต่แน่นอนว่าถ้ามีแอพมันจะทำอะไรได้หลากหลายอย่างมากๆ ทั้งเรื่องของการปรับเสียง ตั้งค่าฟีเจอร์ต่างๆในการสัมผัส หรือจะเป็นการอัพเดท Software อันนี้แหละที่สำคัญเพราะว่ามันจะปรับปรุงคุณภาพการเชื่อมต่อ คุณภาพเสียงอะไรต่างๆเข้ามาในอนาคตได้ด้วย แนะนำให้มีแอพไว้ครับ ส่วนเรื่องใช้งานนั้นใช้แอพ Galaxy Wear แอพที่คุ้นเคยกันดีเพราะ ถ้าใครใช้แบรนด์นี้ต้องมีสำหรับการควบคุม Ecosystem ทั้งหมดเลยนั้นเองครับ
หน้าหลักๆจะเป็นการตั้งค่า ดูแบตของแต่ละข้างครับว่าเหลือเท่าไร และสอนใช้งานง่ายๆ อันที่ 2 จะเป็นการตั้งปรับ Equalizer แต่ไม่สามารถปรับแบบละเอียดได้นะครับเพราะมันจะปรับได้ทั้งหมด 5 แบบคือ Bass boost, Soft, Dynamic, Clear และ Treble boost อันนี้แล้วแต่คนชอบนะ ส่วนการตั้งค่าการสัมผัสนั้นจะสามารถตั้งได้ว่า แตะ 1 ครั้งเพื่อหยุดหรือเล่นเพลง แตะ 2 ครั้งเพื่อเพลงถัดไป หรือ รับสาย วางสายได้ แตะ 3 ครั้งเพื่อย้อนเพลงก่อนหน้า แตะค้างไว้จะเป็นการเรียกใช้งาน Bixby หรือ Google Assistant แล้วแต่เครื่องนะครับ และ ยังสามารถตัดสายได้ด้วย รวมถึงสามารถ แตะหูฟัง 2 ข้างพร้อมกัน เพื่อเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนเครื่องอื่นครับ
หัวข้ออื่นๆจะเป็นเรื่องของฟีเจอร์ในการตามหาหูฟัง คือสามารถกดหาได้เลย และ มันสามารถแยกแต่ละข้างได้ เสียงจะค่อยๆดังขึ้นเรื่องๆ เสียงดังจากช่องหูฟังปกตินั้นแหละอาจจะไม่ได้ดังมากเหมือนมีลำโพงข้างนอกนะครับส่วนนี้ ใช้หาในห้องได้ แต่ข้างนอกนี่บอกเลยว่ายากมากๆ ส่วน Ambient Sound น่าจะคุ้นเคยกันดีคือการเปิดรับเสียงจากข้างนอก เสียงลม เสียงคนพูด เสียงรถยนต์ทั้งหลายได้ยินชัดเจนครับ สามารถเปิดปิดและปรับความดังได้ว่าจะเข้ามาเยอะไหม อันนี้สะดวกดีครับและตัดเสียงลมได้ดีมากๆ ส่วนการแจ้งเตือนนั้นจะสามารถแจ้งเตือนได้ ว่ามีอะไรเข้ามาเสียงแจ้งเตือนจะเป็นแบบเดียวกับบนมือถือ และ เสียงเพลงจะหรี่ลงครับ สามารถเปิดปิดและเลือกแอพได้เลย
SOUND
