ทำไมคนขับรถยนต์ต้องเป็นฝ่ายผิดเสมอ

งงกับกฏหมายไทยมากๆ เมื่อเกิดอุบัติเหตุทำไมคนขับรถยนต์ต้องเป็นฝ่ายที่ถูกตั้งข้อกล่าวหาก่อนตลอด แม้ว่าจะเป็นความประมาทของคู่กรณีก็ตาม ขอถามผู้รู้กฏหมายว่ากรณีแบบนี้จะทำอย่างไงได้บ้าง
กรณีนี้เป็นของเพื่อนเรา เรื่องเกิดช่วงปีใหม่ที่ผ่านมาเพื่อนเรากำลังเดินทางขึ้นเหนือ เป็นถนนสี่เลนขับไม่เร็วมากไม่เกิน 80 กม./ชมเพราะรถค่อนข้างเยอะ ไปไม่ได้ประมาณครึ่งทาง ระหว่างนั้นอยู่ดีๆก็มีผู้หญิงคนหนึ่งโผล่มาจากไหนไม่รู้ ไม่ใช่ทางข้ามด้วยด้วย วิ่งมาชนรถเพื่อนเราซึ่งขับอยู่เลนขวาในสุด ชนจากด้านข้างกระเด็นไปกองอยู่หน้ารถล้มกองไปต่อหน้าต่อตา หลังจากรถกู้ภัยพาคนเจ็บไปส่งโรงพยาบาลเพื่อนเราก็ไปโรงพักเพื่อลงบันทึกประจำวัน คู่กรณีแขนและขาหัก มีบาดแผลที่ศรีษะและฟกช้ำตามร่างกาย เพื่อนเราให้ตรวจแอลกอฮอล์คู่กรณีแล้วปรากฏว่า 300 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ รถเพื่อนเรากระจกข้างหลุดเพราะเค้าวิ่งมาชนจากด้านข้าง จากเหตุการณ์ตั้งแต่ปีใหม่มาจนวันนี้เพื่อนเราเดินทางไปที่เกิดเหตุซึ่งไกลจาก กทม เกือบๆ 400 กม. ถึง 4 ครั้งทั้งสอบปากคำ รับฟังข้อกล่าวหา จนวันนี้เรียกขึ้นศาลไม่ได้มีการไกล่เกลี่ยใดๆคู่กรณีฟ้องเพื่อนเราเรียกค่าเสียหาย และเพื่อนเราถูกจับเข้าห้องขังที่ศาล ค่าประกันตัว 100,000 บ. ตอนนี้คือสงสารเพื่อนมากอยู่ดีๆก็ต้องโดนเข้าห้องขังโดยไม่รู้ตัว ไม่มีทนายไปไม่ได้เตรียมใจว่าจะโดนจับเข้าคุก ตั้งแต่เกิดเรื่องเพื่อนเราไม่เคยหนีไปตามนัดตลอดทั้งที่ไม่ใช่ระยะทางใกล้ๆเลย
       จะว่าซวยก็คงซวยมากๆ อยู่ดีๆคนเมาที่ไหนก็ไม่รู้โผล่มาจากข้างทางมาชนรถเอง ทั้งๆที่ไม่ใช่ทางข้ามเกาะกลางถนนก็มีเหล็กกั้น แต่คนขับรถยนต์ก็ผิดก่อนอยู่ดี กรณีนี้จะแก้ต่างอะไรได้บ้าง กล้องหน้ารถก็ไม่ได้ติด ประกันรถไม่มี ศาลนัดอีกทีเดือนมิถุนา ต้องเตรียมตัวยังไงสำหรับการขึ้นศาลครั้งต่อไป
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่