It's more fun in the Philipines - ภารกิจพิชิตน้องลายจุด
สวัสดีครับ !!!!
นี่เป็นการเขียน Review การเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศครั้งแรกของผม ตั้งแต่สมัคร Log in ของ Pantip เอาไว้
มีอะไรแนะนำ หรือ ติชม แจ้งได้เลยนะครับ
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เรามาเริ่มต้นกันเลยครับ
ทริปการเดินทางไปตามหาน้องลายจุดแห่งท้องทะเล ซีบู เริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 16 - 20 กุมภาพันธ์ 2018 ( ดองข้ามปี ) กับสายการบิน Philippine Airlines ราคาตั๋วไปกลับช่วงที่ผมเดินทาง เป็นช่วงที่สายการบินเปิดบินตรง bkk - cebu ใหม่ ๆ เราจองได้ราคาตั๋วไปกลับในราคา 5900 บาท เอ๊งงงงงงง !!!!!!!
เราเริ่มวางแผนการเดินทางทั้งหมดสำหรับทริปนี้ จะเริ่มตามภาพด้านล่างนี้เลยครับ ( ไปให้ครบทุกที่ ไหน ๆ ก็เลือกที่จะมาหาน้องลายจุดแล้ว )
Cebu > Bohol > Panglao > Oslob > Moalboal
16 February 2018
นัดหมายกับเพื่อนร่วมทริปตามล่าหาน้องลายจุดกันที่ สนามบินสุวรรณภูมิ เวลา 21.00 เพื่อทำการ Check in และโหลดสัมภาระต่าง ๆ กับสายการบิน Philippines Airlines ที่ Conter Row " N " ออกเดินทางจากกรุงเทพเวลา 01.30 ถึงซีบูเวลา 06.15 ( Local time )
พร้อมละ ออกเดินทางได้
06.15 ถึงสนามบิน Mactan-Cebu International Airport
ออกจากเครื่องบิน เตรียมตัวกรอกเอกสารเข้าเมือง (เตรียมคำถามไปตอบกับ ตม นิดๆ หน่อย ๆ เช่น พักที่ไหน, จะไปเที่ยวไหนกัน และ มาทั้งหมดกี่วัน)
ตอบได้หมดก็ผ่านโลดดดดดดดดดดดดดดด
เดินผ่าน ตม ออกจากสนามบิน เพื่อไปหาซื้อ Sim Card สำหรับใช้งาน ให้เดินออกจากประตูมาทางซ้ายมือ จะเห็นร้านขาย Sim Card มือถือของ Globe ให้เลือกตาม package ที่เราชอบได้เลย แต่อย่าคาดหวังว่าสัญญาณเน็ตจะดี และ แรงแบบบ้านเรา ฮ่าาาาาาาาาาา
เดินออกมานอกสนามบินพวกเราตกลงกันที่จะเหมา Taxi เพื่อให้ไปส่งที่ท่าเรือ Port Of Cebu เพื่อทำการจองตั๋วเรือ เพื่อเดินทางต่อข้ามไปยังเกาะ Bohol เพื่อไปดู ช็อคโกแลตฮิลส์ เนินเขาแปลกแห่ง Bohol
Port Of Cebu
ต่อแถว ดูตารางเวลาเรือ และ ทำการจองตั๋วสำหรับเรือเฟอร์รี่โอเชี่ยนเจ็ท
ค่าเรือตีเป็นเงินไทยประมาณ 370 บาท / คน
หลังจากนั้นเข้ามานั่งรอท่าเรือ เพื่อเตรียมตัวขึ้นเรือข้ามไป Bohol (อารมณ์คล้าย ๆ สถานีขนส่งหมอชิตของบ้านเรา)
นั่งเรือได้สักประมาณ 1 - 1.30 ชั่วโมง ก็มาถึงฝั่ง BOHOL
เริ่มทำการ จองตั๋ว One Day Trip พร้อมรถตู้ 1 คัน เพื่อไปดู ช็อคโกแลตฮิลส์ เนินเขาแปลกแห่ง Bohol และ ตัวทาร์เซีย ซึ่งมีที่เดียวในโลก
(เจ้าหน้าที่บอกเรามาแบบนั้น)
ปล. ราคาที่ทางคนขับรถตู้แจ้งเรามา สำหรับ One Day Trip ควรต่อราคาลงอีก 30%
สถานที่แรกที่จะไป ช็อคโกแลตฮิลส์ เนินเขาแปลกแห่ง Bohol นั่งรถตู้ประมาณ 30 - 45 นาที จากท่าเรือ เนื่องจากถนน และ สภาพการจราจร พังงงง มากกกกกกกก
เดินขึ้นไปบนยอดเขาที่เห็นในภาพ เพื่อชมวิวทั้งหมดของ ช็อคโกแลตฮิลส์
ปล. แดดร้อนแบบว่าประเทศไทยอายไปเลยยยยย
และแล้วก็ถึง ช็อคโกแลตฮิลส์ ที่คนขับรถตู้ เล่าให้ฟังมาตลอดทาง ว่าาาาาาาาาาาาาา มันว้าวววววววววว มากกกกกกกก กอไก่ล้านตัว
หลังจากชื่นชมกับภาพวิว 360 องศา บนยอดเขา ช็อคโกแลตฮิลส์ เรียบร้อยแล้ว
ถึงเวลาที่ต้องไปตามหาเจ้าตัว ตัวทาร์เซีย ที่มีที่เดียวในโลก (เจ้าหน้าที่ที่ศูนย์เลี้ยง ตัวทาร์เซีย ก็บอกมาแบบนั้น)
เราใช้เวลาเดินทาง จาก ช็อคโกแลตฮิลส์ ไปที่ Tarsier Sanctuary ประมาณ 45 นาที
ราคาค่าเข้าชม ตัว ตัวทาร์เซีย
เส้นทางเดินดูเจ้าตัวทาร์เซียที่ Tarsier Sanctuary เหมือนทางเดินศึกษาธรรมชาติ ของบ้านเรา แต่มีข้อห้ามคือ ห้ามส่งเสียงดัง และ ห้ามใช้ แฟลชถ่ายรูปเด็ดขาด เนื่องจากจะไปรบกวนตัวทาร์เซีย ที่กำลังหลับอยู่ ฮ่าาาาาาาาาาา
หลังจากชื่นชมกับตัว ทาร์เซีย จนหนำใจ (ซึ่งไม่มีอะไรเลย นอกจากเดินดูตัวทาร์เซียหลับ 5555) เราจึงตัดสินใจให้รถตู้ไปส่งเราที่ที่พัก เนื่องจากร้อน และ เพลียแดดดดดดดดดด มากกกกกกกก ขนาดซ้อมกับแดดเมืองไทยมาก่อนแล้วยังสู้กับแดดที่ฟิลิปินส์ไม่ได้เลยยย
พวกเราเลือกไปพักกันที่ Star Sky Resort บนเกาะ Pangloa ราคา 1000 บาท / คืน
[CR] It's more fun in the Philippines - ภารกิจว่ายน้ำกับน้องฉลามวาฬ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้