ในเรื่องของเสียงนั้นพวกหูฟังแบบไร้สายพวกนี้แน่นอนว่าอาจจะไม่ได้แน่นเป๊ะแบบมีสายพวกนั้นมากแต่ก็พัฒนามาเยอะเหมือนกันครับ และในเรื่องความนิ่ง ความดีเลย์ อาจจะเป็นจุดที่หลายๆคนสนใจว่าจะเจอปัญหาบ้างไหม หรือเดินในห้างเสียงขาดหายไหม ส่วนการเชื่อมต่อนั้นต้องบอกว่าง่ายมากแค่เปิดฝามันก็เชื่อมต่อ พร้อมกับเล่นเพลงให้ได้เลยถ้าเราใส่หูครับ ส่วนมือถือแน่นอนว่าต้องเปิด Bluetooth ไว้ตลอดเวลานะครับ ในการใช้งานเรามาดูเรื่องของความนิ่งกันก่อน เสียงจากที่ได้ลองใส่เดินทุกที่เสียงค่อนข้างนิ่งไม่ขาดหาย แต่ จะมีในห้าง หรือ ที่คนเยอะๆนั้นถ้าเราเอามือถือไว้ในกระเป๋ากางเกงจะขาดๆหายๆ แต่ถ้าถืออยู่กับมือนั้นจะไม่เจออาการนี้ครับ เป็นปกติของพวก True Wireless หลายๆตัว แต่ใช้งานทั่วไปบอกเลยว่านิ่งกว่าแต่ก่อนเยอะครับ เจอขาดหายๆน้อยมากๆ บนรถไฟฟ้าก็ไม่เจอครับ
ส่วนด้านการใช้งานทั่วไปนั้นเสียงเวลาดูหนังต่างๆ ทั้ง Youtube Netflix อื่นๆไม่เจออาการหน่วงอะไรเลยครับ ใช้ได้เลยดูหนังค่อนข้างตรงมากๆ รวมถึงการเล่นเกมส์นั้นก็ไม่เจออาการหน่วงอะไรออกเสียงได้ตรงกับภาพที่เล่นอยู่อันนี้คือดีมากหลายๆค่ายก่อนหน้าจะมีเจอบ้างครับแต่ก็มีการพัฒนามาเรื่อยๆเลย มาต่อเรื่องคุณภาพเสียงกันบ้างดีกว่า
คุณภาพเสียงโดยรวมของรุ่นนี้ต้องบอกว่าแม้จะมีการแปะ AKG แต่ก็เป็นการพัฒนาแนวเสียงร่วมกันเฉยๆหลายๆคนอาจจะหวังว่าเป็นหูของ AKG เลยอาจจะต้องผิดหวัง เสียงอาจจะยังไม่ถึงขั้นนั้นครับ เสียงหูฟังตัวนี้ ต้องบอกว่าทำได้สมราคาของมันอาจจะไปสู้ แบรนด์อื่นที่ราคา 8000+ ไม่ได้แน่ๆ แต่ดีกว่าหูแถมของ S10+ พวกนี้แน่นอนในเรื่องของคุณภาพเสียง เบสมาแน่นถ้าเราปรับ EQ มาหนักแน่นดี แต่ไม่ได้เยอะสะใจครับมาแบบกำลังดีนุ่มๆแน่น ส่วนสเตจนั้นกว้างใช้ได้เลย เสียงแหลมมาดีเด่นและมีจัดไปบ้างในบางจังหวะ เสียงความดังนั้นเปิดสุดก็จัดเต็มดังใช้ได้เลย แต่ถ้าใครหวังว่าเสียงจะนุ่มแน่นและเบสดังๆปังๆอาจจะไม่ได้ครับ ด้วยแนวเสียงเพลงของหูตัวนี้ไม่ใช่แบบนั้น
