หนูมีคำถามค่ะ เคยมีเพื่อนหรือคนใกล้ชิดเป็นโรคนี้ไหมเเล้วคิดยังไงโดยเฉพาะเพื่อนในห้องหรือในโรงเรียน
มันเริ่มตอนปี 2560ตอนเเรกที่ยังไม่รู้ว่าเป็นโรคนี้อะค่ะยังไม่รู้ว่าเป็นอะไรตาบวมที่มือมีผื่นเเดงที่มือมีเเผลในปากเท้าก็มีเเผลไปหาหมอหมอก็บอกว่าเป็นมือเท้าปากพอไปหาหมออีกที่หนึ่งหมอก็สงสัยเลยให้เรานอนตรวจปัสวะที่โรงพยายาล1คืน 2วัน เเด่มัยก็เป็นประสบการการนอนโรงพยาบาลครั้งเเรกเหมือนกันนะ เเละสึงที่เราคิดไงก็เป็นความจริง คือเราเป็น sle ตอนเเรกที่รู้เเล้วก็ยังใช้ชีวิตปกติเเต่เวลากลางคืนก็นอนไม่หลับตอนเข้าก็ต้องตื่นมาไปโรงเรียนก็ยังดีที่มีคุณป้าให้กำลังใจอยู่หนูก็รู้สึกว่าตัวเองมีนิสัยเปลี่ยนไปตอนไปโรงเรียนก็ไม่ค่อย
รู้เรื่องหรอกมันเบลอจำได้ว่าครูให้เขียนไดอารี่ในชีวิตเเต่ละวันของเรา เรา เขียนวันที่เเบบสลับไปมาจำไม่ได้เเม่เเต่เดือนจำวนไปวนมาเขียนปีในไดอารี่ยังเขียนเป็นปีเกิดตัวเองเลยพอนึกไปก็รู้สึกขำตัวเองเคยเรียนได้เเต่ตอนนี้ก็ยังอยากเรียนอยู่เเล้งหมอก็ให้ยามากินสักพักหนึ่ง เออเหมือนตอนนั้นจะนอนที่โรงพยาบาลด้วยต้อนนั้นอยู่ม.2เทอม2เป็นตั้งเเต่เด็กเลยใช่ไหมละเเละตอนตอนนั้นก็เหมือนจะรับไม่ได้เเลยว่าอยู่ก็มาเป็นเเล้วพอกลางดึกวันหนึ่งพ่อก็ขับรถพาเราไปหาหมอในความคิดคือพอจะทิ้งเราเอาเราไปอยู่โรงพยาบาลเเล้วเอายาให้เรากินเพื่อลืมทุก( ที่จริงมันคือยารักษาโรคอาจมีผลข้างเคียง)อย่ส่งเเล้วเอาเราไปไว้ที่สถานพินิจเด็กกำพร้าเราก็ลบข้อมูลทุกอย่างในโทรศัพท์เพื่อให้ลืมทุกคนเราเสียใจมากเเล้วเราก็ตื่นมาอยู่ที่โรงพยาบาลอยากรู้ว่าตอนอยู่ที่โรงพยาบาลเป็นไงก็อย่าลืมมาอ่านนะ
#ข้อโทษด้วยนะถ้าพิมพ์ผิด
หนูป่วยเป็นโรค SLE
มันเริ่มตอนปี 2560ตอนเเรกที่ยังไม่รู้ว่าเป็นโรคนี้อะค่ะยังไม่รู้ว่าเป็นอะไรตาบวมที่มือมีผื่นเเดงที่มือมีเเผลในปากเท้าก็มีเเผลไปหาหมอหมอก็บอกว่าเป็นมือเท้าปากพอไปหาหมออีกที่หนึ่งหมอก็สงสัยเลยให้เรานอนตรวจปัสวะที่โรงพยายาล1คืน 2วัน เเด่มัยก็เป็นประสบการการนอนโรงพยาบาลครั้งเเรกเหมือนกันนะ เเละสึงที่เราคิดไงก็เป็นความจริง คือเราเป็น sle ตอนเเรกที่รู้เเล้วก็ยังใช้ชีวิตปกติเเต่เวลากลางคืนก็นอนไม่หลับตอนเข้าก็ต้องตื่นมาไปโรงเรียนก็ยังดีที่มีคุณป้าให้กำลังใจอยู่หนูก็รู้สึกว่าตัวเองมีนิสัยเปลี่ยนไปตอนไปโรงเรียนก็ไม่ค่อย
รู้เรื่องหรอกมันเบลอจำได้ว่าครูให้เขียนไดอารี่ในชีวิตเเต่ละวันของเรา เรา เขียนวันที่เเบบสลับไปมาจำไม่ได้เเม่เเต่เดือนจำวนไปวนมาเขียนปีในไดอารี่ยังเขียนเป็นปีเกิดตัวเองเลยพอนึกไปก็รู้สึกขำตัวเองเคยเรียนได้เเต่ตอนนี้ก็ยังอยากเรียนอยู่เเล้งหมอก็ให้ยามากินสักพักหนึ่ง เออเหมือนตอนนั้นจะนอนที่โรงพยาบาลด้วยต้อนนั้นอยู่ม.2เทอม2เป็นตั้งเเต่เด็กเลยใช่ไหมละเเละตอนตอนนั้นก็เหมือนจะรับไม่ได้เเลยว่าอยู่ก็มาเป็นเเล้วพอกลางดึกวันหนึ่งพ่อก็ขับรถพาเราไปหาหมอในความคิดคือพอจะทิ้งเราเอาเราไปอยู่โรงพยาบาลเเล้วเอายาให้เรากินเพื่อลืมทุก( ที่จริงมันคือยารักษาโรคอาจมีผลข้างเคียง)อย่ส่งเเล้วเอาเราไปไว้ที่สถานพินิจเด็กกำพร้าเราก็ลบข้อมูลทุกอย่างในโทรศัพท์เพื่อให้ลืมทุกคนเราเสียใจมากเเล้วเราก็ตื่นมาอยู่ที่โรงพยาบาลอยากรู้ว่าตอนอยู่ที่โรงพยาบาลเป็นไงก็อย่าลืมมาอ่านนะ
#ข้อโทษด้วยนะถ้าพิมพ์ผิด