ส่วนเอามาใช้ดูหนัง นั้นถือว่าเสียงคนพูดนั้นชัดเจนมากเพราะด้วยหูฟังที่เด่นเรื่องย่านแหลมสูง อาจจะช่วยจุดนี้ได้แต่เบสหรือระเบิดอะไรพวกนี้จะไม่ได้สะใจมากนักครับ เสียงคนร้อง เสียงคนพูดจะชัดมากๆแต่เสียง Effect จะดรอปลงไป แต่แยกซ้ายขวาได้ดีนะเวลาดูหนังโอเคเลยแหละ ใช้ได้แต่ไม่ได้สะใจครับสำหรับหูฟังตัวนี้ แต่ถ้าบอกว่าในงบประมาณนี้ตัวนี้น่าจะเด่นสุดทั้งการปรับ EQ ได้ของมันและราคาไม่แรงเกินไปเ สียงฟังง่ายได้ทุกแนว เบสไม่บวมครับ
FEELING
ในเรื่องของความสบายในการสวมใส่ฟังเพลง หรือ การใช้งานทั่วไปทั้งการควบคุมนั้นตัวนี้ออกแบบมาได้ค่อนข้างดีเลยแหละ ค่อนข้างกระชับกับหูของหลายๆคนไม่ได้ยื่นออกมาน่าเกลียดอะไรและสำหรับบางคนนั้นจะเนียนไปเลย การใส่กระชับดีไม่หลุดออกไปง่ายๆแม้จะวิ่ง เต้น กระโดดอะไรนั้นไม่หลุดออกมาเลยนะหรือ เหงื่อเยอะก็ไม่เจออาการหลุดหรือลื่นอะไรเลย อีกทั้งยังกันเหงื่อได้ค่อนข้างดีครับ และสัมผัสได้ไม่ลื่นแม้จะมือมีเหงื่อ ส่วนการเชื่อมต่อใช้งาน เราถอดออก 1 ข้างก็ยังฟังเพลงได้ แต่ถ้าถอด 2 ข้างออกนั้นเพลงจะหยุดทันที และเล่นต่อเมื่อใส่ไปใหม่ครับ
[SR] รีวิว Galaxy Buds หูฟัง True Wireless รองรับชาร์จไร้สาย ราคาไม่เกิน 5,000 บาท
หูฟัง True Wireless เป็นที่นิยมขึ้นมากและมีหลายๆแบรนด์ทำออกมาเยอะขึ้นแบบเห็นได้ชัดในปีนี้และยังคงมีมาเรื่อยๆแน่นอนว่าทางค่าย Samsung ก็เป็นอีกค่ายที่ทำออกมาเรื่อยๆจนมาถึงรุ่นล่าสุดที่เปิดตัวมาพร้อมกับเรือธง S10 นั้นเอง รุ่นนี้ทำออกมาน่าสนใจ ราคาไม่แรงและฟีเจอร์ถือว่าดีเลย ตัวนี้คือ Galaxy Buds ครับ รุ่นนี้ถือว่าเป็นการต่อยอดรุ่นเดิมและทำให้รองรับฟีเจอร์ที่เด่นๆคือการชาร์จไร้สายที่รองรับการส่งผ่านตัว S10 ด้วยถือว่าทำออกมาน่าสนใจ ส่วนราคาก็ไม่แพงครับ มาพร้อมกับ Bluetooth 5.0 รองรับ การตัดเสียงรบกวน และ สามารถสัมผัสควบคุมการสั่งงานได้ และได้การพัฒนาเสียงร่วมกับทาง AKG อีกทั้งยังรองรับการใช้งานได้มากถึง 6 ชั่วโมงเลย
ทางด้านราคาของ SAMSUNG GALAXY BUDS ในประเทศไทยเปิดราคามาแล้วที่ 4,990 บาท มาพร้อม สีขาว ดำ และ เหลือง ในตัวที่รีวิวจะเป็นสีขาวนะครับ
UNBOX
ตัวกล่องมาในขนาดเล็กๆบอกชื่อรุ่นชัดเจนเป็นการเล่นแสงสีตรงอักษรได้สวยงาม พร้อมกับสีของหูฟังพร้อมรูปชัดเจนครับ ส่วนของในกล่องนั้นก็ถือว่าให้มาครบครัน และมีสายชาร์จ Type-C มาให้ รวมถึงจุกหูฟังหลายๆขนาด ที่เกี่ยวเพิ่มเติมสำหรับใส่ออกกำลังกายได้ด้วยทั้งหมดมาในสีขาวเหมือนตัวหูฟัง เคสใส่ รวมถึงสายชาร์จด้วยนั้นเอง
DESIGN
การออกแบบในรุ่นนี้มีขนาดเล็กพกพาได้ง่ายวัสดุเป็นพลาสติกทั้งหมดครับเป็นแบบด้านสีขาว ตัวเคสที่ใส่ในภาพนั้นมีขนาดไม่ใหญ่ พอดีสำหรับการพกพาหรือใส่กระเป๋ากางเกงครับแต่ด้วยวัสดุแบบนี้อาจจะเลอะได้ง่ายนิดหน่อยถ้าใส่ในกางเกงยืนส์นานๆหรือบ่อยๆอาจจะมีสีจากกางเกงเลอะได้สำหรับบางท่านนะครับด้วยตัวเคสมันเป็นสีขาว ส่วนเรื่องน้ำหนักวัสดุโดยรวมนั้นถือว่าทำได้ดี ไม่หนักเกินไป งานประกอบแน่นและสัมผัสดีครับ โดยรวมการออกแบบถือว่าดี เน้นพกพาง่าย ใช้งานง่าย วัสดุเบา แต่อาจจะเลอะง่ายไปหน่อยเพราะเป็นสีขาวแบบพลาสติกด้านครับ ส่วนตัวหูฟังก็มีเล่นวัสดุเงาสวยคล้ายๆกับฝาหลังของ S10 นั้นเองมีเหลือบๆสีมุกเล็กน้อยครับ เป็นวัสดุแบบเงาแตกต่างกับบอดี้รวมๆครับ
ตัวกล่องเคสชาร์จนั้นจะเห็นว่าด้านหน้าจะเป็น ไฟแสดงสถานะทั้งหมด 3 สีหลักๆคือ 1.สีแดง เมื่อแบตเตอรี่ต่ำกว่า 30% 2.สีเหลือง เมื่อแบตเตอรี่ 30 – 60% 3.สีเขียว เมื่อแบตเตอรี่เกิน 60% และด้านหลังนั้นจะเป็นช่องสำหรับชาร์จไฟเข้าเคสรวมถึงหูฟังจะผ่านช่องแบบ TYPE-C แต่ก็รองรับการชาร์จไร้สายเข้าด้วยเช่นกันครับถือว่าดีมากๆเลย
ด้านในเมื่อเปิดออกมานั้นจะเห็นว่ามีหูฟังวางอยู่พร้อมไฟสถานะ ไฟสถานะอันนี้จะเป็นการบอกว่า ตัวหูฟังนั้นชาร์จอยู่ หรือ เต็มแล้วนั้นเองครับ ซึ่งมี 2 สีหลักๆ คือ ไฟสีแดง ที่จะบอกว่ากำลังชาร์จไฟเข้าหูฟัง และ ไฟสีเขียวแปลว่าหูฟังเรานั้นแบตเต็มแล้วพร้อมใช้งานแบบเต็มที่ แต่ถ้าอยากดูอย่างละเอียด ว่าข้างไหนแบตเท่าไรสามารถดูในแอพบนมือถือได้เลย
ตัวการออกแบบของหูฟังนั้นเป็นลักษณะที่ค่อนข้างคุ้นๆกันดีและมีขนาดกำลังดีพร้อม เซนเซอร์อะไรมากมายรวมถึง ตัวบอกว่าข้างไหนซ้ายขวา และ มีตัวจับว่าเราใส่อยู่ไหม ถ้าถอดออกเพลงจะหยุดเองด้วย ! รวมถึงแม่เหล็กสำหรับชาร์จไฟเข้านั้นเองครับ ความหนาของมันดูในภาพเหมือนจะเยอะแต่เมื่อใช้งานจริงๆนั้นจะค่อนข้างเข้ารูปและไม่โผล่ออกมาครับ ด้านนอกนั้นเป็นวัสดุแบบเงาส่วนนั้นจะเป็นส่วนที่สัมผัสสั่งงานได้โดยการแตะเท่านั้น ไม่สามารถปัดไปมา
รูปทรงการออกแบบโดยรวมนั้นก็ถือว่าดีเลยเพราะเข้ากับหูได้ดีล็อคได้แน่นและไม่หลุดง่ายๆแม้จะวิ่งหรือเต้นก็รองรับได้ดี ขนาดและน้ำหนักใส่สบาย สาวๆก็ใส่ได้สบายครับไม่เกะกะหรือหนักอะไรแม้จะใส่นานๆ วัสดุเป็นพลาสติกหลักๆทำให้น้ำหนักเบา กันเหงื่อได้ดี และ รักษาได้ง่าย จุกยางนั้นมีให้อีก 2 ขนาด วัสดุนุ่มกำลังดี แต่ถ้าใครอยากหาจุกมาเปลี่ยนอาจจะต้องดูดีๆเพราะจุกเสริมบางยี่ห้อใส่แล้วจะยื่นและปิดฝาเคสไม่ได้นะครับอันนี้ต้องระวัง
SPEC
- รองรับฟังเพลงได้นาน 6 ชั่วโมง
- เชื่อมต่อด้วย Bluetooth 5.0 และ RAM 1.5 GB ขึ้นไป
- ชาร์จไฟด้วย USB-C + Wireless Charging
- Accelerometer,Hall Sensor,Proximity Sensor
- A2DP,AVRCP,HFP
- แบตเตอรรี่ บนตัวหูฟัง 58 mAh
- แบตเตอรรี่ เคส 252 mAh
- Stanby 20 ชั่วโมง
- ใช้งานต่อเนื่อง 6 ชั่วโมง* เคสสามารถชาร์จได้ 1 รอบ
- ไมค์ 2 ตัว
- น้ำหนักหูฟัง 6 g
- น้ำหนักเคส 40 g
SOFTWARE
ทางด้าน Software จริงๆถ้าไม่โหลดก็ใช้งานได้นะครับ คือซื้อมา เปิดเชื่อมต่อ Bluetooth ได้เลยไม่ต้องมีแอพ * แต่แน่นอนว่าถ้ามีแอพมันจะทำอะไรได้หลากหลายอย่างมากๆ ทั้งเรื่องของการปรับเสียง ตั้งค่าฟีเจอร์ต่างๆในการสัมผัส หรือจะเป็นการอัพเดท Software อันนี้แหละที่สำคัญเพราะว่ามันจะปรับปรุงคุณภาพการเชื่อมต่อ คุณภาพเสียงอะไรต่างๆเข้ามาในอนาคตได้ด้วย แนะนำให้มีแอพไว้ครับ ส่วนเรื่องใช้งานนั้นใช้แอพ Galaxy Wear แอพที่คุ้นเคยกันดีเพราะ ถ้าใครใช้แบรนด์นี้ต้องมีสำหรับการควบคุม Ecosystem ทั้งหมดเลยนั้นเองครับ
หน้าหลักๆจะเป็นการตั้งค่า ดูแบตของแต่ละข้างครับว่าเหลือเท่าไร และสอนใช้งานง่ายๆ อันที่ 2 จะเป็นการตั้งปรับ Equalizer แต่ไม่สามารถปรับแบบละเอียดได้นะครับเพราะมันจะปรับได้ทั้งหมด 5 แบบคือ Bass boost, Soft, Dynamic, Clear และ Treble boost อันนี้แล้วแต่คนชอบนะ ส่วนการตั้งค่าการสัมผัสนั้นจะสามารถตั้งได้ว่า แตะ 1 ครั้งเพื่อหยุดหรือเล่นเพลง แตะ 2 ครั้งเพื่อเพลงถัดไป หรือ รับสาย วางสายได้ แตะ 3 ครั้งเพื่อย้อนเพลงก่อนหน้า แตะค้างไว้จะเป็นการเรียกใช้งาน Bixby หรือ Google Assistant แล้วแต่เครื่องนะครับ และ ยังสามารถตัดสายได้ด้วย รวมถึงสามารถ แตะหูฟัง 2 ข้างพร้อมกัน เพื่อเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนเครื่องอื่นครับ
หัวข้ออื่นๆจะเป็นเรื่องของฟีเจอร์ในการตามหาหูฟัง คือสามารถกดหาได้เลย และ มันสามารถแยกแต่ละข้างได้ เสียงจะค่อยๆดังขึ้นเรื่องๆ เสียงดังจากช่องหูฟังปกตินั้นแหละอาจจะไม่ได้ดังมากเหมือนมีลำโพงข้างนอกนะครับส่วนนี้ ใช้หาในห้องได้ แต่ข้างนอกนี่บอกเลยว่ายากมากๆ ส่วน Ambient Sound น่าจะคุ้นเคยกันดีคือการเปิดรับเสียงจากข้างนอก เสียงลม เสียงคนพูด เสียงรถยนต์ทั้งหลายได้ยินชัดเจนครับ สามารถเปิดปิดและปรับความดังได้ว่าจะเข้ามาเยอะไหม อันนี้สะดวกดีครับและตัดเสียงลมได้ดีมากๆ ส่วนการแจ้งเตือนนั้นจะสามารถแจ้งเตือนได้ ว่ามีอะไรเข้ามาเสียงแจ้งเตือนจะเป็นแบบเดียวกับบนมือถือ และ เสียงเพลงจะหรี่ลงครับ สามารถเปิดปิดและเลือกแอพได้เลย
SOUND
ในเรื่องของเสียงนั้นพวกหูฟังแบบไร้สายพวกนี้แน่นอนว่าอาจจะไม่ได้แน่นเป๊ะแบบมีสายพวกนั้นมากแต่ก็พัฒนามาเยอะเหมือนกันครับ และในเรื่องความนิ่ง ความดีเลย์ อาจจะเป็นจุดที่หลายๆคนสนใจว่าจะเจอปัญหาบ้างไหม หรือเดินในห้างเสียงขาดหายไหม ส่วนการเชื่อมต่อนั้นต้องบอกว่าง่ายมากแค่เปิดฝามันก็เชื่อมต่อ พร้อมกับเล่นเพลงให้ได้เลยถ้าเราใส่หูครับ ส่วนมือถือแน่นอนว่าต้องเปิด Bluetooth ไว้ตลอดเวลานะครับ ในการใช้งานเรามาดูเรื่องของความนิ่งกันก่อน เสียงจากที่ได้ลองใส่เดินทุกที่เสียงค่อนข้างนิ่งไม่ขาดหาย แต่ จะมีในห้าง หรือ ที่คนเยอะๆนั้นถ้าเราเอามือถือไว้ในกระเป๋ากางเกงจะขาดๆหายๆ แต่ถ้าถืออยู่กับมือนั้นจะไม่เจออาการนี้ครับ เป็นปกติของพวก True Wireless หลายๆตัว แต่ใช้งานทั่วไปบอกเลยว่านิ่งกว่าแต่ก่อนเยอะครับ เจอขาดหายๆน้อยมากๆ บนรถไฟฟ้าก็ไม่เจอครับ
ส่วนด้านการใช้งานทั่วไปนั้นเสียงเวลาดูหนังต่างๆ ทั้ง Youtube Netflix อื่นๆไม่เจออาการหน่วงอะไรเลยครับ ใช้ได้เลยดูหนังค่อนข้างตรงมากๆ รวมถึงการเล่นเกมส์นั้นก็ไม่เจออาการหน่วงอะไรออกเสียงได้ตรงกับภาพที่เล่นอยู่อันนี้คือดีมากหลายๆค่ายก่อนหน้าจะมีเจอบ้างครับแต่ก็มีการพัฒนามาเรื่อยๆเลย มาต่อเรื่องคุณภาพเสียงกันบ้างดีกว่า
คุณภาพเสียงโดยรวมของรุ่นนี้ต้องบอกว่าแม้จะมีการแปะ AKG แต่ก็เป็นการพัฒนาแนวเสียงร่วมกันเฉยๆหลายๆคนอาจจะหวังว่าเป็นหูของ AKG เลยอาจจะต้องผิดหวัง เสียงอาจจะยังไม่ถึงขั้นนั้นครับ เสียงหูฟังตัวนี้ ต้องบอกว่าทำได้สมราคาของมันอาจจะไปสู้ แบรนด์อื่นที่ราคา 8000+ ไม่ได้แน่ๆ แต่ดีกว่าหูแถมของ S10+ พวกนี้แน่นอนในเรื่องของคุณภาพเสียง เบสมาแน่นถ้าเราปรับ EQ มาหนักแน่นดี แต่ไม่ได้เยอะสะใจครับมาแบบกำลังดีนุ่มๆแน่น ส่วนสเตจนั้นกว้างใช้ได้เลย เสียงแหลมมาดีเด่นและมีจัดไปบ้างในบางจังหวะ เสียงความดังนั้นเปิดสุดก็จัดเต็มดังใช้ได้เลย แต่ถ้าใครหวังว่าเสียงจะนุ่มแน่นและเบสดังๆปังๆอาจจะไม่ได้ครับ ด้วยแนวเสียงเพลงของหูตัวนี้ไม่ใช่แบบนั้น
ส่วนเอามาใช้ดูหนัง นั้นถือว่าเสียงคนพูดนั้นชัดเจนมากเพราะด้วยหูฟังที่เด่นเรื่องย่านแหลมสูง อาจจะช่วยจุดนี้ได้แต่เบสหรือระเบิดอะไรพวกนี้จะไม่ได้สะใจมากนักครับ เสียงคนร้อง เสียงคนพูดจะชัดมากๆแต่เสียง Effect จะดรอปลงไป แต่แยกซ้ายขวาได้ดีนะเวลาดูหนังโอเคเลยแหละ ใช้ได้แต่ไม่ได้สะใจครับสำหรับหูฟังตัวนี้ แต่ถ้าบอกว่าในงบประมาณนี้ตัวนี้น่าจะเด่นสุดทั้งการปรับ EQ ได้ของมันและราคาไม่แรงเกินไปเ สียงฟังง่ายได้ทุกแนว เบสไม่บวมครับ
FEELING
ในเรื่องของความสบายในการสวมใส่ฟังเพลง หรือ การใช้งานทั่วไปทั้งการควบคุมนั้นตัวนี้ออกแบบมาได้ค่อนข้างดีเลยแหละ ค่อนข้างกระชับกับหูของหลายๆคนไม่ได้ยื่นออกมาน่าเกลียดอะไรและสำหรับบางคนนั้นจะเนียนไปเลย การใส่กระชับดีไม่หลุดออกไปง่ายๆแม้จะวิ่ง เต้น กระโดดอะไรนั้นไม่หลุดออกมาเลยนะหรือ เหงื่อเยอะก็ไม่เจออาการหลุดหรือลื่นอะไรเลย อีกทั้งยังกันเหงื่อได้ค่อนข้างดีครับ และสัมผัสได้ไม่ลื่นแม้จะมือมีเหงื่อ ส่วนการเชื่อมต่อใช้งาน เราถอดออก 1 ข้างก็ยังฟังเพลงได้ แต่ถ้าถอด 2 ข้างออกนั้นเพลงจะหยุดทันที และเล่นต่อเมื่อใส่ไปใหม่ครับ
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้